xs
xsm
sm
md
lg

เตือนสังคมเห็นเงินเป็นใหญ่ จิตใจผู้คนไม่ต่างอะไรกับสัตว์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“หลวงปู่พุทธอิสระ” สนทนาธรรมในสภาท่าพระอาทิตย์ (9 ก.ย.48) ร่วมด้วย “สนธิ ลิ้มทองกุล” และ “สามารถ มังสัง” พิจารณาสังคมวันนี้นั้นล้วนเต็มไปด้วยสิ่งเร้าที่เป็นอกุศล ไม่ว่าจะเป็นความต้องการในการเปิดบ่อนเสรี การเปิดอาบ อบ นวดหน้าโรงเรียนหรือศาสนสถาน ชี้หากผู้มีอำนาจในบ้านเมืองยังเห็นเรื่องเงินเป็นเรื่องใหญ่ โดยลืมคิดถึงคุณธรรม คนในสังคมก็จะไม่ต่างอะไรกับสัตว์ ที่ต้องการแต่จะซ่องเสพในสิ่งที่เป็นอบายมุข ไม่มีความคิดวิเคราะห์ว่าสิ่งไหนถูกผิด ฝากแง่คิดใช้ปัญญาในการไตร่ตรองพิจารณา และร่วมด้วยช่วยกันสร้างสิ่งเร้าที่เป็นกุศลต่อบ้านเมือง

คลิกที่นี่ เพื่อฟังเสียงการสนทนาธรรม


รายการสภาท่าพระอาทิตย์ ประจำวันที่ 9 กันยายน 2548 ดำเนินรายการโดยสำราญ รอดเพชร

หลวงปู่ – เจริญธรรมท่านผู้รับชมรายการ ท่านผู้ดำเนินรายการที่รัก เมื่อครู่นี้ได้ยินคุณพูดถึงเรื่อง นักการเมืองคิดจะตั้งบ่อน 4 ทิศ ที่รู้ๆทิศที่วัดฉัน ทิศที่นครปฐมนี่มีย้ายบ้านหนีไปหลายหลังแล้ว เพราะว่าฤทธิ์ที่ไปหลงการพนัน แล้วก็ต้องขายบ้านขายช่อง ขายที่ขายทาง ลูกเมียก็แยกทางกัน ก่อนนี้เคยร่ำรวยรุ่งเรือง อยากจะบอกว่าเป็นที่รัฐมนตรี ผู้นำบ้านเมืองนี่มันน่าจะมีหัวคิดที่สร้างสรรค์ และก็ละเว้นจากอบายมุขคือเหตุเครื่องฉิบหายบ้างก็น่าจะเป็นเรื่องดีงาม
เพราะว่ามันจะทำให้บ้านเมืองผู้คน ประชาชนฉิบหายไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่น่าจะเป็นผู้นำที่ได้รับการไว้วางใจเท่าไหร่ ขอเปิดประเด็นร้อนๆเอาไว้ให้คุณสนธิ เพราะว่าเป็นวิธีคิดที่ไม่ค่อยจะสร้างสรรค์เท่าไหร่ เห็นแต่ตัวเลขเป็นใหญ่ ฉันมองว่ามันเป็นอะไรที่ คือ ณ วันนี้เราอยู่ใกล้ชิดประชาชนเลยทำให้รู้ว่า ประชาชนทุกข์ยากลำบาก และก็ยังมีสิ่งมอมเมาเข้ามาอีกเยอะแยะมากมาย มันก็จะกันไม่ได้แล้วยังจะเพิ่มขึ้นมาอีกนี่ก็แย่แล้ว

