xs
xsm
sm
md
lg

ลอยแพลูกทัวร์อันดามัน ปริ๊นเซส!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายการคนในข่าว (1 ส.ค.48) ถกกันเรื่องประเด็นร้อน หลังเรือสำราญชื่อดัง “อันดามัน ปริ๊นเซส” ประกาศปิดกิจการชั่วคราว เพราะกำลังประสบวิกฤติขาดทุนเรื้อรังจากกรณีสึนามิ ทิ้งให้ลูกค้าที่ซื้อทัวร์จำนวนมากจ่ายเงินฟรี ทำให้ต้องมีออกมาแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทให้คืนเงิน นอกจากนี้พนักงานร่วมร้อยตกงานโดยไม่ได้รับเงินชดเชยจำนวนมากร่วมร้องเรียน

รายการคนในข่าว ออกอากาศทาง News 1 เวลา 21.05-22.00 ดำเนินรายการโดยจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ

จินดารัตน์ – สวัสดีค่ะคุณผู้ชมค่ะรายการคนในข่าว ค่ะ วันนี้ประเด็นที่เราจะนำมาพูดคุยกันในคำคืนวันนี้ ก็เป็นเรื่องของเรือหรู 7 ชั้น ที่แล่นอยู่ในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน มายาวนานกว่า 16 ปี นะค่ะ วันนี้ต้องปิดตัวเองลง เนื่องจากว่าเรื่องมันแดงขึ้น หลังจากมีลูกค้าของบริษัทดังกล่าว เรืออันดามันปริ๊นเซสที่ว่านี้ ซื้อทัวร์ไป แล้วได้รับการแจ้งจากบริษัททัวร์บอกว่าให้เลื่อนการเดินทางไปก่อน สุดท้ายก็บอกว่าจะยกเลิกเที่ยวเรือที่จะไปเที่ยวกัน ลูกค้าก็เลยถามทวงเงินที่จ่ายไปแล้ว ปรากฎว่าไปตามเอาที่บริษัท ก็พบว่าบริษัทปิดตัวไปเรียบร้อยแล้ว ปัญหานี้เกิดขึ้นโดยลูกค้าเองยังไมได้เงินคืน หลายร้อยชีวิตนะค่ะรวมถึงคนงาน พนักงานของบริษัท สยามครุยซ์ จำกัด ที่เป็นเจ้าของเรืออันดามันปริ๊นเซสนี้ 100 กว่าคนวันนี้ที่กำลังมีปัญหาอยู่ว่า ไม่ได้รับเงินเดือนมาสองเดือนครึ่งแล้ว และฐานะทางการเงินของเรือนั้น ก็มีมานานมากว่า 1 ปีแล้ว ปัญหานี้เกิดขึ้น และบรรดาผู้เสียหายจะไปเรียกร้อง เอาเงินคืนจากใคร เรือหรูลำนี้มรโอกาสที่จะกลับมา แล่นอยู่ในทะเลไทย อีกหรือไม่ค่ะ
วันนี้เราจะมาคุยกัน 2 ท่านแรกเป็นผู้เสียหาย กับเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ซื้อทัวร์ไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปเที่ยวเลย ท่านแรกคุณวีระพันธ์ นาคทอง จ่ายเงินไป 170,000 บาท จองไปเที่ยวทั้งครอบครัวเลย แต่ว่าไม่ได้ไปนะค่ะ ท่านต่อมา คุณวีระพันธ์ วิเลิศ ท่านผู้นี้จ่ายไป 2 หัวนะค่ะ ก็คือ 30,000 กว่าบาท นะค่ะ แต่ว่าก็ไม่ได้ไปเหมือนกัน ส่วนอีก 2 ท่านเป็น พนักงานของเรืออันดามันปริ๊นเซส นะค่ะ ท่านแรกคุณปิยา ปิ่นเจริญ พนักงานขายของบริษัทสยามครุยซ์ ท่านต่อมานาวาอากาศตรีหญิง อารีรัตน์ เอกพจน์ นะค่ะ เป็นพยาบาลประจำเรือ และอีกท่านหนึ่งท่านสุดท้ายวันนี้ คงจะให้คำตอบหรือว่าแนวทางจะช่วยเหลือผู้เสียหายได้ ว่าจะทำกันอย่างไรต่อไปดี คุณมัสลิน สุขพัฒนานรากุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศค่ะ สวัสดีค่ะทุกท่าน ก่อนอื่นคงจะต้องถามที่มาที่ไป เรื่องมันแดงขึ้นเพราะว่า 2 ท่านนี้ ล่ะค่ะ ที่เป็นหนึ่งในผู้เสียหายไปร้องเรียนกับกองปราบ วันนี้นะค่ะ จนเป็นข่าวขึ้น จนทุกคนก็รู้ความจริงว่าอันดามันปริ๊นเซส นั้นไม่ได้วิ่งแล้ว ไม่ได้ เดินเรือแล้ว แล้วบริษัทแผนสยามครุยซ์ที่เป็นเจ้าของ ก็ปิดตัวไปเรียบร้อยแล้ว คงเรียนถามคุณวีระพันธ์ และคุณวีระพันธ์ ว่าใครคนใดคนหนึ่งไปร้องก่อน ร้องกองปราบไหม หรือว่าทำอะไรอย่างไรก่อน ทราบเรื่องได้อย่างไร ค่ะ

วีระพันธ์ – อย่างผมเอง ซื้อทัวร์ไว้ประมาณช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ใช่ไหมครับ วันที่ 5-8 เป็นเส้นทางอันดามันใต้ นะครับ แต่ล่วงหน้าก็ประมาณ 2-3 วันก่อนที่จะเดินทาง นะครับ ประมาณ 2 ทุ่มดึกแล้ว ทางพนักงานเซลล์ โทรมาแจ้งบอกว่า เรือขัดข้อง ออกไม่ได้
จินดารัตน์ – ใช่คุณปิยาหรือเปล่าโทรแจ้ง

วีระพันธ์ – เซลล์ผู้ชาย รู้สึกว่าจะชื่อคุณบอล อ๋อ คุณแบงก์นะครับ โทรมาบอก แล้วเราแล้วยังไงล่ะ เขาก็บอกว่าตรงนี้ก็ทางบริษัทจะคืนเงินให้

จินดารัตน์ – เขาบอกว่าจะคืนเงินให้แต่ไม่ได้บอกว่าจะเลื่อนเที่ยว

วีระพันธ์ – เพราะจริงๆแล้วครอบครัวค่อนข้างใหญ่ 18 คน เป็นคล้ายก่อนเปิดเทอม ก็เลยอยาก จะพาเด็กๆกับครอบครัวไปพักผ่อน นะครับ โอเค ถ้าเขาคืนเงิน เราก็จัดทัวร์ไปเอง

จินดารัตน์ – จ่ายไปทั้งหมด 170,000 เลยเหรอค่ะ

วีระพันธ์ – ครับ

จินดารัตน์ – ไปซื้อทัวร์นี้มาจากไหนค่ะ

วีระพันธ์ – คือในอดีตนี้ไปซื้อโดยตรง คือเคยลงไปเที่ยวเรือแล้ว ไปมาแล้ว รู้สึกชอบเรือประทับใจ แล้วพอดีเส้นทางนี้จะไปอันดามันใต้ จะไปตะรุเตา ก็อยากให้เด็กๆเขาไปดูว่าเป็นอย่างไร ประจวบกับมันเป็นฝั่งอันดามัน การสนองรัฐบาลส่วนหนึ่ง นะครับ ก็เลยไป

จินดารัตน์ – โดยตรงกับบริษัทเลย

วีระพันธ์ – โดยตรง แล้วก็เข้าไปเคลียร์เงินเรียบร้อย

จินดารัตน์ – จ่ายไป 170,000 บาท

วีระพันธ์ – 176,000 บาท

จินดารัตน์ – 176,000 บาทก็คือจ่ายทั้งหมดเลย ซึ่งอันนี้จ่ายทั้งหมดเลย ซึ่งไม่ได้มัดจำ

วีระพันธ์ – ทั้งหมดเลย คือจะแบ่งเป็นสองส่วน คือค่าบริการทางเรือ ประมาณ 100,000 กว่า นะครับ แล้วอีกส่วนหนึ่งคือค่าเครื่อง นะครับ เราก็คิดว่าไหนๆไปทางเรือแล้ว ก็ให้เรือจัดการทั้งหมดนะครับ และก็เป็นค่าเครื่องด้วย ค่าเรือด้วยทั้งหมด

จินดารัตน์ – อันนี้คือตั๋วที่เขาออกให้

วีระพันธ์ – ใช่ครับ

จินดารัตน์ – ลักษณะแบบนี้เลยนะค่ะ

วีระพันธ์ – ใช่ครับ

จินดารัตน์ – นี่นะค่ะ ให้คุณผู้ชมดู

วีระพันธ์ – คือมาพร้อมกับเบอร์ห้อง เรียบร้อยครับ

จินดารัตน์ – อันนี้พร้อมกับเบอร์ห้องด้วย

วีระพันธ์ – แล้วก็ทริปเดินทางทั้งหมด

จินดารัตน์ – อันนี้เป็นรายละเอียดของทริปเดินทางทั้งหมดอยู่ในนี้ คือชัดเจนแน่ๆ ได้ไปแน่ๆ ล่ะ ไม่เคยมีข่าวระแคะระคายมา

