xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มคลั่งจี้เด็กเป็นตัวประกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



รายการ "ฅนในข่าว" ซึ่งออกอากาศ ทางช่อง 11 news1 ตั้งแต่เวลา 21.05-22.00 น. ประจำวันอังคารที่ 7 ธันวาคม 2547 ได้สนทนาในหัวข้อ "หนุ่มคลั่งจี้เด็กเป็นตัวประกัน" โดยมี จินดารัตน์เจริญชัยชนะ ดำเนินรายการ และแขกรับเชิญ ประกอบด้วย พล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิต ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4, พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191,พ.ต.อ.ลือชัย สุดยอด ผกก.กองกำกับการป้องกันและปราบปรามจราจล ,พ.ต.อ.พิสิฏฐ โปรยรุ่งโรจน์ ผกก.สตร. ,พ.ต.ต.ศรายุทธ อรุณฉาย สว.ผ.ฝึกอบรมพิเศษ 191 ,กัญจน์ณภูมิ เกิดพุ่ม พ่อ "น้องไอซ์",ด.ช.จิรัฏฐ์นนท์ เกิดพุ่ม (น้องไอซ์)เด็กที่ถูกหนุ่มคลั่งจี้เป็นตัวประกัน ,ดาบตำรวจสุวรรณ เรืองวิไล ผบ.หมู่แผนกฝึกอบรมพิเศษ ,ดาบตำรวจสุพจน์ ชื่นกมล

พิธีกร- สวัสดีค่ะ คุณผู้ชมคะ ขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการคนในข่าววันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ค่ะ นั่นคือภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานะคะคนร้ายจี้เด็กนักเรียนชั้น ป.4 อายุเพียง 9 ขวบเท่านั้นเป็นตัวประกันตำรวจใช้เวลาเจราจาเพื่อที่จะหาจังหวะเข้าไปชาร์จตัวคนร้ายนั้นนานถึง 4 ชั่วโมงเศษนะคะ แต่ว่าเด็กคนนี้ปลอดภัยค่ะถือได้ว่าเป็นการทำงานที่คุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ วันนี้ถ้าหากว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับคุณผู้ชมเองถ้าวันนึงต้องตกเป็นตัวประกันควรจะทำตัวอย่างไรแล้วขั้นตอนการทำงานของตำรวจนั้นไว้ใจได้แค่ไหนนะคะ

วันนี้เราจะคุยกันค่ะกับแขกรับเชิญของเรามากเป็นประวัติการณ์เลยค่ะ เพราะว่าหลายๆ ท่านที่มาวันนี้มีส่วนช่วยให้เด็กน้อยคนนี้รอดชีวิตมาได้ค่ะ ท่านแรกค่ะท่านพล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิต ท่านผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ท่านต่อมานะคะ ท่านพล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191ค่ะ และอีกท่านนึงนะคะ ท่านพ.ต.อ.ลือชัย สุดยอด ผกก.กองกำกับการป้องกันและปราบปรามจราจลและอีกท่นนึงท่านผู้นี้เป็นคนที่ยิงกระสุนยางนะคะ ท่านพ.ต.ต.ศรายุทธ อรุณฉาย สว.ผ.ฝึกอบรมพิเศษ 191ค่ะ และที่ขาดไม่ได้คนนี้นคะต้องบอกว่าได้รับเสียงชื่นชมจากเจ้าหน้าที่อย่างมากที่ทำให้การทำงานของตำรวจเป็นไปได้อย่างง่ายได้ ด.ช.จิรัฏฐ์นนท์ เกิดพุ่ม หรือ "น้องไอซ์"ค่ะ และที่นั่งอยู่ขวามือของดิฉันทั้ง 3 ท่านนะคะ ท่านแรกคุณพ่อของน้องไอซ์ คุณกัญจน์ณภูมิ เกิดพุ่มค่ะและอีก 2 ท่านนะคะเป็นหน่วยที่เข้าไปช่วยเหลือเด็กคนนี้ด้วยนะคะดาบตำรวจสุพจน์ ชื่นกมลและดาบตำรวจสุวรรณ เรืองวิไลค่ะท่านผบ.หมู่แผนกฝึกอบรมพิเศษค่ะและต้องขอขอบพระคุณทุกๆ ท่านเป็นอย่างสูงเลยค่ะที่มาคุยกันต้องถามคนเก่งของเราก่อนน้องไอซ์หายตื่นเต้นรึยังลูก
         
