“โคทม อารียา”แนะตำรวจกลั่นกรองข้อมูลให้ดีก่อนฟันธง “ทักษิณ”เจอแผนลอบสังหาร เผยสังคมกำลังแตกแยก มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกันอย่างชัดเจน ระบุทุกฝ่ายควรน้อมรับกระแสพระราชดำรัส “ในหลวง” ที่ประสงค์ให้รู้รักสามัคคี เตือนกลุ่มเชลียร์หยุดสร้างความแตกแยกในสังคม
นายโคทม อารียา ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ อดีตกรรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ ผ่านทางรายการรู้ทันประเทศไทย ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV คืนวันที่ 24 สิงหาคม 2549 ว่า ไม่คาดฝันกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น อีกทั้งยังสงสัยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้นมาจากอะไรกันแน่ เป็นการเมืองใช่หรือไม่ แล้วใครอยู่เบื้องหลังของกระทำทั้งหมด
ผู้ดำเนินรายการถามว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากโครงสร้างทางการเมืองของประเทศไทยหรือไม่ นายโคทม ตอบว่า ตนไม่อยากวิเคราะห์ถึงโครงสร้างทางการเมือง เพราะเหตุการณ์ในขณะนี้เราจะไปมองถึงระดับโครงสร้างนั้นไม่ได้ เราต้องกลับมามองถึงอารมณ์ความรู้สึกทางด้านจิตวิทยา อย่างไรก็ตามความสับสนวุ่นวายในขณะนี้กำลังสร้างความหวาดระแวงสำหรับคนไทย สังคมการเมืองกำลังมีการแบ่งพวก มีความหวาดระแวง ความเกียจ รัก โกรธ หลง ซึ่งในแง่การเมืองน่าจะตัดสินใจกันเป็นเหตุเป็นผลมากกว่านี้
ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ยังกล่าวถึงเหตุการณ์คนร้ายนำระเบิดซุกซ่อนบนรถยนต์ ย่านสะพานกรุงธนบุรี โดยภายหลังเจ้าหน้าที่ระบุว่า เป็นความพยายามลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องกลั่นกรองข้อมูลให้ดีก่อน ที่จะออกมาพูดว่า เป็นการลอบสังหารรักษาการนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่อาจจะพูดได้ แต่สังคมจะต้องฟังหูไว้หู อย่าพึ่งตัดสินใจว่าเป็นการกระทำอย่างที่เจ้าหน้าที่กล่าวอ้างมาหรือไม่ เพราะการที่เจ้าหน้าที่ออกมาชี้แจงในลักษณะนี้แสดงให้เห็นถึงอาการระส่ำระส่ายของสังคมได้เป็นอย่างดี
ผู้ดำเนินรายการถามถึงกรณีที่ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศให้เข้มงวดและกำกับดูแลความสงบสุขในพื้นที่ นายโคทม กล่าวว่า ต่อไปนี้พื้นที่สันติวิธีจะลดลง ที่ผ่านมาเราได้เสนอไปแล้วว่า ทุกฝ่ายควรน้อมรับกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ประสงค์ให้รู้รักสามัคคี ขณะเดียวกันตนยังเห็นว่า ทุกคนควรมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นในระบอบประชาธิปไตย โดยการแสดงความคิดเห็นนั้นจะต้องไม่ไปละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น ต้องแสดงออกอย่างพอประมาณ หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องอำนวยความสะดวกให้กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่าย อย่าให้เกิดการเผชิญหน้ากัน
นายโคทม กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมาชวนให้คบคิดได้ว่า กลุ่มสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี อาจมีการเตรียมการล่วงหน้า หรือจัดตั้งมาเพื่อการกระทำในลักษณะนี้โดยเฉพาะ ตนขอให้ผู้เตรียมการหยุดและเลิกเตรียมการกระทำอย่างนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาตรวจสอบ ขณะเดียวกันผู้นำฝ่ายค้านและสื่อมวลชน ก็ควร ช่วยกันเตือนสติโดยการใคร่ควรอย่างรอบคอบ อย่าไปเชื่ออะไรง่ายๆ ซึ่งอาจจะช่วยให้ความหวาดระแวงและความแตกแยกในสังคมลดลง