xs
xsm
sm
md
lg

ความห่วยแตกของสื่อโทรทัศน์ไทย ร้ายกาจกว่าคลื่นยักษ์"สึนามิ"

เผยแพร่:   โดย: "เซี่ยงเส้าหลง" และทีมข่าวการเมือง


•• เหตุอุบัติภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในประเทศไทยครั้งนี้ให้ ข้อคิด, อุทาหรณ์ สำคัญประการหนึ่งว่าสังคมไทยโดยรวมตกอยู่ใน ความประมาท ไม่สมกับที่เป็น พุทธศาสนิกชน ทั้ง ๆ ที่ธรรมบทว่าด้วย ความไม่ประมาท เป็น ปัจฉิมโอวาท, ปัจฉิมวาจา ในพระพุทธองค์ "...วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ." แปลว่า "...สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่น ให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด." เพราะไม่ใช่ว่า ไม่เคยมีคนเตือนภัย มีข้อมูลปรากฏชัดว่าอย่างน้อย 2 ครั้งใน ปี 2536 และ ปี 2541 ไม่ใช่คนธรรมดาหากเป็น คนที่มีความเชี่ยวชาญและมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง แต่สังคมไทยส่วนใหญ่ ไม่สนใจ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องนอกจากจะ ไม่เชื่อ, ไม่รับฟัง แล้วยัง ประณามหยามเหยียด, หัวเราะเยาะ เหตุผลง่าย ๆ มีประการสำคัญที่สุดก็คือ กลัวกระทบกระเทือนรายได้จากการท่องเที่ยว พูดง่าย ๆ ว่าให้ตัวตั้งเป็น เงิน, ตัวเลข ข้อคิด-อุทธาหรณ์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ สื่อโทรโทศน์ไทยห่วยแตก นอกจากจะ ไม่ทำหน้าที่เตือนภัยสังคม แล้วเมื่อเกิดเหตุวิปโยคแห่งแผ่นดินยังไม่ได้แสดงออกซึ่ง น้ำใจ, การจัดลำดับความสำคัญ แทบทุกช่องยังคงไว้ซึ่ง ผังรายการบันเทิงตามปกติ เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า ไม่ต้องการให้สูญเสียรายได้จากการขายโฆษณา กว่าที่โทรทัศน์บางช่องจะมา ปรับตัว – เปลี่ยนแปลงผังเป็นกรณีพิเศษ เวลาก็ลุล่วงเข้า ช่วงเย็น-ค่ำ และที่ ซื่อสัตย์มั่นคงในอุดมการณ์หน้าเลือด ก็คือ ช่อง 7 ไม่ปรับไม่เปลี่ยนอะไรทั้งนั้น “เซี่ยงเส้าหลง” ว่าข้อคิด-อุทาหรณ์ 2 ประการนี้ ร้ายแรงกว่าคลื่นยักษ์สึนามิ เสียอีกเพราะมันทำหน้าที่ ฆ่าคนไทย ให้ ตายผ่อนส่ง (หรือถ้า ไม่ตาย ก็จะ ตกเป็นทาสชั่วชีวิต) อันตรายกว่าคลื่นยักษ์ตรงที่มัน แฝงเร้น, มองไม่เห็น นั่นเอง

•• อันที่จริง คำเตือน ของอดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา สมิทธิ ธรรมสโรช เมื่อ ปี 2536 และโดยเฉพาะ ปี 2541 อยู่ในหนทาง กระแสหลัก, วิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ กระแสรอง, ธรรมะ แต่ก็มิวายที่จะถูก ประณามหยามเหยียด มิพักต้องพูดถึง คำเตือน หลากหลายเรื่องราวจากผู้คนในหมู่คณะ ผู้จัดการรายวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง SARS, ไข้หวัดนก, เศรษฐกิจพอเพียง, การกินการอยู่ และ ฯลฯ ที่อยู่ในหนทาง ภูมิปัญญาตะวันออก ทั้งหลาย