          น้องไอซ์- หายแล้วครับ
         
          พิธีกร- หายกลัวรึยังคะ
         
          น้องไอซ์- หายแล้วครับ
         
          พิธีกร- ตกใจมั้ย
         
          น้องไอซ์- ตกใจครับ
         
          พิธีกร- แล้วตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างเนี่ย
         
          น้องไอซ์- บอกไม่ถูก
         
          พิธีกร- คือถ้าย้อนกลับไปคิดถึงเวลานั้นที่โดนคนร้ายเอามีดจี้คอเนี่ยน้องไอซ์รู้สึกยังไง
         
          น้องไอซ์- กลัวครับ
         
          พิธีกร- ตอนนั้นกลัวว่าเค้าจะทำอะไรเรามั้ย
         
          น้องไอซ์- กลัวว่าเค้าจะทำครับ
         
          พิธีกร- แต่ทำไมหนูนิ่งได้ขนาดนั้นไม่กล้าขยับหรือยังไงคะ
         
          น้องไอซ์- ไม่กล้าขยับครับ

พิธีกร- เดี๋ยวต้องขออนุญาติคุณผู้ชมนะคะตอนนี้กำลังตื่นเต้นอยู่ แต่ต้องบอกจริงๆ ว่าเด็กคนนี้เก่งมากค่ะเดี๋ยวพักกันสักครู่ช่วงหน้ากลับมาคุยกันต่อค่ะ
         
          พิธีกร- กลับมาคุยกันต่อนะคะ เรื่องของการจี้จับตัวประกันค่ะเล่าให้ฟังหน่อยสิคะเมื่อเช้าเห็นบอกว่าทุกวันเนี่ยไม่เคยไปกินข้าวที่โรงเรียนเลยเมื่อเช้าเกิดอะไรขึ้นคะทำอะไรอยู่
         
