รายการคนในข่าวประจำวันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2547 ได้หยิบยกหัวข้อ “เขียนจดหมายถวายฎีกา” มาสนทนา มีสมชัย ศรีสุนาครัว เป็นผ็ดำเนินรายการ แขกรับเชิญประกอบด้วย ด.ญ.มาลัยรัตน์ มั่นสัมฤทธิ์ (น้องต้น) คุณสมบูรณ์ปัญจศิล ป้าน้องต้น และคุณละเอียด มั่นสัมฤทธิ์ แม่น้องต้น
พิธีกร สวัสดีครับ สำหรับรายการคนในข่าวในวันนี้เรามากันที่จังหวัดพิจิตรมาสัมผัสเรื่องราวของเด็กหญิงอายุ 12 ปีที่เธอบอกว่ายากจน แต่ก็ดิ้นรนช่วยให้ครอบครัวของเธอมีชิวตที่ดีขึ้นรวมทั้งคุณแม่ของเธอที่ตอนนี้ป่วยเป็นโรคอัมพาตและอีกหลายโรคที่กำลังรุมเร้า แต่เธอได้เขียนจดหมายฎีกาถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและก็ดูเหมือนว่าแสงสว่างได้นำพามาสู่ชีวิตเธอแล้ว เมื่อได้มีพระราชกระแสรับสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือมาและช่วยเหลือดูแลครอบครัวของเธอบ้านที่เห็นอยู่ข้างหลังนี้ถูกดัดแปลงมาจากยุ้งข้าวที่เพื่อนบ้านของเธอและญาติๆ ของเธอได้ช่วยกันต่อเติมให้เรื่องราวและก็ชีวิตของธอจะเป็นอย่างไรอีกสักครู่กลับมาติดตามกันที่นี่ครับ
พิธีกร ครับ และในขณะนี้ผมอยู่กับน้องต้น ด.ญ.มาลัยรัตน์ มั่นสัมฤทธิ์และคุณป้าสมบูรณ์ ปัญจศิล ซึ่งเป็นคุณป้าน้องต้นครับ สวัสดีครับ
น้องต้น สวัสดีค่ะ
พิธีกร น้องต้นรู้สึกอย่างไรบ้างครับที่รู้ว่าจดหมายของเราที่เราเขียนถึงในหลวงนั้นจะส่งถึงมือท่านเคยคิดมาก่อนมั้ย
น้องต้น ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะว่าตอนแรกที่ส่งไปหนูไม่รู้ว่าคนที่หนูฝากส่งไปเขาจะเอาไปส่งให้หนูรึเปล่าก็ยังไม่ทราบเลยค่ะ
พิธีกร คนที่เราฝากไปส่งนี่เราไม่รู้จักมาก่อนเหรอครับ
น้องต้น ไม่รู้เลยค่ะ เพราะว่าหนูกำลังไปซื้อของแล้วหนูไปเจอเขาพอดีแล้วหนูก็ถามเขาว่ามาจากไหน เขาก็บอกว่ามาจากรุงเทพฯกำลังจะกลับพอดีหนูก็เลยบอกว่าฝากจดหมายฉบับนี้ไปส่งหน่อยได้มั้ยยคะเขาก็บอกว่าได้ค่ะ
พิธีกร น้องต้น จำได้มั้ยว่าเนื้อหาในที่เราเขียนไปนี่เราเขียนว่าอย่างไร
น้องต้น ก็จำได้แค่ว่าหนูขอบ้านหลังนึงขอให้ได้เรียนสูงๆ และก็ขอให้แม่เดินได้ค่ะ
พิธีกร ระหว่างที่เราเขียนจดหมายนี่เราคิดถึงอะไรบ้าง ตอนนั้นมันมีภาระอะไรที่ทำให้เราตัดสินใจที่จะต้องเขียนจดหมาย
น้องต้น ก็หนูเห็นแม่หนูเค้าเดินไม่ได้แล้วก็ต้องอาศัยยุ้งข้าวญาติๆ เขาอยู่ขอข้าวเขากินอยู่หนูก็เลยคิดว่ามันจะเป็นภาระคนอื่นเขาหนูก็เลยตัดสินใจเขียยนจดหมายไปค่ะ
พิธีกร นานมั้ยครับที่เขียนไป
น้องต้น นานเหมือนกันค่ะ
พิธีกร ตรงนี้เป็นยุ้งข้าวปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ใช่มั้ยครับคุณป้า
คุณสมบูรณ์ เป็นยุ้งข้าว แต่ไม่มีข้าว
พิธีกร เราทำไว้ให้ 2 แม่ลูกอยู่โดยเฉพาะเลยหรือครับ
คุณสมบูรณ์ ค่ะ ทำให้อยู่กันค่ะ
พิธีกร ก่อนหน้านี้สภาพความเป็นอยู่ของคุณแม่กับน้องต้นนี่เป็นอย่างไรครับ
