ระยอง : สุดยอดไอเดียชาวอ.แกลงสร้างศูนย์ศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยชุมชน ยกระดับวิถีชุมชนสร้างคนสานต่อ แจงมีหลักสูตรการศึกษาเทียบเท่าสถานศึกษาของรัฐ เผยจบหลักสูตรมอบปริญญาบัตรเช่นเดียวกับสถานศึกษาของรัฐ แจงเป้าหมายดึงคนให้คิดดี คิดเป็น นำความรู้ความเข้าใจมาพัฒนาท้องถิ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัญหาความรู้ วิถีชีวิต รวมทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวบ้านจำรุง ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง ที่ขาดคนสนใจและไร้คนสานต่อ ประกอบกับปัจจุบันการพัฒนาด้านสาธารณูปโภคในด้านต่างๆที่เจริญรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ในอนาคตภูมิปัญญาต่างๆอาจเลือนหายไป กรณีที่เกิดขึ้นส่งผลให้ชาวบ้านจำรุงหันมาตระหนักในคุณค่าของวิถีชุมชนโดยร่วมมือกันจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้มหาวิทยาลัยชีวิตขึ้นเพื่อจัดการศึกษาเรียนรู้ให้กับคนในท้องถิ่น
นายชาติชาย เหลืองแดง ผู้ใหญ่บ้านบ้านจำรุง ต.เนินฆ้อ กล่าวว่าแนวคิดที่จะจัดทำศูนย์การเรียนรู้มหาวิทยาลัยชีวิตนั้น เป็นผลมาจากที่ผ่านมาชุมชนท้องถิ่นมีการพัฒนามาตลอดแต่ยังขาดการจัดระบบองค์ความรู้ และภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เป็นระบบ ดังนั้นจึงเกิดแนวคิดของคนในชุมชนว่าองค์ความรู้ต่างๆ ที่มีอยู่ในท้องถิ่นซึ่งยังไม่เป็นระบบนั้น จะนำความรู้เหล่านั้นมาจัดระบบอย่างไรเพื่อทำให้คนภายนอกได้รับทราบ และสนใจภูมิปัญญาในท้องถิ่นด้วย
“ความรู้ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในชุมชน ในเบื้องต้นนั้นคนในชุมชนต้องยอมรับก่อน หลังจากนั้นจึงจะสามารถนำมาสู่ขั้นปฏิบัติได้ ซึ่งความคาดหวังของโครงการคือต้องไปให้ถึงเป้าหมายสูงสุดที่ตั้งเอาไว้เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชนในแบบชาว โดยให้ชาวบ้านเป็นผู้จัดการหลักสูตร” นายชาติชาย กล่าว
นายชาติชาย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันชุมชนหมู่บ้านจำรุง มีกลุ่มศึกษาเรียนรู้ต่างๆ หลายกลุ่ม ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม สมุนไพร วิทยุชุมชน เป็นต้น และยังมีหลายๆ ฝ่ายก็เข้ามาร่วมมือเชื่อมข้อมูลระหว่างกัน อย่างไรก็ตาม โครงการมหาวิทยาลัยชีวิตดังกล่าว ยังอยู่ในขั้นตอนการประสานงานขอความร่วมมือไปยังสถาบันการศึกษาต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยรามคำแหง สถาบันราชภัฎพระนคร สถาบันวิสาหกิจชุมชน เพื่อให้เข้ามาร่วมรับรองหลักสูตรท้องถิ่น
ผู้ใหญ่บ้านจำรุง อธิบายว่า เมื่อนักเรียนเรียนจบหลักสูตรแล้วจะได้รับใบปริญญาบัตรการรับรองมาตราฐานจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการและพลเรือน(ก.พ.) เช่นเดียวกับสถาบันการศึกษาในหลักสูตรของรัฐ สามารถนำไปสมัครงานได้ รวมทั้งยังมีงบประมาณจำกัดในการจัดทำหลักสูตร ขณะนี้มหาวิทยาลัยชีวิตบ้านจำรุงอยู่ระหว่างการประสานงานไปยังสถาบันการศึกษาในท้องถิ่น หรือในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งต้องรอการพิจารณาจากสภามหาวิทยาลัย ให้รับรองหลักสูตรท้องถิ่นด้วย