          น้องไอซ์- เดินอยู่ตรงหน้ามินิมาร์ทแล้วกำลังจะเข้าไปโรงเรียนแล้วโดนเค้าจับกระเป๋า
         
          พิธีกร- แล้วยังไงคะ
         
          น้องไอซ์- เค้าดึงผมแล้วก็เอามีดออกมา
         
          พิธีกร- เอามาจี้ที่คอเลยรึเปล่า
         
          น้องไอซ์- เอามาจี้ที่คอเลยครับ
         
          พิธีกร- แล้วเค้าพูดอะไรกับเราบ้าง
         
          น้องไอซ์- ไม่ได้พูดอะไรครับ
         
          พิธีกร- แล้วน้องไอซ์หันไปพูดกับเค้ามั้ย
         
          น้องไอซ์- พูดครับ
         
          พิธีกร- พูดว่ายังไง
         
          น้องไอซ์- ปล่อยผมไปเถอะ เค้าก็บอกไม่ปล่อย
         
          พิธีกร- แล้วยังไงคะหันไปหาคนช่วยหรือยังไงมั้ย
         
          น้องไอซ์- หันไปมองหาพ่อกับแม่ครับ
         
          พิธีกร- พ่อแม่กับไปแล้วเหรอคะ
         
          น้องไอซ์- ยังครับ
         
          พิธีกร- อ๋อ ยังไม่กลับด้วย
         
          น้องไอซ์- ตอนนั้นไม่เห็นแม่แต่เห็นพ่อครับ

พิธีกร- เห็นพ่ออยู่ตรงไหน
         
          น้องไอซ์- อยู่ตรงร้านขายรถ
         
          พิธีกร- ใกล้มั้ยคะ
         
          น้องไอซ์- ใกล้ๆ ครับ
         
          พิธีกร- แล้วเรียกมั้ยกล้าเรียกรึเปล่า
         
          น้องไอซ์- ไม่กล้า
         
          พิธีกร- แล้วเราดิ้นเราขัดขืนเค้ามั้ยลูก
         
          น้องไอซ์- ไม่ครับ
         
          พิธีกร- คิดว่าถ้าเราดิ้นคิดว่าเค้าจะทำร้ายเรามั้ย
         
          น้องไอซ์- คิดว่าจะทำครับ
         
          พิธีกร- แล้วเห็นตำรวจมาเมื่อไหร่เรายืนอยู่นานมั้ย
         
          น้องไอซ์- นานครับ
         
          พิธีกร- คิดว่าตำรวจมาแล้วเรารอดแน่ๆ รึเปล่า
         
          น้องไอซ์- คิดว่าจะรอดครับ
         
          พิธีกร- ต้องถามท่านผู้การวิทยาว่าเหตุการณ์นี้เมื่อเกิดขึ้นหลัจากนั้นนานแค่ไหนตำรวจถึงไปถึงที่เกิดเหตุ

พล.ต.ต.วิทยา- คือตรงนั้นจะมีสายตรวจที่จุดเฝ้าสกัดจับที่ผมสั่งการไว้ว่าในซอย 71 เนี่ยจะต้องมีตำรวจอยู่ พอเรารับแจ้งปุ๊ปเนี่ยปรากฎว่าตำรวจไปถึงประมาณผมว่าไม่เกิน 2 นาที เพราะว่าตำรวจเค้าอยู่ใกล้ๆ เลย ผมก็เลยสอบถามเค้าไปเค้าบอกว่ามีคนร้ายจับตัวเด็กเป็นตัวประกัน ผมก็เลยรีบเดินทางมาที่เกิดเหตุขนาดนั้นปรากฎว่าผู้ปกครองต่างก็มาส่งลูกเต็มไปหมดเลยทั้ง 2 ข้างทางทำให้เราจำเป็นจะต้องเคลียออกก็เลยสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจอะไรระดมมากั้นรถออกหมดไม่ให้ผ่านเข้ามาทางที่เกิดเหตุ เพราะว่าเค้าระแวงมากเลยรถมันผ่านไปผ่านมา ผมก็กลัวว่าคนร้ายมันจะเครียดมันระแวงเดี๋ยวจะทำร้ายเด็ก พอหลังจากเคลียเสร็จเรียบร้อยถึงค่อยคุยกัน ผมก็ถามชื่อที่อยู่เพื่อจะผูกมิตรกัน
         
          พิธีกร- ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้จี้จับตัวประกันแล้วมีอาวุธแล้วเกิดกับเด็กเนี่ยคือตำรวจในท้องที่มาสั่งการเองเนี่ยจำเป็นที่จะต้องขอหน่วยอื่นหน่วยคอมมอนโดพิเศษอะไรยังไงประเมินสถานการณ์กันยังไงคะ
         
          พล.ต.ต.วิทยา- คือที่จริงสถานการณ์อย่างนี้ต้องใช้ เพราะฉะนั้นเนี่ยดูลกัษณะการเจรจาแล้วรู้สึกว่าเค้าไม่มีการยินยอมง่ายๆ นะหน่วยอรินทราษฎร์ก็ต้องมา
         
          พิธีกร- ทาง 191 ก็มา
         
          พล.ต.ต.วิทยา- 191 เนี่ยและครับ
         
          พิธีกร- ก็คือเจ้าของหน่วยนี้นะคะแล้วยังไงต่อคะท่านผู้การก็เข้าไปเจรจาเกลี้ยกล่อม
         
          พล.ต.ต.วิทยา- คือแกค่อนข้างตาขวางไม่รับฟังอะไรจนกระทั่งถามถึงชื่อเสียงเรียงนามคือต้องอ่อนโยนกับเค้าต้องเป็นมิตรและจริงใจคนเจราจาเนี่ยจะต้องไม่แสดงอาวุธให้เห็นเลยต้องตัวเปล่าๆ เค้าจะหันมาฟังเราก็เจรจาเป็นชั่วโมงๆ นะก็ได้ผู้กำกับลือชัยเข้ามาช่วยกันและก็วางแผนกันกันผู้การคำรณวิทย์เนี่ยประสานกันว่าเราจะทำยังไง
         