สนธิ – ครับ ก็สวัสดีครับ ท่านผู้ชมช่อง ASTV News 1 นะครับ วันนี้เป็นวันศุกร์ เป็นประจำของทุกๆวันศุกร์นะครับที่เรามาเจอกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผู้ซึ่งเข้ามาร่วมอภิปรายกับเรา และก็พูดคุยกัน วันนี้เป็นศุกร์ที่พิเศษนิดนึง คือผมจะมาตรงเวลานะครับ ธรรมดาแล้วทุกๆศุกร์ผมจะเข้ากลางรายการบ้าง สายรายการบ้างนะครับ ก็ต้องขอสวัสดีท่านผู้ชมที่อยู่ต่างประเทศนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณผู้ชมที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา และก็ในแคนาดานะครับ เวลานี้ก็น่าจะเป็นเวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่า ประมาณซัก 2 ทุ่มครึ่งหรือ 2 ทุ่ม 40 ที่มหานครนิวยอร์ก ส่วนลอสแองเจอลิสก็น่าจะเป็น 5 โมงกว่าใช่ไหมครับ ถ้าผิดพลาดยังไงก็บอกด้วยนะครับ
ท่านผู้ชมที่อยู่ในภูมิภาคที่ดูรายการเคเบิล และก็ที่ติดจานดาวเทียมของ ASTV นะครับ ก็ต้องขอโฆษณาประชาสัมพันธ์กันนิดนึงนะครับว่า ท่านสามารถจะชมช่องนี้และอีก 8 ช่องได้นะครับ โดยที่ท่านไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายรายเดือน เป็นเพียงแต่ว่าซื้อจานและซื้อกล่องติดนะครับ ซึ่งเรากำลังดำเนินการอยู่ อีกไม่นานนะครับท่านก็คงจะได้รับทราบว่าเป็นยังไงบ้าง ส่วนท่านผู้ชมที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา และแคนาดานั้น เรากำลังหาคำตอบให้ท่านอยู่นะครับ เรากำลังจัดช่องต่างๆเพื่อที่จะให้ท่านได้ชมนะครับ
ที่เรากำลังวางอยู่ก็มีช่อง News 1 ที่ท่านเห็นอยู่นี่นะครับ ต้องขอเวลาโฆษณาซักนิดนึง ประชาสัมพันธ์ซักนิดนึง เสียเวลาหน่อยนะครับก็คือว่า ธรรมดาเวลาท่านดูช่องนี้เป็นการถ่ายทอดสดจากประเทศไทยนะครับ แต่ว่าเราจะยึดเวลาที่ประเทศไทยเป็นหลักนะครับ แต่ในอนาคตนี่ช่องนี้นี่จะถูกปรับผัง โดยที่จะออกเป็น 2 ส่วน ส่วนนึงก็คือจะออกให้กับคนไทยในประเทศไทยดู อีกส่วนนึงจะถูกปรับผังเพื่อให้ตรงกับท่านผู้ชมที่อยู่ในอเมริกา และในแคนาดา อย่างเช่นเราจะยึดถือเอาเวลาวันธรรมดา ก็คือเวลา 17.00 น.ของท่านเป็นหลัก คือเวลาที่ท่านเลิกงานแล้ว กลับมาบ้านแล้วอยู่ที่บ้านจนถึงประมาณเที่ยงคืน
นั่นก็หมายความว่าเราต้องเริ่มทำงานตั้งแต่ 5 ทุ่มเป็นต้นไปนะครับ ก็คือเราจะมีคนอีกชุดนึงมาทำให้ แต่ก็จะเป็นข่าวสดเหมือนเดิมนะครับ แล้วจะมีรายการที่น่าสนใจ วันเสาร์-อาทิตย์ของท่านนี่ จะเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ซึ่งเราสร้างขึ้นมาให้ท่านโดยเฉพาะ เราจะมีดนตรีให้ท่านดูสดๆ เราจะเอาสุนทราภรณ์มาออกสดๆให้ท่านชมนะครับ ให้ท่านขอเพลงได้ เราจะเอานักร้องลูกทุ่งเก่าๆที่ท่านรู้จักดี ไม่ว่าจะเป็นเพลิน พรมแดน หรือบางครั้งเราอาจจะเอาอัสนี-วสันต์มาเล่นกันสดๆ ก็คืองานนี้ให้กับท่านผู้ชมที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาและในแคนาดาเลยนะครับ ติดต่อได้ตลอดจนการแสดงธรรมเทศนาให้ท่านนะครับ
วันอาทิตย์เวลาของท่าน 9.00-12.00 น. เราจะเอาอาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือว่าที่หลายแห่งเอามาสอนภาษาไทยให้กับลูกท่าน ก็คือว่าตั้งโจทย์ว่าจะสอนภาษาไทยให้กับเด็กที่เกิดในเมืองนอกยังไงนะครับ ในอนาคตท่านอาจจะไม่จำเป็นต้องพาลูกไปเรียนที่วัดไทยแล้ว นั่นคือช่องแรกนะครับ ช่องที่ 2 คือช่องภาษาอังกฤษนะครับ เราทำช่องภาษาอังกฤษอยู่แล้วในประเทศไทย เขาเรียกว่าช่อง Thailand Outlook Channel ช่องนี้นี่จะมีส่วนที่เป็นข่าวภาษาอังกฤษ เราจะนำมาผสมในช่อง News 1 ให้ท่าน เผื่อลูกหลานท่านที่โตในสหรัฐอเมริกาจะยังฟังภาษาไทยไม่ค่อยออก ไม่แข็งแรงนะครับ ก็สามารถดู News 1 ในเวลาข่าวภาษาอังกฤษได้
เพราะฉะนั้นช่อง News 1ในอนาคตนี้ จะมีข่าวภาษาอังกฤษผสมเข้าไปให้ท่านด้วยนะครับ ช่องที่ 2 ที่เราจะทำก็คือช่องอีสานนะครับ ทุกวันนี้เราทำช่องอีสาน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือออกอยู่แล้ว ให้กับพี่น้องชาวอีสานได้ดู ช่องอีสานนี้จะเป็นบริการให้กับคนลาวนะครับ เพื่อนคนลาวของเรา ซึ่งดูช่องไทยของเราอยู่แล้ว แต่จะมีช่องภาษาอีสานให้ จะมีทั้งหมอลำ จะมีทุกอย่างให้ท่าน วัฒนธรรมและข่าวคราวนะครับ ช่องที่ 3 ที่เราจะทำ ที่เราคุยกับทางมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ก็คือว่าทาง มสธ.โดยท่านอธิการบดี มีความสนใจที่จะให้พวกท่านคนไทยที่อยู่ในสหรัฐอเมริกานั้น สามารถจะเรียนปริญญาตรีผ่านดาวเทียมได้ โดยที่จะประสาทปริญญาให้ ผมเข้าใจว่ากำลังร่างหลักสูตรอยู่ น่าจะเป็นเรื่องไทยศึกษานะครับ
เพราะฉะนั้นแล้วท่านอยู่ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ท่านสามารถจะเรียนปริญญาตรีได้โดยผ่านช่องนี้นะครับ ก็จะมีการสอน ทั้ง 3 ช่องนี้เราจะจัดส่งไปที่สหรัฐอเมริกา โดยที่อาจจะต้องให้ท่านซื้อกล่องนะครับ โดยใช้จานเก่า ส่วนค่าสมาชิกนั้นกำลังดูอยู่นะครับ ก็เข้าใจว่าคงจะไม่แพงอะไรมากมายนักนะครับ เพราะว่าเราเมื่อคิดค่าสมาชิกท่านแล้ว เราจะไม่ทำแค่ 3 ช่องเท่านั้น เราจะเพิ่มช่องธรรมะเข้าไปอีกช่องนึงนะครับในอนาคต เราเรียกว่าช่องสุขภาพกาย สุขภาพจิต ซึ่งจะเป็นเรื่องอาหารการกิน เรื่องธรรมะนะครับ ก็จะมีนิมนต์พระสุปัตติปัณโณหลายๆรูปมาแสดงพระธรรมเทศนานะครับ หลวงปู่และผม อาจารย์สามารถและคุณสำราญนี่ก็จะมาออกช่องนี้ด้วยนะครับ
แล้วก็จะมีช่องที่ 5 ต่อไป และก็เบ็ดเสร็จในอนาคตค่าสมาชิกที่ท่านจ่ายไม่แพงนั้น เราตั้งใจว่าจะออกให้ท่านจนถึง 5 หรือ 6 ช่องนะครับ ก็เป็นข่าวคราวซึ่งกราบเรียนท่านผู้ชมไว้นิดนึงนะครับ ทั้งหมดนี้น่าจะเริ่มได้ประมาณวันที่ 1 มกราคมนะครับ เมื่อเริ่มแล้วนี่เราจะให้ท่านดูก่อน ต่อไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม เมื่อสิ้นเดือนมีนาคมแล้วถ้าท่านใดสนใจเป็นสมาชิก เราก็จะมีที่ติดต่อให้ ทั้งในสหรัฐอเมริกา และในศูนย์ดาวเทียมที่ฟอริดานะครับ และถ้าท่านสนใจที่จะดู ท่านก็ซื้อกล่องและก็จ่ายค่าสมาชิก ถ้าท่านคิดว่าไม่ดูก็ไม่เป็นไรครับ
ก็ต้องกราบเรียนให้ท่านทราบนิดนึงนะครับ แต่ว่าเป็นครั้งแรกที่เราทำอันนี้ออกมานะครับ เอาล่ะครับ เข้าสู่รายการซักนิดนึงนะครับ วันนี้เรามีองค์หลวงปู่พุทธอิสระ อาจารย์สามารถ มังสัง คุณสำราญ รอดเพชร เราพร้อมใจกันกราบนมัสการองค์หลวงปู่พุทธอิสระครับ แล้วผมก็จะโยนหน้าที่ของผมเข้าไปหาคุณสำราญ รอดเพชร แต่ก่อนอื่นอย่าลืมนะครับ คำถาม 02-6294433 นะครับ หรือไม่ก็ส่งเป็นอีเมล์มาได้ที่ sapa@11news1.com กราบนมัสการหลวงปู่ครับ

หลวงปู่ – เจริญธรรม

สำราญ – ฟังดูแล้วนี่ คุณสนธิ ตกลงหลวงปู่ต้องมาจัดรายการตี 3 ไหมครับ

สนธิ – ก็พอดีครับ จัดเสร็จท่านกลับวัดทำวัตรเช้า คือคนไทยที่อเมริกานี่นะครับ วันเสาร์กับอาทิตย์เราจะไปเอารายการทั่วๆไปให้เขาไม่ได้ เราต้องจัดให้เขาใหม่ครับ เพราะว่าเขาอยู่อเมริกา เขาตื่นสายหน่อย คนที่มีลูกมีหลานนี่เขาอยากให้ลูกหลานเขาเรียนภาษาไทย ก็เป็นการที่จะขับรถเอาลูกไปฝากเรียนที่วัดไทย บางครั้งก็ไกล บางครั้งก็ไม่สะดวก ถ้าเรามีรายการตอนเช้านะครับ 9 โมงเช้าของเขานี่

