xs
xsm
sm
md
lg

มติศาล รธน.รับพิจารณายุบ ทรท.-ปชป. ยกคำร้อง “จุมพล-สุวรรณ” ลำเอียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ รับคำร้องยุบพรรคไทยรักไทย-ประชาธิปัตย์ไว้พิจารณา พร้อมเตรียมให้มาชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน ขณะเดียวกันยกคำร้อง 14 ส.ว.คัดค้าน “จุมพล-สุวรรณ” ร่วมพิจารณาสำนวนหลังถูกกล่าวหาเอียงข้าง “ทักษิณ” ด้าน “อุระ ” ไม่ยืนยันเสร็จก่อนเลือกตั้ง 15 ต.ค.หรือไม่ ย้ำศาลไม่มีนโยบายดึงคดีให้ช้า

วันนี้ (13 ก.ค.)นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแถลงภายหลังการประชุมว่า ฯ ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องของอัยการสูงสุด(อสส.) ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบ 5 พรรคการเมืองไว้พิจารณาวินิจฉัย โดย 1.พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า คำร้องระบุ น.ส.อิสรา หรือพรณารินทร์ ยวงประสิทธิ หัวหน้าพรรค และเป็นผู้แทนของพรรคประชาธิอปไตยก้าวหน้ากระทำการอันเป็นปฎิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ และกระทำการอันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือ ศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามพรบ.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 66 (2) และ(3) 2.พรรคพัฒนาชาติไทย คำร้องระบุว่า นายบุญทวีศักดิ์ อมรสินธุ์ หัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย และเป็นผู้แทนของพรรคพัฒนาชาติไทย กระทำการอันเป็นปฎิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ และกระทำการอันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือ ศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามพรบ.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 66 (2) และ(3)

3. พรรคแผ่นดินไทย คำร้องระบุว่า นายบุญอิทธิพล หรือบุญบารมีภณ ชิณราช หัวหน้าพรรคแผ่นดินไทย เป็นผู้แทนของพรรคแผ่นดินไทย กระทำการอันเป็นปฎิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ และกระทำการอันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือ ศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามพรบ.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 66 (2) และ(3) 4. พรรคไทยรักไทย คำร้องระบุว่า วันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมานายสุเทพ เทือกสุวรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ได้ร้องเรียนต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ว่ามีการสมคบระหว่างผู้บริหารพรรคไทยรักไทย เจ้าหน้าที่พรรคการเมืองอื่น และเจ้าหน้าที่กกต.เปลี่ยนแปลงข้อมูลสมาชิกพรรค และว่าจ้างพรรคเล็กให้ลงสมัครส.ส.ในการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ตามมาตรา 74 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และ ได้ตั้งส.ว. ซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมืองได้พิจารณาและเห็นพ้องตามที่คณะอนุกรรมการฯเสนอความเห็นมา โดยน่าเชื่อว่า การกระทำของกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเป็นการกระทำในฐานะตัวแทนของพรรค ซึ่งมีลักษณะเป็นการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครอง ในวิถีทางที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศรีธรรมอันดี ตามพ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 66 (1)และ (3)

และ 5.พรรคประชาธิปัตย์ คำร้องระบุว่า นายวิชิต ปลั่งศรีสกลุ และพวก 6 คน ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย ร้องต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองว่า พรรคประชาธิปัตย์กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายการเลือกตั้งโดยร่วมกับกลุ่มพันธมิตรล้มล้างรัฐบาล เสนอขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน ไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งส.ส. ชักจูงให้ประชาชนไปลงคะแนนในช่องที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนน จ้างพรรคชีวิตที่ดีกว่า พรรคพัฒนาชาติไทย พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ให้ใส่ร้ายพรรคการเมืองอื่น และขัดขวางการลงสมัครรับเลือกตั้ง จ.สงขลา ซึ่งอสส.ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคตามมาตรา 67 ของพ.ร.บ.พรรคการเมือง เนื่องจากหัวหน้า รองหน้าหน้า เลขาธิการพรรค กรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรค กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือกระทำการอันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อย หรือศรีธรรมอันดีของสังคม ตามพ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 66 ( 2)และ( 3)

