xs
xsm
sm
md
lg

อำเภอเดินหน้าถอนสัญชาติแม่อายตามคำพิพากษาศาล

เผยแพร่:   โดย: สำนักข่าวประชาธรรม

เชียงใหม่/อำเภอแม่อายเผยนำชื่อกลับเข้าทะเบียนบ้าน แต่เดินหน้าถอนสัญชาติต่อไป พร้อมระบุเตรียมจำหน่ายเพิ่มอีกกว่า 4,000 คน เพราะเคยถือบัตรพม่าผลัดถิ่น โดยให้ชาวบ้านแสดงหลักฐานคัดค้านก่อนถอนสัญชาติ ขณะที่ข้อมูลชุมชนระบุรัฐผลักดันให้เป็นพม่าผลัดถิ่น

ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาตัดสินให้ชาวบ้านแม่อายชนะคดีฟ้องร้องกรมการปกครอง จังหวัดเชียงใหม่ และนายอำเภอแม่อาย ฐานไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มีผลให้ยกเลิกประกาศอำเภอแม่อาย และอำเภอแม่อายต้องเพิ่มรายชื่อชาวแม่อายทั้ง 1,243 คนกลับเข้าสู่ทะเบียนบ้าน(ทร.14)ตามเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงาน แนวทางปฏิบัติของอ.แม่อายหลังจากที่ศาลมีคำตัดสินนายอุทัย สอนจีน ปลัดอำเภอแม่อาย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ประเด็นที่ชาวบ้านฟ้องศาลคือ การประกาศของอำเภอแม่อาย ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง หรือไม่ เพราะทางอำเภอ และกรมการปกครองถือว่าการประกาศเพิกถอนรายชื่อออกจากทะเบียนบ้านเป็นการทำตามกฎหมายการทะเบียนราษฎร หลังจากตรวจสอบพบว่าชาวบ้านที่ได้รับการเพิ่มชื่อกลับเข้าไปในทะเบียนบ้าน ทร.14 ขาดพยานหลักฐานที่ชัดเจน ขณะที่กรมการปกครองมีหลักฐานระบุคนเหล่านี้ถือบัตรผู้ผลัดถิ่นสัญชาติพม่า จึงสั่งให้จำหน่ายรายชื่อ และให้กลับไปอยู่สถานะเดิม

นายอุทัย กล่าวต่อว่า เมื่อศาลพิพากษาเพิกถอนประกาศอำเภอแม่อาย ทางอำเภอก็จะดำเนินการเพิ่มชื่อกลับเข้าสู่ทะเบียนบ้านตามเดิม ซึ่งกระบวนการนี้ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จ แต่ก็จะดำเนินการจำหน่ายรายชื่อต่อไปโดยดำเนินตาม มาตรา 30 ของกฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง คือ แจ้งให้ชาวบ้านได้ทราบและนำพยานหลักฐานมาแสดงยืนยันเพื่อโต้แย้ง ก่อนที่จะเพิกถอนรายชื่อออกจากทะเบียนบ้าน

เมื่อสอบถามว่าพยานหลักฐานใดที่อำเภอจะยอมรับได้ ปลัดอำเภอแม่อายตอบว่า จะต้องเป็นหลักฐานที่จะสามารถหักล้างกับฐานข้อมูลเดิมที่ชาวบ้านเคยถือบัตรผู้ผลัดถิ่นสัญชาติพม่า เช่น บัตรประชาชนเก่า หรือทะเบียนบ้านเดิมก่อนที่ไปถือบัตรผู้ผลัดถิ่น หากจะใช้ผลการตรวจดีเอ็นเอก็ได้ แต่ต้องเทียบกับคนที่มีสัญชาติไทยและต้องมีความใกล้ชิดกันทางเครือญาติ ไม่ใช่เอาคนที่ถูกจำหน่ายรายชื่อเช่นกันมาเทียบ หรือจะใช้พยานบุคคลทางอำเภอก็รับฟังได้แต่ก็ไม่รู้ว่ามีน้ำหนักหรือไม่

นอกจากนี้ ปลัดอำเภอแม่อาย กล่าวอีกว่า นอกจากชาวบ้าน 1,243 ที่ถูกจำหน่ายรายชื่อแล้ว กรมการปกครองยังพบว่ายังมีอีกจำนวนหนึ่งประมาณกว่า 4,000 คนที่ได้รับสัญชาติไทยในฐานะคนไทยตกหล่นเช่นเดียวกัน แต่คนเหล่านี้มีฐานข้อมูลในทะเบียนประวัติพม่าผลัดถิ่น คนเหล่านี้ก็จะถูกประกาศจำหน่ายรายชื่อด้วย และสำหรับผู้ที่ไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ทางอำเภอก็ได้เตรียมแบบคำร้องขอสัญชาติตามมาตรา 7 ทวิ คือ พ่อแม่ขอสถานะคนต่างด้าวชอบด้วยกฎหมาย ส่วนลูกได้สัญชาติไทย ซึ่งต้องให้รัฐมนตรีมหาดไทยเซ็นอนุมัติ

ทั้งนี้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่อ.แม่อาย พ.ศ.2499 เริ่มมีการสำรวจสำมะโนครัวจัดทำทะเบียนบ้านแต่ไม่ทั่วถึง ต่อมาที่ทำการกิ่งอ.แม่อายถูกไฟไหม้ ทำให้เอกสารทะเบียนราษฎรถูกทำลาย ประกอบกับช่วงปี2517-2518 มีการสู้รบแนวชายแดนทำให้มีราษฎรตามแนวชายแดนอพยพมาอยู่รวมกันในเขตอ.แม่อายรวมถึงผู้ลี้ภัยสงคราม

รัฐบาลในขณะนั้นจัดให้มีการลงทะเบียนและทำบัตรผู้ผลัดถิ่นสัญชาติพม่า และมีนโยบายผลักดันผู้ที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราชการออกนอกราชอาณาจักร ประกอบกับเจ้าหน้าที่ผลักภาระการพิสูจน์สัญชาติไทย ส่งผลให้ชาวบ้านบางส่วนหลงไปลงทะเบียนผู้ผลัดถิ่นสัญชาติพม่า

ในปี 2537 ราษฎรอำเภอแม่อายถวายฎีกาต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อขอความเป็นธรรม กรมการปกครอง อำเภอแม่อายจึงดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐานและเห็นว่าเป็นคนไทยตกหล่นจริงจึงเพิ่มชื่อกลับเข้าทะเบียนบ้าน และเป็นแนวปฏิบัติต่อราษฎรรายอื่นที่มายื่นคำร้องต่ออำเภอในเวลาต่อมา.
กำลังโหลดความคิดเห็น