หลวงปู่ – เป็นกี่โมงของเรา

สนธิ – 9 โมงเช้าของเขาก็เป็นประมาณซัก 6 โมงเย็นของเรา

หลวงปู่ – ยังไม่เป็นไร ยังพอได้ นึกว่าซัก 6 ทุ่ม

สนธิ – 9 โมงเช้านิวยอร์กก็เท่ากับเป็น 3 ทุ่มของเรา 3 ทุ่มของเราถ้าเป็นที่ลอสแองเจอลิสก็ประมาณ 5 โมงเย็นครับ แต่จะมีปัญหานิดนึงครับหลวงปู่ เพราะว่าของเรานี่เร็วกว่าเขา 1 วัน เพราะฉะนั้นรายการวันเสาร์ของเขานี่ เราต้องทำตั้งแต่คืนวันศุกร์ และรายการวันอาทิตย์ของเขานี่เราต้องทำวันเสาร์ เพราะทุกวันนี้เวลาโทรทัศน์ของเราไปนี่ อย่างสภาท่าพระอาทิตย์เวลานี้ที่ กทม. ประมาณเกือบๆ 8 โมงเช้าแล้ว ที่มหานครนิวยอร์กนี่ 3 ทุ่ม ก็เท่ากับเขาดูรายการทอล์กโชว์ตอนกลางคืนของเรา ทีนี้คนไทยที่นั่นก็อยากจะฟังธรรมะในวันหยุดนะครับ เพราะวันหยุดนี้คือจะมีคุณพ่อคุณแม่ คุณป้าคุณน้าคุณอาที่ลูกหลานเคยขอร้องให้ไปสหรัฐอเมริกา และก็ไปเลี้ยงลูกให้ แล้วหลายๆคนที่ทำงานอยู่ตั้งแต่หนุ่มแน่นก็เริ่มที่จะอายุมากแล้ว ก็มีความสนใจในเรื่องธรรมะ ศีลธรรมในเมืองไทย หรือทำยังไงที่จะเรียนรู้วิธีฝึกจิต อย่างรู้ข่าวคราวไม่ใช่เฉพาะข่าวคราวทางโลกียะอย่างเดียว อยากจะรู้ถึงโลกุตระ เพราะคนเราไปอยู่ที่นั่นบางทีเหงา

สามารถ – คนห่างบ้านนี่มันคิดถึงเพื่อน คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่สำคัญคือผูกมัดอยู่กับวัฒนธรรม ประเพณี ศาสนาดั้งเดิม มันก็ทำให้เหงา

หลวงปู่ – เหมือนกับอยู่ใกล้คนคุ้นเคยนะ

สามารถ – มันก็ทำนองเดียวกัน

สำราญ – ทำไมคนนี่ส่วนใหญ่มุ่งไปอเมริกาหมดนะ คุณสนธิ คนไทยส่วนใหญ่แม้กระทั่งคุณแหม่ม

สนธิ – อเมริกาสมัยก่อนนี่ คืออย่างนี้ครับ สมัยก่อนการไปศึกษาต่อในต่างประเทศนี่ รุ่นเก่าคือรุ่นผู้ดีเก่า พวกศักดินานี่จะไปอังกฤษ เหตุผลที่ไปอังกฤษก็เพราะว่าอังกฤษนั้นเป็นพื้นฐานรากเหง้าของพวกศักดินาทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นท่านเซอร์ ท่านลอร์ด แล้วเราต้องยอมรับว่าราชวงศ์เรา ตลอดจนเชื้อพระวงศ์ ลงมาจนถึงเจ้าพระยา พระยา คหบดีนั้นจะไปอังกฤษ ไปอังกฤษก็เลยเป็นสถานที่ที่ไปแล้วนี่ก็คือ รวมพวกไฮโซแล้วถ้าไม่มีตังค์ไปไม่ได้ ไม่มีโอกาสให้ พอตอนหลังอเมริกาเริ่มเจริญเติบโต อเมริกาเป็นดินแดนเสรีที่ให้โอกาสคน ให้โอกาสคนไปทำมาหากินได้ทุกชนชั้น ก็เลยคนไม่พอใจหรือสถานภาพทางครอบครัวไม่ดี ก็ตัดสินไปอเมริกา ไปอาบเหงื่อต่างน้ำ และก็เรียนหนังสือ บางคนก็ไปเป็นเด็กทำงานปั๊มน้ำมัน บางคนก็ไปขายอาหาร บางคนก็ไปขับรถแท็กซี่

หลวงปู่ – แล้วเรื่องเหยียดสีผิว

สนธิ – ก็ยังมีอยู่ครับ จริงๆไปแล้วนี่เขาก็มีเสรีภาพในการทำมาหากินในระดับหนึ่ง แต่ว่าในเรื่องของสิทธิ เสรีภาพจริงๆนี่ คนต่างชาติที่อยู่ในอเมริกาก็รู้เหมือนกัน ว่าเขาก็คือพลเมืองชั้น 2 คือเขาก็จะรวมกลุ่มเฉพาะเขา คนไทยก็จะติดต่อคนไทย คนจีนก็อยู่ในกลุ่มคนจีน คนเกาหลี ก็จะมีบ้างหลวงปู่ที่หลุดออกไป แล้วก็ไปเป็นหมอ คือพูดง่ายๆว่าสถานภาพในวิชาชีพนี่ จะทำให้ตัวเองนี่ได้เข้าไปสังสรรค์กับคนต่างชาติ โดยเฉพาะคนผิวขาว แต่ทว่าเมื่อถึงจุดสุดท้ายนี่สีผิว

หลวงปู่ – อย่างนั้นสู้เมืองไทยไม่ได้

สนธิ – ก็พูดลำบากครับ เพราะว่าเมืองไทยสำหรับคนพวกนี้ บางครั้งในอดีตไม่ค่อยให้โอกาสเขา

หลวงปู่ – ไม่ๆ ที่ฉันบอกว่าสู้ไม่ได้ เพราะว่าเราไม่ได้เหยียดสีผิว เราไม่ได้แยกว่านั่นคือคนจีน นั่นคือคนไทย นั่นคือแขกอะไรอย่างนี้

สนธิ – เมืองไทยไม่ได้แยกครับ หลวงปู่ แต่ว่าเมืองไทยนี่การให้โอกาสคนระดับล่างที่จะเจริญเติบโตมานี่ไม่มี ไม่ค่อยมีครับ กีดกันกันมากเลย ลำบาก คับแคบ แล้วก็อยู่กับเพียงไม่กี่ตระกูล ร่ำรวยกันแบบนี้ อำนาจวาสนามาก็ไม่ได้ส่งเสริมให้คนระดับล่างขึ้นมา สมัยก่อนสมัยผมหนุ่มๆนี่ ตอนผมจบมัธยม สมัยก่อนนี่นามสกุลคุณขึ้นด้วยลิ้ม คุณสมัครเป็นตำรวจ ทหารไม่ได้ ข้าราชการไม่ได้ นี่ไงครับจะเห็น แต่เดี๋ยวนี้กลับไม่ถือสาไปแล้ว แต่มันต้องใช้เวลา ซึ่งเวลาช่วงนั้นนี่ที่คนไม่อยู่กัน ที่คนไปกัน แล้วเขามีความรู้สึกว่าเขาได้โอกาสมากกว่า คือเขามีความรู้สึกว่าโอกาสที่นั่นมี และอีกประการหนึ่งต้องยอมรับว่า อเมริกาจะดีๆชั่วๆนี่ ความยุติธรรมขั้นพื้นฐานเขาสูงกว่าเราเยอะ ก็คือว่าที่นั่นความยุติธรรมขั้นพื้นฐานในเรื่องกฎหมายเป็นกฎหมายนี่เขาจัดการเด็ดขาด จะเป็น ส.ส. หรือจะเป็น สว. หรือจะเป็นอะไรนี่ ถ้าทำผิดพลาดขึ้นมานี่เขาเล่นงานได้

หลวงปู่ – ไม่มีอ้อร้อนะ

สนธิ – ไม่มี แต่ว่าสูงขึ้นไปแล้วความยุติธรรมต้องเป็นไปตามอิทธิพลทางการเมือง แต่ว่าขั้นพื้นฐานดีมาก อย่างเช่นขับรถชนคนปังนี่ ใครจะโทรศัพท์มาอ้างว่าพ่อฉันเป็นนายพลนี่ เขาจัดการตรงๆ ตรงนี้ต่างหากที่ผมคิดว่าคนไทยอยูไม่น้อย ที่ไปแล้วเขามีความรู้สึกว่าใช่เลย เพราะว่าเขาไม่เคยได้ตรงนี้ โดนกดขี่มาเยอะนะครับ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจนะครับ

สำราญ – ก็หลวงปู่ฟังแล้วก็คงได้ไปเทศนาที่ลอสแองเจอลิสซักวันหนึ่ง มีท่านผู้ชมจากบอสตันบอกว่า รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ทางช่อง 9 มัน 4 ทุ่มบ้านเราแต่ตี 3 ที่โน่นนะครับ มันดึกไปหน่อย อยากให้เปลี่ยนเวลา