คุณสมบูรณ์ ก็เป็นอยู่อย่างเนี้ยไม่มีอะไรดีขึ้นเลยก็มีอะไรก็ช่วยกันค่ะ
พิธีกร คุณแม่น้องต้นเค้าไม่สบายมีใครดูแลบ้างครับ
คุณสมบูรณ์ ก็มีแค่น้องต้นค่ะและก็มีดิฉันเอายามาให้บ้างและก็มีลูกเขาไปซื้อให้กินบ้าง ดิฉันไม่ค่อยได้อยู่บ้านก็ทำนาอยู่นานๆ ก็เข้ามาดูทีค่ะ
พิธีกร น้องต้นตอนที่แกตัดสินใจเขียนจดหมายนี่ฉบับแรกที่ฝากส่งไปนี่เป็นฉบับแรกฉบับเดียวที่เราเขียนรึปเล่า
น้องต้น เป็นฉบับแรกค่ะ
พิธีกร เขียนฉบับเดียวและก็ส่งเลยเหรอครับ
น้องต้น ค่ะ
พิธีกร ตอนนี้อายุ 12 ปีใช่มั้ยครับตอนนี้
น้องต้น ค่ะ ใกล้ 13 แล้วค่ะ
พิธีกร เห็นว่าเป็นคนฝีมือทางด้านการเขียนหนังสือ เขียนเรียงความเรามีรางวัลอะไรบ้างจากการเขียนเรียงความ
น้องต้น ก็เขียนเรียงความเรื่องสิ่งแวดล้อมทุนของท่านนายกทักษิณ หนูก็ได้รับทุนการศึกษาค่ะ
พิธีกร ได้เยอะมั้ย
น้องต้น ได้แค่ 3,000 บาทค่ะ
พิธีกร ได้เงินแล้วเราเอามาทำอะไรบ้าง
น้องต้น ก็มาซื้อกับข้าวจ่ายค่าน้ำค่าไฟก็ซื้อเสื้อผ้าและก็ชุดนักเรียนด้วยค่ะ
พิธีกร หลังจากที่เขียนเรียงความแล้วเราก็มาเขียนจดหมายพื่อที่จะขอให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือนี่พอรู้ว่ามีคนเข้ามาช่วยแล้วน้องต้นรู้สึกอย่างไรบ้างตอนนั้น
น้องต้น ก็รู้สึกดีใจที่ทุกคนให้ความช่วยเหลือและดูแลหนูอยู่ค่ะ
พิธีกร และตอนนั้นเราได้บอกใครรึเปล่าครับ
น้องต้น ไม่ได้บอกค่ะ
พิธีกร คุณป้าทราบมั้ยคะ
คุณสมบูรณ์ ไม่รู้เลยค่ะ เห็นจดหมายมาเราก็ไม่ได้สนใจอะไรแบบเราเรียนแค่ ป.4เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องก็รู้จากคนที่เขารู้ เพราะหลานไม่เคยบอกเลยก็ไม่รู้เรื่องจนไปรษณีย์เอามาให้จึงรู้ก็บอกให้เขาเก็บให้ดีดีใจเหมือนกันค่ะ
พิธีกร ก่อนที่จะเขียนหนังสือไปก่อนที่จะมีคนยื่นมือมาช่วยคุณแม่เขามีความเป็นอยู่อย่างไร
คุณสมบูรณ์ ก็อยู่ที่นี่ลุกไปไหนไม่ได้เลยก็นั่งรอลูกกลับจากโรงเรียนทั้งวันกลางวันก็มีญาติๆ มาดูบ้าง
พิธีกร ตอนที่เราตัดสินใจเขียนจดหมายเห็นคุณแม่เป็นอย่างไรรู้มั้ยว่าเขาปเนอัมพาตรู้มั้ยว่าเขาไม่สบายปวดตรงไหนบ้าง
น้องต้น รู้ค่ะ
พิธีกร เรามาดูแลแม่แบบไหนเห็นบอกว่าต้องเรียนหนังสือด้วย
น้องต้น ก็เช้ามาหนูก็ตื่นเต้นก็เอาแม่ลุกแล้วก็ทำกับข้าวหุงข้าว แล้วก็แต่งตัวไปโรงเรียนเตรียมกับข้าวให้แม่เรียบร้อย
พิธีกร ช่วงที่ดูแลคุณแม่นานมั้ยครับ
น้องต้น ก็นานเหมือนกันค่ะ
พิธีกร เคยรู้สึกท้อบ้างมั้ย
น้องต้น ไม่ท้อค่ะ
พิธีกร และต้องกลับมาดูแลแม่ในตอนกลางวันด้วยมั้ย
น้องต้น ก็จะมาในบางครั้ง เพราะหนูต้องขายของในสหกรณ์ด้วยค่ะ
พิธีกร ช่วงที่อยู่มีค่ายารักษาพยาบาลหามายังไงครับ
น้องต้น หนูก็เบิกจากทุนการศึกษาเขียนเรียงความมาอาทิตย์ละ 100 ค่ะมาซื้อกับข้าวซื้อยาให้แม่กินค่ะ