วีระพันธ์ – มั่นใจครับ

จินดารัตน์ – ปรากฎว่าก่อนนั้นจริงแค่สองสามวัน

วีระพันธ์ – สามวัน

จินดารัตน์ – โทรมาแจ้ง

วีระพันธ์ – โทรมาแจ้งตอน 2 ทุ่ม

จินดารัตน์ – ตอนนั้นรู้ไหมค่ะ ว่าเขามีปัญหาอะไร เขาบอกไหม

วีระพันธ์ -ไม่ทราบครับ เขาบอกว่าเรือเสีย คือก่อนที่เราจะไปจ่ายเงิน เราถามแล้วว่าเรือออกแน่ไหม เพราะเรารู้ว่าเรือใหญ่ พนักงานเป็นอย่างไร เพราะตอนนั้นพอดีได้โทรไป ตอนนั้นคุณตุ๊กเป็นคนดูแลอยู่พอดีนะครับ คุณตุ๊กก็บอกว่าเป็นนโยบายของผู้ใหญ่ค่ะ ว่าอย่างไรก็ต้องเอาลูกค้าไว้ก่อน นะครับ 80 คนก็ออก เราก็สบายใจ นะครับ เพราะหลานๆอีกหลายคน ผู้ใหญ่ คุณตาคุณยายก็ไปด้วย นะครับ ไม่ใช่เฉพาะพวกเรา ก็เลยไปนะครับ ตรงนี้ก็คือจุดเริ่มต้น

จินดารัตน์ – คือสุดท้ายก็คือเรายอม เอาเงินคืนเต็มจำนวนถูกไหมค่ะ

วีระพันธ์ – ใช่ครับ

จินดารัตน์ – แล้วเขานัดไหมค่ะ ว่าจะให้ไปเอาเงินคืนเมื่อไหร่

วีระพันธ์ – ตอนนั้นที่ไปพฤษภา เขาบอกมิถุนายนจะคืน นะครับ เราก็รอ เพราะเราเห็นบริษัทใหญ่ แต่ว่าระหว่างนั้น เพราะไหนๆก็นัด 18 คนที่ง่ายๆ ไปวิ่งหาซื้อตั๋วเครื่องบินเองนะครับ หาทัวร์เอง เพื่อที่จะลงไปภูเก็ต นะครับ

จินดารัตน์ – ตกลงครอบครัว 18 คนได้ไปภูเก็ต

วีระพันธ์ – ใช่ครับ

จินดารัตน์ – แต่เงินก็ยังไม่ได้คืน

วีระพันธ์ – เงินก็ยังไมได้คืน

จินดารัตน์ – ก็รอมิถุนายน เขารับปากว่ามิถุนายน เขาจะจ่ายเป็นอะไรอย่างไร เขาบอกไหมค่ะ

วีระพันธ์ – พอกลับมาก็โทรไปถาม ทางบริษัทก็บอกขอเลขบัญชี เขาบอกว่าโอนเข้าแบงก์ ก็โอเค อุ่นใจ

จินดารัตน์ – ซึ่งไม่ได้สงสัยอะไร

วีระพันธ์ – แต่พอเริ่ม พอถึงมิถุนายนก็โทรถาม ก็บอกว่ามีปัญหานิดหน่อย ขอเลื่อนเป็น กรกฎา

จินดารัตน์ – ตอนนั้นเอ๊ะใจหรือยัง

วีระพันธ์ – เริ่ม แบบอย่างไงเนี่ย เพราะว่าที่เราไป เงินเยอะขนาดนี้ เราก็ใช้บัตรรูดเหมือนกัน เพราะว่าเงินที่เราใช้ไปเที่ยวเรืออันดามัน เราต้องใช้เป็นเงินสด เพื่อที่จะไปเที่ยวภูเก็ต เที่ยวกันเองแล้ว เพราะฉะนั้นมันจะเริ่มมีค่าใช้จ่ายทางบัตรแล้ว นะครับ แล้วอย่างนี้ใครจะรับผิดชอบ เพราะมันไม่ใช้ความผิเรา เราไม่ใช้คนยกเลิก ใช่ไหมครับ เขาบอกว่ากำลังคุยกันอยู่ แต่พอถึงมิถุนายน ใกล้สิ้นเดือน ก็ถามอีกทีหนึ่ง ปรากฎว่าโทรไปถาม คุณตุ๊กก็แจ้งว่ามีมติทางที่ประชุม บอกว่าไม่คืนเงินแล้ว ให้เปลี่ยนทริป เราบอกมติใคร มันเกี่ยวอะไรกับเรา คือถ้าเปลี่ยนทริปอีก แล้วเมื่อไหร่ เราจะได้เงินคืน แล้วทริปถ้าคุณเลื่อนแล้ว เราไม่ใช่ว่าจะไปได้ทุกคน ใช่ไหมครับ

จินดารัตน์ – คือนัดคงไม่ได้ 18 คนอย่างที่เคยนัดได้

วีระพันธ์ – นั้นน่ะซิครับ

จินดารัตน์ – ตกลงคุณวีระพันธ์ไม่ยอม

วีระพันธ์ – ขอเงินคืน

จินดารัตน์ – แล้วเขาว่าอย่างไร

วีระพันธ์ – ก็มีจดหมายว่าจะคืนเงินภายในเดือนกรกฎาคม ระหว่างนั้นก็เริ่มไม่ดีแล้ว ก็ทำจดหมายทวงไปที่อันดามัน 1 ฉบับ

จินดารัตน์ – คุณวีระพันธ์ โทรศัพท์สอบถามสมาคมหรือสอบถาม ททท. อะไรบ้างไหมค่ะ

วีระพันธ์ – คือตอนนั้นเราก็ดิวไปที่อันดามันที่เดียว เพราะเราก็ไม่ทราบว่าบริษัทใหญ่ขนาดนี้ จากนั้นก็เริ่มเอ๊ะใจแล้วว่ามันเงียบเกินไป นะครับ ก็ทำจดหมายเข้าไป พยายามติดต่อเข้าไปหาคุณปราณี ขอโทษที่ต้องเอ่ยชื่อ เพราะเป็นเจ้าของทัวร์ ก็ไม่ได้คุย ได้คุยแต่เลขา ซึ่งเลขาเอง ก็พยายามทำหน้าที่ ให้เปลี่ยน ทริปหรืออะไรก็แล้วแต่ นะครับ แล้วเราก็บอกว่าเราอยากไป คือเราเป็นลูกเรืออันดามัน เราก็รักอันดามัน แต่ว่าถ้าเราเอาเงินเราไปจมเป็นเดือนๆอย่างนี้ เราไม่เอา อย่างไงก็คืนมาก่อน ถ้าเราจะไปก็ค่อยเอาทัวร์ใหม่

จินดารัตน์ – ตั้งแต่พฤษภามามิถุนา กรกฎา 3 เดือนเต็มๆ

วีรพันธ์ – สุดท้าย กรกฎาก็หายไปแล้ว ทั้งเว็บไซด์ทั้งโทรศัพท์ก็ไม่มีคนรับ

จินดารัตน์ -อันนี้ก็เลยตัดสินใจ
วีระพันธ์ – ครับ

จินดารัตน์ – ก็ไปร้องกองปราบ

วีระพันธ์ – ไปร้องที่ สคบ.ก่อน ขอพูดด้วยว่าเอาเข้าไปที่ สคบ.แล้ว นะครับ ทั้งโทรไปและส่งจดหมายไป จดหมายนี้ให้แมสเซ็นเจอร์เอาไปให้ ก็ไม่มีอะไรกลับมา

จินดารัตน์ – เงียบ

วีระพันธ์ – นะครับ ก็ไม่มีอะไรกลับมา แล้วก็มีส่งไปที่สำนักทะเบียน ของ ททท. เขาจะทะเบียนของมัคคุเทศก์ ก็ส่งเข้าไปด้วย นะครับ ก็ยังเงียบอยู่ แต่คิดว่าหลังจากพรุ่งนี้ก็คงเริ่มดังแล้ว คงเริ่มมีเสียงกลับมาจากทั้ง 2 หน่วยงาน ครับคงต้องรอนิดหนึ่ง

จินดารัตน์ – หลังจากที่สื่อรู้แล้ว ไปกองปราบ ไปเจอคุณประวิทย์โดยบังเอิญหรือเปล่า

วีรพันธ์ – คือจริงๆความตั้งใจครั้งแรกเนี่ยจะไปแจ้งความที่ทองหล่อ นะครับ บังเอิญโชคดีมากนะครับ ว่าทัวร์ที่ผมไปซื้อที่อันดามัน ที่ภูเก็ตทำธุรกิจกับอันดามันเหมือนกัน เขาบอกว่าปิดแล้วแน่นอนครับ ขนออกหมดแล้ว

จินดารัตน์ – อุตสาห์โทรมาบอกเรา

วีระพันธ์ – เพราะว่าเขาก็โดนไปเยอะเหมือนกัน

จินดารัตน์ – คือคนไปซื้อทัวร์กับเขา

วีระพันธ์ – หมายถึงเรืออันดามัน ใช้บริการรถตู้เขาอะไรอย่างเนี่ย แล้วก็ติดเงินทางโน้นเหมือนกัน ก็มียอดตรงนั้นอยู่ ตอนนั้นทำเรื่องเตรียมจะไป สน.แล้ว

จินดารัตน์ – ไปรู้จักคุณประวิทย์ได้อย่างไรค่ะ

วีระพันธ์ – เออ ไม่รู้จักก่อน คุณประวิทย์โทรเข้ามา แนะนำว่าเป็นใครอย่างไร ก็เลยบอกอย่างนั้นเจอกัน ที่กองปราบ ตอนนี้ก็เลยไม่ไปแล้ว สน. ทองหล่อ นะครับ