สนธิ – เมืองไทยรายสัปดาห์ที่เขาดึงสัญญาณจากช่อง 9 มานี่ เขาออกกันวันอาทิตย์ครับที่เมืองไทยตอนบ่ายสอง รีรันที่นี่ตอนบ่ายสอง ทีนี้ตอนที่เรารีรันเราต้องการให้คนดูหลายๆคนในประเทศไทยที่ไม่ได้ดูดูกันนะครับ โดยที่เราไม่ได้คิด ตรงนี้ไงครับที่เราบอกเราจะจัดใหม่ แล้วก็เผลอๆถ้าชอบกันจริงๆ เราก็จะจัดเมืองไทยรายสัปดาห์ เวอร์ชั่นของ ASTV ของเราเองเลย เพื่อให้กับท่านผู้ชมทางเมืองนอกโดยเฉพาะ

หลวงปู่ – คงจะต้องมีนะ

สนธิ – ตั้งใจอยู่แล้วครับ หลวงปู่ และมันจะได้พูดอะไรได้เต็มที่ ในขณะเดียวกันมีเวลามากพอสมควร ที่จะอธิบายเรื่องราวเยอะ ผมคิดว่าตรงนี้เราคงจะทำนะครับ ก็คงจะเป็นคุณสโรชา พรอุดมศักดิ์ อีกรายการนึงที่เราจะทำให้เป็นพิเศษกับคนไทยในอเมริกา ก็คือว่าในช่วงวันเสาร์ เราจะทำเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นใน 5 วัน 7 วันที่ผ่านมา ในรอบสัปดาห์โดยไม่ได้เป็นการอ่านข่าวนะครับ จะเป็นการวิเคราะห์แต่ละข่าว เอาเรื่องมาคุยกัน ก็ตัวหลักก็คงจะเป็นผม คือตอนนี้ผมก็คงต้องทำงานหนักเพื่อท่านผู้ชมที่สหรัฐอเมริกาโดยตรงนะครับ

สำราญ – เพื่อท่านผู้ชม และก็เพื่อบ้านเพื่อเมือง

สนธิ – อายุขนาดนี้แล้วต้องทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองครับ หรือว่าอายุไม่ขนาดนี้ก็ต้องทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองครับ

สำราญ – กลับมาที่เรื่องคาสิโน 4 มุมเมือง 4 มุมของประเทศ ตามแนวคิดตามข่าวนะครับ คุณประชา มาลีนนท์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ก็บอกว่าโดยความเห็นส่วนตัวของท่านนี่ เห็นว่าควรจะมีคาสิโน แล้วควรจะดำเนินไปในรูปแบบ Entertainment & Complex ก็คือเป็นสถานบันเทิง

สนธิ – ศูนย์รวมการบันเทิง ทั้งการละเล่นทุกอย่าง ตลอดไปจนถึงการพนัน

หลวงปู่ – ทำไมฉันไม่เข้าใจว่าคนใหญ่ในรัฐบาลชุดนี้ คิดแต่เรื่องพวกนี้เป็นอย่างเดียวหรือ คือเรื่องดีกว่านี้คิดไม่เป็นแล้วใช่ไหม

สำราญ – คิดเป็นครับ แต่บังเอิญเขาคิดเรื่องนี้ก่อน

หลวงปู่ – มันแสดงออกถึงกำพืดในใจ ความรู้สึกในใจ

สำราญ – คือคุณประชานี่เขาดูแลการท่องเที่ยว เป็น รมว.ท่องเที่ยว มันก็ต้องตอบคำถามว่า ตกลงรัฐบาลจะเอายังไง เรื่องของคาสิโนควรจะเอายังไง ทีนี้ท่านประชาก็บอกว่าส่วนตัวนั้นอยากเดินหน้า

สามารถ – มันไปสอดคล้องกับข่าวตั้งอาบ อบ นวดใกล้ๆโรงเรียน ก็เลยพูดเลยไปถึงการพนัน เลยไปถึงมีแววว่าอีกหน่อยจะเลยไปอีกหลายเรื่องครับ หลวงปู่

หลวงปู่ – ฉันคิดว่าคนที่เขามาเที่ยวเมืองไทยนี่ เขาไม่ได้อยากมาเล่นคาสิโนหรอก เขาอยากที่จะมาดูวัฒนธรรม

สำราญ – คือถ้าจะมีคาสิโนอย่างที่คุณประชาหรือรัฐบาลฝันถึงนะครับ มันก็เป็นจุดเปลี่ยนของประเทศไทยเยอะเหมือนกัน

หลวงปู่ – แล้วมันจะเป็นอะไร เข้ามาเล่นการพนันอยู่ในคาสิโน เงินมันจะออกมาถึงหัวไร่ปลายนาหรือ อยากจะถาม คนขายขนมครกข้างถนนมันจะมีโอกาสได้เงินบ่อนคาสิโนมากินไหม มันก็จะกลายเป็นว่าเอาเงินมาให้กับใครคนใดคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของบ่อน เจ้าของคาสิโนมั้ง หรือตระกูลใดตระกูลหนึ่ง

สามารถ – ก็พอดี หลวงปู่ การจัดอันดับเศรษฐีในอาเซียน 10 คน 1 ในนั้นเป็นเจ้าของบ่อน

หลวงปู่ – เลยอยากจะเป็นกับเขาบ้าง

สามารถ – ก็ทำนองนั้นมั้งครับ

หลวงปู่ – แต่อย่าลืมว่าพวกลำดับเศรษฐี ไม่ได้มาเลี้ยงดูคนในชาตินะ แถมไม่เลี้ยงดูแล้วยังมอมเมาคนในชาติอีกนะ

สามารถ – เขาก็จะบอกหลวงปู่บอกว่า เงินภาษีที่ได้จากบ่อนนี่นะ มันก็กระจายไปในรูปของงบประมาณ

หลวงปู่ – อย่าสำคัญตนว่าเรามีอำนาจยิ่งใหญ่ แล้วทำให้ประชาชนพินาศ ลักษณะอย่างนี้นี่มันเข้าเลย

สามารถ – คือตอนนี้มันเข้าข่ายว่า รัฐบาลนี่มองหารายได้ทุกรูปแบบ ไม่คำนึงว่ามันถูกหรือผิด ก็ไปยืนยันที่คนพูดตลอดเวลาว่ารัฐบาลถังแตก ก็เลยหาเงินทุกรูปแบบ

หลวงปู่ – มีคำกล่าวอีกคำนึง ถึงมีกำลังน้อย แต่ถ้ามีความคิดก็สามารถเอาชนะกองทัพใหญ่ได้ แต่นี่ดูเหมือนจะไม่มีความคิด ถ้าคิดก็เพื่อจะแสวงหาผลประโยชน์

สนธิ – คือผมเครื่องร้อนแล้ว นั่งปั่นเครื่องดีเซลฟังหลวงปู่ ตรรกะของการที่จะมีบ่อนนี่ แต่ไหนแต่ไรแล้ว ทุกครั้งจะมีตรรกะอยู่ 2-3 ข้อตลอดเวลา ข้อแรกก็คือว่าเพื่อนบ้านเขามีกันหมดแล้ว ก็ตอบกันทีละข้อ ถ้าเพื่อนบ้านเขามีกันหมดแล้ว ถ้าเราต้องใช้ลัทธิเลียนแบบนี่ เวลาสุนัขยืนฉี่ข้างถนน เราก็ต้องฉี่ข้างถนนด้วยหรือ มันยกขา เราก็ต้องยกขาเหมือนมันใช่ไหมครับ คือไม่รู้จักแยกแยะว่าตัวเรานั้น รากเหง้านั้นเป็นอย่างไร เพื่อนบ้านนี่ถามว่าเพื่อนบ้านที่ไหน ก็จะอ้างมาเลเซีย อ้างสิงคโปร์ อ้างฮ่องกง อ้างมาเก๊า อ้างเขมร อ้างพม่า พอเราดูอย่างนี้แล้ว เราก็ต้องถามตัวเราเองว่า ผู้บริหารบ้านเมือง ผู้ปกครองแผ่นดินนี่ จริงๆแล้วต้องการให้ชาติเดินไปทางไหน

