“ผศ.ดร.สุภาวดี มิตรสมหวัง” โต้ “แม้ว” กล่าวหาบิดเบือนรังแกลูกสาว รับพูดแซว “อุ๊งอิ๊ง” จริง แต่เป็นในสถานะอาจารย์กับลูกศิษย์ ยันไม่มีเจตนาอื่น สวนกลับ ถ้าจะด่าให้ด่าตรงตัว อย่าดิสเครดิตอาจารย์จุฬาฯ ทั้งหมด เชื่อหวังเบี่ยงประเด็นการเมือง เรียกคะแนนสงสารก่อนเลือก ส.ก.
วันนี้ (24 ก.ค.) ผศ.ดร.สุภาวดี มิตรสมหวัง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จุฬาฯ ออกมาชี้แจงถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ โดยระบุว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง ลูกสาวถูกอาจารย์ ม.จุฬาฯ ทักว่ายังมาเรียน ยังไม่ออกอีก ว่า ตนยอมรับเป็นผู้พูดกับอุ๊งอิ๊งเอง แต่จะขอชี้แจงว่าที่พูดว่าทำไมยังไม่ออกนั้น เพราะว่าวันที่เจออุ๊งอิ๊ง เป็นวันที่ 7 มิ.ย.ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดเรียน ซึ่งตอนปิดเทอมนั้น ได้ยินข่าวลือมาตลอดว่า อุ๊งอิ้งจะลาออก เมื่อเจอหน้ากันเลยตกใจ จึงถามว่า “อ้าวไม่ได้ลาออกหรอกหรือ” ดังนั้น คงจะนินทาพ่อไม่ได้นะ
ผศ.ดร.สุภาวดี กล่าวต่อว่า ขณะที่อุ๊งอิ๊งได้ฟังก็ยังหัวเราะเลย แถมยังบอกว่าไม่เป็นไร หนูอนุญาต ยืนยันว่า เป็นการคุยกันระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ ไม่ได้มีเจตนาเป็นอื่นเลย
“ในเรื่องการสอนหนังสือนั้น ดิฉันสอนวิชาการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พูดถึงผู้นำรัฐบาล ถึงไม่ได้เป็นพ่อของอุ๊งอิ๊งก็ต้องพูดถึง เพราะต้องวิเคราะห์ให้นิสิตเห็นทุกฝ่าย แม้แต่พันธมิตรฯ ดิฉันก็เคยด่า แต่ในส่วนรัฐบาลนั้นจะพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยชื่อพ่อเขา เพราะสงสารเด็ก เราเข้าใจว่า เขาต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาล” อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าว
ผศ.ดร.สุภาวดี กล่าวอีกว่า ทางคณบดีรัฐศาสตร์ ได้ให้นโยบายไว้ชัดเจนว่า อาจารย์ในคณะสามารถวิพากษ์วิจารณ์การเมืองได้อย่างเต็มที่ แต่ห้ามกระทบถึงนิสิตนักศึกษา ห้ามพุ่งประเด็นไปที่เด็กเด็ดขาด ไม่ให้พูดคุยกับเด็กในเรื่องการเมือง โดยเฉพาะกรณีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ตนก็เป็นผู้ใหญ่เพียงพอ จะไม่ทำอะไรให้เด็กเสียเปรียบ
“อาจารย์ที่คณะทุกคนพยายามปกป้องอุ๊งอิ๊งเป็นอย่างดี อุ๊งอิ๊งคงจะเล่าให้พ่อฟังสนุกๆ แต่รักษาการนายกฯเอามาพูดไม่หมด แล้วยังบิดเบือนว่าลูกโดนรังแก ทั้งที่อาจารย์กับอุ๊งอิ๊ง ไม่มีอะไรกัน ไม่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการอะไร ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเอาพูดในช่วงนี้ ทั้งที่เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมาเป็นเดือนแล้ว หรือหวังจะเบี่ยงประเด็น เพราะเห็นคะแนน ส.ก.-ส.ข.ไม่ดีหรือไม่” ผศ.ดร.สุภาวดี กล่าวและว่า ตนรู้สึกเสียใจที่ทำให้เด็กลำบาก และเรื่องนี้อาจจะต้องการดิสเครดิต อาจารย์จุฬาฯ ว่า ไม่เป็นผู้ใหญ่ ทำอย่างนี้ถือว่าไม่แฟร์กับอาจารย์คนอื่นที่ไม่รู้เรื่อง น่าจะบอกชื่อไปเลยว่าอาจารย์สุภาวดีเป็นคนพูด หรือเขียนจดหมายมาด่าก็ได้ ควรจะด่าให้ตรงตัว ไม่ควรเอาสถาบันมาพูดเล่น พูดอย่างนี้ถือว่าทำให้สถาบันเสื่อมเสีย