จินดารัตน์ – ก็เลยไปเจอกันที่กองปราบ

วีระพันธ์ – ใช่ครับ

จินดารัตน์ – คุณประวิทย์ไปรู้จักคุณวีระพันธ์ได้อย่างไร ได้เบอร์มาจากไหน

ประวิทย์ – เดี๋ยวขอเล่าก่อนนะ ก็คือของผมไปเที่ยวงาน อะเมซิ่งไทยแลนด์แกรนด์เซลล์

จินดารัตน์ – ซึ่ง ททท. เป็นคนจัดถูกไหมค่ะ จัดขึ้นเมื่อไหร่ค่ะ

ประวิทย์ – 2-5 มิถุนายน 2548 นะครับ ผมก็ไปที่บูธก็เจอ พนักงานขายคุณตุ๊ก

จินดารัตน์ – คุณปิยา

ประวิทย์ – ครับ เราก็ดูโปรแกรมแล้วเราสนใจ นะครับ อีกอย่างหนึ่งก็อยากจะท่องเที่ยวในประเทศด้วย นะครับ ผมก็จองทัวร์อ่างทองคลาสสิค ที่จะไปเกาะสมุย และหมู่เกาะอ่างทอง ซึ่งผมก็ได้ถามทางพนักงานขายของบริษัทว่า กรุ๊ปนี้ออกแน่นอนหรือเปล่า นะครับ เพราะกรุ๊ปนี้จะต้องซื้อตั๋วเครื่องบินไปเอง ก็พนักงานขายก็ยืนยันว่าออกได้แน่นอน นะครับ ผมก็ชำระเงินทั้งหมด ชำระเต็ม

จินดารัตน์ -เท่าไหร่ค่ะ

ประวิทย์ – 32,000 บาท

จินดารัตน์ – 2 คน

ประวิทย์ – 2 คนครับ เสร็จแล้วในงานมันจะมีพวกโรงแรมพวกอะไร ผมก็ไปจองโรงแรมต่อ เพราะว่าไหนๆก็ไปแล้ว ก็อาจจะพักสมุยต่อ ก็ เสร็จแล้วผมก็ยังกลับมาบอกคุณตุ๊กว่าโอเคผมไปจองโรงแรมไปจองตั๋วแล้วอะไรเรียบร้อย นะครับ แล้วประมาณที่ผมจองประมาณต้นมิถุนายน ประมาณกลางมิถุนายน ผมก็ติดต่อคอนเฟิร์มว่าไปแน่หรือเปล่า นะครับ คุณตุ๊กก็บอกว่าทริปยกเลิก เอ้าผมก็บอกว่าไหนคอนเฟิร์มผมว่าแน่นอน แล้วผมซื้อตั๋วจองโรงแรมอะไรเรียบร้อย ทางคุณตุ๊ก ก็บอกว่าเลื่อนไปทริป อื่นได้ไหม ผมก็บอกว่าไม่ได้ เพราะผมจองไว้หมดแล้ว แล้ววันที่จะหยุดก็ไม่รู้จะหยุดเมื่อไหร่ ก็ได้ เสร็จแล้วผมก็บอกว่าขอเป็นเงินคืนแล้วกัน ทางคุณตุ๊กก็บอกว่าโอเค เดี๋ยวจะถามผู้ใหญ่ นะครับ ก็นัดอีกอาทิตย์หนึ่ง พออาทิตย์หนึ่งก็โทรไป ก็บอกว่าพี่เอาเบอร์บัญชีมาก่อน เอาเบอร์บัญชีมาเดี่ยวจะคืนเงินให้ นะครับ พออีกอาทิตย์หนึ่งผมก็โทรไปยังไมได้คืน บอกเดี๋ยวจะไปคุยกับผู้ใหญ่ให้ ก็ประมาณต้นกรกฎาคม 2548 นะครับ คุณตุ๊กก็ได้ข้อสรุปมาว่าจะคืนเงินให้ผมสิ้นเดือนกรกฎาคม

จินดารัตน์ – สิ้นเดือนกรกฎาคม จะโอนเข้าบัญชีให้

ประวิทย์ – ผมก็โอเค ถือว่าช่วยๆเขา นะครับ ไม่ได้ไปเร่งรัดอะไร

จินดารัตน์ – ตอนนั้นทราบไหมค่ะ ว่าเขามีปัญหา

ประวิทย์ – ยังไม่ทราบอะไร ก็ประมาณอาทิตย์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม ผมก็โทรไปที่คุณตุ๊ก นะครับ คุณตุ๊กก็บอกตามตรงว่าบริษัทปิดแล้ว ผมก็ตกใจมากเลย เพราะไม่คิดว่าบริษัทที่มีชื่อเสียง นะครับ ทำกิจการมานานขนาดนี้ จะปิดลงได้ง่ายอย่างนี้ แล้วที่ตกใจมากก็คือ ในเมื่อเขานัดรับเงิน เพื่อที่จะคืนเงินเรา สิ้นกรกฎาคม แล้วทำไมปิด

จินดารัตน์ – ตอนนั้นเชื่อไหมค่ะ ถามจริงๆ

ประวิทย์ -เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง นะครับ ผมฟังอะไรก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับบริษัท ก็ขับรถไปที่บริษัทวันรุ่งขึ้น แล้วก็ไปถ่ายรูป เพราะเห็นว่าบริษัทมันปิดแล้วจริงๆ ผมไปถ่ายรูปมาด้วย

จินดารัตน์ – ก็คือปิดเอาป้ายออกหมดเลย หรือว่าอย่างไรค่ะ

ประวิทย์ – แล้วมีหนังสือติดที่หน้าบริษัท

จินดารัตน์ – ว่าปิดกิจการ

ประวิทย์ – ครับ ผมก็เข้าไปดู สภาพบริษัท คือปิดแน่นอน แล้วก็มีหนังสือปิดที่หน้าบริษัทว่าบริษัทปิดกิจการแล้ว

จินดารัตน์ – อันนี้เป็นสภาพภายในบริษัท ซึ่งคุณประวิทย์เข้าไปดูด้วย นะค่ะ

ประวิทย์ -อันนี้เป็นรูปของบริษัท

จินดารัตน์ – คือไม่มีใครอยู่แล้ว

ประวิทย์ – ผมไม่ได้เข้าไปข้างในนะครับ ถ่ายจากข้างนอกนะครับ เพื่อเป็นการยืนยันว่าบริษัทเขาปิดจริงๆ ไม่งั้นฟังจากพนักงาน พนักงานบอกว่าปิด แต่เกิดพนักงานมีปัญหากับบริษัท ก็จะกลายเป็นผมทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

จินดารัตน์ – เสร็จแล้วดำเนินการอะไรกันต่อ

ประวิทย์ – หลังจากนั้น ผมก็ โอเค

จินดารัตน์ – ตอนนั้นติดต่อใครไม่ได้แล้ว

ประวิทย์ - ครับ

จินดารัตน์ – เว็บไซด์ ก็เข้าไปไม่ได้

ประวิทย์ – ครับ โทรไปก็ไม่มีคนรับ ผมก็เลย พยายามหารายชื่อผู้เสียหายท่านอื่น ซึ่งตรงนี้ผมขอปิดไม่บอกว่า

จินดารัตน์ – ได้มาอย่างไร

ประวิทย์ – พอผมได้รายชื่อท่านอื่นก็พยายามโทร ติดต่อท่านอื่น ว่าได้รับความเสียหายไหม นะครับ ได้เงินคืนหรือเปล่า แล้วก็เท่าที่คุยกับผู้เสียหายเกือบทั้งหมด ที่ผมมีรายชื่อ

จินดารัตน์ – กี่คนค่ะ

ประวิทย์ – 80 คน

จินดารัตน์ – 80 คนเหรอค่ะ

ประวิทย์ – 80 กว่าคน ทุกคนก็พูดเสียงเดียวกันว่าไม่ได้เงิน นะครับ

จินดารัตน์ – ความเสียหายเกิดขึ้นพร้อมๆกันหรือเปล่า

ประวิทย์ -ไม่ครับ ก็บางท่าน เกิดตั้งแต่ธันวา ปีที่แล้ว ก็ยังไมได้เงินคืน

จินดารัตน์ – นานที่สุดนี้ช่วงไหนค่ะ

ประวิทย์ – ผมจำไมได้แน่นอน แต่ธันวา ปี 2547 มีแน่นอน แต่ก่อนหน้านั้นจะมีหรือเปล่าผมไม่ทราบ อาจจะมีก็ได้

จินดารัตน์ – ซึ่งก็ได้เบอร์ของคุณวีระพันธ์มา

ประวิทย์ – ได้ทุกคน เพราะว่าที่ผมพูดคุยทางโทรศัพท์ บางท่านก็เสียหายเยอะ 100,000 กว่าบาท บางท่านก็ 300,000 ก็มี วันนี้ยังโทรมาหาผมเลย

จินดารัตน์ – 300,000 นี้หมายถึงซื้อทัวร์ด้วยตัวเอง ถูกไหมค่ะ ไม่ได้ซื้อผ่านบริษัททัวร์

ประวิทย์ – ใช่ครับ เขาก็บอกว่าเขาเสียหายตั้ง 300,000 นะครับ เขาก็นัดกับผมว่าจะไปที่ ททท. ด้วย วันพฤหัส

จินดารัตน์ – วันพฤหัสนี้จะไป ททท.

