“พล.อ.เปรม” ย้ำเจ้าของทหารคือชาติ และพระเจ้าอยู่หัว ทหารมืออาชีพต้องยึดหลักผู้นำที่ดี 4 ประการว่าด้วยคุณธรรม จริยธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต และมีมาตรฐานเดียวในการบังคับบัญชา ย้ำอย่านับถือคนมีเงินที่ไม่ดี พร้อมเชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์และพระสยามเทวาธิราชที่จะปกป้องคนดีและสาปแช่งคนไม่ดี
วันนี้ (31 ส.ค.) พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ สวมเครื่องแบบทหารอากาศบรรยายพิเศษ เรื่อง “ตามรอยพระยุคลบาทกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศของทหารอาชีพ” ที่อาคารรณนภากาศ โรงเรียนนายเรืออากาศ มีข้าราชการ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ อดีตผู้บังคับบัญชาชั้นสูง พร้อมด้วยหน่วยขึ้นตรงทหารอากาศ รวมทั้งนักเรียนนายเรืออากาศชั้นปีที่ 1-4 จำนวน 400 นาย นักศึกษาวิทยาลัยการทัพอากาศ จำนวน 80 นาย นายทหารนักเรียนโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ 111 นาย
พล.อ.เปรม กล่าวว่า จากการบรรยายตามสถานศึกษาหลายสถาบัน บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ วันนี้จะพูดอย่างตรงไปตรงมา พูดในฐานะที่เป็นครอบครัวและเป็นญาติกัน จะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ พร้อมฝากให้ ผบ.ทอ.และกองทัพอากาศ ดูแลนักเรียนนายเรืออากาศซึ่งเป็นเด็กหนุ่มที่จะเป็นกำลังสำคัญออกไปรับใช้ประเทศชาติบ้านเมือง ต้องให้เข้าใจว่าเขามีบทบาทสำคัญที่จะทำให้กองทัพแข็งแรงหรืออ่อนแอได้
พล.อ.เปรม กล่าวย้ำว่า การเป็นทหารอาชีพจะต้องเป็นทหารทั้งเลือดเนื้อเชื้อไข มีความซื่อสัตย์สุจริต และต้องไม่ลืมว่าเจ้าของทหาร คือ ชาติ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่นำเรื่องนี้มาพูดเพราะจะได้รู้ว่าพวกเรายืนอยู่ตรงไหนในชาติบ้านเมือง จะได้ทำตัวให้ถูกต้อง เราไม่ใช่ทหารของคนอื่น แต่เราเป็นทหารของชาติ และเราต้องรู้ว่าเรามีหน้าที่ต้องตอบแทนบุญคุณชาติบ้านเมือง ต้องปกปักรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของพวกเรา ส่วนการเป็นทหารมืออาชีพ คือ ผู้บังคับบัญชาจะต้องประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีของผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งเป็นเรื่องยากแต่ต้องทำให้ได้ การสั่งสอนผู้ใต้บังคับบัญชาที่ง่ายที่สุดและได้ผลที่สุดคือการเป็นตัวอย่างที่ดี คนเราต้องมีแม่แบบว่าเราจะโตและเดินตามรอยใคร
“เราได้ปฏิญาณตนต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาหลายครั้ง ถ้าใครไม่ยึดมั่นต่อคำปฏิญาณและไม่ทำตาม ถือว่าใช้ไม่ได้ และไม่ควรเป็นทหารถ้าเราไม่มีความรู้สึกว่าเราเป็นทหาร เพราะฉะนั้น เราต้องรักชาติบ้านเมือง รักเครื่องแบบที่เราสวม รักความเป็นไทย รักเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ถ้าเราไม่รู้สึกอย่างนั้น ขอเถอะ ขอให้ไปหาอาชีพอื่นทำ” พล.อ.เปรม กล่าว