พิธีกร คิดว่าสิ่งที่เราขอไปมันจะชวยเปลี่ยนชีวิตมั้ยหลังจากตอนนี้เริ่มมีกระแสหลายๆ คนยื่นมือเข้ามาช่วย ถ้าเรามีเงินเข้ามาตอนนี้เราจะทำอย่างไรจะทำอะไรบ้างครับ
น้องต้น ก็เอาไว้เป็นทุนการศึกษาเรียนและก็ช่วยให้แม่เดินได้ค่ะและหนูก็อยากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นค่ะ
พิธีกร ชีวิตเราเป็นอย่างนี้รู้สึกน้อยใจในโชคชะตามั้ยครับ
น้องต้น ไม่ค่ะ
พิธีกร เราเข้มแข็งพอ
น้องต้น ใช่ค่ะ
พิธีกร เคยร้องไห้ให้คุณแม่เห็นรึเปล่า
น้องต้น เคยค่ะ ก็แม่หนูเขาเดินไม่ได้และหนูก็เสียใจที่เขาจะเดินไม่ได้
พิธีกร ครับ ช่วงนี้เราพักกันสักครู่ ช่วงหน้ากลับมาคุยกันกับน้องต้นต่อครับ
พิธีกร ครับ ในช่วงนี้เรากลับมาคุยกับน้องต้นต่อนะครับ น้องต้นในแต่ละวันเราทำอะไรบ้างนอกจากดูแลแม่
น้องต้น ตอนเย็นกลับมาก็ไปตักน้ำในคลอง ถ้ามีเสื้อผ้าก็เอามาซัก ล้างชามและก็หุงข้าวค่ะ และก็อาบน้ำให้แม่ค่ะ
พิธีกร เป็นอย่างนี้ทุกวันตั้งแต่แม่สบาย แล้วเวลาที่เราไปโรงเรียนห่วงแม่บ้างมั้ย
น้องต้น ก็ห่วง แต่ไม่รู้จะทำยังไง เพราะว่าต้องขายของที่สหกรณ์
พิธีกร ขายของสหกรณ์ได้เงินเท่าไหร่
น้องต้น เดือนละ 50 บาทค่ะ
พิธีกร เอากำลังใจจากไหนใช้ชีวิต
น้องต้น แม่ค่ะ แม่บอกให้สู้ต่อไปชีวิตเรายังอีกยาวไกลอย่าท้อนะลูก
พิธีกร เรามีความฝันอย่างไรบ้างครับ
น้องต้น ก็ฝันอยากจะเรียนสูงๆ ค่ะ
พิธีกร อยากเป็นทหาร
น้องต้น ค่ะ
พิธีกร ทำไมล่ะครับ
น้องต้น ก็พ่อหนูเขาเคยเป็นทหารมาก่อนค่ะ
พิธีกร ตอนนี้เราเรียนชั้นไหนแล้ว
น้องต้น ม.1 เทอม 2 ค่ะ
พิธีกร เทอมแรกเป็นยังไงครับดีมั้ย
น้องต้น อาจารย์เค้ายังไม่บอกค่ะ
พิธีกร คุณป้าเห็นหลานดูแลแม่มานานแล้วรู้สึกเป็นอย่างไรสงสารบ้างมั้ย
คุณสมบูรณ์ ก็สงสารก็ไม่รู้จะทำอย่างไรมีอะไรก็แนะนำไป
พิธีกร เขามีเพื่อนมีชวนไปเล่นบ้างมั้ยครับ
คุณสมบูรณ์ ก็มี ถ้าเพื่อนชวนไปเที่ยว ถ้าแม่อยู่ก็ไม่ไป แต่ถ้าบอกก่อนก็จะให้ไปค่ะ ดูแล้วก็ไม่เหมือนเด็กคนอื่น
พิธีกร น้องต้นรู้สึกน้อยใจในชีวิตบ้างรึเปล่าที่เราเกิดมาเป็นอย่างนี้ครับ
น้องต้น ก็ไม่รู้สึกน้อยใจค่ะ เพราะว่าหนูมีแม่ให้กำลังใจและมีญาติๆ คอยช่วยดูแลและให้กำลังใจ
พิธีกร มีอะไรที่อยากได้บ้างมั้ยเหมือนที่คนอื่นเขามี
น้องต้น หนูก็ไม่อยากได้อะไรค่ะขอให้แม่อยู่กับหนู หนูก็ภูมิใจแล้วค่ะ ก็ขอขอบคุณ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และก็ผู้ว่าฯและก็ญาติๆ ทุกคนพวกพี่ๆ นักข่าว คุณหมอ ก็ขอให้ทุกคนมีแต่ความสุขก็ขอให้หวังสิ่งใดในวันปีใหม่นี้ก็ขอให้พบแต่สิ่งดีๆ ค่ะ
พิธีกร ครับ ตอนนี้คุณแม่น้องต้นก็ได้รับการส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล จ.พิจิตร ช่วงนี้เราไปดูกันครับ
พิธีกร และในขณะนี้เราได้มาอยู่ที่โรงพยาบาลที่คุณแม่น้องต้นรักษาตัวอยู่ คุณหมอได้บอกว่าอาการของคุณแม่เป็นอย่างไรบ้างครับ
น้องต้น ก็แม่หนูก็จะกลับมาเดินได้อีกครั้งนึง ถ้าเกิดว่าได้รับการดูแลได้รับการรักษาอย่างดีค่ะ