ประวิทย์ – ใช่ครับ

จินดารัตน์ – แต่วันนี้ไปกองปราบมาแล้ว

ประวิทย์ – กองปราบนี้ไปเมื่อวันอาทิตย์

จินดารัตน์ – ไปร้องตั้งแต่วันอาทิตย์ ไปทั้งหมดกี่คนค่ะ

ประวิทย์ – ก็ประมาณ 50 กว่าคน เราก็ไปกัน ผมก็บอกว่าเราหน้าจะไปร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนะ แล้วพอดีปรึกษาทางท่านอัยการนะครับที่มีความรู้ทางด้านกฎหมาย ท่านก็บอกว่าเนื่องจากคดีตรงนี้มันเกิดหลายท้องที่ อย่างเช่นผมจองที่ศูนย์สิริกิตติ์ ก็ท้องที่หนึ่ง คนที่จองที่เมืองทอง ก็อีกท้องที่หนึ่ง นะครับ คนที่จองที่บริษัทก็อีกท้องที่หนึ่ง

จินดารัตน์ -ซึ่ง ท่านที่ไปจองที่เมืองทอง ที่ศูนย์ประชุมสิริกิตติ์ หรืองานไหนๆก็เป็นงานที่ ททท.จัดขึ้น เกือบทั้งหมดถูกไหมค่ะ

ประวิทย์ – ครับ น่าจะใช่นะครับ

จินดารัตน์ – ใน 50-60 คนที่มารวมตัวกัน ไม่เคยมีใครรู้ระแคะระคายมาก่อนว่าบริษัทมีปัญหา เรื่องการเงิน

ประวิทย์ -ไม่ทราบเลย

จินดารัตน์ – ต่างก็มั่นใจ เพราะว่าบริษัทใหญ่ขนาดนี้ไม่น่ามีปัญหา

ประวิทย์ -บริษัทมีชื่อเสียงมาก

จินดารัตน์ – คุณประวิทย์เคยไปมาก่อนไหมค่ะ

ประวิทย์ –ไม่เคย แต่ว่าใฝ่ฝันว่าอยากจะไป นะครับ เวลาผมดูทางอินเตอร์เน็ต ทุกคนก็ชมเชยว่าเป็นบริษัทที่ดี

จินดารัตน์ -ดิฉันก็ได้ยินมาแบบนั้นเหมือนกัน ว่าประทับใจใครไปมาแล้วก็ต้องบอกว่าประทับใจ แต่วันนี้เกิดปัญหาขึ้นแล้ว

ประวิทย์ – ใช่ครับ

จินดารัตน์ -คุณประวิทย์ไปร้องกองปราบ แล้ววันพฤหัสนี้จะเข้าพบ ททท.

ประวิทย์ – ครับ

จินดารัตน์ –ทีนี้มาดูทางด้านพนักงานกันบ้าง คุณปิยาดิฉันเรียนถามตรงๆว่าในฐานะที่เป็นเซลล์ของบริษัท รู้ใช่ไหมค่ะว่าบริษัทมีปัญหาเรื่องการเงิน

ปิยา – ก็ที่รู้ก็คือ จากเงินเดือนของพนักงานเอง

จินดารัตน์ – เมื่อไหร่ ทราบเมื่อไหร่

ปิยา – เท่าที่ทราบแล้วก็นานแล้วเหมือนกัน

จินดารัตน์ -กี่เดือนค่ะ ปลายปีที่แล้วหรือเปล่า

ปิยา - ตรงนี้มันเป็นมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่ตอนที่ตุ๊กเพิ่งเข้ามาทำงาน แต่คือตรงนี้ทราบอยู่แล้ว แต่พนักงานรับสภาพได้ กับเงินเดือนที่เลท แล้วออกทีละครึ่งเดือน

จินดารัตน์ – คือจ่ายให้ส่วนหนึ่งก่อน แล้วค่อยทยอยจ่าย

ปิยา – ค่ะ

จินดารัตน์ -เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว

ปิยา -ก่อนปีที่แล้ว คือตรงนี้เท่าที่ทราบ เป็นมาพอสมควรแล้ว

จินดารัตน์ -กี่ปีได้แล้วค่ะ

ปิยา – ก็น่าจะ 4-5 ปีได้

จินดารัตน์ – 4-5 ปีที่เป็นแบบนี้ ที่เป็นแบบนี้

ปิยา -ใช่ค่ะ เกี่ยวกับระบบเงินเดือนนะค่ะ

จินดารัตน์ – แต่ก็ไม่ได้ทราบว่าภายนอกเขาบริหารเงินกันอย่างไร

ปิยา – ใช่ค่ะ

จินดารัตน์ – แล้วไม่เคยมีปัญหากับลูกค้า

ปิยา – ใช่ค่ะ

จินดารัตน์ – 4-5 ปีที่ผ่านมา เพิ่งจะมามีเมื่อไหร่ค่ะ

ปิยา – มีปัญหาก็คือ น่าจะเป็น เคสสึนามิค่ะ

จินดารัตน์ – ตั้งแต่เกิดสึนามิ นะค่ะ ธันวา เกิดอะไรขึ้นกับลูกค้า

ปิยา – ก็คือ เกิดสึนามิก็คือ เรือไม่สามารถออกได้ เราทางบริษัทก็ต้องรับผิดชอบrefund ลูกค้า แล้วก็มีกำหนดระยะเวลาว่าจะrefundให้ 3 เดือน 6 เดือน ก็มันก็เป็นอย่างนี้เรื่อยมา บางทริปลูกค้าน้อยเราก็ไม่สามารถออกได้

จินดารัตน์ – เห็นบอกว่าเที่ยวหนึ่งจะมี 300 กว่าคนถูกไหมค่ะ

ปิยา – 300 กว่าคน ในกรณีเหมาลำ

จินดารัตน์ – โดยปกติจะมีออกกี่คนค่ะ

ปิยา – 100 ขึ้นไปค่ะ

จินดารัตน์ – ตั้งแต่เกิดสึนามิลูกค้าลดลงไปชัดเจนเลยเหรอค่ะ

ปิยา – ลดลงไปมากเลยค่ะ

จินดารัตน์ – ถึงร้อยไหมค่ะ แต่ละเที่ยว

ปิยา – บางเที่ยวก็น่าจะประมาณ 80

จินดารัตน์ – ถ้าต่ำกว่า 100 ปุ๊บ เรือจะหยุดวิ่ง

ปิยา – ส่วนใหญ่จะไม่ได้ออก

จินดารัตน์ -ตั้งแต่ปลายปีมา ถึงวันสุดท้ายที่เรืออก หยุดไปกี่ครั้งแล้วค่ะ

ปิยา – ตั้งแต่เกิดสึนามิขึ้น จะออกอีกทีช่วงตรุษจีน แล้วตรุษจีนลูกค้าก็ค่อนข้างน้อย แล้วราคาที่ขายก็ค่อนข้างถูก

จินดารัตน์ – แต่ว่าบริษัทเองก็ยังออกบูธ

ปิยา – ก็ยังมีออกบูธอยู่

จินดารัตน์ -แล้วที่ผ่านมาที่ cancle ลูกค้าไป นี้นะค่ะ ที่ยกเลิกไป คืนเงินให้เขาครบหรือเปล่า

ปิยา – ส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยได้คืนเท่าไหร่ เพราะบางเคสผ่อนไงค่ะ บางเคสก็เป็นผ่อน

จินดารัตน์ -อย่างกรณีคุณประวิทย์โทรมาหา คุณปิยาเอง คุณตุ๊กก็บอกว่าขอปรึกษาทางหัวหน้าก่อน ว่าจะคืนเงินให้ได้หรือเปล่า

ปิยา – ค่ะ

จินดารัตน์ -ดิฉันเรียนถามตรงๆ ว่านโยบายบริษัทเป็นอย่างไร

ปิยา – ก็ในเคสของคุณประวิทย์ตุ๊กได้เข้าไปคุยกับกรรมการผู้จัดการเองเลยว่า ตกลงเคสนี้ จะคืนให้เขาเมื่อไหร่ นายก็บอกว่าเป็นสิ้นเดือนก็แล้วกัน ตุ๊กก็เลยโทรไปแจ้งคุณประวิทย์ว่า เคสนี้นายบอกว่าสิ้นเดือนจะคืนให้นะ แล้วถึงเวลาก็คือ คุณประวิทย์โทรไปที่ออฟฟิต แล้วก็ไม่เจอใครเลย ทำไม่มีคนรับ ก็เลยโทรมาถามตุ๊ก ตุ๊กก็เลยบอกความจริงเขาไป ว่าบริษัทมันปิด

จินดารัตน์ – ค่ะ เรียนถามตรงๆนะค่ะ คุณปิยา ทางบริษัทเอง ห้ามไม่ให้ บอกลูกค้าหรือเปล่า ว่าเกิดอะไรขึ้น

ปิยา – อ๋อ ไม่ตรงนั้น ที่ตุ๊กเข้าไปคุยกับนาย เนี่ย ตัวพนักงานเองก็ไม่ทราบว่าบริษัทจะปิด เหมือนกัน

จินดารัตน์ - แสดงว่าตัวพนักงานเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน

ปิยา – ไม่เคยรู้เลย

จินดารัตน์ - แต่รู้แล้วล่ะ ว่ามีปัญหาเรื่องการเงิน

ปิยา – ใช่ค่ะ

จินดารัตน์ – รู้สึกไหมค่ะ ว่ามันเริ่มวิกฤตมากขึ้น

ปิยา -ก็พอจะทราบตรงนี้ แต่ว่าไม่เคยคิดเลยว่า บริษัทจะปิดแบบกะทันหันแบบนี้ อยู่พนักงานทุกคนได้ใบจากที่ทางบริษัทออกให้ เหมือนกับว่าพนักงานทุกคนทั้งในส่วนออฟฟิตและในส่วนที่เหลือเป็นผู้ลาออกเอง ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ใช่ เพราะว่าบริษัทต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับพนักงาน

จินดารัตน์ – ทุกครั้งที่โทรศัพท์ไปบอกลูกค้า เรือเสียออกไม่ได้ คนน้อยเกินไป ทั้งๆที่รู้อยู่ หรือว่า เหตุผลอะไร

ปิยา – อ๋อ ไม่ทราบ เพราะว่าแต่ละทริปนายจะดูว่า ถ้าลูกค้าไม่ถึง 100 ก็ เราก็มีหน้าที่โทรแจ้งลูกค้าว่า ลูกค้าน้อยนะ พี่เปลี่ยนเป็นทริปอื่นได้ไหม ถ้าเกิดเปลี่ยนไม่ได้ ทางบริษัทจะrefundคืนเงินให้นะ ก็จะเป็นเคสแบบนี้

จินดารัตน์ -แล้วพนักงานบนเรือล่ะค่ะ ถ้าเรือไม่ได้ออกแบบนี้ทำอย่างไรกันค่ะ

ปิยา – ก็อยู่ที่เรือ จะมีเวรประจำอยู่

จินดารัตน์ – ต้องเรียนถามคุณอารีรัตน์เพราะเป็นพยาบาลประจำเรือจะต้องออกเรือทุกเที่ยวถูกไหมค่ะ