พล.อ.เปรม กล่าวถึงหัวข้อการบรรยายเรื่องตามรอยพระยุคลบาทด้วยว่า ไม่มีใครตามพระองค์ท่านได้ เพราะตลอด 60 ปีของการครองสิริราชสมบัติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทำสิ่งต่างๆ ที่เป็นประโยชน์มหาศาลแก่ชาติ และประชาชนของพระองค์ท่าน เราไม่สามารถตามได้หมด แต่ต้องพยายามทำตามให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ วิธีตามรอยพระยุคลบาทมีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น คือ การทำตามพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานไว้ ณ ที่ต่างๆ
“พระบรมราโชวาท และพระราชดำรัส ล้วนบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ ถ้าใครปฏิบัติตามก็จะเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง ประชาชนไทยทั้งประเทศรับฟังกันมาคนละหลาย 10 ครั้ง ฟังเข้าใจแต่ไม่ทำตาม ทั้งคน ทั้งองค์กร เขาอาจมีเหตุผลของเขา แต่ผมคิดว่าเหตุผลหนึ่งที่เขาไม่ทำตามเพราะพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัสบางประการยากมากที่คนที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต คนไม่ดี จิตใจไม่สะอาดไม่สามารถทำได้” พล.อ.เปรม กล่าว
พล.อ.เปรม ได้อัญเชิญพระบรมราโชวาทที่เกี่ยวกับเรื่องการส่งเสริมคนดีให้ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจว่า ทุกคนเป็นคนดีไม่ได้ แต่ต้องส่งเสริมคนดีให้ปกครองบ้านเมือง องค์กรที่สำคัญที่อยากจะเน้น คือ พวกเรามีหน้าที่ต้องทำตามพระบรมราโชวาท ถ้าเราไม่ทำก็แสดงว่าเราไม่ส่งเสริมคนดี นอกจากนี้ยังมีพระบรมราโชวาทเรื่องของความซื่อสัตย์ สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง ถ้าไม่ซื่อสัตย์ทุกคนก็ประกอบคุณงามความดีไม่ได้ คนที่มีกิเลส มีความโลภ ไม่มีวันทำความดีได้ เพราะความอยากมีอยู่ในหัวอกหัวใจ อยู่ในความนึกคิด
“ที่ผมอัญเชิญพระบรมราโชวาทมาให้พวกเราฟัง เพื่อจะให้เข้าใจว่าเราต้องส่งเสริมคนดีและรังเกียจคนไม่ดี การส่งเสริมคนดีอาจจะทำได้ง่ายกว่าการรังเกียจคนไม่ดี เพราะวัฒนธรรมไทยอาจเป็นอุปสรรคในการที่เราจะรังเกียจคนไม่ดี เรามักจะนับถือผู้ใหญ่ คนมีเงิน ผู้ใหญ่เรายังพอยอมรับได้ว่าเป็นผู้ใหญ่ก็ยกมือไหว้ แต่คนมีเงินต้องดูให้ดีว่าเขามีเงินมาได้อย่างไร มาด้วยความซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่ หรือมาด้วยการฉ้อราษฎร์บังหลวง เราจำเป็นต้องแยกแยะให้ได้ว่าใครที่เราควรเคารพนับถือ และใครคือคนที่เราควรจะถอยให้ห่างออกไป ถ้าเราไม่ทำอย่างนั้น ถ้าเราไม่ส่งเสริมคนดี อันตรายยังมีน้อย เพราะคนดีเขารักษาตัวเขาเองได้ แต่ถ้าเราไปยกย่องคนไม่ดี อันตรายจะมีมาก เพราะเราจะไปมีส่วนร่วมในการกระทำที่ไม่ดีของเขาด้วย” พล.อ.เปรม กล่าว
