เชียงใหม่ : 8 เครือข่ายพันธมิตรฯเพื่อการปฏิรูปการเมืองภาคเหนือโดนมือมืดปล่อยใบปลิวถล่ม ชี้ไม่ใช่คนเชียงใหม่ ขัดขวางความเจริญ แนะคนเชียงใหม่เลิกคบ ด้านพันธมิตรฯระบุคนทำมีเจตนาปิดกั้นเสรีภาพทางการเมือง สร้างความแตกแยก จี้ตร.หามือมืดมาดำเนินการ
ตามที่วานนี้(16 ส.ค.) กลุ่มที่ใช้ชื่อว่า”กลุ่มลูกหลานเมืองเจียงใหม่” ประมาณ 500 คน ได้ออกใบปลิวขับไล่กลุ่มผู้ไม่หวังดีและเป็นภัยต่อชาวเชียงใหม่ ซึ่งระบุว่าถึงเวลาแล้วที่พวกเราปล่อยปละละเลยให้กลุ่มคนที่ไม่หวังดีต่อคนเชียงใหม่พากันขัดขวางนโยบายและการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ โดยแอบอ้างว่าเป็นคนเชียงใหม่ซึ่งประกอบด้วย 1.นายสุริยัน ทองหนูเอียด 2.นายอุทัยวรรณ กาญจนกามล 3.นายชัยพันธ์ ประภาสวัตร 4.นายนิคม พุทธา 5.นางสุนทรีย์ เวชานนท์ 6.นายบัณรส บัวคลี่ 7.นายสืบสวัสดิ์ สนิทวงศ์ และ 8.นายเฉลิมพล แซมเพชร
ใบปลิวดังกล่าวระบุต่อว่า คนเหล่านี้มันบังอาจออกแถลงการณ์โจมตีนโยบายที่ช่วยเหลือพี่น้องคนจน จะยกเลิกนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เลิกกองทุนหมู่บ้าน คว่ำบาตรนโยบายประชานิยม ต่อต้านเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งนำความเจริญมาสู่เชียงใหม่ทั้งสิ้น ดังนั้นขอให้พวกเราร่วมกันต่อต้านการกระทำของผู้ที่ไม่หวังดีต่อเมืองเชียงใหม่โดยการ 1.ไม่พูดด้วย 2.ไม่ต้อนรับ 3.ไม่คยค้า 4.ไม่ค้าขาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับใบปลิวดังกล่าวนั้น มีการแจกจ่ายทั่วเขตเทศบาลเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยแผ่นใบปลิวนั้มีขนาดใหญ่ 2 เท่าของกระดาษ เอ 4 พิมพ์ด้วยสีอย่างดี และในตอนท้ายของใบปลิวได้ลงรูปของบุคคลทั้ง 8 ข้างต้นด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับบุคคลทั้ง 8 คนที่ถูกใบปลิวฉบับนี้โจมตีนั้น ทั้งหมดเป็นบุคคลที่คัดค้านต่อต้านระบอบทักษิณ และร่วมตรวจสอบนโยบายทักษิณมาโดยตลอด อีกทั้งทั้งหมดยังเป็นสมาชิกเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อการปฏิรูปการเมืองภาคเหนือด้วย
นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด กองเลขาสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ(สกน.) และเป็นสมาชิกเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อการปฏิรูปการเมืองภาคเหนือ ซึ่งเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมาได้ร่วมชุมนุมขับไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีที่หน้าท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 เมื่อครั้งพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมาตรวจราชการที่ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ใบปลิวที่ออกมานั้นบ่งบอกถึงการปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกทางการเมือง มีเจตนายั่วยุ สร้างความเกลียดชัง ความแตกแยก และที่สำคัญเป็นการกระทำที่ไม่แสดงความรับผิดชอบว่าใบปลิวดังกล่าวมีที่มาจากไหน เพราะอย่างการชุมนุมการเคลื่อนไหวไม่ว่าจะเป็นสกน.หรือเครือข่ายพันธมิตรฯที่ผ่านมานั้นมีการเปิดเผยตัวเอง มีการแจ้งที่อยู่
นายสุริยันต์ กล่าวต่อว่า การเคลื่อนไหวของตนที่ผ่านมานั้นใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เป็นสิทธิที่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งการจัดกิจกรรมที่ผ่านๆมา ก็ไม่เคยมีการกล่าวหาหรือให้ร้านคนเชียงใหม่ แต่เป็นการวิจารณ์การบริหารประเทศของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งกรณีนี้ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนไหนของประเทศนี้คุณสามารถทำได้อยู่แล้ว การเคลื่อนไหวไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขตจังหวัดแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้น นายสุริยันต์ กล่าวต่อว่า ในพรุ่งนี้(18 ส.ค.) บุคคลทั้ง 8 ที่ถูกระบุอยู่ในใบปลิวจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวันโดยให้ตำรวจสอบสวนว่าใครเป็นคนทำ ใครบงการ ใครอยู่เบื้องหลังใบปลิวนี้ คนทำประสงค์อะไร เป็นการปิดกั้นเสรีภาพในการเคลื่อนไหวอย่างชอบธรรมหรือไม่ และมีเจตนาข่มขู่คุกคามการแสดงออกทางการเมืองหรือไม่
นายชัยพันธ์ ประภาสะวัต ผอ.สถาบันเพื่อสิทธิชุมชน และเป็นสมาชิกเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อการปฏิรูปการเมืองภาคเหนือ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นอย่าเอาเรื่องภูมิภาคมาพูด แม้ตนไม่ใช่คนเชียงใหม่แต่อยู่อาศัยอยู่ใน จ.เชียงใหม่มานานกว่า 20 ปี ซึ่งนานกว่าพ.ต.ท.ทักษิณด้วยซ้ำ และที่สำคัญใบปลิวที่ออกมานั้นตนเห็นว่าผู้ทำต้องมีเงินมากพอสมควรเพราะจัดพิมพ์อย่างดี แจกในหลายพื้นที่
แต่ทว่าข้อมูลที่นำมาเขียนก็ไม่เป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด เพราะตนมิเคยคัดค้านกรณี 30 บาทรักษาทุกโรค ไม่เคยแตะต้องนโยบายกองทุนหมู่บ้านละล้าน ดังนั้นผู้ที่จัดทำใบปลิวนี้ต้องไปศึกษาข้อมูลมาใหม่ แต่สำหรับโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีนั้น ตนคัดค้านจริง และหากโครงการยังเดินหน้าต่อไปตนก็ยืนยันจะคัดค้านต่อไป แต่อย่างไรก็ตามกรณีที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสืบสวนที่มาของใบปลิวเหล่านี้ให้ได้ และต้องตรวจสอบด้วยว่าใครบงการ ใครอยู่เบื้องหลัง