•• แล้ว น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ คนดีอีกคนหนึ่งที่ไม่เข้าใครออกใครนอกจาก ความดีงาม, ความถูกต้อง ก็ถูกโยกย้ายจากตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กลับต้นสังกัดเก่าไปเป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เรียบร้อยโรงเรียนวิษณุ เครืองามจนได้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดล่าสุดเมื่อ วันที่ 18 ตุลาคม 2548 สาเหตุหลักเชื่อว่ามาจากการเรียกร้องของ ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่มีมาตั้งแต่ เมษายน 2548 ระเรื่อยมาถึง กรกฎาคม 2548 ประเด็นนี้ตัวคุณหมอเองเคยให้สัมภาษณ์ไว้ตั้งแต่เมื่อ วันที่ 24 เมษายน 2548 ใน ไทยโพสต์ – แทบลอยด์ ขอคัดตอนหนึ่งที่แสดงความเป็น คนตงฉิน ของท่านชัดเจนมาก ๆ ว่า “...ปัญหาเกิดขึ้นเพราะศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนารู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพราะเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวเรียกร้องจนก่อตั้งสำนักงานนี้ขึ้นสำเร็จในช่วงปฏิรูประบบราชการที่ผ่านมา และก็คาดหวังว่าเราจะต้องเป็นเด็กดีที่อยู่ในโอวาทของศูนย์พิทักษ์ฯ ซึ่งใน 1 ปีที่ผ่านมามันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ผอ.เก่านำพาสำนักพระพุทธฯเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับศูนย์พิทักษ์ฯมาก พูดอะไรก็ได้หมด ซึ่งผมเห็นว่าไม่ถูกต้อง ถ้ามีใครบังคับให้ผมทำอย่างนั้นผมก็คงต้องขอย้ายตัวเอง เพราะผมเห็นว่าสำนักพระพุทธฯควรจะเป็นกลาง และรับฟังทุกฝ่าย ดูแลชาวพุทธทุกฝ่าย.” และอีกตอนหนึ่งท่านกล่าวตรงไปตรงมาว่า “...หมอจักรธรรมถูกมองว่าเป็นลูกศิษย์หลวงตาบัว ห่างเหินจากสมเด็จเกี่ยว เป็นคนแบบสมัยใหม่เกินไป.” ก็เป็นอันว่านับจากนี้ไปสถานการณ์ความคิดเห็นที่แตกต่างในแวดวงพุทธศาสนาโดยเฉพาะประเด็นใหญ่ที่ต่อเนื่องมาเกือบ 2 ปี แต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช หมดโอกาสที่จะ แก้ไขโดยหน่วยงานกลาง แห่งนี้เสียแล้วเมื่อสิ้น ผอ.ผ่าเหล่า, ผอ.แหวกแนว ที่เข้ามา ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกฝ่าย เข้ามาเบียดแทรก ว่าที่ผอ.จากตำรวจที่ได้วางตัวกันไว้แล้ว ของอดีตผอ.คนแรก พล.ต.ท.อุดม เจริญ ที่มีความคิดเห็นทุกประการไปในแนวทางเดียวกับ วิษณุ เครืองาม, ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ เสียงข้างมากในมหาเถรสมาคม น่าเสียดาย
•• เมื่อ วันที่ 15 กันยายน 2547 คงจะจำกันได้ว่า หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านกล่าวถึง น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ กับตำแหน่งใหม่ที่เพิ่งได้มาขณะนั้น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในตอนท้ายของการเทศนาประจำวันที่ วัดป่าบ้านตาด ว่า “...เราพอใจ.”, “...คนไหนก็ตามถ้าเป็นลูกท่านสัญญา ธรรมศักดิ์ เราพอใจ เราแน่ใจ เพราะท่านสัญญา ธรรมศักดิ์เป็นศิษย์เรามานาน เวลาเราไปกรุงเทพ พอเราไปบ้านท่านสัญญา ธรรมศักดิ์ ท่านนิมนต์เราไป ท่านให้ลูก ๆ มาอยู่แถวเดียวกันหมด มาเหมือนเด็ก แล้วแปลกนะ พอมาเห็นเรานี้...โอ๊ย...ออดอ้อน...คลอเคลียนะ...เหมือนเด็ก เป็นผู้ใหญ่ผู้โตมาหาเราแล้วเป็นเหมือนเด็ก 3 ขวบ มาออดอ้อนคลอเคลียอยู่ตามเรานี้แหละเวลาเราไปเยี่ยมพ่อ เป็นอย่างนั้นนะ ไม่ใช่เด็กแต่มาเป็นอย่างนั้นกับเรา ด้วยความลงใจสนิทใจมากทีเดียว.” บรรยากาศดีขึ้นทันตาเห็น