พล.อ.เปรม กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกาศพระปฐมบรมราชโองการว่า จะปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม และทรงตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม ซึ่งมีอยู่ 10 ข้อ และข้อสุดท้าย เป็นภาษาบาลีว่า “อวิโรธนัง” ซึ่งแปลว่าความไม่คลาดธรรม หมายความว่ามีธรรมะ ซึ่งหมายความว่าจะต้องซื่อสัตย์สุจริต ไม่เฉพาะกับตัวเอง แต่ต้องดูแลคนรอบข้างให้ซื่อสัตย์สุจริตด้วย จึงจะสมบูรณ์ตามข้อ 10 เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่ซื่อสัตย์สุจริตเพราะตนเอง แต่ไม่สนใจว่าผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ซื่อสัตย์สุจริตก็ใช้ไม่ได้ ต้องให้เขาซื่อสัตย์สุจริตด้วย
“การพัฒนาประเทศจะต้องพัฒนาตนเองก่อน และคนที่จะพัฒนาตนเองต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต ต้องมีคุณธรรมจริยธรรม ถ้าใครไม่มีสิ่งเหล่านี้ก็จะไม่สามารถพัฒนาตนเองได้ และการเป็นผู้บังคับบัญชาคนเพื่อไปพัฒนาประเทศจำเป็นต้องใช้หลักพระพุทธศาสนา คนที่จะพัฒนาชาติบ้านเมืองจำเป็นต้องมีมาตรฐานเดียว หมายความว่าการทำการอย่างไร ต่อใคร จะต้องมีมาตรฐานเดียว ไม่ใช่มีหลายมาตรฐาน หรือไม่มีมาตรฐานเลย จะต้องรักษาศีล 5 ต้องรู้จักพรหมวิหาร 4 อิทธิบาท 4 คนดีกีบคนชั่ว นิยามศัพท์ยากมาก แต่พอจะรู้ พอเห็นก็รู้ว่าใครเป็นคนดีใครเป็นคนชั่ว และเมื่อเราสร้างและพัฒนาเด็กของเราได้แล้ว การจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเมืองก็จะไปได้สบาย เพราะคนดีจะทำทุกอย่างที่ดี” พล.อ.เปรม กล่าว
พล.อ.เปรม กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีไปไกลมากๆ วิชาการก็ไปไกลมากๆ แต่จะไกลเพียงใด ถ้าคนไม่ดีก็เหลว ไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้น การพัฒนาคนจึงสำคัญ คนที่คิดระเบิดปรมาณูได้แล้วเอาไปขายให้ชาติอื่นมาทำลายชาติตนก็มี เพราะฉะนั้น คนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าเราเป็นคนดีรู้จักทำคนอื่นให้เป็นคนดี เราก็จะมีความสำเร็จในทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ทางตรงข้ามถ้าเราเป็นคนไม่ดี จะเก่งกาจอย่างไร สามารถอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้องค์กรของเราดีได้
ทั้งนี้ ระหว่างการบรรยาย พล.อ.เปรม ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ฉายแผ่นใสที่เตรียมมา โดยมีข้อความว่า ชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใครก็ตามแม้เพียงแต่คิดจะยึดถือเป็นของตนเองหรือของพรรคพวกของตนเอง เพื่อประโยชน์อันไม่ชอบธรรมต่อตนเองต่อพรรคพวกของตนเอง จะพบกับความหายนะในที่สุด พระสยามเทวาธิราชจะปกป้องคุ้มครองคนดีของชาติบ้านเมืองเสมอ และจะสาปแช่งคนไม่ดีให้มีอันต้องตกทุกข์ได้ยากแสนสาหัสตลอดชีวิต