•• ดังขึ้นมาคู่กับ สมิทธิ ธรรมสโรช ครั้งนี้เหมือนกันก็คือ จเด็จ ดินสว่าง – เลขาธิการพรรคมหาชน แต่เป็นใน หนทางตรงข้าม คือ แง่ลบ ในฐานะที่เมื่อสมัยเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มีพฤติกรรม รักษาหน้าตาของจังหวัดภูเก็ตในทางที่ผิด คือเมื่อมีผู้เชี่ยวชาญ เตือนภัยที่อาจเกิดขึ้น แทนที่จะ สนองรับ, จัดทำแผน กลับประณามหยามเหยียดว่าเขา เพ้อเจ้อ, พูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แถมประกาศว่า ชาวภูเก็ตจะไม่ต้อนรับ อีกต่างหาก

•• พูดก็พูดเถอะ ชะตากรรม ที่เกิดขึ้น สมิทธิ ธรรมสโรช เมื่อ ปี 2541 ทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญใน กรมอุตุนิยมวิทยา (และในบางกรณีรวมทั้งใน กรมทรัพยากรธรณี) ต่าง เก็บรับเป็นบทเรียน ถ้า ไม่แน่ใจ 100 % แล้วจะ ไม่พูด, ไม่เตือน เพราะเกรงว่าถ้าสิ่งที่เตือนภัยไปนั้น ไม่เกิดขึ้นจริง จะ ถูกด่า, หมดอนาคตในชีวิตราชการ ดีไม่ดีอาจถูกตั้งข้อหาว่า ทำลายการท่องเที่ยว สถานการณ์พื้นฐานเช่นนี้หาก ไม่มีภัยพิบัติเกิดขึ้น ก็ ไม่มีปัญหา แต่กับเหตุการณ์เมื่อ เช้าวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เกิดปัญหาขึ้นมาเพราะผู้รับผิดชอบโดยตรง ไม่กล้าเสี่ยง ที่จะ พูด, เตือน ทั้ง ๆ ที่ต่อให้ตัดสินใจ เสี่ยง ที่จะ พูด, เตือน ก็ไม่รู้ว่าจะได้รับความร่วมมือ สานต่อ จาก สื่อวิทยุ, สื่อโทรทัศน์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง จังหวัดเจ้าของพื้นที่ สมมติฐานประการหลังนี้ สมศักดิ์ โพธิสัตย์ – อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เจอมาแล้วเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. – วันที่ 26 ธันวาคม 2547 หลังจาก เสนอ ให้ โทรทัศน์ช่องหนึ่ง สื่อข้อความ เตือนภัย เป็น ตัววิ่ง แต่เจ้าหน้าที่ ไม่ดำเนินการ เหตุผลก็คงผสมผสานกันระหว่าง ไม่เชื่อ กับ ไม่กล้า นั่นแหละ

•• โลกยุคใหม่ยุคที่ ธรรมชาติถูกทำลายจนเสียสมดุล ปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดก็เกิดขึ้นได้ ประเทศไทย ที่เคยคิดเคยเชื่อกันมานานแสนนานว่า โชคดี ที่ไม่อยู่ใน เขตภัยธรรมชาติร้ายแรง ระดับ แผ่นดินไหว, ภูเขาไฟระเบิด มีแต่แค่ น้ำท่วม, แห้งแล้ง หรือนานทีปีหนก็แค่ พายุ ถึงเวลาแล้วที่จะต้อง ทบทวนใหม่ โดยเฉพาะในส่วนของ แผ่นดินไหว ที่ระยะหลัง ๆ เกิดขึ้นบ่อย เพียงแต่ยังคง ไม่รุนแรง เท่านั้น