          พิธีกร- ในส่วนของผู้การคำรณวิทย์เองก็ต้องวางแผนจะส่งสัญญาณบอกกันยังไงคะ
         
          พล.ต.ต.วิทยา- ส่วนใหญ่ผมจะเป็นตัวเดินไปคุยจะไม่ให้เค้ารู้สึกตัวว่าเราไปปรึกษาหารือกันเราก็ดูๆ ว่าช่วงไหนที่เราจะทำได้ก็ให้เค้าเป็นคนตัดสินใจโดยผมเป็นตัวล่อ
         
          พิธีกร- ท่านผู้การคำรณวิทย์คะในขณะที่ไปเห็นที่เกิดเหตุประเมินแล้วคนร้ายเนี่ยมีความตั้งใจที่จะทำร้ายตัวประกันแค่ไหนคะ
         
          พล.ต.ต.คำรณวิทย์- ต้องขอเรียนนิดนึงว่าในชุดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าช่วยเหลือตัวประกันเนี่ยของผมเนี่ยนอกจากมีชุดอรินทราษฎร์แล้วผมยังได้เตรียมไว้อีกชุดนึง ซึ่งเป็นชุดของกองการสายตรวจของเราคือชุดที่ปฏิบัติการณ์วันนี้ด้วย

พิธีกร- คือต่างกันยังไงคะทั้ง 2 ชุด
         
          พล.ต.ต.คำรณวิทย์- คือทั้ง 2 ชุดเนี่ยพร้อมปฏิบัติการณ์ทั้ง 2 ชุด อย่างเมื่อเช้าพอได้รับแจ้ง ผมก็สั่งให้ชุดอรินทราษฎร์คือผู้กองลือชัยเนี่ยรีบเข้าไปที่เกิดเหตุทันทีแล้วผมก็รีบตามเข้าไป
         
          พิธีกร- ไปกี่นายคะ
         
          พล.ต.ต.คำรณวิทย์- ทั้งหมดอย่างน้อยก็ต้อง 20 นายขึ้นไป
         
          พิธีกร- ต่อ 1 ชุดนะคะ
         
          พล.ต.ต.คำรณวิทย์- ครับและพอผมไปถึงที่เกิดเหตุผมก็รีบไปประสานกับทางพี่วิทยาเค้าก็ประเมินสถานการณ์คิดว่าคนร้ายเนี่ยยังไม่เจตนาที่จะทำร้ายตัวประกัน ผมจึงสั่งการเรียกให้ชุดของเรามาอีก 1 ชุดโดยให้ศรายุทธเนี่ยมาเราก็วางแผนกันปัญหาที่เราหนักใจที่สุดคือเราจะให้สัญญาณยังไงในการเริ่มปฏิบัติการณ์ถ้าไม่ 100% จริง ผมก็คงไม่สั่งให้ศรายุทธยิง
         
          พิธีกร- คือต้องเห็นว่าถ้ายิงไปจังหวะนั้นเด็กต้องปลอดภัย 100%
         
          พล.ต.ต.คำรณวิทย์- 100% พอเรามองเราเห็นแล้วว่านาทีนั้นเนี่ยคนร้ายเริ่มเปลี่ยนแล้วเริ่มเปลี่ยนมือเปลี่ยนท่าทางที่จะขยับมีดให้พ้นคอเด็กออกมานิดนึงในจังหวะนี้เนี่ยก็เลยให้สัญญาณศรายุทธยิงและอีกชุดนึงคือชุดที่เราเตรียมไว้ทันทีที่เสียงปืนดังเนี่ยจะมีชุดที่เข้าไปช่วยเด็กก่อนเลยอันดับแรกต้องช่วยน้องไอซ์ออกมาก่อน
         