“ผมเชื่อในสิ่งเหล่านี้ ผมเชื่อว่าชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมเชื่อว่าพระสยามเทวาธิราชมีความศักดิ์สิทธิ์ มีบารมีจริงๆ ที่จะคุ้มครองคนดีและสาปแช่งคนไม่ดี ก่อนจบผมขอเน้นว่าโปรดส่งเสริมคนดีและตำหนิคนไม่ดี เพื่อให้เขารู้ว่าความไม่ดี ชาติบ้านเมืองไม่ต้องการ เราต้องการแต่คนดี กองทัพอากาศต้องเป็นกองทัพอากาศที่ดี นายทหารอากาศต้องเป็นนายทหารอากาศที่ดี มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีคุณธรรมและมีจริยธรรม” พล.อ.เปรม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการบรรยาย พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ มอบของที่ระลึกให้ พล.อ.เปรม ซึ่งประกอบด้วยหนังสือที่ระลึกกองทัพอากาศ 90 ปี ภาพถ่ายที่ระลึก และหมวกกอล์ฟปีก ทอ. โดยก่อนหน้านี้ พล.อ.เปรม วางพวงมาลา และคล้องพวงมาลัยสักการะอนุสาวรีย์บุพการีกองทัพอากาศ ด้วย
คำต่อคำ : พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ บรรยายพิเศษในหัวข้อ “ตามรอยพระยุคลบาทกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศของทหารอาชีพ ให้แก่นักเรียนนายเรืออากาศชั้นปีที่ 1 – 4 นักศึกษาวิทยาลัยการทัพอากาศ นักเรียนโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ วันที่ 31 สิงหาคม 2549
"ขอขอบคุณผู้บัญชาการทหารอากาศที่เชิญมาพูดในวันนี้ ผมภูมิใจและเต็มใจมากที่ได้มาพูดที่นี้ เพราะรู้สึกว่าเข้าไปในหน่วยทหารซึ่งเป็นสถานที่ที่เรารัก เรากล้าที่จะพูด และมาพบกับเพื่อนตายของเรา ไม่จำเป็นต้องมีความลับมีวาระซ้อนเร้น ผมไปพูดมา 3 แห่งแล้วคือ ที่โรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายเรือ และมาพูดที่โรงเรียนนายเรืออากาศแห่งนี้ ซึ่งที่ผมได้ไปพูดมีเนื้อหาสาระคล้ายกัน พูดเรื่องของการเป็นทหารอาชีพต้องทำหน้าที่อย่างไรบ้าง พูดเสร็จแล้วบางคนชอบบางคนไม่ชอบ วันนี้ขอพูดตรงไปตรงมาในฐานะที่เราเป็นครอบครัวเดียวกันเป็นญาติกัน ดังนั้นจะชอบไม่ชอบก็ได้
ขอเรียนว่าผมมาพูดวันนี้ต้องการเน้นถึงนักเรียนนายเรืออากาศมากที่สุด เพราะยังเป็นเด็กหนุ่มที่จะต้องไปเป็นทหารอากาศเป็นหลักสำคัญของกองทัพอากาศ เมื่อเขามีความสำคัญก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องดูแลเด็กนักเรียนนายเรืออากาศให้ดีที่สุดเท่าที่จะดูแลได้ เพราะเขาจะออกมารับใช้ชาติเป็นนายทหารที่มีคุณค่าต่อกองทัพอากาศ เมื่อโตขึ้นมีบทบาทสำคัญดูแลกองทัพดูแลชาติบ้านเมือง นายทหารเราไม่ว่ากองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ เมื่อไปศึกษาประวัติศาสตร์ในอดีตเราเป็นหลักของชาติบ้านเมืองมาติดต่อกันเป็นเวลานาน ถ้าไม่มีกำลังของกองทัพบ้านเมืองเราอาจไม่พัฒนามาถึงขณะนี้ได้
ดังนั้น อยากให้เราดูแลเด็กนักเรียนนายเรืออากาศให้ดีที่สุด ต้องถือเป็นหน้าที่ของเรา ต้องทำให้เขาเข้าใจว่าเขาเป็นคนสำคัญของชาติบ้านเมือง คนสำคัญของกองทัพ เขาเป็นคนสำคัญที่จะทำให้กองทัพแข็งแรงหรืออ่อนแอ เป็นคนสำคัญที่จะพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าต่อไป ทำอย่างไรให้เขาจบมามีคุณสมบัติเพิ่งประสงค์ทั้งกายวาจาใจ เพื่อให้เขาออกมาเป็นทหารอาชีพเป็นทหารมืออาชีพให้ได้