ผศ.ดร.สุภาวดี ยังกล่าวว่า โดยส่วนตัวรู้สึกชื่นชม น.ส.แพทองธาร ว่า เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนมาก มีความกล้าแสดงออก เวลาถามก็ยกมือตอบ ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของนิสิต มีความเข้มแข็งมาก เป็นที่รักในหมู่เพื่อนๆ ยังเคยชมว่า พ่อแม่เลี้ยงดูมาดี ไม่มีเหตุผลเลยที่ตนจะไปกดดันเขา ในทางกลับกันความกดดันกลับมาอยู่ที่อาจารย์มากกว่า ยกตัวอย่าง ข้อสอบข้อเขียนของนิสิตของคนอื่น อ่านรอบเดียวแล้วให้คะแนน แต่ของอุ๊งอิ๊ง ต้องอ่านถึง 3 รอบ เพราะว่าจะให้คะแนนผิด แล้วเด็กจะเสียเปรียบถูกหาว่ากลั่นแกล้ง
“จากคำพูดของรักษาการนายกฯครั้งนี้ ทำให้รู้สึกสงสารอุ๊งอิ๊ง เพราะต้องมาเจอกันอีกครั้งในวันพุธ จะมองหน้าเพื่อนอย่างไร เด็กกลายเป็นเหยื่อของการเมือง โดยส่วนตัวแล้วไม่มีปัญหา แต่เชื่อว่าอุ๊งอิ๊งคงต้องลำบากใจ” อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าว
เมื่อถามว่า จะดำเนินการเรื่องนี้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่นั้น ผศ.ดร.สุภาวดี กล่าวว่า คงไม่เอาเรื่อง เพราะผู้นำประเทศคนนี้ก็เป็นอย่างนี้ ทุกคนก็รู้ดี ไม่อยากเอาเรื่อง ไม่อยากแตะ ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากเสวนาด้วย
ด้าน รศ.วันชัย มีชาติ รองคณบดีฝ่ายบริหารและวางแผนรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า โดยส่วนตัวคิดว่าหลักการสอนของคณะ ถือว่า การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่วิจารณ์ต่างหากต้องถือว่าเป็นเรื่องแปลก แต่การวิจารณ์รัฐบาลก็ต้องหมายถึงการดำเนินงานของรัฐบาล ส่วนตัวบุคคลนั้นเป็นประเด็นรองที่จะมีการหยิบยกมาพูดถึง
“อย่างไรก็ดี การแสดงออกของทั้งอาจารย์ และนิสิต ตามที่เป็นข่าวก็ถือเป็นเรื่องปกติของคณะรัฐศาสตร์ คือ อาจารย์วิพากษ์การทำงานของรัฐบาล และนิสิตก็มีสิทธิวิพากษ์การสอนของอาจารย์ได้เช่นกัน และแม้ น.ส.แพทองธาร จะเป็นลูกสาวนายกรัฐมนตรี แต่ก็มีฐานะเป็นนิสิตคนหนึ่ง ไม่ว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่กระทบกับเนื้อหาการสอนตามหลักสูตร และจะไม่กระทบกับตัวผู้เรียนและผู้สอน” อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ กล่าว
รศ.วันชัย กล่าวอีกว่า ทางคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ แสดงออกเรื่องนี้มาตั้งแต่นิสิตเข้าปีหนึ่ง และเราก็คุ้นเคยกับการที่ลูกนักการเมืองจะมาเรียนที่นี้ มีการพูดถึงเกี่ยวกับการเข้าเรียนของ น.ส.แพทองธาร เพียงครั้งเดียว เมื่อครั้งรับเข้าศึกษา เพราะมีกระแสเกี่ยวกับการสอบเข้ามา จึงมีการกำชับนักศึกษารุ่นพี่ให้ระวังการแสดงออก และให้ฟังคำสั่งจากส่วนกลาง เมื่อเรื่องยุติเราก็ดู น.ส.แพทองธาร เป็นนิสิตคนหนึ่ง ไม่ใช่เป็นลูกนายกฯ เราปฏิบัติกับทุกคนเหมือนนิสิตทั่วไป
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ส.ก.-ส.ข.ที่เขตบางพลัด ว่า ลูกสาวถูกอาจารย์ที่จุฬาฯทักว่า “ยังไม่ออก แล้วจะนินทาคุณพ่อเธอได้อย่างไร” ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ตอบกลับว่า “นินทาได้ตามสบาย หนูจะได้นินทาอาจารย์ลับหลังบ้าง”