อารีรัตน์ -ใช่ค่ะ

จินดารัตน์ – ระยะหลังมากี่ปีมาแล้วที่ออกบ้างไม่ออกบ้าง

อารีรัตน์ –เรือก็จะออกตลอด ถ้าเป็น พฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ คือเป็นวีคเอ็น

จินดารัตน์ -คนเยอะไหมค่ะ ก่อนที่จะเกิดเหตุสึนามิ

อารีรัตน์ – ตั้งแต่เกิดเหตุสึนามิ ทางเรือเราก็ไม่มีลูกค้าอะไรด้วย มันก็เริ่มห่างออกไป ก็จะไปมี พฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ซึ่งบางครั้งก็ไม่มี นะค่ะ

จินดารัตน์ –ถ้าเรือไม่ออกมีการแจ้งพนักงานไหมค่ะ

อารีรัตน์ - ก็จะบอกว่าทริปนี้ไม่ออก ยกเลิก

จินดารัตน์ - แล้วพนักงานทุกคนทำอย่างไรค่ะ

อารีรัตน์ -ถ้าพนักงานอยู่ภูเก็ต พนักงานก็จะอยู่เรือกัน เพราะว่าการเดินทางลำบาก

จินดารัตน์ – ทั้งหมด พนักงานอยู่บนเรือกี่คนค่ะ

อารีรัตน์ – เออ น่าจะประมาณ 100 กว่า

จินดารัตน์ –ก็อยู่บนเรือก็รอไป จนกว่าจะมีคำสั่งว่าให้ออกเรือวันไหน ถูกไหมค่ะ

อารีรัตน์ – ค่ะ มันจะมีโปรแกรมออกมา

จินดารัตน์ – คุณอารีรัตน์ทำงานกับอันดามันปริ๊นเซสมากี่ปีแล้วค่ะ

อารีรัตน์ – 5 ปี

จินดารัตน์ – 5 ปีมีปัญหาเรื่องการจ่ายเงินเดือน

อารีรัตน์ –ก็ เป็นอย่างที่คุณตุ๊กว่าสิ้นเดือนบ้าง ซึ่งจะออกมา ซึ่งก็จะถามว่าจะค้างนานไหม ก็จะอยู่ในช่วงอย่างนี้ บางทีก็สะสม ประมาณเดือนครึ่ง แล้วก็จะจ่ายเราครึ่งเดือน ก็มีบางช่วงที่ขายได้ดีๆก็มีออกเต็มเดือนให้เราบ้าง น่าจะครั้งสองครั้งอะไรอย่างนี้

จินดารัตน์ – ตอนนั้นรู้สึกอะไรบ้างไหมค่ะ พนักงานคุยกันบ้างไหมค่ะ

อารีรัตน์ – หน้าที่เราก็ บริษัทอยู่ได้ เราก็อยู่ได้ เราก็ทำงานกันไป

จินดารัตน์ – เคยสงสัยกันไหมค่ะ ว่าบริษัทจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน

อารีรัตน์ – ก็เคยคุยกัน ก็ดูกันไปเรื่อยๆ

จินดารัตน์ – คนทีทำงานยาวนานที่สุดก็คือ 16 ปีถูกไหมค่ะ

อารีรัตน์ – ใช่ค่ะ

จินดารัตน์ – มีอยู่กี่คนค่ะ

อารีรัตน์ – ก็น่าจะประมาณ เกือบ 10 คนที่เขาทำมานานแล้ว เขาก็ยังอยู่

จินดารัตน์ - การบริการบนเรือจากเดิมที่เริ่มมีเรือลำนี้เกิดขึ้นมา จนกระทั่งล่าสุด การบริการหรือว่าความสะดวกสบายบนเรือเหมือนเดิมไหมค่ะ

อารีรัตน์ – เหมือนเดิม

จินดารัตน์ – เหมือนเดิม ไม่มีลดค่าใช้จ่ายอะไร

อารีรัตน์ – ก็อาจจะมีลดคอร์ดเรื่องอาหารบ้าง ตอนเศรษฐกิจช่วงหลังที่น้ำมันแพง แต่ถามว่าความรู้สึกที่มันเปลี่ยนไปไหม ไม่ค่ะ

จินดารัตน์ – บริษัทเองก็ไม่เคยแจ้งเรา

อารีรัตน์ – ใช่

จินดารัตน์ – คุณอารีรัตน์ ส่วนตัว ตกใจไหมค่ะ ที่บริษัทปิดตัวกะทันหันแบบนี้

อารีรัตน์ – ก็ตกใจเหมือนกัน เพราะเราไม่ทราบล่วงหน้า

จินดารัตน์ – สิ่งที่คาดหวัง พนักงานที่ทำงานมายาวนาน ทุกคนคาดว่าจะได้เงินชดเชย

อารีรัตน์ – อันนี้เป็นสิทธิที่เราจะต้องเรียกร้องกันไป

จินดารัตน์ – เที่ยวสุดท้ายเรือลำนี้วิ่งวันที่เท่าไหร่

อารีรัตน์ – 14-17 กรกฎาคม

จินดารัตน์ – ที่ผ่านมานี้เอง สุดท้ายเลย แล้วหลังจากนั้นก็รอ จนกระทั่งมารู้ว่าบริษัทปิดตัว รู้อย่างไรค่ะ

อารีรัตน์ – ทางเราจะทราบเมื่อ วันที่ 19 บริษัทเรียกพนักงานประชุม แล้วก็แจ้งให้ทราบ

จินดารัตน์ – บริษัทแจ้งว่าอย่างไรค่ะ

อารีรัตน์ – ก็แจ้งว่าบริษัทขอปิดตัวสิ้นเดือนนี้
จินดารัตน์ – แล้วเงินเดือนที่ค้างอยู่ล่ะค่ะ เขาได้บอกไหมค่ะว่าจะเอาอย่างไร

อารีรัตน์ – จะจ่ายให้ แต่ไม่ได้กำหนดเวลา

จินดารัตน์ – ค่ะ คุณตุ๊กนี้เป็นเซลล์ของบริษัท

ปิยา – ค่ะ

จินดารัตน์ – เวลาไปออกบูธกับ ททท. ก็ยังรับลูกค้าปกติ

ปิยา – ค่ะ

จินดารัตน์ – คนสนใจเยอะไหมค่ะ

ปิยา – ช่วงหลัง คือการจองค่อนข้างน้อย เพราะคือลูกค้าทัวร์กลัวสึนามิด้วย

จินดารัตน์ – ถามจริงๆคุณตุ๊กทำงานมานาน กับบริษัทนี้ ดูยอดจองแล้วมาดูปัญหาที่บริษัทมีอยู่ รู้อยู่ในใจหรือเปล่า ว่ามันมีปัญหาแน่ๆ ถามจริงๆ

ปิยา – หมายถึงเวลาที่เรารับเงินลูกค้าเหรอค่ะ คือตัวเซลล์เองก็ขายไปตามหน้าที่ แต่ตรงนี้ผู้บริหารเขาจะดูว่าบางทริปที่เราขายเกิน 10 ไหม ถ้าไม่เกิน 100 ก็เป็นหน้าที่เซลล์ที่จะแจ้งลูกค้าว่าลูกค้าน้อย ตรงนี้ออกไม่ได้ จะสนใจไปทริปอื่นไหม หรือไม่จะrefundคืนเงินให้ ก็จะเป็นลักษณะนี้

จินดารัตน์ – ลักษณะเป็นอย่างนี้ตลอดหนักใจไหมค่ะ ต้องโทรศัพท์ไปบอกลูกค้า

ปิยา – หนักใจก็มีบ้างเหมือนกัน เพราะบางครั้งลูกค้าเลือกไปแล้วทริปหนึ่ง แล้วยกเลิกอีกแล้ว เลื่อนไปทริปหน้าก็ออกไมได้อีกแล้ว

จินดารัตน์ – ก็ทราบใช่ไหมค่ะ ว่าหลาย 10 คนไม่ได้เงินคืน

ปิยา – อ๋อ ทราบค่ะ

จินดารัตน์ –เอาแล้วค่ะ มาถึงในส่วนของนายกสมาคมท่องเที่ยวธุรกิจภายในประเทศ คุณ มัสลินบ้าง ว่าถ้ากรณีแบบนี้แล้ว ยังไปออกบูธ กับ ททท. ททท.จำเป็นต้องทราบไหมว่าบริษัทไหนมีปัญหาไม่มีปัญหาอย่างไร