ขอเน้นความสำคัญการจำกัดความทหารอาชีพว่า เป็นทหารต้องเป็นทั้งเลือดเนื้อชีวิตและวิญญาณ ต้องดำรงความซื่อสัตย์สุจริต และต้องเป็นทหารของชาติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นั่นคือเจ้าของเรา ชาติเป็นเจ้าของเรา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงดำรงพระยศเป็นจอมทัพ เป็นเจ้าของเรา ผมเอาตรงนี้มาพูดเพราะให้รู้ว่าเรายืนอยู่ตรงไหนของชาติบ้านเมืองทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ เราอยู่ตรงนี้เป็นทหารของชาติไม่ใช่ของใครเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้น ต้องรู้ว่าเราคือใคร อยู่ตรงไหนจะได้ทำตัวให้ถูกต้อง เราไม่ใช่ทหารของคนอื่นถ้าเราเป็นทหารของชาติแล้ว เราก็ต้องรู้สึกว่าเรามีหน้าที่ตอบแทนบุญคุณชาติบ้านเมืองของเรา มีหน้าที่ปกปักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ นั่นคือหน้าที่โดยตรง
ความสำคัญของการเป็นทหารมืออาชีพ คือ การเป็นผู้บังคับบัญชาที่เป็นตัวอย่างที่ดีของผู้ใต้บังคับบัญชา โปรดเชื่อว่าผมถือตรงนี้มาตั้งแต่จบนักเรียนนายร้อยมา เป็นเรื่องยากมาก แต่พวกเราต้องทำได้มีขีดความสามารถทำได้ เพราะเราเป็นทหาร การสั่งสอนผู้ใต้บังคับบัญชาที่ง่ายที่สุด สะดวกที่สุด และได้ผลมากที่สุด คือ ประพฤติตนเป็นตัวอย่างผู้ใต้บังคับบัญชา
เราปฏิญาณตนต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล ต่อพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราปฏิญาณกันบ่อยไม่ใช่ครั้งเดียว ดังนั้น ถ้าใครไม่ยึดมั่นถือมั่นในคำปฏิญาณ ปล่อยปละละเลยไม่ทำตามก็ถือว่าใช้ไม่ได้ ถ้าปฏิญาณต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วไม่ทำตาม ก็ไม่สมควรมาเป็นทหาร ถ้าเราไม่มีความรู้สึกว่าเราเป็นทหารเพราะเรารักชาติบ้านเมือง เรารักเครื่องแบบที่เราสวม เรารักความเป็นไทย รักเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ของทหาร ถ้าไม่รู้สึกอย่างนั้น ขอเถอะครับหาอาชีพอื่นทำ ถ้าเป็นทหารแล้วไม่รู้สึกว่ามีเลือดเนื้อวิญญาณของทหาร พอเกษียณออกไปแล้วเป็นนายก ก นาย ข นาย ค มันไม่ใช่ทหารด้วยอุดมการณ์ เป็นทหารต้องเป็นจนวันตาย ต้องฝังเลือดเนื้อชีวิตเราไว้กับสถาบันทหาร ต้องรัก ต้องเชิดชู ต้องปกป้องต่อสู้ เพื่อรักษาสถาบันของเราไว้ให้ได้ ใครไม่รู้สึกอย่างนี้โปรดหาอาชีพอื่นทำแทน
