xs
xsm
sm
md
lg

“ทักษิณ” อ้างศึกษา “พุทธทาส” ลึกซึ้ง-ใช้ “ธรรมนำการเมือง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ทักษิณ” ได้ทุกเรื่อง วันนี้ลึกซึ้งหลักธรรมคำสอนพระพุทธองค์ ระบุก่อนตั้งพรรคไทยรักไทยได้ศึกษาคติธรรมของ “พุทธทาส” อย่างลึกซึ้งจึงสามารถ “ปล่อยวาง” ทำให้เข้าใจตัวเองและเข้าใจคนอื่น ใช้ธรรมนำการเมือง

วันนี้ (22 ต.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “นายกฯ ทักษิณ คุยกับประชาชน” โดยเล่าให้ฟังว่า พระพุทธทาส ภิกขุ เป็นพระที่มีคุณูปการต่อชีวิตของตนเป็นการส่วนตัว เพราะก่อนที่จะตั้งพรรคไทยรักไทย ไม่ค่อยมีความลึกซึ้งกับธรรมะเท่าที่ควร จึงใช้เวลาก่อนตั้งพรรคอ่านหนังสือของท่านพุทธทาสเป็นสิบเล่ม และทำความเข้าใจ ซึ่งในรอบแรกยังไม่ค่อยเข้าใจจึงอ่าน 2 รอบ และบางเล่มก็อ่านถึง 3 รอบ ทำให้เกิดความเข้าใจลึกซึ้ง มีความเข้าใจตัวเองและเข้าใจคนอื่นมากขึ้น รู้จักคำว่าปล่อยวางคืออะไร

“คำหนึ่งที่พระพุทธทาสพูดไว้ในหนังสือธรรมะกับการเมือง คือ ท่านให้ความสนใจต่อบุคลากรทางการเมืองมาก ประชาธิปไตยจะรุ่งเรืองหรือไม่อยู่ที่คุณภาพของบุคลากรทางการเมืองเป็นหลัก ระบบอย่างเดียวไม่พอ ท่านพูดว่าถ้านักการเมืองไม่เป็นนักการเมืองโพธิสัตว์ ถ้านักการเมืองไม่รักเพื่อนมนุษย์ ไม่เข้าใจว่าเพื่อนมนุษย์คือเพื่อนร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกันทั้งสิ้น ถ้ามีนักการเมืองแบบนั้นมากๆ ประชาธิปไตยจะกลายเป็นประชาธิปตาย เป็นสิ่งที่ดีมาก ท่านให้สติมาก” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่องที่องค์การยูเนสโก ยกย่องพุทธทาสภิกขุ เป็นบุคคลสำคัญของโลกในวาระชาตกาลครบ 100 ปี ซึ่งจะมาถึงในวันที่ 27 พฤษภาคม 2549 นี้ว่า สาเหตุที่พุทธทาสภิกขุได้รับการยกย่องเพราะได้ตั้งปณิธานของชีวิตไว้ 3 ข้อ คือ ข้อ 1.ให้ศาสนิกชนไม่ว่าศาสนาใดก็ตามเข้าถึงความหมายอันลึกซึ้งแห่งศาสนาของตน เพราะว่าเวลานี้บางคนก็ยังไม่ค่อยเข้าใจศาสนาของตนอย่างลึกซึ้ง ชาวพุทธก็เช่นกัน ชาวพุทธก็ไปเข้าใจว่าศาสนาพุทธนั้นก็คือความศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อในสิ่งที่มันไม่ใช่ศาสนาพุทธ เพราะศาสนาพุทธนั้นอยู่ที่หลักธรรมะเป็นหลัก การบูชาอะไรทั้งหลายนั้นก็เป็นเพียงสัญลักษณ์ตัวแทนพระพุทธเจ้า ตัวแทนของธรรมะ แต่การปฏิบัติตนตามธรรมะคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั้นเป็นหัวใจของศาสนาพุทธมากกว่า เพราะฉะนั้นอย่างนี้เราก็จะต้องเข้าใจ

ข้อ 2.พุทธทาสภิกขุ ตั้งใจว่าจะทำความเข้าใจอันดีระหว่างศาสนา อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่าศาสนาทุกศาสนา ต้องอยู่ร่วมกันได้ ไม่ใช่ว่าจะต้องอยู่คนเดียว ศาสนาอื่นอย่ามาอยู่ร่วมด้วยแล้วก็ไปรังแกเขา เหมือนที่พวกคนบ้าๆ ที่ตามจังหวัดภาคใต้ที่พยายามรังแกเขาอย่างนี้โดยอ้างศาสนา อย่างนี้ใช้ไม่ได้ เพราะศาสนาเป็นของสูง สูงกว่าที่ใครจะมาใช้เป็นประโยชน์แห่งตน หรือการใช้เป็นประโยชน์ทางการเมือง เพราะศาสนาเป็นเรื่องของจิตใจ ที่ต้องการทำให้คนเป็นคนดี อันนี้คือสิ่งที่พุทธทาสตั้งปณิธานไว้แต่ต้น ข้อ 3. คือดึงเพื่อนมนุษย์ให้ออกมาจากวัตถุนิยม แน่นอนการอยู่ในโลกของวัตถุนิยมจะต้องรู้เท่าทัน และไม่ถูกมันมอมเมาด้วยกิเลสและตัณหาที่ไม่สามารถที่จะยับยั้งชั่งใจได้
กำลังโหลดความคิดเห็น