หลวงปู่ – ก็เดินไปตามเพื่อนบ้าน

สนธิ – ความมั่นคงของชาตินี่ มันอยู่ที่จิตวิญญาณของคน อยู่ที่รากเหง้าวัฒนธรรมนะครับ อยู่ที่ว่าคนนี่เข้าใจคุณงามความดีและคุณธรรมหรือเปล่า เพราะว่าถ้าคนไม่เข้าใจคุณงามความดีและคุณธรรมแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นเงินกลายเป็นทองไปหมดอย่างเดียวนี่ ชาติมันอยู่ไม่ได้

หลวงปู่ – ฉันว่าวันข้างหน้านี่ พวกที่คัดค้านนี่ต้องโดนอุ้มแน่เลย เพราะมาขัดขวางความเจริญ

สนธิ – อันนั้นคือตรรกะข้อแรก ตรรกะข้อที่ 2 ก็คือว่า ทุกวันนี้มันก็มีอยู่แล้ว ทำไมไม่เอาขึ้นมาข้างบนให้มันถูกต้อง ผมก็บอกว่าทุกวันนี้โสเภณีก็มีอยู่แล้ว ทำไมไม่เอาขึ้นมาล่ะ ทุกวันนี้โจรมีอยู่แล้วก็เอาขึ้นมา ทุกวันนี้การฆ่าคนก็มีอยู่แล้ว ก็เปิดโอกาสให้มันฆ่าโดยถูกต้องตามกฎหมายสิ

หลวงปู่ – ยาเสพติดมันก็มีอยู่แล้ว

สามารถ – คุณสนธิรู้ไหม รัฐบาลชุดนี้เขามีวิธีการปราบ ก็คือทำสิ่งผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมาย ก็อย่างการปราบ 100% อย่างหวยไง เขาอ้างว่าปราบได้แล้วไง

หลวงปู่ – ปราบได้ที่ไหน ข้างบ้านคุณก็ยังมีขายอยู่เลย

สนธิ – ทุกอย่างนี้มันจบลงมาถึงปรัชญาการบริหารชาติบ้านเมือง เราจะบริหารให้คนเป็นคน หรือเราจะให้บริหารให้คนเป็นสัตว์ ทุกวันนี้รัฐบาลชุดนี้บริหารให้คนเป็นสัตว์ เอาแต่เสพอย่าเงเดียวไม่ต้องคิด

หลวงปู่ – ทำตามฉัน เชื่อฉันเถอะน่า

สนธิ – นี่แหละครับ ตรงนี้สำคัญมาก

สำราญ – เขาอ้างว่าเป็นรายได้

สนธิ – อันที่ 3 ก็คือว่าเรื่องส่งเสริมการท่องเที่ยว ก็แสดงว่ามนุษย์ในโลกนี้เวลามันไปเที่ยวกันนี่ ถ้าไม่มีบ่อนมันไม่ไปเที่ยวใช่ไหม คือตรรกะมันผิดหมด ทีนี้ในฐานะที่คุณประชา มาลีนนท์นี่ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีนี่ท่านพูดออกมา ท่านบอกว่าเป็นความเห็นส่วนตัวนี่ ผมก็เอาความเห็นส่วนตัวว่าบ้าง เราก็ลองมาวิเคราะห์ว่าคุณประชา มาลีนนท์นั้นเป็นคนประเภทไหน เขาเป็นศิษย์รุ่นน้องผมที่โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา คุณประชา มาลีนนท์เจริญเติบโตมาสายธุรกิจตลอด ตระกูลทำโทรทัศน์ช่อง 3 เน้นในเรื่องของการบันเทิง ส่งเสริมในเรื่องกิเลสตลอด คุณประชา มาลีนนท์ยังไม่เข้าใจจิตวิญญาณ ไม่เข้าใจรากเหง้า ไม่เข้าใจประวัติศาสตร์ ท่านเข้าใจในเรื่องธุรกิจอย่างเดียว

หลวงปู่ – ได้สัญญาณมา 7 ชั่วโคตรเลย

สนธิ – เพราะฉะนั้นท่านก็เลยเข้าใจแต่เพียงแค่นั้น อันนั้นก็ตำหนิท่านไม่ได้ เป็นเรื่องที่น่าสงสารตัวท่านมากกว่า เสียดายมากๆ

สำราญ – เสียดายที่ไปนั่งตรงนั้น หรือคิดอย่างนั้น

สนธิ – เสียดายที่ไปนั่งตรงนั้น และเสียดายที่เป็นคนอย่างนั้นไปได้

หลวงปู่ – ฉันสงสัยว่าทำไมตระกูลมาลีนนท์ ถึงเป็นเจ้าของโทรทัศน์ได้ยาวไกลขนาดนี้

สนธิ – อันนั้นผมก็ไม่ทราบหรอกครับ หลวงปู่

สำราญ – เขาต่อกันทีก็ 30 ปีแหละครับ

หลวงปู่ – นั่นสิ ฉันถึงได้บอกว่าสัญญาณ 7 ชั่วโคตรหรือเปล่านี่

สามารถ – สมัยก่อนนี่นะ หลวงปู่ สัมปทานนี่มันหาได้ไม่ยาก ใครก็ตามที่เข้าถึงผู้บริหารในยุคนั้นนี่นะ ก็ได้สัมปทานหมดแหละ

หลวงปู่ – แล้วทำไมมันต่อกันทีเป็นหลายๆปี

สำราญ – บางช่องสัญญายังไม่หมดเลย ต่อล่วงหน้าแล้ว

สามารถ – เขาอ้างว่าการลงทุนสัมปทานลงทุนสูง เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการในเวลาสั้นๆนี่ไม่มีผลตอบแทนพอ ก็ต้องให้ยาวๆ พอถึง 30 หลังถามว่าทำไมต้องให้ต่ออีก ก็บอกเขาบริหารดี มันเลยมีการต่อครับ ทำนองนี้

หลวงปู่ – เป็นอะไรที่งงมาก มันก็เลยได้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ แล้วก็มาเอาเปรียบสังคม

สามารถ – ตอนนี้กำลังจะมีสัมปทานใหม่ขึ้นมาอีกแล้วนะ เขาแปรรูปรัฐวิสาหกิจ กฟผ.นี่นะครับ เขาจะสัมปทานเขื่อนให้กับการไฟฟ้า การไฟฟ้าจะแปรรูปเข้าตลาดหลักทรัพย์ แล้วเขื่อนนี่เขาไม่เอาไปรวมนะ แต่เขาจะสัมปทานให้เช่าเขื่อน ตลกไหม 18 เขื่อน 30 ปี 100 ล้าน มหาศาลเลย ผมว่าน่าไปเช่านะ ขายน้ำอย่างเดียวก็คุ้มแล้ว ไม่ต้องขายไฟหรอก

หลวงปู่ – คนคิดนี่ใช้ปัญญา หรือใช้สมองคิดหรือเปล่า

สามารถ – ไม่ต้องใช้ครับ เท้าธรรมดาก็คิดได้ ส่วนคาสิโนนี่ผมคิดว่าเขาใช้ concept เดียวกับโสเภณี concept เดียวกับหวยเถื่อน ถ้าไม่ทำมันก็มีอยู่แล้ว ถ้าทำมันก็ได้เงินภาษี แต่ผมถามว่าเรามีเจ้าหน้าที่ ผู้รักษากฎหมาย ปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายนี่นะ ถ้าเราทำทุกอย่างให้ถูกกฎหมายแล้วยกเลิกคนพวกนี้ได้ไหม