         
          พิธีกร- คือแต่ละคนจะรู้หน้าที่ตัวเองอยู่แล้ว
         
          พล.ต.ต.คำรณวิทย์- ผมเตรียมหน้าที่ไว้แล้วขณะเดียวกันศรายุทธต้องยิงอีกนัดนึงให้แม่นถ้านัดที่ 2 ถ้ายิงไม่ถูกเนี่ย ผมเชื่อว่าน้องไอซ์อาจจะเป็นอันตรายได้
         
          พิธีกร- แสดงว่าฝากความหวังไว้กับมือยิงจริงๆ
         
          พล.ต.ต.คำรณวิทย์- ก็ต้องยิงให้ถูก 2 นัด นัดแรกเค้าสะดุ้งเค้าจะปล่อยเด็ก แต่ถ้านัดที่ 2 อาจจะไม่มีโอกาสที่จะทำให้เค้าไปแทงเด็กได้จะเห็นว่าในภาพเค้าพยายามจะไปแทงเด็ก แต่ชุดที่เราเตรียมไว้ชุดที่ 2 เนี่ยเข้าไปคว้าเด็กออกมาก่อนและผมองจะเป็นชุดที่เข้าชาร์จจับตัวเค้า
         
          พิธีกร- ท่านผู้กำกับลือชัยคะความยากในการคุยกับคนร้ายโดยเฉพาะร้ายนี้เนี่ยยากตรงไหนคะ
         
          พ.ต.อ.ลือชัย- เค้าไม่ค่อยตอบรับเท่าไหร่ เพราะว่าตาเค้าเหม่อลอยนะ
         
          พิธีกร- คิดว่าเค้าเมายามั้ยคะ
         
          พ.ต.อ.ลือชัย- ก็มีอาการเมายา แต่ว่าความพยายามที่จะเจรจาต่อรองของเราเนี่ยค่อนข้างจะมีมากเพื่อต้องการให้เหตุการณ์มันสงบลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้การวิทยากับผมเคยร่วมเจรจามาหลายครั้งแล้วนะครับก็ผ่านไป 2 ชั่วโมง 3 ชั่วโมงก็เริ่มมีการตอบรับดีขึ้นจะว่ายากมั้ยก็ไม่ยาก เพราะว่าเราทำเคสลักษณะอย่างนี้มาหลายครั้งแล้วยิ่งกว่านี้ก็เคยทำมาแล้ว เพราะฉะนั้นเนี่ยคำถามที่จะนำมาใช้ในการเจรจามันจะต้องไม่หมดมันต้องมีอยู่ตลอดเวลาต้องสรรหาคำถามมาพูดไม่รู้จบหยุดไม่ได้ เพราะการเจรจาต้องทำอย่างต่อเนื่อง
         
          พิธีกร- อย่าปล่อยให้เกิดช่องว่าง
         
          พ.ต.อ.ลือชัย- ครับ การเจราจาที่ผานไปมันก็มีความก้าวหน้าจากที่ไม่คุยก็มาคุยด้วยจากที่ไม่ดูดบุหรี่ก็มาดูดบุหรี่ แล้วอีกอย่างนึงพอบอกว่าเด้กร้องเนี่ยเค้าก็ร้องของหมวกไปสวมใส่ให้เด็กแสดงว่าการเจรจามีการตอบรับที่ดี
         
          พิธีกร- ช่วงจังหวะที่ส่งสัญญาณกันให้ยิงเนี่ยส่งสัญญาณกันยังไงคะ
         
          พล.ต.ต.คำรณวิทย์- เราวางแผนไว้ว่าจะยิงได้ต่อเมื่อดูสัญญาณจากผมก่อน เพราะว่าศรายุทธเนี่ยจะอยู่ด้านหลัง ดังนั้นเมื่อผมส่งสัญญาณปุ๊ปเนี่ยก็ยิง
         