“การได้รับใบปริญญาบัตรรับรองความรู้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญคือ การที่เยาวชนหรือคนในท้องถิ่นโดยเฉพาะเยาวชน หากได้เข้ามาเรียนรู้จะเป็นแนวทางที่ทำให้เข้าใจท้องถิ่นมาขึ้น ใบรับรองคุณวุฒิก็สามารถนำไปใช้สมัครงานทั้งในท้องถิ่นและข้างนอกด้วย แต่นอกเหนือจากนั้น เมื่อเยาวชนได้มาเรียนรู้ชีวิตในท้องถิ่น จะทำให้สามารถนำมาใช้กับท้องถิ่นได้” นายชาติชาย กล่าว
ด้านนายรัชพล ภูฝันเมือง ชาวบ้านจำรุง กล่าวว่า มหาวิทยาลัยชีวิตในท้องถิ่นจะเป็นการยกระดับความรู้ในท้องถิ่นขึ้นมา มีการจัดระบบองค์ความรู้เพื่อการเรียนรู้ ทั้งนี้ ตนเห็นว่าการศึกษาในสังกัดกระทรวงการศึกษาของรัฐปัจจุบัน ทำให้เกิดการแบ่งชนชั้น คนได้ปริญญาดูถูกคนที่เป็นชาวบ้านธรรมดา อย่างไรก็ตามตนคิดว่าไม่ได้คัดค้านระบบการศึกษาในรูปแบบของรัฐ แต่สิ่งสำคัญก็คือจะทำอย่างไรให้คนรักท้องถิ่น เข้าใจชีวิต และมีความพอเพียงตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
“มหาวิทยาลัยชีวิตหวังว่าจะทำให้คนคิดเป็น คิดได้ มีปัญญา นำความรู้มาพัฒนาท้องถิ่น เพื่อยกระดับคนที่อยู่ในท้องถิ่น มหาวิทยาลัยชีวิตคือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต รู้เท่าทันทั้งภายในตนเองและภายนอก” นายรัชพล กล่าว
นายบรรจบ ตั้งมั่น ชาวบ้านจำรุง กล่าวว่า มหาวิทยาลัยชีวิตโดยการบริหารจัดการของภาคประชาชนในท้องถิ่น จะทำให้เกิดการเรียนรู้แบบของจริง เรียนรู้โดยเน้นการปฏิบัติจริง สามรถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น เรียนรู้ด้านการทำการทำการเกษตร การทำสวนผลไม้ การทำสวนยางพารา โดยผู้เรียนจะมีโอกาสเรียนรู้ทุกขั้นตอนด้วยการปฏิบัติจริงจากห้องเรียนในชุมชน
“ผู้ที่จะเข้ามาศึกษาเรียนรู้ที่มหาวิทยาลัยชีวิต อยากจะให้นำความรู้กลับไปช่วยเหลือชุมชน กลับไปพัฒนาชุมชนในท้องถิ่นของตน เพื่อให้ชุมชนสามารถช่วยเหลือตัวเองได้” นายบรรจบ กล่าวทิ้งท้าย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัญหาความรู้ วิถีชีวิต รวมทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวบ้านจำรุง ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง ที่ขาดคนสนใจและไร้คนสานต่อ ประกอบกับปัจจุบันการพัฒนาด้านสาธารณูปโภคในด้านต่างๆที่เจริญรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ในอนาคตภูมิปัญญาต่างๆอาจเลือนหายไป กรณีที่เกิดขึ้นส่งผลให้ชาวบ้านจำรุงหันมาตระหนักในคุณค่าของวิถีชุมชนโดยร่วมมือกันจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้มหาวิทยาลัยชีวิตขึ้นเพื่อจัดการศึกษาเรียนรู้ให้กับคนในท้องถิ่น
นายชาติชาย เหลืองแดง ผู้ใหญ่บ้านบ้านจำรุง ต.เนินฆ้อ กล่าวว่าแนวคิดที่จะจัดทำศูนย์การเรียนรู้มหาวิทยาลัยชีวิตนั้น เป็นผลมาจากที่ผ่านมาชุมชนท้องถิ่นมีการพัฒนามาตลอดแต่ยังขาดการจัดระบบองค์ความรู้ และภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เป็นระบบ ดังนั้นจึงเกิดแนวคิดของคนในชุมชนว่าองค์ความรู้ต่างๆ ที่มีอยู่ในท้องถิ่นซึ่งยังไม่เป็นระบบนั้น จะนำความรู้เหล่านั้นมาจัดระบบอย่างไรเพื่อทำให้คนภายนอกได้รับทราบ และสนใจภูมิปัญญาในท้องถิ่นด้วย
“ความรู้ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในชุมชน ในเบื้องต้นนั้นคนในชุมชนต้องยอมรับก่อน หลังจากนั้นจึงจะสามารถนำมาสู่ขั้นปฏิบัติได้ ซึ่งความคาดหวังของโครงการคือต้องไปให้ถึงเป้าหมายสูงสุดที่ตั้งเอาไว้เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชนในแบบชาว โดยให้ชาวบ้านเป็นผู้จัดการหลักสูตร” นายชาติชาย กล่าว
