xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ชี้ปั่นกระแสลอบฆ่า - อัดจัดม็อบร้องขอชีวิต “ทักษิณ” ป้ายสี “ป๋า”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
พรรคประชาธิปัตย์จวกจัดม็อบไปร้องขอชีวิต “ทักษิณ” ที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เป็นความพยายามใส่ร้ายป้ายสี “ป๋าเปรม” เตือนอย่าปั่นกระแสลอบสังหารเพื่อหวังผลทางการเมือง จับพิรุธข้อมูลจากภรรยาผู้ต้องหาที่บอกว่าตำรวจให้สารภาพแลกกับครอบครัวไม่ต้องเดือดร้อน

วันนี้ (26 ส.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่มีม็อบเรียกร้องขอชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษว่า น่าเชื่อได้ว่าเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ลอบสังหารนายกรัฐมนตรี เมื่อพิจารณาแล้วน่าจะเป็นม็อบที่ทำขึ้นเป็นขบวนการ เริ่มต้นจากกการปล่อยข่าวลอบสังหาร โดยมีการขานรับจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยถึงแกนนำในคณะรัฐบาลหลายคน จนกระทั่งมีการจับได้ว่าจะมีการลอบสังหารนายกรัฐมนตรี ซึ่งทั้งหมดน่าจะเป็นขบวนการที่เกี่ยวข้องกันทั้งสิ้น ทั้งโดยตรงและทางอ้อม

“สิ่งที่น่าสังเกตอย่างมาก คือ ทำไมจึงมีการจงใจจัดตั้งม็อบ เพื่อมาขอชีวิตนายกฯ จาก พล.อ.เปรม มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าต้องการแสดงให้เห็นว่า พล.อ.เปรม เกี่ยวข้องกับการเอาชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่มีเหตุผลหรือความจำเป็นที่ม็อบจะมาขอชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ จาก พล.อ.เปรม ซึ่งไม่มีอำนาจหน้าที่ในทางตรง หรืออ้อม ที่จะปกป้องรักษาชีวิตของบุคคลหนึ่งบุคคลใด หรือนายกฯ จึงเห็นว่าการกระทำของม็อบเป็นเรื่องที่ผิดปกติ และเชื่อว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ดังนั้น อยากเรียกร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคงสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจนว่า ใครอยู่เบื้องหลังการจัดม็อบในครั้งนี้” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

นายองอาจ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่ามี 4 นายทหาร ทั้งในและนอกราชการ อยู่เบื้องหลังการลอบสังหาร ซึ่งประเด็นนี้เห็นว่าถ้านายกรัฐมนตรีได้รับข้อมูลดังกล่าวก็ควรสั่งให้มีการสืบสวนสอบสวนในทางลับ เพื่อรวบรวมหลักฐานเอาความผิดจากบุคคลเหล่านี้มาลงโทษอย่างจริงจัง เพราะเมื่อใดก็ตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศหรือให้ข่าวนี้ ถ้าเป็นความจริง เชื่อว่าขณะนี้ 4 นายทหารก็จะพยายามทำลายหลักฐานไปแล้ว เพื่อไม่ให้ตัวเองไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ถ้าไม่เป็นความจริง นายกรัฐมนตรีก็จะถูกตั้งข้อสังเกต หรือครหานินทาได้ว่าพยายามที่จะให้ข้อมูลข่าวสารเกินความเป็นจริง และมีความเป็นไปได้ว่านายกรัฐมนตรีพยายามที่จะปั่นกระแสลอบสังหารให้สูงเกินจริง เพื่อผลทางจิตวิทยาการเมืองหรือไม่

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตว่า ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องลอบสังหารนายกรัฐมนตรี ควรจะเป็นข้อมูลในการขยายผลการจัดการผู้เกี่ยวข้อง หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังอย่างจริงจัง มากกว่าจะเป็นข้อมูลที่นำมาเปิดเผยรายวันต่อสาธารณชน และผู้ที่เปิดเผยซึ่งเป็นถึงนายกรัฐมนตรีควรจะระวังในการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีสำคัญ ยกเว้นจะมีเจตนาอย่างอื่น