หลวงปู่ – ฉันมีคำถามอย่างนึงนะ เงินนี่มันสำคัญต่อรัฐบาลชุดนี้มากใช่ไหม

สามารถ – มากครับ

หลวงปู่ – เพราะอะไร

สนธิ – เพราะเขาไม่มีตังค์แล้ว

สามารถ – เพราะว่ารัฐบาลครั้งแรกที่เข้ามา รู้ไหมครับว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร GDP 3% 8% GDP นี่มันอิงอะไร มันอิงปัจจัยตัวเงินเป็นหลัก

หลวงปู่ – ตอนนี้ไม่ 3% แล้วลดลงมาแล้ว ไม่ 8% แล้ว

สามารถ – อิงปัจจัยคือตัวเงินเป็นหลัก อิงปัจจัยคือการลงทุนเป็นหลัก เพราะฉะนั้นอะไรก็ได้ที่ทำให้นักลงทุนวิ่งมาลงทุนเขาทำหมดแหละ แม้แต่กระทั่งบ่อนนี่ไง

หลวงปู่ – แล้วคนส่วนใหญ่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ตาดำๆจะได้ประโยชน์อะไรกับมัน

สามารถ – เขาไม่ได้ถามตรงนั้น เขาถามว่าคนอนุญาตได้อะไร

หลวงปู่ – ก็เรามีอำนาจยิ่งใหญ่แล้วทำให้ประชาชนพินาศนี่ อำนาจนั้นมันจะชอบธรรมไหม

สามารถ – ไม่ชอบ แล้วอยู่ได้ไม่นาน แต่เขาไม่สนตรงนั้น เขาสนแค่ว่า 3 ปี 5 ปี คุ้มค่าก็โอเค นี่คือคำตอบ

หลวงปู่ – ไม่คิดถึงตระกูลวงศ์ ลูกหลานบ้างว่าจะใช้นามสกุลนี้อีกนานไหม

สามารถ – เขาคิดแล้วเขาจะทำหรือครับ ถ้าเขาคิดเขาไม่ทำนะ

สำราญ – โดยบทสรุปของหลวงปู่คือ ไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง

หลวงปู่ – ยังไงๆก็ไม่ควรอยู่ดี เพราะมันเป็นเหตุแห่งความฉิบหาย อันนี้ไม่ใช่สิ่งที่ฉันพูดเองนะ พระพุทธเจ้าพูดนะ

สามารถ – คนพวกนี้เขาไม่คิดยาวขนาดหลวงปู่หรอกครับ แล้วไม่คิดยาวจนกระทั่งตายแล้วต้องรับกรรม พวกนี้เขาไม่สนใจตรงนั้น ถ้าสนใจว่าหลังจากลงจากอำนาจแล้วเดือดร้อน ตายแล้วตกนรกนี่เขาไม่ทำหรอกครับ หลวงปู่

หลวงปู่ – พวกนี้เกิดไปชาติหน้าต้องเป็นจิ้งหรีดแน่นอน ทำไมรู้ไหม โดนปั่นหัวไง ปั่นให้งงแล้วก็ไปกัดกัน โง่ไง

สนธิ – คนที่ทำชั่วเยอะนี่ ในบางกรณีหลวงปู่บอกเกิดเป็นเปรต บางกรณีก็บอกว่าเกิดเป็นไส้เดือน บางกรณีเกิดเป็นจิ้งหรีด แต่ว่าถ้ามันตายนี่ มันจะมีสัตว์ประเภทรวมเปรต ไส้เดือน จิ้งหรีดเข้าไปด้วยกันไหม เพราะมันทำชั่วหลายอย่างเหลือเกิน

สามารถ – คุณสนธิกำลังบอกว่า คนพวกนี้มันทำชั่วหลายอย่าง จะให้มันเป็นอะไรดี

หลวงปู่ – เป็นสารพัดสัตว์ในเวลาเดียวกัน คือตัวเปรต ขาไส้เดือน และก็หัวเป็นจิ้งหรีด

สามารถ – ถ้าปรากฏในโลกนี้นะ คนเห็นครั้งแรกรวยเลยหลวงปู่ เอาไปแสดงเล่นกล ได้เงินแน่

หลวงปู่ – GDP มาแล้ว เอาเป็นว่าไม่เห็นด้วย และไม่ควรอย่างยิ่ง เลิกมอมเมาประชาชนเสียที ณ วันนี้ช่องทางที่ท่านนำมาหากินอยู่ทุกวันนี้ มันก็ไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรกับสังคมมากนัก มีแต่ละครน้ำเน่า เกมโชว์ที่เลอะเทอะ ไม่ได้ให้อะไรกับสังคมเท่าไหร่ แล้ว ณ วันนี้ยังมาคิดสร้างสิ่งมอมเมาเพิ่มขึ้นอีกนี่ สิ่งเร้าที่เป็นอกุศลนั้นมันรกเต็มไปหมดแล้ว มันเกินพอแล้ว แต่สิ่งที่เป็นกุศลนั้นมันไม่มีแล้ว มันไม่เหลือเลย

สามารถ – คือหลวงปู่กำลังจะบอกว่า สิ่งที่เป็นอกุศลนี่ ถึงแม้รัฐบาลไม่ทำมันก็มีอยู่แล้ว

หลวงปู่ – รัฐบาลต้องทำหน้าที่ปราบปราม ป้องปรามสิ่งเร้าที่เป็นอกุศล ไม่ใช่มีหน้าที่จะมาสนับสนุนสิ่งเร้าที่เป็นอกุศลให้มันโต

สามารถ – โลกมนุษย์นี่ตลกนะ เราเดินไปต่างจังหวัดนะ ที่กันดาร ที่ไม่เคยมีสถานที่พวกนี้มันก็มีแล้วนะ

หลวงปู่ – มันมีนะ วัดแถวนครปฐมนี่มันมีอะไรรู้ไหม มันมีอาบ อบ นวด

สามารถ – มันเป็นเรื่องแปลกประหลาด

หลวงปู่ – ไปเช่าที่วัดทำอาบ อบ นวด ในอำเภอกำแพงแสนฉันนี่แหละ แล้วถึงขนาดมีการแย่งกัน ยิงกัน ลงข่าวคราวในท้องถิ่น วันหลังว่างๆคุณเอาทีมงานไปทำข่าวดูบ้าง ไปถ่ายรูปว่าข้างประตูวัด ใกล้ๆโบสถ์นี่มีบาร์

สำราญ – หนักกว่าที่ กทม.อีก

หลวงปู่ – แล้วที่เป็นที่ของวัดนะ ดูสิ มันเกิดอะไรขึ้นกับสังคมเราเวลานี้ ฉันถึงบอกว่ารัฐบาลเขาเลือกมาเพื่อป้องปราม ปราบปรามสิ่งเร้าที่เป็นอกุศลและทุจริต ไม่ใช่มาสนับสนุนสิ่งที่ทุจริตให้กลายเป็นสุจริต แล้ววันนี้สังคมปัจจุบันมันก็ได้รับผลจากสิ่งเร้าที่เป็นอกุศลแย่ไปแล้ว ป่วยตามๆกันแล้ว เราก็มีหน้าที่ที่จะต้องสนับสนุนสิ่งเร้าที่เป็นกุศลให้มันโตขึ้น และป้องปรามสิ่งอกุศลให้มันลดลง ไม่ใช่อยู่ดีๆจะมาดันแต่อกุศลอย่างเดียว ฉันถึงบอกว่าคิดเป็นแค่นี้หรือไง

สามารถ – มันทำง่ายครับ หลวงปู่ อกุศลนี่มันทำง่าย ผลตอบแทนสูง

หลวงปู่ – ไม่เห็นอยู่หรือไงว่าสังคมมันป่วยอยู่ทุกวันนี้ เด็กอายุ 12 ขวบคลอดลูกน่ะ นี่เรื่องจริงมีข่าวที่ราชบุรี มันคลอดได้ยังไงก็ไม่รู้อายุ 12 ขวบท้อง

