•• การหาเสียงเลือกตั้งไม่ว่าครั้งไหน ๆ นี่ก็ดีไปอย่างที่ผู้คนทั่วไปได้เห็น วงศ์วานว่านเครือ ของ นักการเมือง อย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมัยที่เดินทาง 2 แสนกิโลเมตรนั้นก็ได้รู้กันแล้วว่ามีเชื้อสายทั้งทาง เจ้านายฝ่ายไทย, เจ้านายฝ่ายลาว และ สุลต่านสุไลมาน – ทางใต้ ล่าสุดกับการไปปราศรัยหาเสียงที่ ตราด, จันทบุรี เมื่อวานซืนนี้ก็เป็นครั้งแรก ๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อ้อนขอให้ชาวภาคตะวันออก เลือกผู้สมัครของพรรคไทยรักไทยทั้งจังหวัดเพราะ “...ปู่ของผมเกิดที่นี่ ก่อนจะอพยพไปอยู่ที่สันกำแพง.” เป็นเรื่องจริงที่คนทั่วไปไม่ค่อยจะรู้
•• บรรพบุรุษรุ่นแรกในแผ่นดินไทยของ ตระกูลชินวัตร ซึ่งก็คือ ทวด ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นเป็น ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ชื่อ คูชุนเส็ง หรือ นายอากรเส็ง ล่องเรือมาขึ้นฝั่งแผ่นดินไทยที่ จังหวัดจันทบุรี ในรัชสมัย รัชกาลที่ 5 ประมาณ พ.ศ. 2451 ค้าขายหลายชนิดรวมทั้งรับช่วงจากราชการเป็น นายอากร หรือที่เรียกกันว่า นายอากรบ่อนเบี้ย แต่งงานกับสาวไทยนาม ทองดี มีบุตรธิดารวม 12 คน คนหนึ่งคือ เชียง ชินวัตร นี่แหละที่ตัดสินใจ ล่องเรือขึ้นไปแสวงโชคที่เชียงใหม่ โดยขึ้นไปประมูลฐานภาพนายอากรที่ อำเภอแม่ริม, อำเภอสันทราย และ อำเภอดอยสะเก็ด ก่อนจะตั้งรกรากที่ บ้านกาด อำเภอสันกำแพง โดยแต่งงานกับ แสง สมณะ มีบุตรธิดารวม 12 คน พร้อม ๆ กับลงหลักปักฐานใน ธุรกิจผ้าไหมไทย นาม ชินวัตรไหมไทย บุตรคนที่ 4 ของท่านคือ เลิศ ชินวัตร เป็นคนที่กล่าวได้ว่า คิดนอกกรอบ, ไม่จมอยู่กับความเคยชินเดิม – ชอบคิดและทำในสิ่งใหม่ ๆ หลังแต่งงานกับ ยินดี ระมิงวงศ์ นอกจากเริ่มแตกไลน์ธุรกิจออกมาเป็น ร้านขายกาแฟทันสมัยในยุคนั้น รวมทั้งเข้าสู่ ธุรกิจอื่น ไม่ว่าจะเป็น โรงภาพยนตร์, กิจการรถเมล์, กัมประโดธนาคาร, สวนส้ม และ ฯลฯ ชนิดที่สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้างแต่ไม่เคยท้อถอยและหยุดนิ่งจนได้สมญาว่า แมวเก้าชีวิต แล้วยังก้าวสู่ การเมือง ด้วยการเป็น ส.ส.เชียงใหม่ ในการเลือกตั้งเมื่อ พ.ศ. 2512 ท่านผู้นี้แหละคือ บิดา ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงไม่น่าแปลกใจหากในการทัวร์พื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 มักจะ ชงกาแฟด้วยความชำนาญ เพราะเคยทำมาสารพัดแม้กระทั่ง ขับรถเมล์ เช่นเดียวกับความเป็นคน คิดนอกกรอบ ที่น่าจะได้มรดกมาจาก เลิศ ชินวัตร ด้วย
•• ในบริบทของ เชียงใหม่ พ.ศ. 2480 - 2500 หากเปรียบเทียบ ชินวัตร กับตระกูลคหบดีอื่น ๆ ใน เชียงใหม่ อย่างเช่น ชุติมา – นิมมานเหมินท์ ตระกูลของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันก็เป็น เศรษฐีใหม่, ทุนใหม่ ในยุคนั้นไม่ว่าจะพิจารณาจากรุ่นปู่ เชียง ชินวัตร หรือรุ่นพ่อ เลิศ ชินวัตร ก็ตาม