พิธีกร และตอนแรกที่เรารู้ว่ามีพระราชกระแสรับสั่งให้พวกที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือรู้สึกอย่างไรบ้างครับ
น้องต้น ก็ดีใจที่พระองค์ทรงเมตตาและเห็นใจแม่กับหนูค่ะ
พิธีกร แล้วบอกกับแม่ว่าอย่างไรบ้าง
น้องต้น ก็บอกกับแม่ว่าพระองค์ท่านทรงได้ช่วยเหลือเราแล้วค่ะ
พิธีกร ก่อนหน้านั้นเคยขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานไหนมั้ยครับ
น้องต้น ไม่เคยครับ
พิธีกร ก่อนหน้านั้นเป็นยังไงบ้างครับช่วงที่อยู่ที่บ้าน
คุณละเอียด แขนยกไม่ได้จ้ะมาได้อยู่ที่นี่กินยาแล้วแขนพอยกได้ค่ะ
พิธีกร ก่อนหน้านั้นดูแลรักษากันอย่างไรครับดูแลคุณแม่ยังไงที่บ้าน
น้องต้น ก็ซื้อยาตามร้านขายยาให้แม่ทาน
พิธีกร แล้วใครบอกให้ไปซื้อยาแบบไหนยังไงถามใคร
น้องต้น ไม่รู้ค่ะ ก็จะถามแม่เขาถ้าแม่เขาปวดหัวก็จะไปซื้อยาแก้ปวดค่ะ
พิธีกร เอาเงินที่ไหนครับ
น้องต้น ก็จะเบิกเงินมาอาทิตย์ละ 100 ค่ะ ทุนเขียนเรียงความของหนูค่ะ
พิธีกร แล้วมารู้เมื่อไหร่ว่าคุณแม่มีอาการหลายโรคเหลือเกิน
น้องต้น ก็เขาบอกหนูค่ะ แม่บอกว่าปวดในคอและเดินไม่ได้ค่ะ
พิธีกร ช่วงที่แม่มีอาการหนักถึงขั้นที่ว่านอนพักยาวๆ นี่นานหรือยังครับ
น้องต้น ก็นานแล้วค่ะ
พิธีกร กี่ปี
น้องต้น ประมาณ 6 – 7 เดือนค่ะ
พิธีกร จนถึงวันนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือ เพราะน้องต้นเขาเขียนฎีกาถึงนายหลวงคุณแม่รู้สึกยังไงครับ
คุณละเอียด ตอนที่รู้ๆ สึกว่าดีใจ
พิธีกร อาการอื่นๆ ครับ
คุณละเอียด ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว
พิธีกร หมอเขาต้องทำกายภาพบำบัดอะไรบ้าง
น้องต้น ก็เอาไปทำกายภาพคอยช่วยเหลือให้ทุกส่วนมันขยับได้ให้กลับมาเดินได้ค่ะ
พิธีกร ขาข้างไหนครับที่ขยับไม่ได้
คุณละเอียด ข้างซ้ายค่ะ
พิธีกร แถบนี้ทั้งแถบเลยเหรอครับที่ชา
คุณละเอียด แค่ท่อนล่างค่ะ
พิธีกร อีกข้างปกติทุกอย่างนะครับ
คุณละเอียด ค่ะ เมื่อเช้าเขาเอาลงเตียงขาไม่ก้าวเราอยากเดินแต่ขามันไม่ก้าว
พิธีกร เด็กอายุ 12 ปีดูเหมือนว่าเขาจะมีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากเด็กที่มีอายุเท่ากันคุณแม่เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างครับ
คุณละเอียด ก็สงสารลูกค่ะ เพราะแม่ทำอะไรไม่ได้แล้ว
พิธีกร ถึงวันนี้คุณแม่มีความหวังแค่ไหนที่จะกลับมาสู่ภาวะปกติ
คุณละเอียด ก็อยากหายค่ะ อยากอยู่กับลูกไปนานๆ
พิธีกร เอาล่ะครับก็ขอให้คุณแม่หายไวๆ แล้วก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติเหมือนเดิมนะครับและก็คงจะมีโอกาสได้ดูแลน้องต้นได้นะครับ
คุณละเอียด ค่ะ
พิธีกร และนี่คือเรื่องราวของวิถีชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอพยายามที่จะช่วยเหลือครอบครัวเธอและผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอเรียกว่าแม่ให้มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเวลาสำหรับคนในข่าว วันนี้หมดเวลาแล้วครับ ผมสมชัย ศรีนาครัว ลาไปก่อน สวัสดีครับ