มัสลิน – เออ ดิฉันอยากจะพูดถึงของนักท่องเที่ยวก่อน ถ้าอย่างนักท่องเที่ยวทั่วไป เวลาซื้อ อย่างที่ทั้ง 2 ท่านบอกว่าซื้อไปแล้วสถานที่เต็ม ก็ได้ไปซื้อได้ตามงาน ซื้อตรงกับอันดามัน ตรงนี้เราอยากจะเรียนว่าเราต้องแยกประเด็นออกจากกัน ไม่ใช่ไปซื้อกับงาน ททท. แล้วก็เสียหาย คงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะโดยนโยบายแล้วเอกชนโดยเฉพาะสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ เราก็หวังพึ่งพาหน่วยงานของรัฐที่จะทำอย่างไรกับผู้ประกอบการเขามีพื้นที่ในราคาที่ไม่แพงนัก ให้ผู้ประกอบการเขาอยู่ได้ ในช่วงที่มีภัยพิบัติอย่างนี้ และภัยธรรมชาติ แล้วโดยเฉพาะผู้ประกอบการเองที่เดือดร้อน ไม่ใช่เฉพาะอันดามันปริ๊นเซส หมายถึงว่าช่วงก่อนที่เขาจะปิดทำการชั่วคราว ก่อนหน้าที่ตัวเลขที่ลงอันดามัน เลข 0 เลยนะค่ะ คือไม่มีนักท่องเที่ยวเลย หลังเกิดเหตุคือวันที่ 26 ธันวา เพราะฉะนั้นไม่ใช่แค่อันดามันปริ๊นเซสนะค่ะ
แต่ทั้งโรงแรมและบริษัททัวร์ในกรุงเทพทุกอย่างไข่ไก่หมดเลย คือไม่มีตัวเลขนักท่องเที่ยว แต่จะมีข้อต่างที่ว่าโรงแรมเนี่ยนะค่ะ เขาจะ 0 อย่างไรก็แล้วแต่ เขาจะเหลือแค่ 5 คน 10 คน แต่วันนี้เมื่อขายไม่ได้ อีกสองวันเขาอาจจะขายได้ อย่างน้อยเขาจะมีเงินเข้ามาหมุนเวียนบ้าง แล้วก็รายจ่ายของเขาในเรื่องของต้นทุนไม่ได้สูงเหมือนกับการทำเรือ เรือถ้าทางทะเลมีปัญหาปุ๊บคือจอดอย่างเดียว อะไรก็ขายไม่ได้ มีแต่รายจ่ายอย่างเดียว แต่ถ้าเป็นบริษัททัวร์ เอ้าไม่เป็นไร ใต้ขายไม่ได้ อย่างน้อยก็มีทางอื่น ดูซิไปทางเหนือได้ไหม อีสานได้ไหม เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการในแต่ละส่วนหลัง สึนามิเนี่ย ความเดือดร้อนและผลกระทบก็ไม่เท่าเทียมกัน คราวนี้หน่วยงานของรัฐ โดยดิฉันเองก็เข้าพบ ททท. เองหลายรอบ รัฐบาลเองต้องรีบเร่งลงมาช่วยเหลือ สมัยนั้นเป็นของคุณสุวัจน์ดูแลอยู่ เพราะฉะนั้นทางรัฐบาลเองก็ลงมาอย่างเร่งรีบ เอกชนก็ต้องการอะไร เรื่องภาษีหรืออะไรเหรอ ดร.สมคิดก็ลง เพราะฉะนั้นก็พยายามมาดูในแต่ละพื้นที่ที่เดือดร้อนไม่เหมือนกัน พยายามหาทางออกให้ อันนี้ดิฉันก็ถือว่ารัฐบาลได้ลงมาเร่งบ้าง งานอะไรที่อาจจะตอบรับช้าบ้าง ก็ถือว่าเอาล่ะ เป็นภาพโดยรวมก็คือลงมาช่วยเหลือ
ทีนี้พื้นที่ที่มาออกบูธกัน ททท. ต้องรับผิดชอบอะไร หรือว่าทางสมาคมลงมาดูแลอะไรบ้าง ก็เรียนจริงๆว่า วิธีการของคนที่จะมาออกบูธอย่างน้อยต้องสังกัดนะค่ะ เป็นสมาชิกของบริษัทท่องเที่ยวหรือเปล่า หรือว่าเป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือหรือไม่ ถ้าหากว่าติดต่อไปที่การท่องเที่ยวโดยตรงนะค่ะ เพราะว่างานของ ททท. มาจากหลายส่วน มาจากสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ก็มี ไม่ใช่แค่จากกรุงเทพอย่างเดียว แล้วอันดามันปริ๊นเซสก็เป็นสมาชิกของสมาคม แต่ว่างานนี้ประสานไปโดยตรงกับทางออแกไนเซอร์ ซึ่งจัดงานให้กับ ททท. สมมติว่าเขาไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมนะค่ะ ดิฉันเชื่อว่า ททท.ก็ต้องรับ เพราะว่าอันดามันปริ๊นเซสเขาเป็นบริษัทเรือที่มีมานานแล้ว

จินดารัตน์ – ใครๆก็รู้จัก

มัสลิน – มีมานานแล้ว อย่างดิฉันเองก็เคยใช้บริการเขา กรุ๊ปนี้ กรุ๊ปเหมาก็ลงกับเขาตั้งหลายรอบ ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีเรือลำนี้ มีซีทรานส์ปริ๊นเซส มาก่อน ดิฉันยังภูมิใจเลย ดีจังเลยประเทศไทยมีบริษัทเรือที่เป็นของคนไทย แล้วดูแลที่ใครลงแล้ว จะไม่ลงแค่ครั้งเดียว

จินดารัตน์ - แสดงว่าอันดามันปริ๊นเซสก็เป็นสมาชิกของสมคมแต่ว่าก็ติดต่อทางออแกไนของทางททท. เอง การไปออกบูธแต่ละครั้ง ซึ่งสมาคมแค่ว่าก็ดูแลว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกของสมาคม ทีนี้ที่ผ่านมาเห็นคุณปิยาบอกว่า ทางบริษัทเองก็ดูมีปัญหาเรื่องการเงินมาหลายปีแล้ว ไม่ใช่จะว่าเริ่มจากสึนามิ นะค่ะ เคยมีกรณีลูกค้าร้องเรียนไปที่สมาคมบ้างไหมค่ะ

มัสลิน – ไม่เคยมีเลย

จินดารัตน์ – คุณมัสลินมาทราบเรื่องนี้ได้เมื่อไหร่ค่ะ

มัสลิน – เมื่อเป็นข่าวนะค่ะ

จินดารัตน์ –พร้อมๆกับสื่อ ไม่เคยมีใครร้องเรียนไปเลย

มัสลิน – ไม่เคย ถ้าร้องเรียนผ่านทางสมาคมไม่เคยมี

จินดารัตน์ – ดิฉันสมติว่าถ้ามีลูกค้ากรณีแบบนี้ลูกค้าร้องเรียนมาที่สมาคม สมาคมมีหน้าที่มีบทบาทที่จะเข้าไปช่วยเหลือ

มัสลิน – หน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงก็คือ มีสำนักทะเบียนของ ททท.อยู่แล้ว ที่รองรับในเรื่องนี้ สมาคมผู้ที่จะร้องเรียนเข้ามาก็คือว่า กลุ่มที่เป็นสมาชิกด้วยกัน เขาร้องเรียนว่าผู้ประกอบการที่เป็นคู่กรณี ถ้าเป็นสมาชิกของสมาคมโดยตรงเนี่ยทั้ง 2 ทาง ทางสมาคมก็เชิญมาที่ประชุม แล้วก็จะพูดคุยก่อนว่าต้นเหตุนั้นคืออะไร แล้วแก้ปัญหาได้อย่างไรบ้าง ไม่ต้องไปมีคดีความ อันนี้คือบทบาทของสมาคม

จินดารัตน์ – ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกรณีระหว่างบริษัทด้วยกัน

มัสลิน – ผู้ประกอบการด้วยกัน

จินดารัตน์ - อย่างกรณีลูกค้ายังไม่เคยมี

มัสลิน – ค่ะ

จินดารัตน์ – ถ้าอย่างนั้น ดิฉันขออนุญาตตรงนี้ก่อน พักกันก่อน ช่วงหน้ามาคุยกันว่าคุณมัสลินพอจะมีหนทางไหนจะชี้แนะว่าเราควรจะจัดการปัญหานี้อย่างไร แล้วทางลูกเรือเองก็ยังมีปัญหาว่ายังไม่ได้รับเงินเดือน ทั้งจ่ายเงินชดเชยก็ไม่ได้ นะค่ะ เดี๋ยวพักกันสักครู่ก่อน

จินดารัตน์ - กลับมาคุยกันต่อนะค่ะ เรื่องของอันดามันปริ๊นเซส ปัญหาที่เกิดขึ้นมีหลายคนหลายฝ่ายเสียหายกับกรณีนี้นะค่ะ เราถามคุณมัสลิน ต่อว่า แล้วกรณีนี้เกิดขึ้น คุณมัสลินพอจะมีแนวทางที่จะแนะให้กับบรรดาลูกค้าผู้เสียหาย ว่าจะทำอย่างไรต่อได้

มัสลิน – ในส่วนวันนี้ดิฉันแนะนำทางอันดามันมากกว่า อันดามันปริ๊นเซสเป็นการแนะว่าจะทำอย่างไร ในเรื่องของธุรกิจเรือ ดิฉันเห็นว่าอันนี้เป็นบริษัทที่สองที่คนไทยได้เป็นเจ้าของ แล้วทำธุรกิจทางทะเลที่ทำให้คนไทยได้มีโอกาสเที่ยวเรือที่สวยๆงามและมีห้องพักในเรือด้วย เขาเรียกว่าเรือสำราญ และก็เป็นของคนไทย ดิฉันมองว่าตรงนี้รัฐบาลน่าจะให้การสนับสนุน
จะทำอย่างไรให้บริษัทซึ่งเป็นของคนไทยอยู่รอดได้ ในเรื่องของการเป็นลูกหนี้และเจ้าหนี้กับทางธนาคาร เรื่องการเงิน อันนี้ก็ต้องลงมาช่วยดูแลว่า เขามีหนี้ คงค้างหนี้อยู่กับเท่าไหร่ วันนี้ดิฉันคุยกับทางอันดามันว่า เรียนท่านผู้ว่าด้วย ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จุดแรกในการแก้ปัญหา น่าจะเอาในเรื่องของเงิน 4-6 ล้านบาท ในการแก้ปัญหากับคู่กรณี อยู่ในราวๆไม่เกิน 200 ท่าน ก็คือนักท่องเที่ยว แต่ในเรื่องของการเป็นหนี้แบงก์อะไรก็แล้วแต่ว่าในเรื่องของการจัดการ ในองค์กรแล้ว แต่ในส่วนของตรงนี้ต้องรีบแก้ก่อน เพราะว่ามันเป็นภาพรวมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