          พิธีกร- สารวัตรศรายุทธตอนที่ยิงเล็งไปเนี่ยคิดว่าแม่นแน่ๆ โดนแน่ๆ รึเปล่าคะ
         
          พ.ต.ต.ศรายุทธ- ครับมั่นใจครับ
         
          พิธีกร- พอยิงไปเนี่ยโดนส่วนไหนของคนร้ายคะ
         
          พ.ต.ต.ศรายุทธ- ส่วนหลังครับผม
         
          พิธีกร- นัดที่ 2 โดนส่วนไหนคะ
         
          พ.ต.ต.ศรายุทธ- ตอนนั้นผมไม่ได้สังเกต เพราะว่าพอดีชุดชาร์จก็เริ่มเข้าไป
         
          พิธีกร- กระสุนยางเราใช้กันมานานแค่ไหนแล้วคะ
         
          พ.ต.ต.ศรายุทธ- ในบ้านเรานี่ตั้งแต่ประมาณต้นปี 44
         
          พิธีกร- ต้นปี 44

พ.ต.ต.ศรายุทธ- คือตอนนั้นเริ่มมีแล้วแต่ว่าเรายังไม่พร้อมใช้
         
          พิธีกร- คือต้องได้รับการฝึกฝนพอสมควร
         
          พ.ต.ต.ศรายุทธ- ครับถูกต้องครับ
         
          พิธีกร- ความแม่นยำต้องที่ 1 เลยใช่มั้ยคะ
         
          พ.ต.ต.ศรายุทธ- ถูกต้องครับ
         
          พิธีกร- ถ้าโดนจุดสำคัญนี่ถึงแก่ชีวิตได้มั้ยคะท่านผู้การ
         
          พล.ต.ต.คำรณวิทย์- ไม่ถึงครับ เพราะว่าจะเห็นว่าร่องรอยที่โดนเนี่ยเนื้อจะช้ำจริง แต่เสื้อไม่ทะลุนะครับ
         
          พล.ต.ต.วิทยา- เป็นรอยกระแทกมากกว่า
         
          พล.ต.ต.คำรณวิทย์- เพราะกระสุนเราเนี่ยเป็นยางที่มีความนุ่ม
         
          พิธีกร- เอาล่ะค่ะ เดี๋ยวขออนุญาติพักกันสักครู่ก่อนช่วงหน้ากลับมาคุยกันค่ะ
         
          พิธีกร- เรามีแขกรับเชิญเพิ่มขึ้นมาอีกท่านนึงนะคะ ท่านพ.ต.อ.พิสิฏฐ โปรยรุ่งโรจน์ ผกก.สตร. สวัสดีค่ะ
         
          พ.ต.อ.พิสิฏฐ- สวัสดีครับ
         
          พิธีกร- คงจะต้องเรียนถามนะคะว่าเมื่อเช้านี้ที่ไปเนี่ยค่อนข้างจะชุลมุนมากเห็นบอกว่ามีชาวบ้านมาสะกิดบอกเมื่อไหร่จะยิงสักทีจริงเหรอคะ
         
          พ.ต.อ.พิสิฏฐ- ใช่ครับก็มีทั้งชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์และก็ผู้สื่อข่าวบางที่ก็เข้ามาถามผมและก็ทีมงานว่าทำไมไม่ยิงเมื่อไหร่จะยิงสักทีเด็กมันเมื่อยแล้วนะ
         
          พิธีกร- แหมมีแนะนำด้วย
         
          พ.ต.อ.พิสิฏฐ- ผมก็ต้องบอกว่าการที่จะยิงเนี่ยไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกผมต้องขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาในขณะนั้น
         
          พิธีกร- ทำให้เราเสียสมาธิมั้ยคะ
         
          พ.ต.อ.พิสิฏฐ- ทั้งในเรื่องการรบกวนสมาธิแล้วก็การเข้าไปอยู่ในวิถีกระสุนด้วยเมื่อยิงไปแล้วเนี่ยลูกกระสุนยางมันจะไม่หยุดอยู่กับที่อาจจะมีกระดอนออกไป
         