พิธีกร สวัสดีครับ สำหรับรายการคนในข่าวในวันนี้เรามากันที่จังหวัดพิจิตรมาสัมผัสเรื่องราวของเด็กหญิงอายุ 12 ปีที่เธอบอกว่ายากจน แต่ก็ดิ้นรนช่วยให้ครอบครัวของเธอมีชิวตที่ดีขึ้นรวมทั้งคุณแม่ของเธอที่ตอนนี้ป่วยเป็นโรคอัมพาตและอีกหลายโรคที่กำลังรุมเร้า แต่เธอได้เขียนจดหมายฎีกาถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและก็ดูเหมือนว่าแสงสว่างได้นำพามาสู่ชีวิตเธอแล้ว เมื่อได้มีพระราชกระแสรับสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือมาและช่วยเหลือดูแลครอบครัวของเธอบ้านที่เห็นอยู่ข้างหลังนี้ถูกดัดแปลงมาจากยุ้งข้าวที่เพื่อนบ้านของเธอและญาติๆ ของเธอได้ช่วยกันต่อเติมให้เรื่องราวและก็ชีวิตของธอจะเป็นอย่างไรอีกสักครู่กลับมาติดตามกันที่นี่ครับ
พิธีกร ครับ และในขณะนี้ผมอยู่กับน้องต้น ด.ญ.มาลัยรัตน์ มั่นสัมฤทธิ์และคุณป้าสมบูรณ์ ปัญจศิล ซึ่งเป็นคุณป้าน้องต้นครับ สวัสดีครับ
น้องต้น สวัสดีค่ะ
พิธีกร น้องต้นรู้สึกอย่างไรบ้างครับที่รู้ว่าจดหมายของเราที่เราเขียนถึงในหลวงนั้นจะส่งถึงมือท่านเคยคิดมาก่อนมั้ย
น้องต้น ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะว่าตอนแรกที่ส่งไปหนูไม่รู้ว่าคนที่หนูฝากส่งไปเขาจะเอาไปส่งให้หนูรึเปล่าก็ยังไม่ทราบเลยค่ะ
พิธีกร คนที่เราฝากไปส่งนี่เราไม่รู้จักมาก่อนเหรอครับ
น้องต้น ไม่รู้เลยค่ะ เพราะว่าหนูกำลังไปซื้อของแล้วหนูไปเจอเขาพอดีแล้วหนูก็ถามเขาว่ามาจากไหน เขาก็บอกว่ามาจากรุงเทพฯกำลังจะกลับพอดีหนูก็เลยบอกว่าฝากจดหมายฉบับนี้ไปส่งหน่อยได้มั้ยยคะเขาก็บอกว่าได้ค่ะ
พิธีกร น้องต้น จำได้มั้ยว่าเนื้อหาในที่เราเขียนไปนี่เราเขียนว่าอย่างไร
น้องต้น ก็จำได้แค่ว่าหนูขอบ้านหลังนึงขอให้ได้เรียนสูงๆ และก็ขอให้แม่เดินได้ค่ะ
พิธีกร ระหว่างที่เราเขียนจดหมายนี่เราคิดถึงอะไรบ้าง ตอนนั้นมันมีภาระอะไรที่ทำให้เราตัดสินใจที่จะต้องเขียนจดหมาย
น้องต้น ก็หนูเห็นแม่หนูเค้าเดินไม่ได้แล้วก็ต้องอาศัยยุ้งข้าวญาติๆ เขาอยู่ขอข้าวเขากินอยู่หนูก็เลยคิดว่ามันจะเป็นภาระคนอื่นเขาหนูก็เลยตัดสินใจเขียยนจดหมายไปค่ะ
พิธีกร นานมั้ยครับที่เขียนไป
น้องต้น นานเหมือนกันค่ะ
พิธีกร ตรงนี้เป็นยุ้งข้าวปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ใช่มั้ยครับคุณป้า
คุณสมบูรณ์ เป็นยุ้งข้าว แต่ไม่มีข้าว
พิธีกร เราทำไว้ให้ 2 แม่ลูกอยู่โดยเฉพาะเลยหรือครับ
คุณสมบูรณ์ ค่ะ ทำให้อยู่กันค่ะ
พิธีกร ก่อนหน้านี้สภาพความเป็นอยู่ของคุณแม่กับน้องต้นนี่เป็นอย่างไรครับ
คุณสมบูรณ์ ก็เป็นอยู่อย่างเนี้ยไม่มีอะไรดีขึ้นเลยก็มีอะไรก็ช่วยกันค่ะ
พิธีกร คุณแม่น้องต้นเค้าไม่สบายมีใครดูแลบ้างครับ