•• อย่าว่าแต่ ภัยธรรมชาติ ยังมี ภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ ปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดก็เกิดขึ้นได้ ประเทศไทย ที่เคยคิดเคยเชื่อกันมานานแสนนานว่า โชคดี ที่ไม่มีปัญหา ชนกลุ่มน้อย, สงครามชาติพันธุ์ จนถึงวันนี้ก็ได้ เกิดขึ้น แล้วที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่การแก้ไขปัญหายังไม่มีวี่แววว่าจะ เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เลย

•• ผู้คนสมัยใหม่ยึดมั่นใน วิทยาศาสตร์ จนลืม ธรรมชาติ โดยเฉพาะในกรณีนี้คือ สัญญาณเตือนภัยจากธรรมชาติ ที่ทำให้ผู้คนในอดีต บรรเทาความสูญเสีย หนึ่งในสัญญาณที่ว่านี้คือ สัญชาติญาณของสัตว์ ที่เสมือน รู้ตัวล่วงหน้าก่อนภัยมา ซึ่งก็อยู่ที่ว่ามนุษย์จะ ตีความรหัสผ่าน ได้มากน้อยแค่ไหน “เซี่ยงเส้าหลง” ย้อนดูข่าวที่เป็น ปรากฏการณ์ประหลาด จาก สัตว์ ในช่วงใกล้ ๆ นี้ที่อาจจะเกี่ยวข้องกันก็อย่างเช่น ปลาน้ำลึกขนาดใหญ่อพยพหนีตาย จากท้องน้ำบริเวณ เกาะสุมาตรา – อินโดนีเซีย เข้ามาบริเวณท้องน้ำ ใกล้ชายฝั่งตะวันตกของภาคใต้ - ประเทศไทย ตั้งแต่ประมาณ ปี 2545 เรื่อยมาจนถึง ปี 2547 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ ปลาโลมาและปลาวาฬ 168 ตัวเกยตื้นที่ชายหาดของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เมื่อ วันที่ 29 – 30 พฤศจิกายน 2547 ขณะที่ในช่วงเวลาใกล้ ๆ กันในที่เดียวกันนั้นก็มี การอพยพ ของ ฝูงปลาแมคเคอเรล ใช่หรือไม่ว่าเพราะสัตว์เหล่านี้มี สัญชาติญาณบอกเหตุพิเศษ ถึง ความผิดปกติที่จะเกิดขึ้นกับบริเวณพื้นน้ำที่เคยอาศัยอยู่ ซึ่งก็ไม่ต่างกับปรากฏการณ์ของสัตว์หลายชนิดที่มนุษย์ตั้งแต่ยุคโบราณยอมรับกันแล้วว่าเป็น สัญญาณของปรากฏการณ์ธรรมชาติ อาทิ มดขนไข่, งูหนีไปริมน้ำ, ไส้เดือนชำแรกขึ้นมาบนแผ่นดิน และ ฯลฯ ที่เป็นสัญญาณของปรากฏการณ์ทั่วไปอย่าง ฝนตก, น้ำท่วม, ดินแล้ง, ไฟป่า และ ฯลฯ เพียงแต่ปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ในรอบ 2 – 3 ปีมานี้เป็น สัญญาณเตือนภัย ถึง ภัยประเภทใหม่ ชนิดที่ ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงสมควรที่มนุษย์โดยทั่วไปจะต้อง ไม่ดูเบา เพราะนี่คือ วิธีการที่ง่ายที่สุด-ถูกสตางค์ที่สุด สมควรที่จะพัฒนาขึ้นมาให้เป็น ภูมิปัญญาชาวบ้าน ในอนาคต

•• ย้ำอีกครั้ง พรุ่งนี้ – วันพุธที่ 29 ธันวาคม 2547 เป็นวันมงคล หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จะมาเทศนาที่ บ้านพระอาทิตย์ ในเวลาประมาณ 15.00 น. ขอเชิญทุกท่านมา ทำบุญร่วมกัน ได้



กำลังโหลดความคิดเห็น