สำราญ – เราก็เลยเป็นสังคมที่ตามแก้ปัญหานะ

หลวงปู่ – ก็เขาไม่ได้ทำไง เขานั่งกินอยู่บนหอคอย เขาไม่ได้มอง

สำราญ – พอรัฐมนตรีบางท่านมาดูแลกระทรวงพัฒนาสังคม ก็ต้องคิดครีเอทนะ คิดศูนย์รับฝากเลี้ยงเด็ก อันนี้เข้าใจเจตนาดีแน่นอนนะ หลวงปู่คิดยังไงครับ

หลวงปู่ – แสดงว่ายอมรับสภาพแล้วไง ไม่มีปัญญาเยียวยาแล้วไง หมดกำลังแก้แล้ว เลี้ยงมันเสียเลย เหมือนกับว่าไปสนับสนุนว่าต่อไปนี้นะ ลูกหลานทั้งหลายที่อยู่ในโรงเรียน จะปั๊มลูกทำลูกก็รีบทำเสีย เพราะว่ามีโรงเลี้ยงแล้วอะไรอย่างนี้ เหมือนกับอย่างนั้น

สามารถ – หรือมันติดยา มันเลิกไม่ได้ก็ไม่ต้องปราบ ซื้อให้มันเสียเลยหมดเรื่อง

หลวงปู่ – หรือว่าถ้ามันอยากแข่งรถก็ให้มันแข่งเสียเลย ปิดถนน นี่แสดงว่าคิดได้แค่นี้ใช่ไหม

สำราญ – คือเขาตามแก้ปัญหา

หลวงปู่ – ไม่ใช่แก้เลย สร้างปัญหาชนิดใหม่ขึ้นมาต่างหาก กลายเป็นว่าผู้ใหญ่มาสนับสนุนให้อกุศลมันโตขึ้น ให้เด็กเข้าใจว่าอกุศลมันเป็นความถูกต้อง

สำราญ – คล้ายๆต่อไปนี่ ไม่พร้อมก็มีศูนย์รับเลี้ยง

หลวงปู่ – ใช่ หรือไม่ต้องห่วงแล้ว เราจะส้องเสพกันยังไงก็ได้แล้ว เพราะมีศูนย์รับเลี้ยงอย่างนี้ ไม่เป็นไร ต่อไปนี้แม่ไม่ต้องห่วงแล้ว เพราะลูกขี่มอเตอร์ไซด์ออกไปมีถนนให่ขับสบาย แข่งกันเพลินอะไรอย่างนี้

สำราญ – จากสระแก้วที่บอกว่าตอนนี้มีกรณีเอไลน่า สถานอาบ อบ นวดนี่แหละ บังเอิญมันไปอยู่ตรงข้ามโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา

หลวงปู่ – โรงเรียนฉันว่ายังธรรมดา แต่ว่าอยู่ใกล้วัดนี่

สำราญ – ที่นครปฐมเดี๋ยวค่อยว่ากัน แต่ว่ากันที่โรงเรียนก่อนนะครับ ก็คุณชูวิทย์ก็ออกมาโวยวาย บอกอะไรนี่ไม่ถึง 150 เมตรผิด ทางผู้สร้างผู้ซื้อเขาก็บอกว่า ตรงนี้เป็นโซนนิ่ง แล้วต่อมาก็แฉกันซัดกันระหว่างคุณชูวิทย์กับเจ้าของ ก็เสี่ยนี่ก็บอกว่าคุณชูวิทย์ก็อยากได้ตรงนี้แต่เดิมนี่ แต่ว่าไม่สมประโยชน์เลยออกมาแฉโพย ประเด็นปัญหาก็คือว่าตอนนี้ก็มีการสาบานกันนะ และตำรวจที่เซ็นใบอนุญาตก็เข้ามาร่วมวงศ์สาบานด้วย สาบานกันทั้งวง

หลวงปู่ – ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย จะเรียกว่ากินปูนร้อนท้อง

สนธิ – ขนาดผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธวัชชัย จุลสุคนธ์

สำราญ – เพื่อนของท่านปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์

หลวงปู่ – สาบานต่อหน้าใคร

สนธิ – อนุสาวรีย์ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์

หลวงปู่ – นึกว่าไปสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์

สำราญ – คุณชูวิทย์ก็แช่งนะ ถ้าใครพูดผิดขอให้นะ ว่ากันนัวเนียนุงนัง

หลวงปู่ – ที่จริงคุณชูวิทย์มาเปิดประเด็นเรื่องนี้ไม่ถูก ความคิดของฉันนะ เพราะประวัติของคุณชูวิทย์ผ่านเรื่องพวกนี้มา

สามารถ – เขากำลังบอกว่าเขาเป็นโจรกลับใจ ตอนนี้ไม่ทำแล้ว

สำราญ – เขาบอกเขาล้างมือแล้ว

สามารถ – เรื่องนี้ผมจะบอกข้อตลกให้อันนึงนะ คนที่อนุญาตบอกว่ามันอยู่ใกล้จริง แต่กฎหมายไม่ได้บอกว่าใกล้เท่าไหร่ ไกลเท่าไหร่ คือศรีธนญชัยชัดเลย บอกว่านี่กฎหมายไม่ได้เขียนว่า 200 เมตรหรือ 1 เมตรน่ะ

หลวงปู่ – ถึงบอกว่าไงว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้ ปัญญามันได้แค่นี้หรือไง

สามารถ – แต่เขาลืมไป มันมี มติ ครม. ครับ บอกว่าคำว่าใกล้นี่อยู่ประมาณ 500 เมตร เขาเขียนไว้ มันมีมติ ครม.รองรับอยู่ คนอนุญาตไม่รู้ว่ามันมีมติตรงนี้รองรับอยู่

หลวงปู่ – ก็ออกมาพูดตรงๆว่าผมผิดไปแล้วก็จบ

สำราญ – ทีนี้ตำรวจเขาก็ตั้งกรรมการขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง ก็มาดูชุดของท่านธวัชชัย จุลสุคนธ์นะครับ

หลวงปู่ – งานนี้เป็นงานเลื่อยขาเก้าอี้กันหรือเปล่านี่

สำราญ – คงเป็นอีกประเด็นหนึ่งตรงนั้น แต่ว่าประเด็นหลักคือนี่แหละ มีการเถียงกันระหว่างผู้ประกอบการ กับคุณชูวิทย์ และรัฐบาลก็กำลังส่งคุณสุรนันทร์ เวชชาชีวะไปดู

หลวงปู่ – เรื่องที่มันไม่เป็นเรื่องก็เอาให้มันเป็นเรื่อง แต่เรื่องที่มันเป็นเรื่องอยู่แล้วก็ไม่ทำให้มันเป็นเรื่อง จริงๆฉันคิดอย่างนี้ ว่าเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องก็เอามาให้มันเป็นเรื่อง เดี๋ยวถามว่าอันนี้มาตั้งมาตั้งกี่ปีแล้ว

สำราญ – กำลังสร้างครับ เพิ่งจะเสร็จนี่แหละครับ ทาสีกันหมาดๆนี่เองครับ

สามารถ – มันตลกอย่างนี้ครับ หลวงปู่ คือปกติอนุญาตให้ก่อสร้าง อนุญาตให้มีนี่ มันต้องอนุญาตก่อนการก่อสร้างใช่ไหม อันนี้มันสร้างเสร็จแล้วไปขออนุญาต

สำราญ – ข้อมูลคือมี 160 ห้อง เป็นสถานอาบ อบ นวดแห่งที่ 134 แถวนี้ของกทม.

หลวงปู่ – แล้วส่วนใหญ่เป็นของใคร กมลวิศิษฏ์หรือเปล่า .