•• เพราะบรรพบุรุษของตระกูล ชุติมา – นิมมานเหมินท์ คือ หลวงอนุสารสุนทร (สุ้นฮี้ ชัวย่งเสง หรือสุ้นฮี้ แซ่ฉั่ว) นั้นเป็นคหบดีระดับมหาเศรษฐีในพื้นที่ภาคเหนือมา หลายชั่วอายุคน สามารถไล่สาแหรกขึ้นไปได้ถึง รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่มีประวัติว่าบรรพชนฝ่ายมารดาของคุณหลวงนั้นเกิดในสกุล แซ่แต้ ซึ่งถือว่าเป็นพระญาติวงศ์ฝ่ายบิดาของพระองค์ นายอากรไหฮอง แซ่แต้ และเส้นทางชีวิตจากธุรกิจสู่การเมืองของ ตระกูลนิมมานเหมินท์ ก็สัมพันธ์กับ เจ้านายในกรุงเทพ, อำนาจรัฐส่วนกลาง และ ภาคราชการ รวม ทั้ง วัฒนธรรมไทยภาคกลาง, วัฒนธรรมไทยล้านนา อย่าง แนบแน่น จึงแม้จะมี เชื้อจีนเหมือนกัน แต่ก็ทำให้ทายาทรุ่นหลังที่เป็นดาวเด่นของจังหวัดเชียงใหม่อย่าง ธารินทร์ นิมมานเหมินท์ (ผู้เป็น หลานทวด ของ หลวงอนุสารสุนทร) มีวิถีที่ แตกต่าง กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มากพอสมควร ทางเลือกทางการเมือง ของคนแรกจึงเป็น พรรคประชาธิปัตย์ ที่มี วิถีใกล้เคียงกัน ขณะที่คนหลังมีวิธีที่โลดโผนพิสดารกว่าเริ่มจาก เทคโอเวอร์พรรคพลังธรรม และ ฯลฯ เป็นต้นมา
•• ที่เขียนมานี้ถือว่าเป็น เรื่องเล่าวันสุดสัปดาห์ ก็แล้วกันนะ “เซี่ยงเส้าหลง” ชอบ อ่านคนผ่านความเป็นมาของเขา ก็เท่านั้น
•• ส่งท้ายด้วยเทศนากัณฑ์ล่าสุดของ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เมื่อเช้าวานนี้เรื่อง เห็นประชาชนคนทั้งแผ่นดินเป็นอะไร ? นุ่มนวลแต่หนักหน่วง “เซี่ยงเส้าหลง” ขอคัดเฉพาะช่วงท้าย ๆ มาให้อ่านกัน “...ตั้งกฎเกณฑ์ข้อนั้นมา ตั้งกฎเกณฑ์ข้อนี้มา มาบังคับบัญชาประชาชนคนทั้งแผ่นดิน เหมือนว่าประชาชนคนทั้งแผ่นดินเป็นหมากันทั้งหมด เป็นคน ๆ เดียวที่มีอำนาจใหญ่โตเหนือเมฆเหนือหมอก เหนือฟ้าเหนือแผ่นดิน คนเดียว เวลานี้เสียงเด่นอยู่คนเดียว แต่เรายังไม่ระบุชื่อ ตัวนี้ละตัวสำคัญมากที่เป็นจอมทำลายชาติ ทำลายศาสนา ทำลายพระมหากษัตริย์ ก็คือตัวนี้เองเป็นตัวใหญ่ที่สุดเวลานี้ กำลังเสกสรรเจ้าของขึ้นเป็นตัวใหญ่ แต่คนทั้งประเทศเขาจะเสกหรือเขาจะเหยียบลงก็ไม่รู้ เขาอยู่เงียบ ๆ ว่าเขาไม่มีหูมีตาเขาไม่มีใจ เขามีทุกคน ไม่มีแต่ตัวคนเดียวที่กำลังพองตัวอยู่เหมือนอึ่งอ่างนี่แหละ ตัวนี้ตัวสำคัญ ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อยู่กับตัวนี้ทั้งนั้น เป็นผู้กุมอำนาจป่า ๆ เถื่อน ๆ ไว้ เวลานี้พองตัว เดี๋ยวนี้รู้ตัวแล้วยังก็ไม่ทราบนะ หรือยังพองต่อไปอีกก็ไม่รู้ จะเอาจนกระทั่งท้องระเบิด จะรู้ตัวแล้วยังก็ไม่รู้ มันตายไปแล้วก็ไม่รู้ตัวอีก.” ไม่รู้ว่าก่อนถึงวันเลือกตั้งท่านจะ ระบุชื่อ หรือไม่ ญาติโยมทั้งหลาย คงเฝ้ารอด้วยใจระทึกยิ่ง
