โปรดเกล้าฯ ยกเลิกกฎอัยการศึกใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ด้านสมาพันธ์ครูชายแดนใต้ออกแถลงการณ์หนุน พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน จี้รัฐบาลเปิดเผยกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบโดยเร็ว ขณะเดียวกันเรียกร้องให้ยุบ กอส.อ้างไม่มีประโยชน์เปลืองงบประมาณ
วันนี้ (21 ก.ค.) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดำริว่าสมควรยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี และจ.ยะลา จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ให้เลิกใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ จ.นราธิวาส และพื้นที่ จ.ยะลา ตามประกาศพระบรมราชโองการประกาศเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2541
ข้อ 2. ให้เลิกใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี และจ.ยะลา ตามประกาศกองทัพภาคที่ 4 เรื่องการใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2547 และประกาศกองทัพภาคที่ 4 เรื่อง การใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 26 มกราคม พ.ศ.2547
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2548 เป็นปีที่ 60 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
วันเดียวกัน ที่โรงแรมพาวิลเลี่ยน อ.เมืองสงขลา สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ สนับสนุนการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้เหตุผลว่าได้วิเคราะห์ร่วมกันแล้วเห็นว่า พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยิ่ง โดยจะทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จึงมีมติสนับสนุน และขอให้รัฐบาลนำ พ.ร.ก.มาบังคับใช้ในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว แม้รัฐจะบังคับใช้ก่อนเพียง 7 มาตรการ แต่อีก 9 มาตรการ หากรัฐเห็นว่าเมื่อนำมาบังคับใช้แล้วมีประโยชน์และก่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยและสันติสุขในพื้นที่ได้แล้ว สมาพันธ์ครูฯ ขอเรียกร้องให้รีบดำเนินการนำมาตรการดังกล่าวมาบังคับใช้โดยเร็วต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังมีมติเพิ่มเติมอีกหลายประเด็น อาทิ ขอให้มีการเพิ่มการรักษาความปลอดภัย โดยขอให้มีความจริงจังจริงใจมากขึ้น ขอให้รัฐยุติแนวคิดที่จะย้ายข้าราชการครูหรือข้าราชการอื่นๆ ออกนอกพื้นที่ เพราะไม่ใช่การแก้ปัญหา หากมีคนกลุ่มหนึ่งหนีปัญหาออกนอกพื้นที่แล้วคนที่ยังอยู่ในพื้นที่ขวัญกำลังใจจะเป็นอย่างไร ขอให้รัฐบาลประกาศให้ชัดเจนว่าใคร กลุ่มไหนเป็นผู้ก่อเหตุ และเรียกร้องให้ยกเลิกคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ หรือ กอส. เพราะไม่มีประโยชน์ต่อการแก้ปัญหา และสิ้นเปลืองงบประมาณ
นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ขณะนี้ครูในพื้นที่อยู่ในความหวาดผวา เพราะไม่ทราบว่าเมื่อออกจากบ้านแล้วตอนเย็นจะได้กลับมาอีกหรือไม่ ก่อนจะออกไปสอนต้องร่ำลาลูกเมีย ไปโรงเรียนเหมือนไปสงคราม ไปสอนที่โรงเรียนก็ต้องไปเป็นเวลาตามกำหนดการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายกำลัง เพราะหากไม่ไปพร้อมกับชุด รปภ. หากมีอะไรเกิดขึ้นก็จะกลายเป็นว่าครูไม่มีวินัยในการเดินทาง ครูกลายเป็นเป้าหมายหลักของกลุ่มก่อความไม่สงบ
วันนี้ (21 ก.ค.) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดำริว่าสมควรยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี และจ.ยะลา จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ให้เลิกใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ จ.นราธิวาส และพื้นที่ จ.ยะลา ตามประกาศพระบรมราชโองการประกาศเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2541
ข้อ 2. ให้เลิกใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี และจ.ยะลา ตามประกาศกองทัพภาคที่ 4 เรื่องการใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2547 และประกาศกองทัพภาคที่ 4 เรื่อง การใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 26 มกราคม พ.ศ.2547
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2548 เป็นปีที่ 60 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
วันเดียวกัน ที่โรงแรมพาวิลเลี่ยน อ.เมืองสงขลา สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ สนับสนุนการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้เหตุผลว่าได้วิเคราะห์ร่วมกันแล้วเห็นว่า พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยิ่ง โดยจะทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จึงมีมติสนับสนุน และขอให้รัฐบาลนำ พ.ร.ก.มาบังคับใช้ในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว แม้รัฐจะบังคับใช้ก่อนเพียง 7 มาตรการ แต่อีก 9 มาตรการ หากรัฐเห็นว่าเมื่อนำมาบังคับใช้แล้วมีประโยชน์และก่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยและสันติสุขในพื้นที่ได้แล้ว สมาพันธ์ครูฯ ขอเรียกร้องให้รีบดำเนินการนำมาตรการดังกล่าวมาบังคับใช้โดยเร็วต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังมีมติเพิ่มเติมอีกหลายประเด็น อาทิ ขอให้มีการเพิ่มการรักษาความปลอดภัย โดยขอให้มีความจริงจังจริงใจมากขึ้น ขอให้รัฐยุติแนวคิดที่จะย้ายข้าราชการครูหรือข้าราชการอื่นๆ ออกนอกพื้นที่ เพราะไม่ใช่การแก้ปัญหา หากมีคนกลุ่มหนึ่งหนีปัญหาออกนอกพื้นที่แล้วคนที่ยังอยู่ในพื้นที่ขวัญกำลังใจจะเป็นอย่างไร ขอให้รัฐบาลประกาศให้ชัดเจนว่าใคร กลุ่มไหนเป็นผู้ก่อเหตุ และเรียกร้องให้ยกเลิกคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ หรือ กอส. เพราะไม่มีประโยชน์ต่อการแก้ปัญหา และสิ้นเปลืองงบประมาณ
นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ขณะนี้ครูในพื้นที่อยู่ในความหวาดผวา เพราะไม่ทราบว่าเมื่อออกจากบ้านแล้วตอนเย็นจะได้กลับมาอีกหรือไม่ ก่อนจะออกไปสอนต้องร่ำลาลูกเมีย ไปโรงเรียนเหมือนไปสงคราม ไปสอนที่โรงเรียนก็ต้องไปเป็นเวลาตามกำหนดการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายกำลัง เพราะหากไม่ไปพร้อมกับชุด รปภ. หากมีอะไรเกิดขึ้นก็จะกลายเป็นว่าครูไม่มีวินัยในการเดินทาง ครูกลายเป็นเป้าหมายหลักของกลุ่มก่อความไม่สงบ