•• และแค่ให้สัมภาษณ์เพียงไม่กี่ครั้ง น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ทายาทขุนนางตงฉินของแผ่นดิน ศ.สัญญา ธรรมศักดิ์ ก็แสดงให้ผู้รู้ทั้งแผ่นดินเริ่มมองเห็นชัดเจนว่า ความสุขุม, ความรู้รอบ และ ความตั้งใจจริง ของท่านนั้น เหมาะสมอย่างยิ่ง กับการโยกย้ายข้ามกระทรวงข้ามสังกัดมาดำรงตำแหน่งสำคัญยิ่ง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แทนที่ พล.ต.ท.อุดม เจริญ ท่านกล่าวว่าเชื่อมั่นในวิถีแห่ง การเจรจา, การประนีประนอมประสานประโยชน์ ทันทีที่ท่านรับตำแหน่งก็ได้ไปกราบนมัสการ พระพุทธรูป 1 องค์ + พระภิกษุ 3 รูป ตามลำดับดังนี้ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต), สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก, สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) เป็นวาจาที่ งาม อย่างยิ่ง
•• ในมุมมองของ น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ขณะนั้น ตุลาคม 2547 สถานการณ์โดยรวม เบาลงในระดับสำคัญ ข้อเสนอของกลุ่มพระวัดป่ารวมศูนย์อยู่ที่ การแก้ไขกฎหมายคณะสงฆ์ – ถวายคืนพระราชอำนาจในการสถาปนาและการปฏิบัติต่อองค์สมเด็จพระสังฆราช (หรือพูดอย่างเป็นรูปธรรมก็คือแก้ไข มาตรา 7 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505) แม้ไม่ได้บอกว่า จะเสนอแก้ไขแน่นอน แต่การที่ท่านตกปากรับคำหนักแน่นว่า จะดำเนินการศึกษาอย่างจริงจัง พร้อม ๆ กันไปกับท่วงทำนองและท่าทีที่ ไม่จาบจ้วงล่วงเกินพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ก็ทำให้ชาวพุทธทั้งแผ่นดินรวมทั้ง “เซี่ยงเส้าหลง” เริ่มมองเห็น แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แต่สุดท้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็หาได้ ขานรับ แต่ประการใดไม่
•• แต่ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ของ น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ก็ยัง ไม่มั่นคง เนื่องเพราะตัวท่านเสมือนเป็น คนนอกที่เพิ่งเข้ามา – ไม่มีรากฐานภายใน แถมอดีตผู้อำนวยการที่เพิ่งเกษียณอายุไปยังคงอยู่ใน วงใน (หรือพูดให้ถูกว่า วงในยิ่งกว่าใคร) จากการได้รับแต่งตั้งให้เป็น ที่ปรึกษา – มหาเถรสมาคม ตามข้อเสนอของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) – ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช นั่งทำงานอยู่ที่ พุทธมณฑล เหมือนกัน
•• มิพักต้องคิดถึงว่า พล.ต.ท.อุดม เจริญ นั้น ไม่ธรรมดา นอกจากจะเป็นนายตำรวจที่ ขยัน, ทำงานหนัก และ ชำนาญงานข่าวกรองและงานการเมืองมาตลอดชีวิตราชการ แล้วยังมีฐานภาพทาง เครือญาติ เป็น คู่เขย กับ สมชาย สุนทรวัฒน์ – ประธานส.ส.พรรคไทยรักไทย ที่เป็น เครือญาติ, คนบ้านเดียวกัน กับ บุญคลี ปลั่งศิริ มือขวาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อีกต่างหาก
