xs
xsm
sm
md
lg

สลด! ธุรกิจขอทานเด็กเกลื่อนเมืองวอนสังคมเหลียวแล

เผยแพร่:   โดย: สำนักข่าวประชาธรรม

กรุงเทพ : มูลนิธิกระจกเงาสานต่อโครงการรณรงค์“แกะรอยเด็กขอทาน” รุ่น 2 ขุดค้นต้นตอส่งเด็กขอทาน วอนชาวกรุงหยุดสร้างบุญในธุรกิจบาป ชี้ปัจจัยเร่งคือปัญหาครอบครัวเศรษฐกิจ

จากปัญหาธุรกิจขอทานที่ปัจจุบันกลายเป็นปัญหาเรื้อรังทางสังคมที่ยังรอการแก้ไข ซึ่งปัจจุบันยังมีสารพัดกลวิธีใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจ ไม่เพียงเด็กขอทานตามสะพานลอย แต่ยังรวมถึงเด็กขายดอกไม้ตามร้านอาหาร ขายพวงมาลัยตามสี่แยกไฟแดง หรือแม้กระทั่งการค้าประเวณีเด็ก ซึ่งเกือบทุกกรณีล้วนมีการทำเป็นกระบวนการทั้งสิ้น

นายวรเชษฐ เขียวจันทร์ หัวหน้าโครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทาน มูลนิธิกระจกเงา เผยว่า ปัญหาการค้ามนุษย์โดยเฉพาะธุรกิจขอทานนับวันยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยสาเหตุหลักของการทำธุรกิจขอทานหนีไม่พ้นปัญหาด้านเศรษฐกิจรวมทั้งความง่ายต่อการถูกชักจูง และที่สำคัญคือความมีเมตตาของคนใจบุญที่ให้เงินบริจาค กรณีดังกล่าวถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้มีการทำธุรกิจขอทานเพิ่มขึ้น โดยเด็กที่เข้ามาในธุรกิจนี้ส่วนใหญ่เป็นเด็กชาวกัมพูชาที่เข้ามาทาง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว รองลงมาคือเด็กจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ที่เข้ามาอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร เพื่อรอการส่งเข้ากรุงเทพฯ ขณะที่เด็กอีกส่วนหนึ่งเป็นเด็กที่อยู่ในพื้นที่

นายวรเชษฐ กล่าวต่อว่า จากปัญหาดังกล่าวทำให้มีการจัดโครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทานรุ่นที่ 2 เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 5-10 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่ในกรุงเทพ ย่านประตูน้ำ พบว่าแต่ละวันมีเด็กมานั่งขอทานไม่ซ้ำหน้า โดยจะมีคนมารับส่งและคอยเฝ้าดูอยู่ห่างๆ ทำให้การเข้าไปเก็บข้อมูลจากเด็กลำบากและอาจเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น

“เบื้องต้นเราทราบว่า กลุ่มคนที่หากินกับธุรกิจขอทานได้ใช้ชุมชนแออัดย่านเพชรบุรีตัดใหม่เป็นแหล่งกบดานาน และจากการลงพื้นที่สำรวจบ้านที่ต้องสงสัย พบว่าคนในบ้านมักจะดื่มสุราและเล่นการพนันตลอดทั้งวัน เมื่อเด็กลับมาถึงก็จะถูกริบเงินไปทั้งหมด อย่างไรก็ตามทางโครงการฯยังไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือเด็กกลุ่มนั้นได้ คงต้องมีการลงพื้นที่แล้วเก็บข้อมูลให้ได้มากกว่านี้ แล้วจึงทำการประสานงานขอความช่วยเหลือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป” หัวหน้าโครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทาน มูลนิธิกระจกเงา กล่าว

ส่วนความร่วมมือแก้ปัญหามือกับภาครัฐนั้น นายวรเชษฐ กล่าวว่า กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยทางศูนย์ประชาบดีได้เปิดสายรับแจ้งกรณีพบเห็นเด็กเร่ร่อนและเด็กขอทานที่เบอร์1300 เพื่อนำทีมเข้าช่วยเหลือเด็ก และมีการรณรงค์เพื่อหยุดธุรกิจขอทานผ่านทางสปอต์วิทยุ นอกจากนี้ยังมีสถานคุ้มครองเด็กและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการที่เป็นอีกหนึ่งเครือข่ายที่ให้การช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามตนเห็นว่ารัฐบาลควรผลักดันและเพิ่มโทษในการควบคุมคนขอทานตามพ.ร.บ.ควบคุมขอทาน พ.ศ.2484 เพื่อเป็นการยับยั้งธุรกิจขอทานให้หมดไป

น.ส.ลัดดา เบญจะเตชะ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองเด็กและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ เผยว่า ทางหน่วยงานได้ให้ความช่วยเหลือเด็กที่ประสบปัญหาในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่ถูกส่งให้มาขายพวงมาลัยดอกไม้ตามร้านอาหารในยามวิกาล เด็กที่ติดยาเสพติดและเด็กขอทานตามทางเท้าและสะพานลอย โดยส่วนหนึ่งจะได้รับการช่วยเหลือผ่านทางมูลนิธิกระจกเงาก่อน และบางส่วนจะเป็นเด็กที่เราได้รับแจ้งแบะแส ซึ่งเด็กเหล่านี้จะได้รับการดูแลช่วยเหลือ โดยส่งเสริมให้เข้าร่วมทำกิจกรรมต่างๆ และให้เรียนหนังสือตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 อย่างไรก็ตาม ทางสถานคุ้มครองเด็กฯ จะทำการสืบหาพ่อแม่ของเด็กเพื่อส่งเด็กกลับบ้าน แต่ต้องให้แน่ใจจะไม่กลับมาขอทานอีก

น.ส.ลัดดา กล่าวต่อว่า ปัญหาดังกล่าวส่วนใหญ่แล้วมีสาเหตุมาจากปัญหาทางครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหย่าร้างหรือไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่เด็ก ปัญหาเหล่านี้ทำให้เด็กขาดความอบอุ่นต้องออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน มาเจอกับสังคมอันเลวร้ายและสิ่งยั่วยุต่างๆ จนเกิดปัญหาเด็กเร่ร่อน ขอทาน ด้วยเหตุนี้ทางเราได้คำนึงถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัวจึงมีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยจัดทำค่ายครอบครัวเพื่อสร้างความรัก ความเข้าใจภายในครอบครัว และถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ดีกว่าจะรอแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเมื่อสายไป
กำลังโหลดความคิดเห็น