หัวข้อที่ผู้บัญชาการทหารอากาศกำหนดมีคำว่าตามรอยพระยุคลบาท ขอเรียนว่าไม่มีใครตามท่านได้ ในระยะเวลา 60 ปี ที่พระองค์ครองสิริราชสมบัติมา ทรงทำอะไรที่เป็นคุณประโยชน์มหาศาลแก่ชาติบ้านเมืองแก่ประชาชนของท่าน ดังนั้น ไม่มีใครตามรอยท่านได้ แต่เราต้องพยายามตามให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สิ่งที่จะตามรอยพระยุคลบาทได้มีวิธีเดียวคือทำตามพระบรมราโชวาทพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงให้ไว้ในสถานที่ต่างๆ ขอให้ไปอ่านดูซึ่งมีอยู่เป็นร้อยๆพระราชดำรัส ไปอ่านและทำตามเท่าที่สามารถทำได้ พระบรมราโชวาท พระราชดำรัสเหล่านั้นล้วนแต่บริสุทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าใครประพฤติตามจะมีแต่เป็นสิริมงคลต่อตัวเองและเป็นคนดี เราชาวไทยทั้งประเทศรับฟังพระราชดำรัสมาหลายสิบครั้ง ฟังเข้าใจ แต่ไม่ทำตาม ทั้งคนทั้งองค์กรไม่ทำตาม เขาอาจจะมีเหตุผลอะไรของเขา แต่เหตุผลหนึ่งที่เขาไม่ทำตาม เพราะพระบรมราโชวาทพระราชดำรัสบางประการ ยากมากที่คนไม่ซื่อสัตย์ สุจริต คนไม่ดี คนที่จิตใจไม่สะอาด ไม่สามารถจะทำได้
ผมขอยกตัวอย่างพระบรมราโชวาทที่ทรงให้ไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2512 ประมาณ 37 ปีมาแล้ว และพระบรมราโชวาทฟังกันมาหลายสิบเที่ยวแล้ว ตอนหนึ่งของพระบรมราโชวาท มีใจความว่า ในบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดี และคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความเป็นปกติสุข เรียบร้อย จึงไม่ใช่การทำให้คนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ เราต้องคิดกันดูว่า ถ้าคนไม่ทำตามพระบรมราโชวาทเราจะทำอย่างไร เราจะมีหน้าที่ที่จะทำอะไรบ้างไหม หรือคิดว่าเป็นหน้าที่ของใครที่จะทำตามพระบรมราโชวาทที่ให้ไว้ว่า ทุกคนเป็นคนดีไม่ได้ แต่ต้องส่งเสริมคนดี และก็ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง ให้คนดีปกครองกองทัพ ได้ปกครององค์กร ที่สำคัญที่ ผมอยากจะเน้นคือพวกเรามีหน้าที่ทำตามพระบรมราโชวาทนี้ ต้องทำ ถ้าเราไม่ทำ ก็แสดงว่าเราไม่ส่งเสริมคนดี ถ้าเราไม่ส่งเสริมคนดี เราก็เป็นคนไม่ดี
และมีอีกพระบรมราโชวาทที่พระองค์ทรงรับสั่งว่า ความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง ดังนั้น ถ้าใครจะประกอบคุณงามความดี ก็ต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริตเป็นพื้นฐาน ถ้าไม่ซื่อสัตย์ สุจริต ก็ประกอบคุณงามความดีไม่ได้ คนที่มีกิเลส มีความโลภ ไม่มีวันทำความดีได้หรอก เพราะความอยากได้ อยู่ในหัวอก หัวใจ อยู่ในความนึกคิด ต้องสอนให้คนรู้ว่าถ้าจะทำความดี ต้องเริ่มต้นจากความซื่อสัตย์ สุจริต ต้องสอนให้คนเข้าใจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประกาศพระปฐมบรมราชโองการว่า เราจะต้องปกครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขกับมหาชนชาวสยาม และพระองค์ท่านตั้งอยู่บนทศพิธราชธรรม ข้อสุดท้ายเป็นภาษาบาลีว่า อวิโรธนัง บางคนก็อ่านว่า อวิโรธนะ คำนี้แปลตามที่พระ คือ ความไม่คลาดธรรม หมายความว่า มีธรรมะ ไม่คลาดต่อธรรมะ แต่ความจริงแล้วหมายความว่า จะต้องซี่อสัตย์ สุจริต ไม่ใช่เฉพาะแต่ตัวเราเท่านั้น ต้องดูแลคนรอบข้างของเราให้ซื่อสัตย์ สุจริตด้วย ถึงจะครบสมบูรณ์ ตามทศพิธราชธรรมข้อ 10 ดังนั้น ใครที่ซื่อสัตย์เฉพาะตนเอง ผู้ใต้บังคับบัญชาจะไม่ซื่อสัตย์ จะไม่สุจริต ไม่สนใจ ใช้ไม่ได้ จะต้องให้เขาซื่อสัตย์ สุจริตด้วย