•• บิดาของ น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ คือ ศ.สัญญา ธรรมศักดิ์ นั้นแม้จะมีเกียรติคุณยิ่งใหญ่หาผู้ใดเปรียบแต่ท่านก็เป็น คนธรรมดา ที่ยังคงมี รัก, โลภ, โกรธ, หลง เพียงแต่ได้พยายาม ลด, ละ, เลิก ความงามของชีวิตเมื่อประมาณ ปี 2472 ขณะเรียนอยู่ที่ อังกฤษ ท่านมีหนังสือสั้น ๆ กลับมาถึง พงา เพ็ญชาติ ที่ต่อมาเป็น ท่านผู้หญิงพงา ธรรมศักดิ์ แสดงถึงความห่วงหาอาทรว่า “...Lots of friends, lots of fun, lots of work and sometimes lots of loneliness, my mind is always wandering around to the haunting spot at Sam Sen ---- From Sanya to his fiancée.” และอีกตอนหนึ่งที่ นักการเมืองรุ่นปัจจุบัน ควรจะได้ ศึกษา ก็คือเมื่อตอนที่ท่านพ้นจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ที่อยู่มา 2 สมัย 18 เดือน เมื่อ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2518 หลังจากไปมอบงานให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เมื่อ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2518 เมื่อกลับเข้าบ้าน น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ผู้บุตรชายได้เขียนคำต้อนรับไว้บนกระดานดำที่บ้านว่า “...20 กุมภาพันธ์ 2518 ได้ทำดีที่สุดแล้ว ต่อแผ่นดิน ได้แสดงความภักดียิ่งแล้ว ต่อเจ้าเหนือหัว ได้แสดงความเมตตายิ่งแล้ว ต่อเพื่อน.” พร้อมคำลงท้ายตัวโต “...นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ – สุขอื่นใดยิ่งกว่าความสงบ ไม่มี.” เมื่อได้อ่านคำต้อนรับการลงจากตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหารที่ใครต่อใคร หมายปอง จากบุตรชาย ผู้รู้ใจ อดีตนายกรัฐมนตรี ณ วันนั้นได้บรรจงเขียน ความในใจ สื่อคำตอบถึงลูกชายบนกระดานดำแผ่นเดียวกันสั้น ๆ ง่าย ๆ ดังนี้ “...I appreciate this greatly. --- พ่อ.” ไม่มีความอาลัยอาวรณ์ในตำแหน่งที่เป็น สมมติ เป็น หัวโขน แม้แต่น้อย
•• ก็ขอให้ “เซี่ยงเส้าหลง” ได้ใช้ประโยคเดียวกันนั้นต่อ น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ในโอกาสที่ต้องถูกย้ายจากตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพียงสั้น ๆ ว่า ว่า “...20 ตุลาคม 2548 ได้ทำดีที่สุดแล้ว ต่อแผ่นดิน ได้แสดงความภักดียิ่งแล้ว ต่อเจ้าเหนือหัว ได้แสดงความเมตตายิ่งแล้ว ต่อเพื่อน ... นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ – สุขอื่นใดยิ่งกว่าความสงบ ไม่มี.” คนดีอยู่ที่ไหนก็ยังทำประโยชน์ให้เพื่อนมนุษย์ได้
•• พรุ่งนี้แล้ว เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร – ครั้งที่ 5 วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2548 เวลาเดิม 16.00 – 20.30 น. นอกจาก สนธิ ลิ้มทองกุล – สโรชา พรอุดมศักดิ์ จะกลับมาปักหลักที่บ้านเก่าอันอบอุ่น หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แล้วยังจะจับเข่าคุยกับพี่น้องประชาชนในประเด็นสำคัญ รัฐบาลชุดนี้ขายชาติไปแล้วหรือ ? รับวันสำคัญในอีก 2 วันข้างหน้า ปิยะมหาราช จะเริ่มต้นด้วยวงดนตรี คีตาญชลี พลาดไม่ได้ “...จุดเทียน...ประชาธิปไตยให้โชติช่วง / ความเป็นธรรมทั้งปวงต้องทวงถาม / เปลวเทียน...ประชาธิปไตยจะไหม้ลาม / สืบความงาม...ความดี...เสรีชน.” ชาติต้องการพวกเราทุกคน