•• และก็อย่าไป คิดมาก, ตีความมาก ที่ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จะมาแสดงธรรมเทศนาที่ สำนักงานกลุ่มผู้จัดการ บริเวณ บ้านพระอาทิตย์ ถนนพระอาทิตย์ ในวันพุธหน้า วันที่ 29 ธันวาคม 2547 เพราะเป็น ปกติประเพณี ที่หลวงตาท่าน รับนิมนต์มาทุกปี เพื่อแสดงธรรมและให้พรเนื่องในโอกาส ขึ้นปีใหม่ ท่านผู้ใดสนใจจะ ร่วมบุญ ก็เชิญได้
•• เพราะใคร ๆ ก็พอจะรู้ว่า สนธิ ลิ้มทองกุล – ผู้ก่อตั้งกลุ่มผู้จัดการ นั้นเป็น ศิษย์ฆราวาส ของพระเกจิอาจารย์อยู่อย่างน้อย 3 รูป คือ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) – วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี, พระครูปภัศรคุณ (หลวงปู่ญา) – วัดป่าสามัคคีศิริพัฒนาราม(กุดโทนทัน) อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู และ พระสุวิทย์ ธีรธัมโม (หลวงปู่พุทธอิสระ) – วัดอ้อน้อย(ธรรมอิสระ) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ทุกรูปล้วนมาโปรดสัตว์ที่ บ้านพระอาทิตย์ ตามโอกาสอันควรเสมอ ๆ
•• คืนนี้ วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2547 เวลาเดิม 22.00 – 23.00 น. ที่เดิม โมเดิร์นไนน์ 9 อ.ส.ม.ท. อย่าลืมเปิดชม สนธิ ลิ้มทองกุล วิเคราะห์การเมืองไทยในมุมมองที่อาจจะไม่เหมือนใครโดยเฉพาะ ผลการเลือกตั้ง 6 กุมภาพันธ์ 2548 ลูกค้าของ ผู้จัดการ, ไทยเดย์ดอทคอม ที่มีโอกาสไปฟัง เมืองไทยรายสัปดาห์ภาคพิเศษ ในงาน Thank You Party & Happy New Year by Manager – Thaiday.com เมื่อวานซืนนี้ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เต็มอิ่มอย่างยิ่ง คงจะต้องรอติดตาม เมืองไทยรายสัปดาห์ภาคปกติ ในคืนวันนี้อย่างแน่นอน
•• บรรพบุรุษรุ่นแรกในแผ่นดินไทยของ ตระกูลชินวัตร ซึ่งก็คือ ทวด ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นเป็น ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ชื่อ คูชุนเส็ง หรือ นายอากรเส็ง ล่องเรือมาขึ้นฝั่งแผ่นดินไทยที่ จังหวัดจันทบุรี ในรัชสมัย รัชกาลที่ 5 ประมาณ พ.ศ. 2451 ค้าขายหลายชนิดรวมทั้งรับช่วงจากราชการเป็น นายอากร หรือที่เรียกกันว่า นายอากรบ่อนเบี้ย แต่งงานกับสาวไทยนาม ทองดี มีบุตรธิดารวม 12 คน คนหนึ่งคือ เชียง ชินวัตร นี่แหละที่ตัดสินใจ ล่องเรือขึ้นไปแสวงโชคที่เชียงใหม่ โดยขึ้นไปประมูลฐานภาพนายอากรที่ อำเภอแม่ริม, อำเภอสันทราย และ อำเภอดอยสะเก็ด ก่อนจะตั้งรกรากที่ บ้านกาด อำเภอสันกำแพง โดยแต่งงานกับ แสง สมณะ มีบุตรธิดารวม 12 คน พร้อม ๆ กับลงหลักปักฐานใน ธุรกิจผ้าไหมไทย นาม ชินวัตรไหมไทย บุตรคนที่ 4 ของท่านคือ เลิศ ชินวัตร เป็นคนที่กล่าวได้ว่า คิดนอกกรอบ, ไม่จมอยู่กับความเคยชินเดิม – ชอบคิดและทำในสิ่งใหม่ ๆ หลังแต่งงานกับ ยินดี ระมิงวงศ์ นอกจากเริ่มแตกไลน์ธุรกิจออกมาเป็น ร้านขายกาแฟทันสมัยในยุคนั้น รวมทั้งเข้าสู่ ธุรกิจอื่น ไม่ว่าจะเป็น โรงภาพยนตร์, กิจการรถเมล์, กัมประโดธนาคาร, สวนส้ม และ ฯลฯ ชนิดที่สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้างแต่ไม่เคยท้อถอยและหยุดนิ่งจนได้สมญาว่า แมวเก้าชีวิต แล้วยังก้าวสู่ การเมือง ด้วยการเป็น ส.