ส.ส.สกลนคร ผวาสอบตก ตีกัน “เฉลิม” ส่งลูกลงพื้นที่

ส.ส.สกลนคร ไทยรักไทย ลั่นสู้ตายไม่กลัว “เฉลิม” หลังประกาศส่งลูกลงสมัครผู้แทนฯ หวังแย่งเก้าอี้ในพื้นที่ แฉคนในพรรคส่งข้อมูลหนุน ด้าน ส.ว.ชี้ทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนตัดสิน เชื่อมีวิจารณญาณที่ดีพอว่าจะเลือกใคร

วันนี้ (12 ม.ค.) นายพงษ์ศักดิ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะส่งบุตรชายทั้ง 3 คน ลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ในจังหวัดสกลนครว่า การประกาศส่งลูกชายทั้ง 3 คนของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้ก่อตั้งพรรคทางเลือกใหม่ ตรงกับเขตเลือกตั้งของตนพอดี ซึ่งการประกาศของ ร.ต.อ.เฉลิมเห็นได้ชัดว่ามีความมั่นใจสูงมาก และคงรู้เรื่องพื้นที่ดีพอสมควร ไม่อย่างนั้นไม่กล้าเปิดตัวเร็วอย่างนี้ เชื่อว่าคงมีคนในพื้นที่ที่เป็นนักการเมืองในพรรคไทยรักไทยด้วยกันเป็นคนสนับสนุนและให้ข้อมูลเป็นกำลังเสริมให้ ร.ต.อ.เฉลิมอย่างดี

“ตอนแรกที่ได้ยินข่าวว่าลูกชาย ร.อ.ต.เฉลิมจะมาลง ส.ส.ที่จังหวัดสกลนคร ก็คิดว่าเป็นการตัดสินใจของ ร.ต.อ.เฉลิมเอง แต่หลังจากรู้ข่าว 2 วัน เช็กข่าวในพื้นที่ก็พบและมั่นใจว่าคนในที่ร่วมพรรคเดียวกันเป็นคนชวนให้ ร.ต.อ.เฉลิมไปลงที่สกลนครเอง ซึ่งเรื่องนี้ลึกๆ คงต้องมีอะไรแน่ เพราะเป็นเรื่องผิดปกติมากที่ไปประกาศลงสมัครก่อนการเลือกตั้งนานขนาดนี้ แต่ยังไม่ขอพูดอะไรมากเพราะคนที่ชวนเขาไปก็อยู่พรรคเดียวกัน และกลัวจะเป็นการเมืองในพรรค” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า แม้ ร.ต.อ.เฉลิมจะประกาศส่งลูกลงแข่งกับตนก็ไม่กลัว และมั่นใจว่าจะรักษาพื้นที่ไว้ได้ เพราะอยู่ในพื้นที่มานานถึง 20 ปีแล้ว ไม่เคยทิ้งประชาชน คลุกคลีกับประชาชนมาโดยตลอด บวกกับได้สังกัดพรรคที่ให้ประชาชนเลือกจึงไม่กลัวที่จะเสียพื้นที่ ที่สำคัญ ร.ต.อ.เฉลิมเคยเป็นลูกพี่ตนมาก่อนสมัยที่ตนเคยลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคมวลชนด้วย ฉะนั้นจะรู้ทางกันดีอยู่แล้ว

นายวิญญู อุฬารกุล ส.ว.สกลนคร กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม คงส่งบุตรชายลงในเขต 5-6-7 ของจังหวัด ซึ่งในฐานะที่เป็น ส.ว.ในพื้นที่ ไม่ทราบว่า ร.ต.อ.เฉลิมมองเห็นจุดอ่อนตรงไหนของพื้นที่ถึงกล้าประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนเช่นนี้ เพราะทันทีที่ ร.ต.อ.เฉลิมจะจัดตั้งพรรคใหม่ก็นำเสนอนโยบายที่โดดเด่นแตกต่างจากรัฐบาลหลายข้อ ตนเชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะต้องมีคณะทำงานลงศึกษาในพื้นที่ จ.สกลนคร เพราะฉะนั้น ส.ส.ของพรรคไทยรักไทยในเขต 5, 6 และ 7 ต้องกลับไปถามตัวเองว่ามีจุดบกพร่องอะไรบ้างถึงทำให้ ร.ต.อ.เฉลิมสามารถประกาศเจตนารมณ์ในการแข่งขันทางการเมืองในพื้นที่ได้ขนาดนี้

นายวิญญู กล่าวต่อว่า ขณะนี้การเมืองยุคใหม่ไม่ใช่การลงแจกเงินซื้อเสียงประชาชน แต่ต้องเป็นการทำงานและลงพื้นที่จนสร้างศรัทธาให้กับประชาชน อย่าง ร.ต.อ.เฉลิมก็มีจุดเด่นพอที่สามารถอภิปรายในสภาเพื่อของบประมาณมาพัฒนาในพื้นที่ต่างๆ แต่ ส.ส.ในพื้นที่ขณะนี้กลับไม่สามารถทำแบบ ร.ต.อ.เฉลิมได้ เพราะต้องอยู่ภายใต้อาณัติของการเมืองใหญ่ ทั้งนี้ เชื่อว่ายังมีมวลชนมากพอสมควรตั้งแต่สมัยที่เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคมวลชนก็เคยไปปราศรัยจนชาวบ้านรู้สึกชอบในตัว ร.ต.อ.เฉลิม

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพี่ชายคือนายเฉลิมชัย อุฬารกุล ส.ส.สกลนคร พรรคไทยรักไทย กลุ่มพ่อมดดำ ได้หารือกับ ร.ต.อ.เฉลิมว่าจะจัดฐานเสียงให้ลูกชาย ส.ว.สกลนคร กล่าวว่า ในประเด็นนี้ตนไม่ทราบ แต่ส่วนใหญ่นักการเมืองด้วยกันก็รู้จักกันอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าถ้าทั้งสองคนมีการหารือกันจริงก็คงไม่น่าจะมีผลต่อ ร.ต.อ.เฉลิมที่จะส่งลูกชายมาลงสมัคร

“วันนี้หมดยุคหมาหลงแล้ว ซึ่งคนสกลนครทุกคนรักถิ่นฐานบ้านเกิดและในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของสกลนครไม่เคยมีใครสามารถผูกขาดในการเป็นผู้แทนประชาชนได้ แต่ที่สำคัญ ส.ส.ในพื้นที่ตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องมาพิจารณาตัวเองได้แล้ว” ส.ว.สกลนคร กล่าว

ขณะที่ นางมาลีรัตน์ แก้วก่า ส.ว.สกลนคร กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่ว่าประชาชนจะพิจารณาตัดสินใจเลือกลูก ร.ต.อ.เฉลิมหรือไม่ เพราะคนในพื้นที่มีวิจารณญาณที่ดีพอว่าจะเลือกคนดีอย่างไร ตนคิดว่า ร.ต.อ.เฉลิมคงมองเห็นว่าเสียงในเมืองอาจจะไม่เลือกตัวเอง จึงทำการเบี่ยงเป้าหมายทางการเมืองไปที่ต่างจังหวัด ซึ่งตนอยากจะเตือนว่าถ้าคิดที่จะไปหลอกประชาชนแล้วคิดแต่จะเสวยสุขคงไม่สามารถที่จะสร้างศรัทธาประชาชนได้