ทั้งนี้สำนักงานเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญจะได้ส่งสำเนาคำร้อง พร้อมกับเอกสารประกอบไปให้กับ 5 พรรคการเมืองเพื่อยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากลับมาเป็นเอกสารภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง หลังจากนั้นองค์คณะตุลาการฯจึงจะอภิปรายว่าจะดำเนินกระบวนวิธีพิจารณาคดีอย่างไร จะพิจารณาสำนวนคำร้องยุบพรรคทีละพรรคหรือพิจารณารวมกันทั้ง 5 พรรค ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับคำชี้แจงของทั้ง 5 พรรคการเมืองด้วยว่าจะมีการขอสืบพยานที่จะต้องมีการออกนั่งบัลลังก์หรือไม่

อย่างไรก็ตามก่อนการพิจารณาคำร้องดังกล่าวที่ประชุมได้พิจารณาคำร้องคัดค้านของรักษาการ ส.ว.14 คน ที่ขอให้นายจุมพล ณ สงขลา และพล.ต.อ.สุวรรณ สุวรรณเวโช ให้ถอนตัวออกจากองค์คณะ เนื่องจากเป็นผู้มีส่วนได้เสียในคดี โดยตุลาการทั้ง 2 คนได้ชี้แจงข้อกล่าวหาต่อที่ประชุมก่อนที่จะออกจากห้องประชุม เพื่อให้ที่ประชุมคณะตุลาการได้มีการพิจารณา ซึ่งที่ประชุมมีมติว่า คำร้องของรักษาการส.ว.14 คน ไม่มีเหตุให้ตุลาการฯ ทั้ง 2 คนถอนตัวจากการเป็นองค์คณะจึงให้ยกคำร้องทั้งนี้ในอนาคตหากจะมีการยื่นคำร้องคัดค้านการนั่งเป็นองค์คณะของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีกก็สามารถทำได้แต่ขอให้เป็นการดำเนินการด้วยความบริสุทธิ์ใจ

ด้านนายอุระ หวังอ้อมกลาง ว่าที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ปฏิเสธที่จะยืนยันว่าการพิจารณาคำร้องยุบ 5 พรรคการเมืองจะแล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง 15 ต.ค.ได้หรือไม่ โดยระบุว่า ขอดูสำนวนก่อนว่าจะมีรายละเอียดเนื้อหามากน้อยแค่ไหน หากมีรายละเอียดมากก็จะมีการเสนอเป็นประเด็นไป ส่วนจะมีการอภิปรายอย่างต่อเนื่องหรือสลับกันไปก็ต้องนำเข้าอภิปรายก่อน และการกำหนดเวลาก็จะตามมา

“ผมไม่หนักใจอะไรต่อคำร้องนี้ เพราะศาลรธน.มีหลักในการพิจารณา โดยปกติเราพิจารณาไปตามเนื้อหาคำร้อง การพิจารณาจะทำด้วยความรอบคอบ โดยคำร้องนี้มีข้อกฎหมายไม่มาก ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญไม่มีนโยบายดึงคดีให้ช้า จะเร็วและช้าแค่ไหนต้องดูเนื้อหาและตุลาการในคณะ และยืนยันว่าศาลจะอำนวยความยุติธรรมให้กับ 5 พรรคการเมืองอย่างเต็มที่”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการพิจารณารับคำร้องยุบ 5 พรรคการเมืองของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแล้วนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีหนังสือมอบอำนาจให้นายทศพล เพ็งส้ม คณะทำงานของพรรคมาขอคัดสำเนาคำร้องยุบพรรคประชาธิปัตย์พร้อมสำเนาเอกสารประกอบ ที่อัยการสูงสุดเสนอมาแต่ทางเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญระบุว่ายังไม่สามารถดำเนินการให้ได้เนื่องจากต้องขออนุญาตต่อประธานศาลรัฐธรรมนูญก่อน แต่ทั้งนี้จะมีการดำเนินการให้โดยเร็ว

/0102/0303

นายอุระ หวังอ้อมกลาง ว่าที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญ


กำลังโหลดความคิดเห็น