•• เมื่อ วันที่ 15 กันยายน 2547 คงจะจำกันได้ว่า หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านกล่าวถึง น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ กับตำแหน่งใหม่ที่เพิ่งได้มาขณะนั้น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในตอนท้ายของการเทศนาประจำวันที่ วัดป่าบ้านตาด ว่า “...เราพอใจ.”, “...คนไหนก็ตามถ้าเป็นลูกท่านสัญญา ธรรมศักดิ์ เราพอใจ เราแน่ใจ เพราะท่านสัญญา ธรรมศักดิ์เป็นศิษย์เรามานาน เวลาเราไปกรุงเทพ พอเราไปบ้านท่านสัญญา ธรรมศักดิ์ ท่านนิมนต์เราไป ท่านให้ลูก ๆ มาอยู่แถวเดียวกันหมด มาเหมือนเด็ก แล้วแปลกนะ พอมาเห็นเรานี้...โอ๊ย...ออดอ้อน...คลอเคลียนะ...เหมือนเด็ก เป็นผู้ใหญ่ผู้โตมาหาเราแล้วเป็นเหมือนเด็ก 3 ขวบ มาออดอ้อนคลอเคลียอยู่ตามเรานี้แหละเวลาเราไปเยี่ยมพ่อ เป็นอย่างนั้นนะ ไม่ใช่เด็กแต่มาเป็นอย่างนั้นกับเรา ด้วยความลงใจสนิทใจมากทีเดียว.” บรรยากาศดีขึ้นทันตาเห็น
•• และแค่ให้สัมภาษณ์เพียงไม่กี่ครั้ง น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ทายาทขุนนางตงฉินของแผ่นดิน ศ.สัญญา ธรรมศักดิ์ ก็แสดงให้ผู้รู้ทั้งแผ่นดินเริ่มมองเห็นชัดเจนว่า ความสุขุม, ความรู้รอบ และ ความตั้งใจจริง ของท่านนั้น เหมาะสมอย่างยิ่ง กับการโยกย้ายข้ามกระทรวงข้ามสังกัดมาดำรงตำแหน่งสำคัญยิ่ง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แทนที่ พล.ต.ท.อุดม เจริญ ท่านกล่าวว่าเชื่อมั่นในวิถีแห่ง การเจรจา, การประนีประนอมประสานประโยชน์ ทันทีที่ท่านรับตำแหน่งก็ได้ไปกราบนมัสการ พระพุทธรูป 1 องค์ + พระภิกษุ 3 รูป ตามลำดับดังนี้ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต), สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก, สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) เป็นวาจาที่ งาม อย่างยิ่ง
•• ในมุมมองของ น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ขณะนั้น ตุลาคม 2547 สถานการณ์โดยรวม เบาลงในระดับสำคัญ ข้อเสนอของกลุ่มพระวัดป่ารวมศูนย์อยู่ที่ การแก้ไขกฎหมายคณะสงฆ์ – ถวายคืนพระราชอำนาจในการสถาปนาและการปฏิบัติต่อองค์สมเด็จพระสังฆราช (หรือพูดอย่างเป็นรูปธรรมก็คือแก้ไข มาตรา 7 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505) แม้ไม่ได้บอกว่า จะเสนอแก้ไขแน่นอน แต่การที่ท่านตกปากรับคำหนักแน่นว่า จะดำเนินการศึกษาอย่างจริงจัง พร้อม ๆ กันไปกับท่วงทำนองและท่าทีที่ ไม่จาบจ้วงล่วงเกินพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ก็ทำให้ชาวพุทธทั้งแผ่นดินรวมทั้ง “เซี่ยงเส้าหลง” เริ่มมองเห็น แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แต่สุดท้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็หาได้ ขานรับ แต่ประการใดไม่
•• แต่ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ของ น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ก็ยัง ไม่มั่นคง เนื่องเพราะตัวท่านเสมือนเป็น คนนอกที่เพิ่งเข้ามา – ไม่มีรากฐานภายใน แถมอดีตผู้อำนวยการที่เพิ่งเกษียณอายุไปยังคงอยู่ใน วงใน (หรือพูดให้ถูกว่า วงในยิ่งกว่าใคร) จากการได้รับแต่งตั้งให้เป็น ที่ปรึกษา – มหาเถรสมาคม ตามข้อเสนอของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) – ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช นั่งทำงานอยู่ที่ พุทธมณฑล เหมือนกัน
•• มิพักต้องคิดถึงว่า พล.ต.ท.อุดม เจริญ นั้น ไม่ธรรมดา นอกจากจะเป็นนายตำรวจที่ ขยัน, ทำงานหนัก และ ชำนาญงานข่าวกรองและงานการเมืองมาตลอดชีวิตราชการ แล้วยังมีฐานภาพทาง เครือญาติ เป็น คู่เขย กับ สมชาย สุนทรวัฒน์ – ประธานส.ส.พรรคไทยรักไทย ที่เป็น เครือญาติ, คนบ้านเดียวกัน กับ บุญคลี ปลั่งศิริ มือขวาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อีกต่างหาก