          พิธีกร- เดี๋ยวจะโดนลูกหลง
         
          พ.ต.อ.พิสิฏฐ- ใช่ครับตรงนี้ต้องฝากไว้เลยว่าถ้ามีเหตุการณ์อย่างนี้เนี่ยเราพยายามกันแล้วเนี่ย็อย่าพยายามเข้ามา
         
          พิธีกร- โดยเฉพาะนักข่าวใช่มั้ยคะนักข่าวนี่ห้ามยากค่ะ
         
          พ.ต.อ.พิสิฏฐ- ห้ามยากครับ เพราะว่าก็อาชีพของเค้าคือการต้องการภาพอันนี้เราก็เข้าใจ แต่ประชาชนทั่วไปซึ่งไม่เกี่ยวข้องเนี่ยนะครับซึ่งวันนี้เนี่ยพอสารวัตรศรายุทธยิงเนี่ยพอดึงตัวเด็กออกมาได้เนี่ยข้างหลังผมเนี่ยประชาชนเนี่ยวิ่งไปเลยบอกกระทืบมันซะหน่อยมันอยู่ไหนกระทืบซะหน่อยผู้หญิงด้วยนะ

พิธีกร- ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปกติทุกครั้งใช่มั้ยคะที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้คือประชาชนก็อยากจะไปร่วมวงด้วยทำเด็กได้ลงคอ
         
          พล.ต.ต.วิทยา- เราไม่เคยสบายใจเลยเจ้าหน้าที่ตำรวจเนี่ยที่เห็นเมื่อเราจับกุมคนร้ายแล้วจะมีประชาชนที่มีความรู้สึกเจ็บแค้นอะไรแล้วก็เข้ารุมประชาทัณฑ์เนี่ยซึ่งผมกับผู้การคำรณวิทย์เนี่ยก็โดนทำร้ายด้วย เพราะเราต้องเข้าไปปกป้องผู้ต้องหา เพราะฉะนั้นเนี่ยผมอยากจะกราบเรียนประชาชนทุกคนว่าการกระทำอย่างนี้เนี่ยมันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเมื่อเราจับกุมเค้าได้แล้วเค้าก็ควรได้รับโทษตามกฎหมายไม่ใช่เราจะไปใช้กฎหมู่อะไรซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมไทยเราอีกนะครับ
         
          พิธีกร- เอาล่ะค่ะ เดี๋ยวคงต้องย้อนกลับไปถามคุณพ่อของน้องไอซ์หลังจากส่งลูกไปโรงเรียนแล้วก็กลับบ้านรึยังไงคะ
         
          กัญจน์ณภูมิ- ก็พอส่งเค้าที่โรงเรียนแล้วก็รอดูเค้าแป๊บนึงเพราะเค้าไปซื้อข้าวพอซื้อข้าวเสร็จผมก็กลับ
         
          พิธีกร- ถึงบ้านรึยังคะ
         
          กัญจน์ณภูมิ- ถึงบ้านแล้ว
         
          พิธีกร- แล้วมีคนมาบอกเหรอคะ
         
          กัญจน์ณภูมิ- ก็ภรรยาบอกว่าลุงโทรมาบอกว่าลูกถูกจับเป็นตัวประกัน
         
          พิธีกร- แล้วรีบไปทันที
         
          กัญจน์ณภูมิ- ก็รีบไปที่เกิดเหตุครับ
         
          พิธีกร- คุณพ่อเห็นสภาพของลูกชายนะขณะนั้นเนี่ยมีความเชื่อมั่นแค่ไหนว่าลูกจะปลอดภัยออกมาได้
         
          กัญจน์ณภูมิ- ตอนนั้นก็ไม่คิดอะไรคือยืนมองอย่างเดียวว่าใช่มั้ยใช่ลูกชายมั้ยคือคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงอยากจะเข้าไปอย่างเดียวก็เดินวนอยู่ตรงนั้นล่ะครับ
         