ส.เชียงใหม่ ในการเลือกตั้งเมื่อ พ.ศ. 2512 ท่านผู้นี้แหละคือ บิดา ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงไม่น่าแปลกใจหากในการทัวร์พื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 มักจะ ชงกาแฟด้วยความชำนาญ เพราะเคยทำมาสารพัดแม้กระทั่ง ขับรถเมล์ เช่นเดียวกับความเป็นคน คิดนอกกรอบ ที่น่าจะได้มรดกมาจาก เลิศ ชินวัตร ด้วย
•• ในบริบทของ เชียงใหม่ พ.ศ. 2480 - 2500 หากเปรียบเทียบ ชินวัตร กับตระกูลคหบดีอื่น ๆ ใน เชียงใหม่ อย่างเช่น ชุติมา – นิมมานเหมินท์ ตระกูลของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันก็เป็น เศรษฐีใหม่, ทุนใหม่ ในยุคนั้นไม่ว่าจะพิจารณาจากรุ่นปู่ เชียง ชินวัตร หรือรุ่นพ่อ เลิศ ชินวัตร ก็ตาม
•• เพราะบรรพบุรุษของตระกูล ชุติมา – นิมมานเหมินท์ คือ หลวงอนุสารสุนทร (สุ้นฮี้ ชัวย่งเสง หรือสุ้นฮี้ แซ่ฉั่ว) นั้นเป็นคหบดีระดับมหาเศรษฐีในพื้นที่ภาคเหนือมา หลายชั่วอายุคน สามารถไล่สาแหรกขึ้นไปได้ถึง รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่มีประวัติว่าบรรพชนฝ่ายมารดาของคุณหลวงนั้นเกิดในสกุล แซ่แต้ ซึ่งถือว่าเป็นพระญาติวงศ์ฝ่ายบิดาของพระองค์ นายอากรไหฮอง แซ่แต้ และเส้นทางชีวิตจากธุรกิจสู่การเมืองของ ตระกูลนิมมานเหมินท์ ก็สัมพันธ์กับ เจ้านายในกรุงเทพ, อำนาจรัฐส่วนกลาง และ ภาคราชการ รวม ทั้ง วัฒนธรรมไทยภาคกลาง, วัฒนธรรมไทยล้านนา อย่าง แนบแน่น จึงแม้จะมี เชื้อจีนเหมือนกัน แต่ก็ทำให้ทายาทรุ่นหลังที่เป็นดาวเด่นของจังหวัดเชียงใหม่อย่าง ธารินทร์ นิมมานเหมินท์ (ผู้เป็น หลานทวด ของ หลวงอนุสารสุนทร) มีวิถีที่ แตกต่าง กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มากพอสมควร ทางเลือกทางการเมือง ของคนแรกจึงเป็น พรรคประชาธิปัตย์ ที่มี วิถีใกล้เคียงกัน ขณะที่คนหลังมีวิธีที่โลดโผนพิสดารกว่าเริ่มจาก เทคโอเวอร์พรรคพลังธรรม และ ฯลฯ เป็นต้นมา
•• ที่เขียนมานี้ถือว่าเป็น เรื่องเล่าวันสุดสัปดาห์ ก็แล้วกันนะ “เซี่ยงเส้าหลง” ชอบ อ่านคนผ่านความเป็นมาของเขา ก็เท่านั้น