เมื่อพูดถึงว่าจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาชาติบ้านเมืองของทหารอาชีพอย่างไร ผมคิดว่าพวกเราคงทราบดีว่า การที่จะพัฒนาประเทศ ต้องพัฒนาตนเองก่อน คนที่ยังไม่พัฒนาตนเอง ยังพัฒนาประเทศไม่ได้ คนที่จะพัฒนาตนเอง จะต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริต ที่ผมพูดบ่อยๆ คือ ต้องมีคุณธรรม และจริยธรรม ถ้าใครไม่มี 4 อย่างนี้ก็ไม่สามารถพัฒนาเองได้ ถ้าพัฒนาตนเองไม่ได้ ก็พัฒนาประเทศไม่ได้ นักเรียนนายเรืออากาศ ต่อไปก็จะต้องเป็นนายคน เป็นทหารอาชีพ เป็นทหารมืออาชีพ ดังนั้น จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ และจะพัฒนาประเทศได้ต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริต คุณธรรม และจริยธรรม ที่จำเป็นต้องพูดเรื่องคุณธรรม จริยธรรมบ่อยครั้งเพราะถ้าเราไม่พูดคำ 4 คำนี้บ่อยครั้ง ก็เหมือนเราไม่สนใจในพระบรมราโชวาท
ผมขอเรียนว่าการเป็นผู้บังคับบัญชาคน เพื่อไปพัฒนาประเทศจำเป็นต้องใช้หลักของพระพุทธศาสนาว่า คนที่จะพัฒนาชาติบ้านเมือง จำเป็นต้องมีมาตรฐานเดียว การทำงานต่อใครหรืออย่างไร ต้องมีมาตรฐานเดียว ไม่ใช่มีหลายมาตรฐาน เช่น ต่อองค์กรนี้มาตรฐานหนึ่ง อีกองค์กรมีมาตรฐานหนึ่ง หรือไม่มีมาตรฐานเลยไม่ได้ ต้องมีมาตรฐานใดมาตรฐานหนึ่ง มาตรฐานเดียว ต้องมีศีล 5 รักษาศีล 5 รู้จักพรหมวิหาร 4 อิทธิบาท 4
ผมยกพระบรมราโชวาทให้ฟัง เพื่อให้เข้าใจว่าเราต้องส่งเสริมคนดี และรังเกียจคนไม่ดี การส่งเสริมคนดีอาจทำได้ง่ายกว่าการรังเกียจคนไม่ดี เพราะวัฒนธรรมไทยอาจเป็นอุปสรรคต่อการรังเกียจคนไม่ดี เรามักจะนับถือผู้หลัก ผู้ใหญ่ คนมีเงิน ในส่วนของผู้หลัก ผู้ใหญ่น่าจะพอยอมรับได้ว่า เป็นผู้ใหญ่ก็ยกมือไหว้ แต่คนมีเงินจะต้องดูให้ดี ว่าเขามีเงินมาได้อย่างไร มาด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตหรือไม่ หรือว่ามาด้วยการฉ้อราษฎรบังหลวง เราควรจะต้องแยกแยะให้ได้ว่า ใครที่เราควรจะเคารพนับถือ ใครคือคนที่เราควรจะต้องถอยห่างออกไป หากเราไม่ทำอย่างนั้น ถ้าเรายังเคารพนับถือคนที่ไม่ดี แต่เขามีสตางค์ มีเงิน เราก็กลายเป็นคนมีส่วนร่วมโดยทางอ้อม ในการที่ไปยกย่องนับถือคนไม่ดี
