•• สืบเนื่องจากที่เขียนไป เมื่อวานนี้ ว่าในบรรดา นักเรียนเก่าอ๊อกฟอร์ด – ทายาทกลุ่มอำนาจเก่า ที่เป็น ขุนพลรุ่นใหม่ ของ พรรคประชาธิปัตย์ 2548 ที่ “เซี่ยงเส้าหลง” บอกว่านอกจากรู้จักมักคุ้นกันมาแต่ชั้นบรรพบุรุษแล้วยังมีบางคนที่ มีศักดิ์เป็นญาติกัน มีผู้อ่านบางท่านอีเมล์เข้ามาขอให้ ขยายความ ก็ขอตอบ ณ ที่นี้ว่าเป็น ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ที่มีศักดิ์เป็น ลุง ของ ม.ล.อภิมงคล โสณกุล รายละเอียดก็สืบโยงไปถึง สมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เจ้าของ วังบางขุนพรหม พระองค์ท่านทรงเป็น บิดา ของ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าสุขุมาภินันท์ (ที่เป็น บิดา ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร) กับ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจุไรรัตน์ศิริมาน (ที่เป็น มารดา ของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล) เป็น ปู่ ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร และเป็น ตา ของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หรือเท่ากับ ทวด ของ ม.ล.อภิมงคล โสณกุล ดังนั้นถือกันตาม ศักดิ์ แล้ว ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร จึงมีศักดิ์เป็น พี่ ของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล และมีศักดิ์เป็น ลุง ของ ม.ล.อภิมงคล โสณกุล การส่งมอบฐานภาพ ผู้สมัครส.ส.กทม.เขต 6 ให้แก่กันจึงเป็นเรื่องน่าติดตามว่า หลาน จะสืบทอดเจตนารมณ์ของ ลุง ได้หรือไม่อย่างไรในการสอบผ่านเป็น ส.ส.เขต 6 ในเมื่อคู่ต่อสู้ก็นับว่าสมน้ำสมเนื้อเพราะ อรทัย ฐานะจาโร (ธิดาของ เสี่ยส่ง กาญจนชูศักดิ์ สะใภ้ของ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร) แห่ง พรรคไทยรักไทย นั้นก็มีทั้งบุคลิกภาพและภูมิหลังสมเป็นตัวแทนหรือสัญลักษณ์ของ กลุ่มอำนาจใหม่ การต่อสู้กันภายใต้กติการะบอบประชาธิปไตยระหว่าง ทุนเก่า – เชื้อพระวงศ์ผู้สูงศักดิ์ กับ ทุนใหม่ – ลูกสาวพ่อค้าแป้งมันสะใภ้นายพล คู่นี้น่าสนุก
•• พูดถึง วังบางขุนพรหม ก็ให้นึก วังเทวะเวสม์ ของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ ที่อยู่คู่กัน “เซี่ยงเส้าหลง” สงสัยว่าไม่รู้ว่าในอนาคต พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเปลี่ยนใจนำราชรถไปเกย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล – หลานปู่ของสมเด็จฯ หรือไม่ก็ บัณฑูร ล่ำซำ มาเป็น ขุนพล ด้วยหรือเปล่า
•• แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ นักเรียนเก่าอ๊อกฟอร์ด ขุนพลรุ่นใหม่ของ พรรคประชาธิปัตย์ 2548 ยังมี นักเรียนเก่าเทคนิคไทย-เยอรมัน กับเขาด้วยคนหนึ่ง ประพันธ์ คูณมี ที่ลงสู้ใน เขตบางซื่อ ท้าชิงกับ ลลิตา ฤกษ์สำราญ ส.ส.หลายสมัยที่วันนี้สวมเสื้อ พรรคไทยรักไทย ไงล่ะ
•• นี่ก็เป็นอีกเขตหนึ่งที่น่าสนใจเพราะ ประพันธ์ คูณมี คนนี้เป็นหนึ่งใน นักยุทธวิธี ที่เข้าสู่วงการต่อสู้ทางการเมืองจากการเป็นคนไว้วางใจของ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ หนึ่งใน สุดยอดนักการข่าวยุคสงครามเย็น คนคู่นี้มาเดินร่วมทางกันได้ กว่า 10 ปี นับเป็นเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจของยุทธจักรการเมืองไทยประการหนึ่งที่ (อดีต)สหายสงคราม ผู้บัญชาการกองร้อยทหารปลดแอกประชาชนไทย เขตงาน 196 ภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ (เขตงานเดียวของ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่สร้างขึ้นมาโดยตรงโดย กลุ่มนักศึกษา ที่เคยอยู่ร่วมกันในนาม สหพันธ์นักศึกษาเสรีแห่งประเทศไทย) มาเป็นคู่หู 2 ป.ป่วนเมือง กับเจ้าของสมญา ซีไอเอเมืองไทย ภูมิหลังก็เพราะสมัยที่ฝ่ายแรกออกจากป่ากลับมาเรียนต่อที่ นิติศาสตร์รามคำแหง, เนติบัณฑิตไทยสมัยที่ 37 ได้มีโอกาสเป็น ศิษย์ ของ พิศิษฏ์ เทศะบำรุง – อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ผู้ที่สนิทสนมมักคุ้นกับฝ่ายหลังและถูกอัธยาศัยใจคอกันจนตั้งสำนักงานทนายความร่วมกัน สำนักงานพิศิษฏ์ ประพันธ์ และเพื่อน เมื่อร่วมก่อตั้ง พรรคความหวังใหม่ ร่วมกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จึงชักนำทั้ง พิศิษฏ์ เทศะบำรุง และ ประพันธ์ คูณมี เข้ามาอยู่ใน สำนักกฎหมายพรรคความหวังใหม่ จากนั้นความสัมพันธ์ก็งอกงามในฐานะที่ต่างก็เป็น นักยุทธวิธี ด้วยกัน ดร.กัลยาณี คูณมี ที่โด่งดังอยู่ในวงวิชาการระดับหนึ่งที่ คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ นิด้า วันนี้นั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ภรรยา ของ ประพันธ์ คูณมี ที่พบรักกันมาตั้งแต่ครั้งร่วมเคลื่อนไหวหลัง กรณี 14 ตุลาคม 2516 หลังจากที่ฝ่ายชายเพิ่งเขากรุงหลังจบการศึกษาจาก วิทยาลัยเทคนิคไทย-เยอรมัน ขอนแก่น ขณะที่ฝ่ายหญิงเรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ท้าชิงหน้าใหม่แต่เก๋าประสบการณ์หวังว่าจะสามารถ พลิกล็อก ได้จากฐานคะแนนเดิมที่ครั้งหนึ่งเคยเทให้ พ.อ.วินัย สมพงษ์ และ อากร ฮุนตระกูล ในการเลือกตั้งต่างกรรมต่างวาระในอดีต
•• ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับ คอนเสิร์ตซิมโฟนี่ออร์เคสตร้าบทเพลงปฏิวัติ – สายลมเปลี่ยนทิศ แต่ดวงจิตมิได้เปลี่ยนเลย เมื่อปีที่แล้ว วันที่ 13 กันยายน 2546 ปีนี้จึงเกิด ครั้งที่ 2 ขึ้นมาภายใต้ชื่อ ยืนหยัดมั่นคงเช่นเคย ไม่เปลี่ยนทางเหมือนดั่งดาวเหนือ (หรืออีกชื่อหนึ่ง จากแองแตร์นาซิอองนาล ถึงวันปีใหม่แห่งชัยชนะ) รอบเดียววันเดียวอีกสองสามวันข้างหน้า วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม 2547 เวลา 19.30 น. ที่เดิม หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บรรเลงโดยวง วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร อำนวยการโดย รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข รูปแบบการแสดงครั้งนี้ที่แตกต่างออกไปคือนำเสนอ 25 บทเพลงที่เคยออกอากาศทาง สปท. – สถานีวิทยุเสียงประชาชนแห่งประเทศไทย รจนาโดยปัญญาชนที่เคยเข้าร่วมต่อสู้ในป่าเขา อุดม สีสุวรรณ, จิตร ภูมิศักดิ์, เสกสรรค์ ประเสริฐกุล, อดิศร เพียงเกษ, วิสา คัญทัพ, สุรชัย จันทิมาธร, ทองกราน ทานา, จิ้น กรรมาชน, วิชัย หินแก้ว และ ฯลฯ บัตรมีหลายราคา 300 บาท, 500 บาท และ 1,000 บาท ถามหาที่ว่างที่อาจจะพอเหลืออยู่ที่ เยาวเรศ ราชเกษร – โทรศัพท์ 0-1441-5644 ต้องการรายละเอียดมากกว่านี้ติดต่อสอบถาม บัณฑิต จันทศรีคำ – โทรศัพท์ 0-1559-4266, วิรัช วรางค์ศิลป์ – โทรศัพท์ 0-1832-2630 หรือ กมล สุสำเภา – โทรศัพท์ 0-1486-7486 ได้เลย
•• งานนี้เมื่อปีที่แล้วไม่ต่างอะไรกับ งานสโมสรสันนิบาตของฝ่ายซ้ายไทย มากันทุกรุ่นทุกสถานภาพเต็มพิกัด 1,500 คน และเสมือนเป็น งานเปิดตัว โดยปริยายของผู้อาวุโสที่สุดทั้งวัยและฐานภาพในอดีตของคืนนั้น คือ ธง แจ่มศรี หรือ ประชา ธัญไพบูลย์ เจ้าของตำแหน่ง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยคนสุดท้าย และ วินัย เพิ่มพูนทรัพย์ เจ้าของตำแหน่ง กรรมการกลางพรรคฯ ทั้งสองได้รับเลือกจากการประชุม สมัชชาครั้งที่ 4 เมื่อ ปี 2525 มาปีนี้ไม่รู้ว่าจะมีอะไรมาเซอร์ไพร้ส์กันอีก

ร้อยคำที่ควรรู้ – หนังสือเล่มเล็กราคา 60 บาทที่คุ้มค่าเกินราคาเล่มนี้ “ร้อยคำที่ควรรู้” เป็นผลงานของ “เสรี พงศ์พิศ” ที่บรรจุศัพท์ทางสังคมและเศรษฐศาสตร์ ทั้งฝ่ายกระแสหลัก และกระแสรอง ที่เรามักจะได้ยินกันบ่อย ๆ แต่บางครั้งก็ไม่แน่ใจว่าเข้าใจจริง ๆ หรือไม่ เช่น “กระบวนการ”, “การวางแผนยุทธศาสตร์”, “ไร่นาสวนผสม” และ ฯลฯ หรือแม้แต่ “โพสต์โมเดิร์น” หนังสือเล่มนี้อรรถาธิบายไว้ด้วยลีลาชวนอ่าน เข้าใจง่าย น่าหาซื้อเก็บไว้หรือให้เป็นของขวัญปีใหม่ .... หาซื้อได้ตามร้านหนังสือใหญ่ ๆ ทั่วไป
•• พูดถึง วังบางขุนพรหม ก็ให้นึก วังเทวะเวสม์ ของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ ที่อยู่คู่กัน “เซี่ยงเส้าหลง” สงสัยว่าไม่รู้ว่าในอนาคต พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเปลี่ยนใจนำราชรถไปเกย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล – หลานปู่ของสมเด็จฯ หรือไม่ก็ บัณฑูร ล่ำซำ มาเป็น ขุนพล ด้วยหรือเปล่า
•• แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ นักเรียนเก่าอ๊อกฟอร์ด ขุนพลรุ่นใหม่ของ พรรคประชาธิปัตย์ 2548 ยังมี นักเรียนเก่าเทคนิคไทย-เยอรมัน กับเขาด้วยคนหนึ่ง ประพันธ์ คูณมี ที่ลงสู้ใน เขตบางซื่อ ท้าชิงกับ ลลิตา ฤกษ์สำราญ ส.ส.หลายสมัยที่วันนี้สวมเสื้อ พรรคไทยรักไทย ไงล่ะ
•• นี่ก็เป็นอีกเขตหนึ่งที่น่าสนใจเพราะ ประพันธ์ คูณมี คนนี้เป็นหนึ่งใน นักยุทธวิธี ที่เข้าสู่วงการต่อสู้ทางการเมืองจากการเป็นคนไว้วางใจของ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ หนึ่งใน สุดยอดนักการข่าวยุคสงครามเย็น คนคู่นี้มาเดินร่วมทางกันได้ กว่า 10 ปี นับเป็นเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจของยุทธจักรการเมืองไทยประการหนึ่งที่ (อดีต)สหายสงคราม ผู้บัญชาการกองร้อยทหารปลดแอกประชาชนไทย เขตงาน 196 ภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ (เขตงานเดียวของ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่สร้างขึ้นมาโดยตรงโดย กลุ่มนักศึกษา ที่เคยอยู่ร่วมกันในนาม สหพันธ์นักศึกษาเสรีแห่งประเทศไทย) มาเป็นคู่หู 2 ป.ป่วนเมือง กับเจ้าของสมญา ซีไอเอเมืองไทย ภูมิหลังก็เพราะสมัยที่ฝ่ายแรกออกจากป่ากลับมาเรียนต่อที่ นิติศาสตร์รามคำแหง, เนติบัณฑิตไทยสมัยที่ 37 ได้มีโอกาสเป็น ศิษย์ ของ พิศิษฏ์ เทศะบำรุง – อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ผู้ที่สนิทสนมมักคุ้นกับฝ่ายหลังและถูกอัธยาศัยใจคอกันจนตั้งสำนักงานทนายความร่วมกัน สำนักงานพิศิษฏ์ ประพันธ์ และเพื่อน เมื่อร่วมก่อตั้ง พรรคความหวังใหม่ ร่วมกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จึงชักนำทั้ง พิศิษฏ์ เทศะบำรุง และ ประพันธ์ คูณมี เข้ามาอยู่ใน สำนักกฎหมายพรรคความหวังใหม่ จากนั้นความสัมพันธ์ก็งอกงามในฐานะที่ต่างก็เป็น นักยุทธวิธี ด้วยกัน ดร.กัลยาณี คูณมี ที่โด่งดังอยู่ในวงวิชาการระดับหนึ่งที่ คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ นิด้า วันนี้นั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ภรรยา ของ ประพันธ์ คูณมี ที่พบรักกันมาตั้งแต่ครั้งร่วมเคลื่อนไหวหลัง กรณี 14 ตุลาคม 2516 หลังจากที่ฝ่ายชายเพิ่งเขากรุงหลังจบการศึกษาจาก วิทยาลัยเทคนิคไทย-เยอรมัน ขอนแก่น ขณะที่ฝ่ายหญิงเรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ท้าชิงหน้าใหม่แต่เก๋าประสบการณ์หวังว่าจะสามารถ พลิกล็อก ได้จากฐานคะแนนเดิมที่ครั้งหนึ่งเคยเทให้ พ.อ.วินัย สมพงษ์ และ อากร ฮุนตระกูล ในการเลือกตั้งต่างกรรมต่างวาระในอดีต
•• ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับ คอนเสิร์ตซิมโฟนี่ออร์เคสตร้าบทเพลงปฏิวัติ – สายลมเปลี่ยนทิศ แต่ดวงจิตมิได้เปลี่ยนเลย เมื่อปีที่แล้ว วันที่ 13 กันยายน 2546 ปีนี้จึงเกิด ครั้งที่ 2 ขึ้นมาภายใต้ชื่อ ยืนหยัดมั่นคงเช่นเคย ไม่เปลี่ยนทางเหมือนดั่งดาวเหนือ (หรืออีกชื่อหนึ่ง จากแองแตร์นาซิอองนาล ถึงวันปีใหม่แห่งชัยชนะ) รอบเดียววันเดียวอีกสองสามวันข้างหน้า วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม 2547 เวลา 19.30 น. ที่เดิม หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บรรเลงโดยวง วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร อำนวยการโดย รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข รูปแบบการแสดงครั้งนี้ที่แตกต่างออกไปคือนำเสนอ 25 บทเพลงที่เคยออกอากาศทาง สปท. – สถานีวิทยุเสียงประชาชนแห่งประเทศไทย รจนาโดยปัญญาชนที่เคยเข้าร่วมต่อสู้ในป่าเขา อุดม สีสุวรรณ, จิตร ภูมิศักดิ์, เสกสรรค์ ประเสริฐกุล, อดิศร เพียงเกษ, วิสา คัญทัพ, สุรชัย จันทิมาธร, ทองกราน ทานา, จิ้น กรรมาชน, วิชัย หินแก้ว และ ฯลฯ บัตรมีหลายราคา 300 บาท, 500 บาท และ 1,000 บาท ถามหาที่ว่างที่อาจจะพอเหลืออยู่ที่ เยาวเรศ ราชเกษร – โทรศัพท์ 0-1441-5644 ต้องการรายละเอียดมากกว่านี้ติดต่อสอบถาม บัณฑิต จันทศรีคำ – โทรศัพท์ 0-1559-4266, วิรัช วรางค์ศิลป์ – โทรศัพท์ 0-1832-2630 หรือ กมล สุสำเภา – โทรศัพท์ 0-1486-7486 ได้เลย
•• งานนี้เมื่อปีที่แล้วไม่ต่างอะไรกับ งานสโมสรสันนิบาตของฝ่ายซ้ายไทย มากันทุกรุ่นทุกสถานภาพเต็มพิกัด 1,500 คน และเสมือนเป็น งานเปิดตัว โดยปริยายของผู้อาวุโสที่สุดทั้งวัยและฐานภาพในอดีตของคืนนั้น คือ ธง แจ่มศรี หรือ ประชา ธัญไพบูลย์ เจ้าของตำแหน่ง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยคนสุดท้าย และ วินัย เพิ่มพูนทรัพย์ เจ้าของตำแหน่ง กรรมการกลางพรรคฯ ทั้งสองได้รับเลือกจากการประชุม สมัชชาครั้งที่ 4 เมื่อ ปี 2525 มาปีนี้ไม่รู้ว่าจะมีอะไรมาเซอร์ไพร้ส์กันอีก
ร้อยคำที่ควรรู้ – หนังสือเล่มเล็กราคา 60 บาทที่คุ้มค่าเกินราคาเล่มนี้ “ร้อยคำที่ควรรู้” เป็นผลงานของ “เสรี พงศ์พิศ” ที่บรรจุศัพท์ทางสังคมและเศรษฐศาสตร์ ทั้งฝ่ายกระแสหลัก และกระแสรอง ที่เรามักจะได้ยินกันบ่อย ๆ แต่บางครั้งก็ไม่แน่ใจว่าเข้าใจจริง ๆ หรือไม่ เช่น “กระบวนการ”, “การวางแผนยุทธศาสตร์”, “ไร่นาสวนผสม” และ ฯลฯ หรือแม้แต่ “โพสต์โมเดิร์น” หนังสือเล่มนี้อรรถาธิบายไว้ด้วยลีลาชวนอ่าน เข้าใจง่าย น่าหาซื้อเก็บไว้หรือให้เป็นของขวัญปีใหม่ .... หาซื้อได้ตามร้านหนังสือใหญ่ ๆ ทั่วไป