xs
xsm
sm
md
lg

อภิสิทธิ์ VS ทักษิณ VS เสนาะนโยบายที่เปลี่ยนผัน การเมืองที่ผันเปลี่ยน!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คู้บอน คันนายาว

ได้รับฟัง –พิจารณาการประชุมรัฐสภา เพื่ออภิปรายเสนอแนะการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และปัญหาความยากจนครึ่งวันแรกแล้วก็พอจะคาดหมายได้ว่า รัฐสภาได้ทำหน้าที่ให้ข้อคิด-ข้อเสนอต่อรัฐบาลได้อย่างน่าชมเชยพอสมควร...

แม้ว่าโดยแท้จริงแล้วจุดไคลแมกซ์ได้เกิดขึ้นตั้งแต่ชั่วโมงแรกๆ ของการประชุม กล่าวคือเมื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อภิปราย –เสนอแนะแล้วเสร็จ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่ นั่งฟังและพยักหน้าเห็นด้วยเป็นระยะๆ ก็ลุกขึ้นมากล่าวขอบคุณชื่นชมการอภิ ปรายที่สร้างสรรค์ของคุณอภิสิทธิ์
และมากกว่าไปกว่านั้นก็คือพ.ต.ท.ทักษิณกล่าวยอมรับทุกข้อเสนอหลักของคุณอภิสิทธิ์ !!

อะไรคือ ข้อเสนอของคุณอภิสิทธิ์ ?
ข้อเสนอของอภิสิทธิ์มีทั้งหมด 9 ข้อ ประกอบด้วย 1) เลิกเลิกแบ่งโซนเขียว –เหลือง –แดง 2)กำหนดบทบาทกองพลพัฒนาและพิทักษ์ทรัพยากรให้ชัดเจน 3)ปรับปรุงองค์กรบริหารจัดการให้บูรณาการ-ประชาชนมีส่วนร่วม 4) เยียวยาเหตุการณ์ต่างๆ เช่นกรณีกรือเซะ,ตากใบ 5)พัฒนาเศรษฐกิจอย่างสอดคล้องเหมาะสม 6)พัฒนาด้านการศึกษาที่ถูกทาง 7)เคารพ ส่งเสริมวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ 8)ปรับปรุงด้านนโยบายต่างประเทศ และ9)เปิดโอกาส –จัดความสัมพันธ์ที่ดีให้คณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติได้ทำงานอย่างเต็มที่..

แม้ว่าการลุกขึ้นมารับข้อเสนอของคุณอภิสิทธิ์ของพ.ต.ท..ทักษิณ อาจมีส่วนทำให้ “งานกร่อย” ไปบ้าง แต่ดูเหมือนว่าการอภิปราย –เสนอแนะของสมาชิกรัฐสภาที่แม้จะซ้ำประเด็นกันบ้าง มีสาระและได้ตอกย้ำถึงความรุนแรงแห่งปัญหา ตลอดจนความผิดพลาดของรัฐบาลในช่วง 4 ปีซ่อมได้อย่างชัดเจน..

ถูกต้องแล้วที่พ.ต.ท.ทักษิณยอมรับข้อเสนอ เสมือนหนึ่งยอมรับความผิดพลาด แม้จะเป็นการยอมรับอย่างง่ายดายเหนือความคาดหมาย แต่ก็มีความงดงามหลงเหลืออยู่...

น่าจะกล่าวได้ว่า นี่เป็นอีกวาระหนึ่งที่ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำหน้าที่ของตัวเอง

ได้เข้าตากรรมการ เป็นมีดโกนในเวอร์ชั่นใหม่..

แน่นอน..มิติใหม่เยี่ยงนี้ของประชาธิปัตย์ยิ่งหนุนส่งให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค โดดเด่นเป็นประกายมากขึ้นตามลำดับ แม้อาจจะยังไม่เทียบทัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย แต่หากสภาพการณ์ต่างๆ ยังดำรงและดำเนินไปเช่นนี้ สถานภาพและบารมีความน่าเชื่อถือของพต.ท.ทักษิณก็จะมีแต่เสื่อมค่าลงโดยไม่รู้ตัว..