สำราญ – คุณชูวิทย์เขาบอกขายหมดแล้ว

หลวงปู่ – คุณชูวิทย์พูดเรื่องนี้ไม่ถูก ไม่มีใครเชื่อคุณ เพราะว่าคุณทำเรื่องพวกนี้ คุณเป็นต้นตำรับเรื่องพวกนี้ ถ้าคนอื่นพูดเขาอาจจะเชื่อ

สำราญ – แต่อย่างที่หลวงปู่ว่าก็คือ เรากำลังมาแลกเปลี่ยนเรื่องเอไลน่านี่นะครับ มันก็เป็นเรื่องปลายเหตุนะครับ

หลวงปู่ – ต้นเหตุก็คือมาจากสำนึกของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง

สำราญ – คือเด็กข้ามถนนมานะ ป้ายรถเมล์อยู่ตรงนี้พอดีเลย ห่างไม่ถึง 150 เมตร

สามารถ – ที่ตลกก็คือสร้างเสร็จแล้วถึงขออนุญาต แสดงว่าเขามั่นใจมากว่าจะต้องได้ใบอนุญาต ถ้าเขาไม่มั่นใจเขาไม่สร้าง

สนธิ – ผมไม่ค่อยอยากจะพูด เพราะว่าสังคมไทยมันชอบลักษณะแบบนี้ แต่ว่าเรื่องที่เป็นองค์รรวมเรื่องใหญ่ที่สำคัญ เรื่องจิตวิญญาณนี่ไม่สนใจ แต่พอมาเรื่องอาบ อบ นวด สร้างถูกหรือไม่ถูกนี่นะ นายกฯก็ลงมาเล่นด้วยเพราะว่ามันได้คะแนนนี่ครับ เรื่องอะไรที่ทำแล้วไม่ได้คะแนนคงไม่จับ อย่างคุณหญิงจารุวรรณนี่ตั้งนมตั้งนานนี่ปฏิเสธอย่างเดียวก็คือว่า เป็นเรื่องของวุฒิ ทั้งๆที่ตัวเองก็โทรศัพท์ไปหาคุณหญิงจารุวรรณ แล้วปฏิเสธว่าเป็นเรื่องของวุฒิ คือผมคิดว่าการที่เรา ต้องย้อนกลับไปถึงพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัว ยิ่งฟังแล้วยิ่งเป็นธรรมชั้นสูงเลย พระองค์ท่านพูดชัดเลยว่า คนเรานี่ใครมีหน้าที่อะไรแล้วทำหน้าที่ตัวให้ดีที่สุด ปัญหามันไม่เกิด ตำรวจนี่ถ้ามันทำหน้าที่มันให้ดีที่สุดก็ไม่เกิดตรงนี้ คือมันย้อนกลับไปที่เหตุตัวเดียวเท่านั้นเอง เพราะเหตุเพราะว่าพวกเรานี่มีสมมุติอยู่ มีบทบาทหน้าที่ แต่เราก็ไม่ยอมใช้สมมุติอันนั้นให้ถูกต้อง ไม่ยอมทำตามนั้น มันถึงมีปัญหา มันถึงไม่จบไม่สิ้นไง แล้วนายกฯก็ลงไปแก้ที่ผลเพราะว่าได้คะแนนเสียง ไม่ยอมย้อนกลับไปแก้ที่เหตุ

หลวงปู่ – อาจจะมองไม่เห็นเหตุก็ได้ อะไรมันบังตาอยู่

สนธิ – ถ้าเรามีนายกฯมองไม่เห็นเหตุนี่ก็ถือว่าเป็นเวรกรรมของคนในชาติ

หลวงปู่ – ก็ทุกเรื่องที่มองไม่เห็นเหตุ แม้กระทั่งปัญหาภาคใต้ก็มองไม่เห็นเหตุ ถ้าเห็นเหตุจริงๆมันคงไม่บานปลายถึงวันนี้ เวลานี้ประกาศใช้พระราชกำหนดมากี่วันแล้ว

สนธิ – เดือนกว่าแล้วครับ

หลวงปู่ – แล้วมันก็หยุดไหมล่ะ แล้วแถมชาวบ้านก็ยังเดินขบวนออกไปนอกประเทศ อ้างว่าไปลี้ภัยอีก แล้วก็ไปแจ้งกับสหประชาชาติ ไปแจ้งกับต่างชาติว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐบาล ใช้พระราชกำหนดมากดขี่

สนธิ – นายกฯไม่พูดเรื่องนี้เลย เมื่อวานแถลงข่าวไม่ยอมพูดเลย

สำราญ – บอกว่าให้กระทรวงต่างประเทศ บอกว่ารู้ทุกอย่างแต่เขาห้ามพูด

สนธิ – ก็เพราะว่าท่านรู้หมดทุกอย่างมันถึงเป็นแบบนี้ไง คือทุกอย่างมันสวนทางกันหมด ถ้ารู้จริงต้องไม่เป็นอย่างนี้สิ ก็แสดงว่าที่รู้ที่รู้ปลอมหมด

หลวงปู่ – ไม่รู้ที่เหตุรู้ที่ผลมั้ง

สามารถ – รู้ว่ามันเกิด รู้ว่ามันมี แต่ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงมี

สำราญ – ผมว่าข้อสรุปก็คือ ถ้ารู้ที่ผลใครๆก็รู้ได้ แต่รู้ที่เหตุที่เกิด ปัญหาที่มันเป็นอย่างนี้ ต้องใช้ปัญญา ถ้ารู้ผลนี่ไม่ต้องใช้ปัญญา

สำราญ – เขาเรียกว่ารู้แบบ Real Time ปัจจุบันตอนนี้ แล้วก็ตัดสินจากสิ่งที่เห็น เชื่อในสิ่งที่เห็น

สามารถ – คำว่ารู้คือรู้อย่างนี้

สำราญ – เอาล่ะครับก็ 2 นาทีสุดท้าย ก็นิมนต์หลวงปู่อีกซักครั้งนะครับ ชูธงเรื่องสร้างสิ่งเร้าที่เป็นกุศลให้เยอะๆเถอะ

หลวงปู่ – ใช่ ฉันอยากวิงวอนขอร้องเพื่อนพ้องชาวพุทธที่รักทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นคนใหญ่คนโตของบ้านเมือง อยู่ในแห่งหนตำบลใดก็ตามที ณ วันนี้สังคมเราพิการเยอะแล้ว เราเป็นโรคร้ายเต็มไปหมดในสังคมแล้ว เพราะว่าเหตุผลจากการที่เราส้องเสพสิ่งเร้าที่เป็นอกุศล มันมีเกินพอแล้ว ณ วันนี้ทำยังไงจะให้อกุศลเหล่านั้น จะเป็นสิ่งเร้านี่มันลดลงไปบ้าง แล้วทำสิ่งเร้าที่เป็นกุศลให้มันเจริญเติบโต เหมือนอย่างที่คุณสนธิกำลังกระทำอยู่ แต่ก็ทำด้วยลำแข้งตัวเองก็ยากพอเหมือนกัน ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้าน ญาติโยม พุทธบริษัท เพราะฉะนั้นก็อยากจะวิงวอนขอร้องว่า พี่น้องชาวพุทธที่รักทั้งหลาย เรามาช่วยกันสร้างสิ่งเร้าที่เป็นกุศลให้มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องชาวพุทธอย่างเดียว แม้ชาวคริสต์ อิสลามก็จำเป็น เพราะว่าถ้าศาสนิกของตนโดนสิ่งเร้าที่เป็นอกุศลครอบ สุดท้ายเราจะไปสอนใคร บาทหลวงทั้งหลาย นักบวชในศาสนาอิสลามทั้งหลาย โต๊ะอิหม่ามทั้งหลายจะไปเทศน์สอนใคร แม้ที่สุดพระนี่ก็จะต้องเลิกไปหยุดไปไม่รู้จะไปสอนใคร เพราะฉะนั้นขอให้ทุกท่านจงส้องเสพทุกอย่างด้วยความสติ ใช้ปัญญาให้มากๆ และก็วิเคราะห์ให้ชัดว่าสิ่งที่ส้องเสพนั้นเป็นกุศลหรืออกุศล ท้ายที่สุดก็ขอให้เจริญธรรม.
กำลังโหลดความคิดเห็น