•• ส่งท้ายด้วยเทศนากัณฑ์ล่าสุดของ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เมื่อเช้าวานนี้เรื่อง เห็นประชาชนคนทั้งแผ่นดินเป็นอะไร ? นุ่มนวลแต่หนักหน่วง “เซี่ยงเส้าหลง” ขอคัดเฉพาะช่วงท้าย ๆ มาให้อ่านกัน “...ตั้งกฎเกณฑ์ข้อนั้นมา ตั้งกฎเกณฑ์ข้อนี้มา มาบังคับบัญชาประชาชนคนทั้งแผ่นดิน เหมือนว่าประชาชนคนทั้งแผ่นดินเป็นหมากันทั้งหมด เป็นคน ๆ เดียวที่มีอำนาจใหญ่โตเหนือเมฆเหนือหมอก เหนือฟ้าเหนือแผ่นดิน คนเดียว เวลานี้เสียงเด่นอยู่คนเดียว แต่เรายังไม่ระบุชื่อ ตัวนี้ละตัวสำคัญมากที่เป็นจอมทำลายชาติ ทำลายศาสนา ทำลายพระมหากษัตริย์ ก็คือตัวนี้เองเป็นตัวใหญ่ที่สุดเวลานี้ กำลังเสกสรรเจ้าของขึ้นเป็นตัวใหญ่ แต่คนทั้งประเทศเขาจะเสกหรือเขาจะเหยียบลงก็ไม่รู้ เขาอยู่เงียบ ๆ ว่าเขาไม่มีหูมีตาเขาไม่มีใจ เขามีทุกคน ไม่มีแต่ตัวคนเดียวที่กำลังพองตัวอยู่เหมือนอึ่งอ่างนี่แหละ ตัวนี้ตัวสำคัญ ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อยู่กับตัวนี้ทั้งนั้น เป็นผู้กุมอำนาจป่า ๆ เถื่อน ๆ ไว้ เวลานี้พองตัว เดี๋ยวนี้รู้ตัวแล้วยังก็ไม่ทราบนะ หรือยังพองต่อไปอีกก็ไม่รู้ จะเอาจนกระทั่งท้องระเบิด จะรู้ตัวแล้วยังก็ไม่รู้ มันตายไปแล้วก็ไม่รู้ตัวอีก.” ไม่รู้ว่าก่อนถึงวันเลือกตั้งท่านจะ ระบุชื่อ หรือไม่ ญาติโยมทั้งหลาย คงเฝ้ารอด้วยใจระทึกยิ่ง
•• และก็อย่าไป คิดมาก, ตีความมาก ที่ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จะมาแสดงธรรมเทศนาที่ สำนักงานกลุ่มผู้จัดการ บริเวณ บ้านพระอาทิตย์ ถนนพระอาทิตย์ ในวันพุธหน้า วันที่ 29 ธันวาคม 2547 เพราะเป็น ปกติประเพณี ที่หลวงตาท่าน รับนิมนต์มาทุกปี เพื่อแสดงธรรมและให้พรเนื่องในโอกาส ขึ้นปีใหม่ ท่านผู้ใดสนใจจะ ร่วมบุญ ก็เชิญได้
•• เพราะใคร ๆ ก็พอจะรู้ว่า สนธิ ลิ้มทองกุล – ผู้ก่อตั้งกลุ่มผู้จัดการ นั้นเป็น ศิษย์ฆราวาส ของพระเกจิอาจารย์อยู่อย่างน้อย 3 รูป คือ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) – วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี, พระครูปภัศรคุณ (หลวงปู่ญา) – วัดป่าสามัคคีศิริพัฒนาราม(กุดโทนทัน) อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู และ พระสุวิทย์ ธีรธัมโม (หลวงปู่พุทธอิสระ) – วัดอ้อน้อย(ธรรมอิสระ) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ทุกรูปล้วนมาโปรดสัตว์ที่ บ้านพระอาทิตย์ ตามโอกาสอันควรเสมอ ๆ
•• คืนนี้ วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2547 เวลาเดิม 22.00 – 23.00 น. ที่เดิม โมเดิร์นไนน์ 9 อ.ส.ม.ท. อย่าลืมเปิดชม สนธิ ลิ้มทองกุล วิเคราะห์การเมืองไทยในมุมมองที่อาจจะไม่เหมือนใครโดยเฉพาะ ผลการเลือกตั้ง 6 กุมภาพันธ์ 2548 ลูกค้าของ ผู้จัดการ, ไทยเดย์ดอทคอม ที่มีโอกาสไปฟัง เมืองไทยรายสัปดาห์ภาคพิเศษ ในงาน Thank You Party & Happy New Year by Manager – Thaiday.com เมื่อวานซืนนี้ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เต็มอิ่มอย่างยิ่ง คงจะต้องรอติดตาม เมืองไทยรายสัปดาห์ภาคปกติ ในคืนวันนี้อย่างแน่นอน