สำหรับพ.ต.ท.ทักษิณ..เสร็จจากสมรภูมิปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เฉพาะหน้า..พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องเผชิญหน้ากับศึกภายในพรรคไทยรักไทย..

คราวนี้ขุนพล คู่ต่อสู้ไม่ใช่ปัญญาชน คนรุ่นใหม่อย่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหรือ สุรินทร์ พิศสุวรรณ หากแต่เป็นนักเลงโบราณอย่าง เสนาะ เทียนทอง ประมุขแห่งวังน้ำเย็น และประเด็นการต่อสู้ไม่ใช่การใช้ปัญญา เหตุผล หากแต่เป็นการต่อสู้ที่ต้องวัดกันด้วยวิ ธีคิดและ “ขนาดของหัวใจ”..

ปรากฏการณ์จากแนวรบวังน้ำเย็นในวันนี้ชัดเจนว่า พยายามรวบรวมไพร่พลจากทุกก๊วนทุกวังมาสำแดงพลังไปเรื่อยๆ จนกว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะไปงอนง้อและให้ความสำคัญ

เบื้องแรกคาดกันว่า วันคล้ายวันเกิด ครบรอบ 71 ปีของเสนาะ เทียนทอง ในวันที่ 1 เม.ย. เพียงพ..ต.ท.ทักษิณหิ้วไวน์ขวดเดียวไปแสดงความคารวะ “ผู้เฒ่า” ทุกอย่างก็จบ

แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์มันจะไม่ดำเนินไปเช่นนั้น เพราะพ.ต.ท.ทักษิณแย้มไต๋มาว่า วันที่ 1 เม.ย.มีภารกิจ อาจจะไปร่วมไม่ได้

“ เดี๋ยวค่อยว่ากัน ตอนนี้ยังไม่อยากแก้เอาไว้ถึงเวลาค่อยแก้ ปัญหาบางครั้งมันต้องแ ก้เมื่อถึงเวลา..” นี่คือวิธีคิดของพ.ต.ท.ทักษิณต่อปัญหาการเมืองเรื่องวังน้ำเย็นหรือกลุ่มการเมืองสร้างสรรค์

นักสังเกตการณ์ทางการเมืองบางรายกล่าวว่า บางครั้งพ.ต.ท.ทักษิณก็พยายามบอกกล่าวให้สังคมและคนการเมืองรู้ว่า บางครั้งเขาก็คล้ายกับ “แมว” - - นั่นคือถ้ากดหลังก็จะโก่งตัวสู้ ถ้าดึงหางก็จะเดินหน้า ถ้ายกท้องก็จะทรุดตัว...

อันเป็นลีลาที่คล้ายกับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในห้วงปี 2523 -2531 ที่ปฏิเสธ-ต่อต้านแรงกดดันทางการเมือง..

วันนี้จึงดูเหมือนว่า ต่อปัญหา 3 จังหวัดและอีกบางนโยบายของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณพยายามตั้งหลักตั้งลำตั้งสติตัวเองใหม่อีกครั้งหนึ่ง จะเป็นเพราะความพยายามที่จะบอกกับสังคมอีกครั้งหนึ่งว่า เขาเป็นคนมีเหตุมีผล พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนหากเสนอแนะแบบมีเหตุมีผล (แบบอภิสิทธิ์) หรือจะเป็นเพราะความจำยอมต่อสถานการณ์ หรือเพราะทั้งสองอย่างก็ตาม...

ก็พอจะคาดการณ์ได้ว่า...เมื่อ “แม้ว” สวมบท “แมว” เยี่ยงนี้แล้ว เสนาะ เทียนทอง และพลพรรควังน้ำเย็นเห็นจะต้องออกแรงชกลมไปอีกหลายยก หรือไม่ก็หมดแรงไปเอง พ.ต.ท.ทักษิณจึงจะเหลียวแล!!

กำลังโหลดความคิดเห็น