คุณสมบูรณ์ ก็มีแค่น้องต้นค่ะและก็มีดิฉันเอายามาให้บ้างและก็มีลูกเขาไปซื้อให้กินบ้าง ดิฉันไม่ค่อยได้อยู่บ้านก็ทำนาอยู่นานๆ ก็เข้ามาดูทีค่ะ
พิธีกร น้องต้นตอนที่แกตัดสินใจเขียนจดหมายนี่ฉบับแรกที่ฝากส่งไปนี่เป็นฉบับแรกฉบับเดียวที่เราเขียนรึปเล่า
น้องต้น เป็นฉบับแรกค่ะ
พิธีกร เขียนฉบับเดียวและก็ส่งเลยเหรอครับ
น้องต้น ค่ะ
พิธีกร ตอนนี้อายุ 12 ปีใช่มั้ยครับตอนนี้
น้องต้น ค่ะ ใกล้ 13 แล้วค่ะ
พิธีกร เห็นว่าเป็นคนฝีมือทางด้านการเขียนหนังสือ เขียนเรียงความเรามีรางวัลอะไรบ้างจากการเขียนเรียงความ
น้องต้น ก็เขียนเรียงความเรื่องสิ่งแวดล้อมทุนของท่านนายกทักษิณ หนูก็ได้รับทุนการศึกษาค่ะ
พิธีกร ได้เยอะมั้ย
น้องต้น ได้แค่ 3,000 บาทค่ะ
พิธีกร ได้เงินแล้วเราเอามาทำอะไรบ้าง
น้องต้น ก็มาซื้อกับข้าวจ่ายค่าน้ำค่าไฟก็ซื้อเสื้อผ้าและก็ชุดนักเรียนด้วยค่ะ
พิธีกร หลังจากที่เขียนเรียงความแล้วเราก็มาเขียนจดหมายพื่อที่จะขอให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือนี่พอรู้ว่ามีคนเข้ามาช่วยแล้วน้องต้นรู้สึกอย่างไรบ้างตอนนั้น
น้องต้น ก็รู้สึกดีใจที่ทุกคนให้ความช่วยเหลือและดูแลหนูอยู่ค่ะ
พิธีกร และตอนนั้นเราได้บอกใครรึเปล่าครับ
น้องต้น ไม่ได้บอกค่ะ
พิธีกร คุณป้าทราบมั้ยคะ
คุณสมบูรณ์ ไม่รู้เลยค่ะ เห็นจดหมายมาเราก็ไม่ได้สนใจอะไรแบบเราเรียนแค่ ป.4เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องก็รู้จากคนที่เขารู้ เพราะหลานไม่เคยบอกเลยก็ไม่รู้เรื่องจนไปรษณีย์เอามาให้จึงรู้ก็บอกให้เขาเก็บให้ดีดีใจเหมือนกันค่ะ
พิธีกร ก่อนที่จะเขียนหนังสือไปก่อนที่จะมีคนยื่นมือมาช่วยคุณแม่เขามีความเป็นอยู่อย่างไร
คุณสมบูรณ์ ก็อยู่ที่นี่ลุกไปไหนไม่ได้เลยก็นั่งรอลูกกลับจากโรงเรียนทั้งวันกลางวันก็มีญาติๆ มาดูบ้าง
พิธีกร ตอนที่เราตัดสินใจเขียนจดหมายเห็นคุณแม่เป็นอย่างไรรู้มั้ยว่าเขาปเนอัมพาตรู้มั้ยว่าเขาไม่สบายปวดตรงไหนบ้าง
น้องต้น รู้ค่ะ
พิธีกร เรามาดูแลแม่แบบไหนเห็นบอกว่าต้องเรียนหนังสือด้วย
น้องต้น ก็เช้ามาหนูก็ตื่นเต้นก็เอาแม่ลุกแล้วก็ทำกับข้าวหุงข้าว แล้วก็แต่งตัวไปโรงเรียนเตรียมกับข้าวให้แม่เรียบร้อย
พิธีกร ช่วงที่ดูแลคุณแม่นานมั้ยครับ
น้องต้น ก็นานเหมือนกันค่ะ
พิธีกร เคยรู้สึกท้อบ้างมั้ย
น้องต้น ไม่ท้อค่ะ
พิธีกร และต้องกลับมาดูแลแม่ในตอนกลางวันด้วยมั้ย
น้องต้น ก็จะมาในบางครั้ง เพราะหนูต้องขายของในสหกรณ์ด้วยค่ะ
พิธีกร ช่วงที่อยู่มีค่ายารักษาพยาบาลหามายังไงครับ
น้องต้น หนูก็เบิกจากทุนการศึกษาเขียนเรียงความมาอาทิตย์ละ 100 ค่ะมาซื้อกับข้าวซื้อยาให้แม่กินค่ะ
พิธีกร คิดว่าสิ่งที่เราขอไปมันจะชวยเปลี่ยนชีวิตมั้ยหลังจากตอนนี้เริ่มมีกระแสหลายๆ คนยื่นมือเข้ามาช่วย ถ้าเรามีเงินเข้ามาตอนนี้เราจะทำอย่างไรจะทำอะไรบ้างครับ