อันนี้ค่อนข้างจะยาก เพราะวัฒนธรรมไทยยังเป็นอุปสรรคอยู่ ถ้าเราไม่ส่งเสริมคนดี อันตรายยังมีน้อย เพราะคนดียังรักษาตัวเขาเองได้ แต้ถ้าเรายกย่องคนไม่ดี อันตรายจะมีมาก เพราะเราจะไปมีส่วนร่วมต่อการกระทำที่ไม่ดีของเขาด้วย ดังนั้นจำเป็นต้องระลึกในข้อนี้ให้ชัดเจนว่าใครที่ควรจะยกย่องส่งเสริม การที่ผมเชิญอดีตผบ.ทอ.มา เพื่อให้พวกเรารู้ว่า ใครควรยกย่อง ใครไม่ควรยกย่อง คนดีกับคนชั่ว นิยามศัพท์ยากมาก ไม่มีใครนิยามไว้ที่ไหน แต่พอเห็นก็รู้ว่าใครคือคนดี ใครคือคนชั่ว การมีส่วนร่วมของทหารอาชีพต้องเริ่มต้นว่า เราต้องพัฒนาคนของเราก่อน เมื่อคนของเราเก่ง ดี เก่งกล้า สามารถ มีความรู้ ความเข้าใจดี เป็นคนดี ก็พัฒนากองทัพได้ ก็พัฒนาชาติบ้านเมืองได้ หวังว่าคงจะไม่เข้าใจคลาดเคลื่อนว่าการไม่ส่งเสริมคนดี มีอันตรายเหมือนกัน แต่น้อยกว่าการที่ไปยกย่องส่งเสริมคนไม่ดี
เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีและวิชาการไปไกลมาก แต่จะไกลแค่ไหนถ้าคนไม่ดี ก็เหลว ไม่สำเร็จ ดังนั้น การพัฒนาคนจึงสำคัญ คนที่คิดระเบิดปรมาณูได้ และไปขายให้ชาติอื่น เพื่อมาทำลายชาติตนก็มี ดังนั้น คนจึงสำคัญที่สุด ถ้าเราเป็นคนดีรู้จักทำให้คนอื่นเป็นคนดี เราก็จะสำเร็จในทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราเป็นคนไม่ดี ต่อให้เก่งกล้า สามารถอย่างไร ก็ไม่สามารถทำให้องค์กรของเราดีได้
มีเรื่องน่าสนใจอย่างเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เดิมมีคนมองว่าโบราณ แต่ในปัจจุบันทฤษฎีใหม่นี้มีคนเจริญรอยตามมาก แม้แต่สภาพัฒน์ฯ มีแผนพัฒนาชาติฉบับที่10 เน้นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไว้มากมาย และประมุขของประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ 25 ประเทศมาบ้านเรา เขาสนใจเศรษฐกิจพอเพียงกันมากของพระองค์ท่านทันสมัยมาก ท่านมีหลักอยู่ 3 อย่าง ในการทำเศรษฐกิจพอเพียง ท่านให้หลักการไว้ว่า 1. ต้องดูศักยภาพของตัวเอง 2. ต้องมีเหตุและมีผลที่จะทำเรื่องนั้น 3. จะต้องมีมาตรการที่จะป้องกันความเสี่ยง เมื่อพิจารณา 3 ข้อ เห็นว่าใช้กับเรื่องอะไรก็ได้ ใช้กับทหารก็ได้ จะพัฒนาอะไรก็ได้ แม้แต่กิจการโครงการใหญ่ๆ ถ้าใช้หลัก 3 ประการนี้จะครบถ้วนสมบูรณ์ ทำไปได้เลยตั้งแต่ชาวนาถึงมหาเศรษฐีก็ทำได้
ผมมีข้อความอยากให้เราพิจารณาดูว่า เราควรจะยึดถือหรือไม่ ผมเขียนไว้ว่า ชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใครก็ตาม แม้เพียงแต่คิดจะยึดถือเป็นของตนเอง หรือของพรรคพวกของตนเอง เพื่อประโยชน์อันไม่ชอบธรรมต่อตนเอง หรือต่อพรรคพวกของตนเอง จะพบกับความหายนะในที่สุด พระสยามเทวาธิราชจะปกป้อง คุ้มครองคนดีของชาติบ้านเมืองเสมอ และ จะสาปแช่งคนไม่ดี ให้มีอันต้องตกทุกข์ได้ยากแสนสาหัส ตลอดชีวิต ผมเชื่อในสิ่งเหล่านี้ ผมเชื่อว่าชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมเชื่อว่าพระสยามเทวาธิราช มีความศักดิ์สิทธิ์ มีบารมีจริงๆ ที่จะคุ้มครองคนดี และสาปแช่งคนไม่ดี ขอเน้นว่าโปรดส่งเสริมคนดีและตำหนิคนไม่ดี เพื่อให้เขารู้ว่าความไม่ดี ชาติบ้านเมืองไม่ต้องการ เราต้องการแต่คนดี กองทัพอากาศต้องเป็นกองทัพที่ดี ทหารอากาศต้องเป็นทหารอากาศที่ดี มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีคุณธรรม และจริยธรรม"