          พิธีกร- ความยากของการปฏิบัติการณ์เนี่ยตัวประกันอายุแค่ไหนยังไงถึงเรียกว่าอยากที่สุดในการทำงาน
         
          พล.ต.ต.วิทยา- ที่จริงแล้วเนี่ยเมื่อเช้านี้เกือบจะยากที่สุด เพราะเค้าจะไปจับเด็กอายุแค่ 3 ขวบครึ่งเป็นลูกแม่ค้าขายส้มตำ แต่แม่ค้าเนี่ยดึงลูกชายเข้าไปทันเค้าไปหยิบมีดของแม่ค้านั่นแหละมาจี้น้องไอซ์นั่นแหละถ้า 3 ขวบครึ่งเนี่ยเราลำบากเลย
         
          พิธีกร- และถ้าสำหรับผู้ใหญ่ล่ะคะโดยเฉพาะผู้หญิงถ้าถูกจับเป็นตัวประกันลักษณะอย่างนี้ควรจะทำตัวอย่างไร
         
          พล.ต.ต.วิทยา- ก็อยู่นิ่งๆ
         
          พิธีกร- คนร้ายให้ทำอะไรก็พยายามทำตาม
         
          พล.ต.ต.วิทยา- พยายามทำตาม
         
          พิธีกร- อย่าขัดขืนเค้า
         
          พล.ต.ต.วิทยา- อย่าขัดขืนเค้าเรามีโอกาสเมื่อไหร่เราช่วยเหลืออยู่แล้ว
         
          พิธีกร ท่านผู้กำกับลือชัยคะ 4 ชั่วโมงกว่าเนี่ยถือว่านานเกินไปมั้ยในการเจรจาต่อรอง
         
          พ.ต.อ.ลือชัย- ไม่นานหรอกครับ เพราะว่าที่ผ่านมาเนี่ยบางครั้งเราเจรจาถึง 9 ชั่วโมงก็เคยทำมาแล้ว แต่การเจรจาต่อรองที่ใช้เวลานานมากๆ เนี่ยจะเกิดผลดีกว่าการเจรจาที่ใช้เวลาน้อย
         
          พิธีกร- ค่ะ ต้องบอกว่าการทำงานครั้งนี้สำเร็จได้ด้วยหลายฝ่ายช่วยกันร่วมมือกันนะคะ
         
          พล.ต.ต.คำรณวิทย์- ผมเรียนอย่างนี้ครับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนี่ยถ้าเราไม่มีความพร้อมและเราขาดการฝึกที่ถึงจุดแล้วเนี่ยความมั่นใจในการปฏิบัติมันจะลดลงไป
         
          พิธีกร- น้องไอซ์คะมีเวลาสั้นๆ นิดนึงน้องไอซ์อยากพูดอะไรมั้ยคะกับเหตุการณ์ครั้งนี้
         
          น้องไอซ์- อยากพูดว่าขอบคุณพวกพี่ๆ ตำรวจมากครับ
         
          พิธีกร- แล้วโกรธคนร้ายมั้ย
         
          น้องไอซ์- โกรธ
         
          พิธีกร- โกรธนะโตขึ้นอยากเป็นอะไรคะ
         
          น้องไอซ์- ตำรวจครับ
         
          พิธีกร- ได้เป็นมั้ยคะลักษณะอย่างนี้
         
          พล.ต.ต.วิทยา- ได้เป็นแน่ลักษณะบุคลิกเค้านิ่งมาก
         
          พิธีกร- ค่ะ ต้องกราบขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงเลยค่ะที่ทำให้เด็กชายคนนี้ได้มานั่งคุยกับเราในลักษณะปลอดภัย 100% นะคะ ขอบพระคุณค่ะ เอาล่ะค่ะ วันนี้เวลาหมดของเราลงแล้ว ลาไปก่อน พรุ่งนี้กลับมาพบกันใหม่เวลาเดิม สวัสดีค่ะ
กำลังโหลดความคิดเห็น