น้องต้น ก็เอาไว้เป็นทุนการศึกษาเรียนและก็ช่วยให้แม่เดินได้ค่ะและหนูก็อยากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นค่ะ
พิธีกร ชีวิตเราเป็นอย่างนี้รู้สึกน้อยใจในโชคชะตามั้ยครับ
น้องต้น ไม่ค่ะ
พิธีกร เราเข้มแข็งพอ
น้องต้น ใช่ค่ะ
พิธีกร เคยร้องไห้ให้คุณแม่เห็นรึเปล่า
น้องต้น เคยค่ะ ก็แม่หนูเขาเดินไม่ได้และหนูก็เสียใจที่เขาจะเดินไม่ได้
พิธีกร ครับ ช่วงนี้เราพักกันสักครู่ ช่วงหน้ากลับมาคุยกันกับน้องต้นต่อครับ
พิธีกร ครับ ในช่วงนี้เรากลับมาคุยกับน้องต้นต่อนะครับ น้องต้นในแต่ละวันเราทำอะไรบ้างนอกจากดูแลแม่
น้องต้น ตอนเย็นกลับมาก็ไปตักน้ำในคลอง ถ้ามีเสื้อผ้าก็เอามาซัก ล้างชามและก็หุงข้าวค่ะ และก็อาบน้ำให้แม่ค่ะ
พิธีกร เป็นอย่างนี้ทุกวันตั้งแต่แม่สบาย แล้วเวลาที่เราไปโรงเรียนห่วงแม่บ้างมั้ย
น้องต้น ก็ห่วง แต่ไม่รู้จะทำยังไง เพราะว่าต้องขายของที่สหกรณ์
พิธีกร ขายของสหกรณ์ได้เงินเท่าไหร่
น้องต้น เดือนละ 50 บาทค่ะ
พิธีกร เอากำลังใจจากไหนใช้ชีวิต
น้องต้น แม่ค่ะ แม่บอกให้สู้ต่อไปชีวิตเรายังอีกยาวไกลอย่าท้อนะลูก
พิธีกร เรามีความฝันอย่างไรบ้างครับ
น้องต้น ก็ฝันอยากจะเรียนสูงๆ ค่ะ
พิธีกร อยากเป็นทหาร
น้องต้น ค่ะ
พิธีกร ทำไมล่ะครับ
น้องต้น ก็พ่อหนูเขาเคยเป็นทหารมาก่อนค่ะ
พิธีกร ตอนนี้เราเรียนชั้นไหนแล้ว
น้องต้น ม.1 เทอม 2 ค่ะ
พิธีกร เทอมแรกเป็นยังไงครับดีมั้ย
น้องต้น อาจารย์เค้ายังไม่บอกค่ะ
พิธีกร คุณป้าเห็นหลานดูแลแม่มานานแล้วรู้สึกเป็นอย่างไรสงสารบ้างมั้ย
คุณสมบูรณ์ ก็สงสารก็ไม่รู้จะทำอย่างไรมีอะไรก็แนะนำไป
พิธีกร เขามีเพื่อนมีชวนไปเล่นบ้างมั้ยครับ
คุณสมบูรณ์ ก็มี ถ้าเพื่อนชวนไปเที่ยว ถ้าแม่อยู่ก็ไม่ไป แต่ถ้าบอกก่อนก็จะให้ไปค่ะ ดูแล้วก็ไม่เหมือนเด็กคนอื่น
พิธีกร น้องต้นรู้สึกน้อยใจในชีวิตบ้างรึเปล่าที่เราเกิดมาเป็นอย่างนี้ครับ
น้องต้น ก็ไม่รู้สึกน้อยใจค่ะ เพราะว่าหนูมีแม่ให้กำลังใจและมีญาติๆ คอยช่วยดูแลและให้กำลังใจ
พิธีกร มีอะไรที่อยากได้บ้างมั้ยเหมือนที่คนอื่นเขามี
น้องต้น หนูก็ไม่อยากได้อะไรค่ะขอให้แม่อยู่กับหนู หนูก็ภูมิใจแล้วค่ะ ก็ขอขอบคุณ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และก็ผู้ว่าฯและก็ญาติๆ ทุกคนพวกพี่ๆ นักข่าว คุณหมอ ก็ขอให้ทุกคนมีแต่ความสุขก็ขอให้หวังสิ่งใดในวันปีใหม่นี้ก็ขอให้พบแต่สิ่งดีๆ ค่ะ
พิธีกร ครับ ตอนนี้คุณแม่น้องต้นก็ได้รับการส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล จ.พิจิตร ช่วงนี้เราไปดูกันครับ
พิธีกร และในขณะนี้เราได้มาอยู่ที่โรงพยาบาลที่คุณแม่น้องต้นรักษาตัวอยู่ คุณหมอได้บอกว่าอาการของคุณแม่เป็นอย่างไรบ้างครับ
น้องต้น ก็แม่หนูก็จะกลับมาเดินได้อีกครั้งนึง ถ้าเกิดว่าได้รับการดูแลได้รับการรักษาอย่างดีค่ะ
พิธีกร และตอนแรกที่เรารู้ว่ามีพระราชกระแสรับสั่งให้พวกที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือรู้สึกอย่างไรบ้างครับ