จินดารัตน์ – ก็คือแนะนำว่าต้องคืนเขาให้หมดให้ครบถูกไหมค่ะ

มัสลิน – ดิฉันไม่ได้มองว่าผลกระทบนี้มีต่ออันดามันที่เดียวนะค่ะ หมายถึงภาพรวมใน 6 จังหวัด ตอนนี้เราต้องการให้คนไทยลงพื้นที่ เที่ยวให้มากที่สุด แคมเปญสรุปทั้งเกาะลดทั้งเมืองนะค่ะ ททท.ก็พยายามผลักดัน รัฐบาลเองก็พยายามผลักดัน เพราะฉะนั้นตรงนี้ 4-6 ล้าน ดิฉันเชื่อว่าแค่รัฐบาลอย่างน้อยลงมาดูในเรื่องของธนาคารที่เป็นหน่วยงานเป็นธนาคารของรัฐ ลงมาดูการเงิน 4-6 ล้านนี้ อันดามัน ดิฉันมองอย่างง่ายๆในการเป็นลูกหนี้และเจ้าหนี้ อันดามันเป็นลูกหนี้ของรัฐ แต่อย่างน้อยลูกหนี้ของอันดามันทุกอย่างต้องเคลียร์ให้ได้ เรื่องของภาพลักษณ์อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

จินดารัตน์ – คุณมัสลินยังมีความหวังว่าอันดามันปริ๊นเซสจะกลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง

มัสลิน – ดิฉันยังมีความหวังเพราะว่าวันนี้เขาไมได้ปิดบริษัทนะ เขาปิดทำการชั่วคราว 3 เดือน ดิฉันไม่ชี้แจงแทน ไม่ใช่หน้าที่ดิฉัน วันนี้ที่แถลงไปคือปิดทำการชั่วคราว 3 เดือนแล้วสิ่งหนึ่งที่ดิฉันยังภูมิใจในอันดามันก็คือว่า หลังสึนามิเนี่ย ไม่มีการลดพนักงาน ไม่ลดเงินเดือน

จินดารัตน์ – การบริการยังเหมือนเดิม

มัสลิน – สิ่งที่นักท่องเที่ยวได้รับยังเหมือนเดิม

จินดารัตน์ – เอาแล้วค่ะ ดิฉันจะขอคำยืนยันจาก ผู้รับมอบอำนาจจากสถาบันการเงินและกิจการของบริษัท สยามครุยซ์ นะค่ะ คุณศุรวีร์ รัตนไชย อยู่ในสายแล้วค่ะ คุณศุรวีร์ สวัสดีค่ะ

ศุรวีร์ – ครับ สวัสดีครับ

จินดารัตน์ – คุณศุรวีร์ วันนี้บริษัทปิดกิจการชั่วคราวแค่ 3 เดือน ถูกต้องไหมค่ะ

ศุรวีร์ – ครับ โดยประมาณ

จินดารัตน์ – โดยประมาณ 3 เดือน ปิดไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไรค่ะ

ศุรวีร์ – ผมเรียนก่อนว่าตอนนี้นะครับ ต้นทุนในการดำเนินการของบริษัทกับลูกค้าที่ตอบรับเข้ามา เมื่อเราขายตั๋วทัวร์ก็ตามทีไม่ สามารถจะได้ต้นทุนขั้นต่ำของบริษัทนะครับ เราจึงมีความจำเป็นนะครับ ที่จะต้องปรับปรุงและหาผู้ร่วมทุนเข้ามาเพื่อให้บริษัทมีวงเงินและก็สามารถมีเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการต่อครับ จึงต้องปิดชั่วคราวไว้ สถานการณ์น้ำมันก็เป็นส่วนหนึ่งครับ ที่เราจะต้องดูอย่างใกล้ชิด

จินดารัตน์ – แล้วอย่างกรณีหนี้ที่เกิดขึ้นกับบันดาลูกค้าทั้งหลายนี้ทำอย่างไรค่ะ จะจัดการอย่างไรค่ะ

ศุรวีร์ – หนี้ที่เกิดขึ้น ก็อย่างที่ผมเรียนให้ทราบกันแล้ว เราก็มีแนวทางอย่างนี้นะครับ แนวทางที่ 1 เรากำลังเจรจากับผู้ร่วมทุนนะครับ จะใช้เวลาในส่วนนี้ประมาณเดือนครึ่ง ถ้าผู้ร่วมทุนร่วมทุนกับเรา เราจะมีเงินสดเข้ามาในระบบ ซึ่งเงินสดส่วนนี้เป็นส่วนที่เราจะใช้ให้กับบรรดาลูกค้าทุกคนนะครับ และก็ในส่วนที่สองซึ่งเราดำเนินการไปพร้อมกันนั้นนะครับ ตัวเรืออันดามันปริ๊นเซสเมื่อปีที่แล้ว เราประเมินเรือไว้ โดยบริษัทประเมินกลางนะครับ อยู่ที่ประมาณ 130 กว่าล้าน ซึ่งมันเป็นมูลค่าทรัพย์สินที่มีอยู่หนี้สินที่เรามีอยู่ หากเราไม่สามารถหาผู้ร่วมทุนได้ ผมก็ในฐานะที่ปรึกษาเขาก็จะแนะนำเขาว่าต้องขายเรือเพื่อชำระหนี้เหล่านี้ จะมาเกี่ยงความรับผิดชอบเหล่านี้ไม่ได้ นะครับ เจราจาขายเรืออยู่ด้วยในขณะนี้

จินดารัตน์ – คุณศุรวีร์ ทราบมาว่าทางบริษัทเองก็เป็นลูกหนี้ของแบงก์พาณิชอยู่ใช่ไหมค่ะ

ศุรวีร์ – เป็นธนาคารกรุงไทยนะครับ

จินดารัตน์ – ของรัฐนะครับ อย่างราคาเรือบอกว่าถ้าขายได้ ขายได้ 130 ล้าน จะชดเชยหนี้สินได้ทั้งหมด

ศุรวีร์ – ผมเรียนอย่างนี้นะครับว่า ไม่ใช่จะขายขายได้ เป็นราคาประเมินนะครับ บริษัทประเมินกลางประเมินไว้เมื่อปีที่แล้ว ส่วนการซื้อขายจริงต้องอยู่ที่ตัวผู้ซื้อและผู้ขายเป็นสำคัญ ซึ่งจะต้องเจรจาต่อไป

จินดารัตน์ – คุณศุรวีร์ ดูแนวทางแนวโน้มที่จะเป็นไปได้ น่าจะหาผู้ร่วมทุนได้ไหมค่ะ

ศุรวีร์ – คือผู้ร่วมทุนตอนแรกก็มรการเจรจาคืบหน้าพอสมควร แต่ระหว่างวันที่มีข่าวออกไปนะครับ ผมก็ไม่ได้คุยกับผู้ที่มาร่วมทุนเลยว่า เขามีท่าทีหรือมีปฏิกิริยาอย่างไร แต่อย่างที่เรียนว่าเรายินดีที่จะขายเรือของเราออกไป เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ ให้กับลูกค้าทุกท่าน

จินดารัตน์ – ก็คือลูกค้ามั่นใจว่าต้องได้เงินคืนแน่ๆเอาล่ะถ้าหาผู้ร่วมทุนได้ จะได้เงินคืนภายใน 1 เดือนครึ่งถูกไหมค่ะ

ศุรวีร์ – เออ มันจะอยู่ในเงื่อนไขของการที่จะนำเงินมา อย่างน้อยในเดือนครึ่งก็ไดรับคำตอบว่าเออ เป็นเงื่อนไขของการร่วมทุนว่าจะนำเงินมาสนับสนุนอย่างไร เมื่อไหร่ ตัวลูกค้าจะได้คำตอบแน่นอน

จินดารัตน์ – ค่ะ คุณศุรวีร์ค่ะว่าวันนี้เรามีผู้เสียหายมานั่งอยู่กับเราด้วย คุณวีระพันธ์ กับคุณประวิทย์ ถามว่านับจากวันนี้หรือเปล่าเดือนครึ่งที่ว่านี้

ศุรวีร์ – ถ้าจะนับจากวันนี้ก็ได้ จะได้รับคำตอบที่แน่นอนว่าเรื่องการร่วมทุนสำเร็จหรือไม่ ส่วนการขายเรือเนี่ย ผมเรียนอย่างนี้นะครับว่าเนื่องจากเรืออันดามันปริ๊นเซส ตัวเรือติดจำนองอยู่กับทางธนาคารนะครับ ซึ่งการจะอนุมัติให้ขายหรือไม่ขายนั้น เป็นการดำเนินการภายในของทางธนาคารนะครับ ทางเรามีหน้าที่ยื่นข้อเสนอไปที่ธนาคารนะครับผม ทางธนาคารจะอนุมัติอย่างไรอันนี้อยู่ที่ธนาคาร ซึ่งระยะเวลานั้นผมยังไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัดจากทางธนาคารนะครับ

จินดารัตน์ – แต่ว่าลูกค้ามีความเสียหายเกิดขึ้นเนื่องจากการยืดหนี้ออกไป นะค่ะ เชิญคุณวีระพันธ์เลยค่ะ

วีระพันธ์ – ครับ ของผมตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนะครับ ซึ่ง 4 เดือนแล้ว อีกเดือนครึ่งก็ห้าเดือนกว่า คือตรงนี้เราจะเรียกร้องอะไรอย่างไรครับ

ศุรวีร์ – คือผมอยากจะเรียนกับลูกค้าทุกท่านให้ทราบว่า นับตั้งแต่วันที่เรายกเลิกเที่ยวเรือนะครับ อันเกี่ยวกับ สึนามิบ้าง ความปลอดภัยในการเดินเรือบ้าง นะครับ เรามีหนังสือแจ้งให้ลูกค้าทุกท่านทราบนะครับ ว่าเราจะงดเที่ยวเรือเที่ยวนั้นๆ หากมีหลุดไปก็ไม่เยอะนะครับผม และเราก็จะบอกกับลูกค้าอยู่แล้วว่าให้มาเปลี่ยนเที่ยวเรือ ณ วันนั้น ซึ่งจากที่เรางดเที่ยวเรือนะครับ