“ผมคิดว่านายกฯ และบุคคลในรัฐบาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ พยายามให้ข้อมูล หรือพูดจาขยายเหตุการณ์จนเกินความจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะไม่เป็นผลดีกับการสืบสวนสอบสวนแล้ว ยังก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในสังคม โดยเฉพาะตัวนายกฯ ไม่ควรที่จะพูดหรือสร้างความตื่นตระหนกให้เกิดขึ้นในสังคม นายกฯ ควรพยายามทำให้สังคมเกิดความสงบเรียบร้อยมากที่สุด อยากตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพฤติกรรมนายกฯ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คือ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา นายกฯ พยายามปิดปากไม่ยอมพูดกับสื่อในเรื่องการเมือง แต่หลังจากเกิดเหตุ นายกฯ กลับใช้ทุกวาระโอกาสในการแสดงความคิดเห็นเรื่องลอบสังหารอย่างละเอียด รวมทั้งการบอกเล่าข้อมูลในเชิงลึก ซึ่งหลายข้อมูลนายกฯ ไม่จำเป็นต้องออกมาบอกเล่ากับสื่อ จึงอยากถามว่า ทำไมนายกฯ ถึงพูดเรื่องนี้มากผิดสังเกต หวังผลทางการเมืองอย่างใดหรือไม่ หรือมีเจตนาบริสุทธิ์ในเรื่องนี้” นายองอาจ กล่าว

นายองอาจ ยังกล่าวถึงกรณีที่พี่สาวของ ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวระบุว่า ภรรยาของ ร.ท.ธวัชชัย เล่าให้ฟังว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเกลี้ยกล่อมสามีให้รับสารภาพ ครอบครัวจะได้ไม่เดือดร้อน ถ้าไม่ยอมรับสารภาพก็จะตายในคุกแน่นอนนั้น ตนคิดว่าคำบอกเล่าของภรรยา ร.ท.ธวัชชัย ถือว่าเป็นคำบอกเล่าที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะชี้ให้เห็นว่ากระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีความบริสุทธิ์ใจในการทำงานมากน้อยเพียงใด และได้ทำงานไปตามกระบวนการของการสืบสวนสอบสวน ภายใต้กฎหมายอย่างจริงจังหรือไม่ หรือมีความพยายามกระทำการใดๆ นอกเหนือกระบวนการยุติธรรมหรือไม่

“ผมคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจควรสืบสวน ร.ท.ธวัชชัย ภายใต้สิทธิพื้นฐาน ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง ไม่ควรใช้วิธีการนอกระบบใดเพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่ตนเองวางเอาไว้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ควรใช้วิธีการเกลี้ยกล่อม และข่มขู่ให้รับสารภาพ การที่บอกว่า ถ้า ร.ท.ธวัชชัย ไม่รับสารภาพ ถือว่าเป็นการข่มขู่ อย่างไม่ควรเกิดขึ้นในคดีสำคัญเช่นนี้ ตำรวจควรทำงานบนพื้นฐานความเป็นจริง ไม่ควรทำงานตามใบสั่งใดๆ ของผู้มีอำนาจทางการเมือง ทหาร การรับใช้ผู้มีอำนาจในทางที่ผิด ถือเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง วันหนึ่งความจริงต้องปรากฏ และอยากฝากว่าผู้มีอำนาจที่พยายามบงการ สั่งการ ไม่สามารถอยู่ค้ำฟ้าได้จนวันตาย วันหนึ่งคนเหล่านี้ก็ต้องหมดอำนาจไป เมื่อถึงวันนั้นความจริงก็ต้องถูกชำระสะสาง และถูกพิพากษาตามกระบวนการยุติธรรม” นายองอาจ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไร นายองอาจ กล่าวว่า นับตั้งแต่มีรัฐบาลภายใต้การดูแลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ประเทศไทยจะอยู่ภายใต้ “รัฐตำรวจ” พร้อมที่จะใช้อำนาจ เพื่อประโยชน์ของผู้มีอำนาจ มากกว่าพี่น้องประชาชน เพราะอะไรที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล หรือคนในรัฐบาล ตำรวจก็จะเร่งรัดดำเนินการ แต่อะไรที่เป็นโทษกับคนรัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรี ตำรวจก็จะทำงานอย่างเชื่องช้า เช่น กรณีการวางระเบิดที่พรรคประชาธิปัตย์ ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในการสืบสวนแต่อย่างใด
/0110

กำลังโหลดความคิดเห็น