นายชาติชาย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันชุมชนหมู่บ้านจำรุง มีกลุ่มศึกษาเรียนรู้ต่างๆ หลายกลุ่ม ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม สมุนไพร วิทยุชุมชน เป็นต้น และยังมีหลายๆ ฝ่ายก็เข้ามาร่วมมือเชื่อมข้อมูลระหว่างกัน อย่างไรก็ตาม โครงการมหาวิทยาลัยชีวิตดังกล่าว ยังอยู่ในขั้นตอนการประสานงานขอความร่วมมือไปยังสถาบันการศึกษาต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยรามคำแหง สถาบันราชภัฎพระนคร สถาบันวิสาหกิจชุมชน เพื่อให้เข้ามาร่วมรับรองหลักสูตรท้องถิ่น
ผู้ใหญ่บ้านจำรุง อธิบายว่า เมื่อนักเรียนเรียนจบหลักสูตรแล้วจะได้รับใบปริญญาบัตรการรับรองมาตราฐานจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการและพลเรือน(ก.พ.) เช่นเดียวกับสถาบันการศึกษาในหลักสูตรของรัฐ สามารถนำไปสมัครงานได้ รวมทั้งยังมีงบประมาณจำกัดในการจัดทำหลักสูตร ขณะนี้มหาวิทยาลัยชีวิตบ้านจำรุงอยู่ระหว่างการประสานงานไปยังสถาบันการศึกษาในท้องถิ่น หรือในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งต้องรอการพิจารณาจากสภามหาวิทยาลัย ให้รับรองหลักสูตรท้องถิ่นด้วย
“การได้รับใบปริญญาบัตรรับรองความรู้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญคือ การที่เยาวชนหรือคนในท้องถิ่นโดยเฉพาะเยาวชน หากได้เข้ามาเรียนรู้จะเป็นแนวทางที่ทำให้เข้าใจท้องถิ่นมาขึ้น ใบรับรองคุณวุฒิก็สามารถนำไปใช้สมัครงานทั้งในท้องถิ่นและข้างนอกด้วย แต่นอกเหนือจากนั้น เมื่อเยาวชนได้มาเรียนรู้ชีวิตในท้องถิ่น จะทำให้สามารถนำมาใช้กับท้องถิ่นได้” นายชาติชาย กล่าว
ด้านนายรัชพล ภูฝันเมือง ชาวบ้านจำรุง กล่าวว่า มหาวิทยาลัยชีวิตในท้องถิ่นจะเป็นการยกระดับความรู้ในท้องถิ่นขึ้นมา มีการจัดระบบองค์ความรู้เพื่อการเรียนรู้ ทั้งนี้ ตนเห็นว่าการศึกษาในสังกัดกระทรวงการศึกษาของรัฐปัจจุบัน ทำให้เกิดการแบ่งชนชั้น คนได้ปริญญาดูถูกคนที่เป็นชาวบ้านธรรมดา อย่างไรก็ตามตนคิดว่าไม่ได้คัดค้านระบบการศึกษาในรูปแบบของรัฐ แต่สิ่งสำคัญก็คือจะทำอย่างไรให้คนรักท้องถิ่น เข้าใจชีวิต และมีความพอเพียงตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
“มหาวิทยาลัยชีวิตหวังว่าจะทำให้คนคิดเป็น คิดได้ มีปัญญา นำความรู้มาพัฒนาท้องถิ่น เพื่อยกระดับคนที่อยู่ในท้องถิ่น มหาวิทยาลัยชีวิตคือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต รู้เท่าทันทั้งภายในตนเองและภายนอก” นายรัชพล กล่าว
นายบรรจบ ตั้งมั่น ชาวบ้านจำรุง กล่าวว่า มหาวิทยาลัยชีวิตโดยการบริหารจัดการของภาคประชาชนในท้องถิ่น จะทำให้เกิดการเรียนรู้แบบของจริง เรียนรู้โดยเน้นการปฏิบัติจริง สามรถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น เรียนรู้ด้านการทำการทำการเกษตร การทำสวนผลไม้ การทำสวนยางพารา โดยผู้เรียนจะมีโอกาสเรียนรู้ทุกขั้นตอนด้วยการปฏิบัติจริงจากห้องเรียนในชุมชน
“ผู้ที่จะเข้ามาศึกษาเรียนรู้ที่มหาวิทยาลัยชีวิต อยากจะให้นำความรู้กลับไปช่วยเหลือชุมชน กลับไปพัฒนาชุมชนในท้องถิ่นของตน เพื่อให้ชุมชนสามารถช่วยเหลือตัวเองได้” นายบรรจบ กล่าวทิ้งท้าย.