•• บิดาของ น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ คือ ศ.สัญญา ธรรมศักดิ์ นั้นแม้จะมีเกียรติคุณยิ่งใหญ่หาผู้ใดเปรียบแต่ท่านก็เป็น คนธรรมดา ที่ยังคงมี รัก, โลภ, โกรธ, หลง เพียงแต่ได้พยายาม ลด, ละ, เลิก ความงามของชีวิตเมื่อประมาณ ปี 2472 ขณะเรียนอยู่ที่ อังกฤษ ท่านมีหนังสือสั้น ๆ กลับมาถึง พงา เพ็ญชาติ ที่ต่อมาเป็น ท่านผู้หญิงพงา ธรรมศักดิ์ แสดงถึงความห่วงหาอาทรว่า “...Lots of friends, lots of fun, lots of work and sometimes lots of loneliness, my mind is always wandering around to the haunting spot at Sam Sen ---- From Sanya to his fiancée.” และอีกตอนหนึ่งที่ นักการเมืองรุ่นปัจจุบัน ควรจะได้ ศึกษา ก็คือเมื่อตอนที่ท่านพ้นจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ที่อยู่มา 2 สมัย 18 เดือน เมื่อ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2518 หลังจากไปมอบงานให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เมื่อ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2518 เมื่อกลับเข้าบ้าน น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ผู้บุตรชายได้เขียนคำต้อนรับไว้บนกระดานดำที่บ้านว่า “...20 กุมภาพันธ์ 2518 ได้ทำดีที่สุดแล้ว ต่อแผ่นดิน ได้แสดงความภักดียิ่งแล้ว ต่อเจ้าเหนือหัว ได้แสดงความเมตตายิ่งแล้ว ต่อเพื่อน.” พร้อมคำลงท้ายตัวโต “...นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ – สุขอื่นใดยิ่งกว่าความสงบ ไม่มี.” เมื่อได้อ่านคำต้อนรับการลงจากตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหารที่ใครต่อใคร หมายปอง จากบุตรชาย ผู้รู้ใจ อดีตนายกรัฐมนตรี ณ วันนั้นได้บรรจงเขียน ความในใจ สื่อคำตอบถึงลูกชายบนกระดานดำแผ่นเดียวกันสั้น ๆ ง่าย ๆ ดังนี้ “...I appreciate this greatly. --- พ่อ.” ไม่มีความอาลัยอาวรณ์ในตำแหน่งที่เป็น สมมติ เป็น หัวโขน แม้แต่น้อย
•• ก็ขอให้ “เซี่ยงเส้าหลง” ได้ใช้ประโยคเดียวกันนั้นต่อ น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ในโอกาสที่ต้องถูกย้ายจากตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพียงสั้น ๆ ว่า ว่า “...20 ตุลาคม 2548 ได้ทำดีที่สุดแล้ว ต่อแผ่นดิน ได้แสดงความภักดียิ่งแล้ว ต่อเจ้าเหนือหัว ได้แสดงความเมตตายิ่งแล้ว ต่อเพื่อน ... นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ – สุขอื่นใดยิ่งกว่าความสงบ ไม่มี.” คนดีอยู่ที่ไหนก็ยังทำประโยชน์ให้เพื่อนมนุษย์ได้
•• พรุ่งนี้แล้ว เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร – ครั้งที่ 5 วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2548 เวลาเดิม 16.00 – 20.30 น. นอกจาก สนธิ ลิ้มทองกุล – สโรชา พรอุดมศักดิ์ จะกลับมาปักหลักที่บ้านเก่าอันอบอุ่น หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แล้วยังจะจับเข่าคุยกับพี่น้องประชาชนในประเด็นสำคัญ รัฐบาลชุดนี้ขายชาติไปแล้วหรือ ? รับวันสำคัญในอีก 2 วันข้างหน้า ปิยะมหาราช จะเริ่มต้นด้วยวงดนตรี คีตาญชลี พลาดไม่ได้ “...จุดเทียน...ประชาธิปไตยให้โชติช่วง / ความเป็นธรรมทั้งปวงต้องทวงถาม / เปลวเทียน...ประชาธิปไตยจะไหม้ลาม / สืบความงาม...ความดี...เสรีชน.” ชาติต้องการพวกเราทุกคน