น้องต้น ก็ดีใจที่พระองค์ทรงเมตตาและเห็นใจแม่กับหนูค่ะ
พิธีกร แล้วบอกกับแม่ว่าอย่างไรบ้าง
น้องต้น ก็บอกกับแม่ว่าพระองค์ท่านทรงได้ช่วยเหลือเราแล้วค่ะ
พิธีกร ก่อนหน้านั้นเคยขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานไหนมั้ยครับ
น้องต้น ไม่เคยครับ
พิธีกร ก่อนหน้านั้นเป็นยังไงบ้างครับช่วงที่อยู่ที่บ้าน
คุณละเอียด แขนยกไม่ได้จ้ะมาได้อยู่ที่นี่กินยาแล้วแขนพอยกได้ค่ะ
พิธีกร ก่อนหน้านั้นดูแลรักษากันอย่างไรครับดูแลคุณแม่ยังไงที่บ้าน
น้องต้น ก็ซื้อยาตามร้านขายยาให้แม่ทาน
พิธีกร แล้วใครบอกให้ไปซื้อยาแบบไหนยังไงถามใคร
น้องต้น ไม่รู้ค่ะ ก็จะถามแม่เขาถ้าแม่เขาปวดหัวก็จะไปซื้อยาแก้ปวดค่ะ
พิธีกร เอาเงินที่ไหนครับ
น้องต้น ก็จะเบิกเงินมาอาทิตย์ละ 100 ค่ะ ทุนเขียนเรียงความของหนูค่ะ
พิธีกร แล้วมารู้เมื่อไหร่ว่าคุณแม่มีอาการหลายโรคเหลือเกิน
น้องต้น ก็เขาบอกหนูค่ะ แม่บอกว่าปวดในคอและเดินไม่ได้ค่ะ
พิธีกร ช่วงที่แม่มีอาการหนักถึงขั้นที่ว่านอนพักยาวๆ นี่นานหรือยังครับ
น้องต้น ก็นานแล้วค่ะ
พิธีกร กี่ปี
น้องต้น ประมาณ 6 – 7 เดือนค่ะ
พิธีกร จนถึงวันนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือ เพราะน้องต้นเขาเขียนฎีกาถึงนายหลวงคุณแม่รู้สึกยังไงครับ
คุณละเอียด ตอนที่รู้ๆ สึกว่าดีใจ
พิธีกร อาการอื่นๆ ครับ
คุณละเอียด ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว
พิธีกร หมอเขาต้องทำกายภาพบำบัดอะไรบ้าง
น้องต้น ก็เอาไปทำกายภาพคอยช่วยเหลือให้ทุกส่วนมันขยับได้ให้กลับมาเดินได้ค่ะ
พิธีกร ขาข้างไหนครับที่ขยับไม่ได้
คุณละเอียด ข้างซ้ายค่ะ
พิธีกร แถบนี้ทั้งแถบเลยเหรอครับที่ชา
คุณละเอียด แค่ท่อนล่างค่ะ
พิธีกร อีกข้างปกติทุกอย่างนะครับ
คุณละเอียด ค่ะ เมื่อเช้าเขาเอาลงเตียงขาไม่ก้าวเราอยากเดินแต่ขามันไม่ก้าว
พิธีกร เด็กอายุ 12 ปีดูเหมือนว่าเขาจะมีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากเด็กที่มีอายุเท่ากันคุณแม่เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างครับ
คุณละเอียด ก็สงสารลูกค่ะ เพราะแม่ทำอะไรไม่ได้แล้ว
พิธีกร ถึงวันนี้คุณแม่มีความหวังแค่ไหนที่จะกลับมาสู่ภาวะปกติ
คุณละเอียด ก็อยากหายค่ะ อยากอยู่กับลูกไปนานๆ
พิธีกร เอาล่ะครับก็ขอให้คุณแม่หายไวๆ แล้วก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติเหมือนเดิมนะครับและก็คงจะมีโอกาสได้ดูแลน้องต้นได้นะครับ
คุณละเอียด ค่ะ
พิธีกร และนี่คือเรื่องราวของวิถีชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอพยายามที่จะช่วยเหลือครอบครัวเธอและผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอเรียกว่าแม่ให้มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเวลาสำหรับคนในข่าว วันนี้หมดเวลาแล้วครับ ผมสมชัย ศรีนาครัว ลาไปก่อน สวัสดีครับ