xs
xsm
sm
md
lg

2 หนุ่มปีนอนุสาวรีย์ฯ ยอมลง - อีก 1 คน ตร.เข้าชาร์จเอาตัวลงได้แล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


3 หนุ่มปีนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเริ่มล้า ตำรวจกลัวพลัดตก กล่อมจนยอมลงได้แล้ว 2 คน เหลืออีก 1 คนไม่ยอมลง ยังปราศรัยโจมตีความเลวร้ายของ “กกต.-ทักษิณ” และเริ่มคลุ้มคลั่งขู่ฆ่าตัวตายจากถูกคนที่ใช้ถนนตะโกนด่าเป็นคนไม่เคารพประชาธิปไตย

หลังจากที่วานนี้มีชายฉกรรจ์รวม 3 คน โดย 1 ใน 3 แต่งกายเหมือนชาวบ้านบางระจัน อ้างตัวว่ามาจาก “กลุ่มโรงเรียนประชาธิปไตยพระปกเกล้า” ได้ปีนขึ้นไปอยู่ใต้พานใส่ฎีการัฐธรรมนูญ ส่วนด้านล่างรอบๆ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีป้ายผ้าเขียนว่า “การเมืองไม่ใช่ประชาธิปไตย คิดผิดเลือกผิด คิดถูกเลือกถูก” โดยชาย 1 ใน 3 ได้กล่าวปราศรัยโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านทางโทรโข่ง ระบุว่าที่บ้านเมืองเกิดวิปริต วิกฤตและอาเพศอยู่ในขณะนี้เป็นเพราะรักษาการนายกรัฐมนตรีได้ใช้รัฐธรรมนูญทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ และบิดเบือนประชาธิปไตยอย่างเลวร้าย เป็นต้นเหตุให้เกิดวิกฤต นำไปสู่มิคสัญญี-กลียุค แผ่นดินลุกเป็นไฟ คนไทยเข่นฆ่ากันเอง เกิดสงครามใหญ่ในบ้านเมือง รวมทั้งยังสั่งให้ข้าราชการละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ

วันนี้ (10 ก.ค.) พ.ต.ท.สุรกาญจน์ นาคสิงห์ รองผู้กำกับการฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.สำราญราษฎร์ กล่าวถึงกรณีที่มีชายฉกรรจ์ 3 คนปีนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยว่า ขณะนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะลง แต่ทราบชื่อชายกลุ่มดังกล่าว จำนวน 2 คน คือ นายมนัส เจตเสน่ห์ อ้างตัวว่าเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนประชาธิปไตยพระปกเกล้า และนายบุญสิน หยกทิพย์ อ้างว่าเป็นฝ่ายเผยแพร่ความรู้และความคิดขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ และมีนายชิงชัย มงคลธรรม เป็นรักษาการประธานกรรมการบริหาร เจ้าหน้าที่จึงติดต่อเพื่อเจรจาให้ลงมาในเวลา 12.00 น. เนื่องจากช่วงเย็นของวันนี้จะมีขบวนเสด็จ

สำหรับบรรยากาศที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขณะนี้ ชายทั้ง 3 คน ยังผลัดเปลี่ยนเรียกร้องทางการเมือง พร้อมระบุให้ยุบพรรคการเมืองทั้งหมด และจัดตั้งพรรคใหม่ 3 พรรค โดยรัฐบาลเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด และยังกล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่มีการเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ลาออก

โดย 1 ใน 3 คน แต่งกายคล้ายชุดนักรบโบราณสมัยบ้านบางระจัน พร้อมนำค้อนจำลองติดตัวไปด้วย อีก 1 คน นั่งสมาธิอยู่บริเวณด้านหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยโดยชายคนดังกล่าวเคยร่วมชุมนุมหน้าสำนักงาน กกต.เพื่อเรียกร้องให้ลาออกมาแล้ว กล่าวว่า เดินทางมาครั้งนี้ไม่ได้มีการนัดหมายกัน แต่มาด้วยอุดมการณ์เดียวกัน

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. นายองอาจ และนายมนัส ยอมทำตามคำเรียกร้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงมาด้านล่างแล้ว ส่วนนายบุญสินไม่ยอมลง พร้อมขู่จะฆ่าตัวตาย เนื่องจากมีประชาชนกลุ่มหนึ่งตะโกนว่าเป็นบุคคลที่ไม่เคารพระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ นายบุญสินเกิดบันดาลโทสะนำไม้มาฟาดอนุสาวรีย์ จากนั้นพูดตัดพ้อนายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เห็นความสำคัญ จึงต้องใช้เวทีนี้ปราศรัยถึงความต้องการของตนเอง

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งกล่าวว่า จะนำนายองอาจและนายมนัสไปสอบสวนถึงสาเหตุในการกระทำผิดดังกล่าวต่อไป

ล่าสุด พ.ต.อ.อนันต์ เหลือนฤมิตรชัย ผกก.สน.สำราญราษฎร์ ได้ปีนบันไดขึ้นไปเจรจากับนายบุญสิน เพื่อให้ลงมาจากอนุสาวรีย์ฯ อีกครั้ง แต่นายบุญสินแจ้งว่าจะปีนกลับลงมาเองโดยไม่ต้องให้ตำรวจมาบีบบังคับ พร้อมกับยืนยันข้อเรียกร้องเดิม 3 ข้อประกอบด้วย 1.ให้เปลี่ยนชื่ออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ เนื่องจากเห็นว่ารัฐธรรมนูญไม่ว่าฉบับไหน ไม่ได้เป็นประชาธิปไตย 2.ให้ยุบพรรคการเมืองทุกพรรค เพื่อล้างไพ่ใหม่ให้เกิดประชาธิปไตยที่แท้จริง อย่างที่ตนเคยต่อสู้เรียกร้องมากว่า 20 ปี และ 3.เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเมืองอยู่ในขณะนี้ ยึดกระแสพระราชดำรัสในการแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศ

โดย นายบุญสิน ยังคงกล่าวปราศรัยโจมตีการทำงานของหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค รวมทั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ออกมาเคลื่อนไหวในขณะนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ตำรวจสั่งการให้เจ้าหน้าที่นำเบาะลมมารองรับอยู่เบื้องล่าง จากนั้นได้ประชุมวางแผน และคาดว่า ตำรวจจะเข้าชาร์จนายบุญสินเพื่อให้ลงมาจากอนุสาวรีย์ให้ได้ภายในระยะเวลาอันใกล้นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุดว่า ขณะนี้นายบุญสินได้ถูกเจ้าที่ขึ้นรวบตัวลงมาเรียบร้อยแล้ว แต่กว่าจะนำลงมาได้เล่นเอาเจ้าที่ต้องออกแรงเหนื่อยเพราะนายบุญสินขัดขืน แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็นำนายบุญสินลงมาจนได้





กำลังโหลดความคิดเห็น