วีระพันธ์ – แต่ที่เราได้รับให้เปลี่ยนเที่ยวเรือ แต่ทางเราเอง เราก็แจ้งว่าเราจะไปเปลี่ยนเที่ยวเรือ เพราะว่าที่บ้านกรุ๊ปใหญ่ 18 คน ลองคิดดู คน 18 คนจะว่างพร้อมกันได้ขนาดไหน นี้คือคำถามที่หนึ่ง คำถามที่สอง ถ้าผมเปลี่ยนเที่ยวเรือไปแล้วเรือคุณไม่เต็มอีกก็เลื่อนอีกหรือเปล่าครับ ซึ่งตรงนี้ให้คำตอบไม่ได้ ซึ่งเราก็ยืนยันว่าเราขอรับเงินเราคืน ถ้าเราจะไปเราจะซื้อทัวร์ไปใหม่ นี้คือสิ่งที่ทางเรายืนยันมา

ศุรวีร์ – ครับผม ผมขอตอบอย่างนี้นะครับ ว่า ณ วันที่ลูกค้ายืนยันกลับมาว่าจะไม่เปลี่ยนเที่ยวเรือเนี่ยนะครับ เรารับทราบ แต่สิ่งที่ปัญหาที่บริษัทประสบนะค่ะ ก็คือค่าน้ำมันแพง

วีรพันธ์ – อันนั้น ลูกเรือต้องรับผิดชอบด้วยเหรอครับ

ศุรวีร์ – ทางเรามีความประสงค์ที่จะให้ลูกค้ามาใช้บริการกับเรามากว่า นั้นคือสิ่งที่บริษัทรับผิดชอบนะครับ
วีระพันธ์ – แต่ผมว่า การบริหารเรือไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าต้องรับผิดชอบ

จินดารัตน์ – คุณศุรวีร์ค่ะ อย่างนั้นนะค่ะ คือตอนนี้ลูกค้าไม่เข้าใจว่า น้ำมันแพงหรือคุณไม่สามารถออกเรือได้ ลูกค้าทำไมต้องไปรับผิดชอบส่วนนั้นด้วย แล้วความเสียหายที่เกิดขึ้น คือบางคนก็ใช้บัตรเครดิตรูดไป ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยด้วย ตรงนี้ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ บริษัทได้คิดตรงนี้เอาไว้ด้วยหรือเปล่าค่ะ

ศุรวีร์ - ณ วันที่เรางดเที่ยวเรือหลังจากที่สึนามิหรือว่าเที่ยวเรือเพราะว่าเรื่องความปลอดภัย เราคงไม่ได้คิดถึงตรงนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ นะครับ เราจะทำอย่างไร ก็อย่างที่เราพยายามจะวิ่งเที่ยวเรืออีก เราพยายามอย่างยิ่งที่จะให้ลูกค้ากลับมาใช้ แต่เมื่อลูกค้าไม่ประสงค์จะใช้ อย่างที่บอก ลูกค้าเกิดความเสียหายไหม ลูกค้าเกิดความเสียหาย เราเสียใจ นะครับ แต่เราก็พยายามจะชดใช้อย่างเต็มที่อย่างที่บอกว่าแม้แต่เราจะขายเรือของเราเอง เพื่อนำเงินมาชดใช้ เนี่ย เราขาดทุนนะครับ ส่วนจะได้มากน้อยแค่ไหน ต้องขออนุญาตว่ายังไม่มีการเจรจาขายกันที่เป็นหลักฐานจริง

จินดารัตน์ – อย่างนี้ได้ไหมค่ะ เมื่อบริษัทไปเจรจาเรื่องผู้ร่วมทุนหรือว่าจะขายเรืออะไรก็แล้วแต่ มีโอกาสเป็นไปได้ไหมที่บริษัทจะมาเจรจากับบรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลายที่เป็นลูกค้าของบริษัทว่าจะชดใช้มากว่าเงินปกติที่เขาจ่ายไป กับจำนวนเดือนที่หายไปที่เขาต้องไปจ่ายดอกเบี้ยทางอื่นเป็นไปได้ไหมค่ะ

ศุรวีร์ – คือผมเรียนอย่างนี้นะครับ ประมาณวันที่ 4 หรือวันพฤหัสนี้นะครับ มีการประสานกันพอสมควร ซึ่งลูกค้าบางส่วนเนี่ยจะเข้าไปเจรจากับทางบริษัทที่ ททท.เวลา 11โมง ครับผม

จินดารัตน์ – คุณประวิทย์เชิญค่ะ

ประวิทย์ – ผมขอถามแบบฟันธงเลยดีกว่าว่า เพราะว่าหลายท่านได้รับการผัดผ่อนเรื่องการชำระเงินจากทางบริษัทมาหลายเดือนแล้ว ลักษณะเมื่อกี้นี้เท่าที่ผมฟังก็คือยังไม่ได้บอกแน่นอนว่าจะใช้เงินคืนได้เมื่อไหร่ ก็คือบอกว่าเดือนครึ่งเนี่ย ก็จะรู้ผลว่าการเจรจาเป็นอย่างไร คือผมอยากให้ฟันธงอกมาเลยว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ผมเองก็เสียใจนะครับ ที่ทำให้ภาพพจน์การท่องเที่ยวมันกระทบไปเยอะ นะครับ แต่อยากให้ทางบริษัทฟันธงมาเลยดีกว่าว่า จะรับผิดชอบชดใช้ให้เมื่อไหร่ คืออย่าอ้างโน้น อ้างนี้ ให้พูดมาเลยว่าจะใช้เมื่อไหร่ คือผมว่าผู้เสียหายต้องการฟังคำนี้มากว่า เพราะว่าบางท่านผลัดผ่อนมาเรื่อยๆหลายเดือน

จินดารัตน์ – คุณศุรวีร์เป็นไปได้ไหมค่ะจะนำเงินจากการไปกู้แบงก์กรุงไทยหรืออะไรมาใช้หนี้กับบรรดาลูกค้าก่อน

ศุรวีร์ – คือผมเรียนอย่างนี้นะครับ วันนี้ได้เข้าร่วมประชุมกับทาง ททท.นะครับ ทาง ททท.ก็มีเงื่อนไขมาเพื่อช่วยเหลือเรา ซึ่งเป็นพระคุณอย่างยิ่งนะครับในการที่ท่านจะเข้าร่วมเจรจากับทางแบงก์ด้วย แต่ส่วนผลจะได้อย่างไรนั้น ไม่มีใครรับทราบได้ เพราะว่าต้องเป็นการอนุมัติจากทางแบงก์ และอีกทางหนึ่งก็เป็นการเจรจากับทางโรงแรมที่ภูเก็ตหรือทางจังหวัดภาคใต้เพื่อที่จะให้นำตั๋วเรือมาเปลี่ยนเป็นห้องพักได้ นะครับ ซึ่งทางเราก็พยายาม และทาง ททท.ก็ช่วยเหลือเราเต็มที่นะครับ ส่วนจะให้ผมสรุปเลยว่าวันที่เท่าไหร่ อย่างที่ผมเรียนแล้วนระครับว่ามันมีปัจจัยหลายอย่างนะครับ ปัจจัยอย่างหนึ่งที่เรากำหนดไมได้ก็คือแบงก์และผู้ซื้อ ซึ่งมันไม่ใช่ตัวเรานะครับ

จินดารัตน์ – แต่ว่าวันที่ 4 ได้ความคืบหน้าแน่ใช่ไหมค่ะ

ศุรวีร์ – ใช่ครับผม

จินดารัตน์ – คุณศุรวีร์ค่ะ ยังมีอีกส่วนหนึ่ง ส่วนของลูกจ้างและพนักงาน 100 กว่าชีวิต ทำอย่างไรกับพวกเขาค่ะ

ศุรวีร์ – ลูกจ้างกับพนักงานก็เช่นเดียวกันครับ เราคิดว่าก็คือส่วนหนึ่งของเจ้าหนี้วันนี้ ที่เราจะต้องรับผิดชอบ เราก็ประกาศให้ลูกจ้างกับพนักงานทราบแล้วนะครับ ว่าเราจะหยุดกิจการ แล้วเราก็บอกว่า หากเราขายทรัพย์สินได้ เราจะนำเงินมาใช้ให้กับลูกจ้างและพนักงานทุกคน

จินดารัตน์ – วันนี้เงินที่ติดกับลูกค้ากับลูกจ้างพนักงานรวมเบ็ดเสร็จแล้วทั้งหมดเท่าไหร่ค่ะ

ศุรวีร์ – เออ ตัวเลขไม่แน่นอนนะครับ เพราะว่าลูกค้าบางส่วนที่เปลี่ยนเที่ยวเรือแล้วนะครับ ผมคาดว่าประมาณ 4-6 ล้านบาทครับผม

จินดารัตน์ – 4-6 ล้านบาท เฉพาะลูกค้าหรือเปล่าค่ะ

ศุรวีร์ – เฉพาะลูกค้าครับ ส่วนตัวพนักงานผมไม่แน่ใจนะครับ ต้องถามจากฝ่ายบุคคลอีกทีหนึ่ง

จินดารัตน์ – 3 เดือนที่ปิดชั่วคราวไป พนักงานจะได้รับเงินเดือนหรือว่าเงินชดเชยไหมค่ะ

ศุรวีร์ – ผมเรียนว่าถ้าเราขายเรือได้ในราคาประเมิน เราจะชำระหนี้พวกนี้ได้หมด

จินดารัตน์ – เอาแล้วค่ะ ขอบพระคุณค่ะ คุณสุรวีร์ค่ะ เสียดายเวลาของเราหมดจริงๆ มีหลายคนส่งข้อความเข้ามาว่าเสียดายอยากให้เรือของไทยกลับมาวิ่ง พนักงาน 100 กว่าชีวิต เขาก็ต้องมีครอบครัวที่จะต้องดูแลกัน เอาใจช่วยตรงนี้ ขอให้ทุกฝ่ายๆเจรจากันและได้เงินคืนนะค่ะ ขอบคุณทุกท่านค่ะ วันนี้ลาไปแล้ว สวัสดีค่ะ
กำลังโหลดความคิดเห็น