“ในหลวง”พระราชทานพระบรมราโชวาทให้“ทหารหาญ”มุ่งมั่นรวมใจเพื่อชาติ

“ในหลวง”ทรงมีพระบรมราโชวาทให้ประชาชนประกอบกรณียกิจรักษาความสงบเรียบร้อย “ประเทศชาติ”อยู่ได้ด้วยประชาชนที่อยู่เป็นปึกแผ่นบนพื้นแผ่นดินให้ทหารสมัครสมานสามัคคีแก้ไขปัญหา และเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือประชาชน และพัฒนาประเทศ ด้านกองทัพเชิดชู “ในหลวง” ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก

วันนี้(2ธ.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น.ที่ลานพระรูปทรงม้าได้มีพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ประจำปี 2547 โดยก่อนจะเริ่มพิธีสวนสนามในปีนี้ทางกองทัพจัดให้มีการแสดงก่อนเวลาโดยปีนี้เป็นคิวของกองทัพบกใช้รูปแบบการแสดงดนตรีสนามของกองดุริยางค์ทหารบกบรรเลงเพลงแปรกระบวน ร่วมกับการแสดงยุทธลีลานักรบล้านนาไทยโดยกรมทหารราบที่ 17 โดยแสดงท่วงท่า ลีลา ฝีมือ ชั้นเชิง และภูมิปัญญาอันสง่างาม และเริงร้า รุกรบ ของนักรบไทยสมัยล้านนา โดยมีการสมมุติภาพเหตุการณ์การเฉลิมฉลองชัยชนะของเหล่าบรรดานักรบในอดีตต่อหน้าประทับของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินมุขมนตรีและอาคันตุกะซึ่งใช้กำลังพลการแสดงทั้งหมด 179 นาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพิธีสวนสนามทหารรักษาพระองค์จะกระทำในวันที่2 ธ.ค.ของทุกปีและเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตนเนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค.โดยมีผู้เข้าร่วมพิธีประกอบด้วย พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีพร้อมภรรยา คณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และอดีตนายทหาร เอกอัคราชทูต และผู้ช่วยทูตทหารทุกประเทศเข้าร่วมงาน

จากนั้นเวลา16.40 น.ทหารยิงพลุสัญญาณพระปรมาภิไธยย่อภปร.,สก.และควันสีสายรุ้งวงดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ช แถวทหารรักษาพระองค์เริ่มเคลื่อนขบวนออกจากที่รวมพล โดยมี พล.ต.อนุพงษ์ เผ่าจินดาผบ.พล.1รอ.ในฐานะ ผบ.กองผสม นำแถวทหารจำนวน 4 กรมผสม13กองพันโดยมี1กองพันทหารม้ารักษาพระองค์ปิดท้าย

จนเวลา 17.00 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระราชินีนาถฯ ได้เสด็จออกจากประตูทวยเทพสโมสร โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากนั้น พล.ต.พฤณท์ สุวรรณทัต ในฐานะผบ.กองผสมได้ถวายรายงาน นำแถวทหารรักษาพระองค์มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาฯ จำนวน 13 กองพัน พร้อมขอพระราชทานกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จพระราชดำเนิน ทรงตรวจพลสวนสนาม โดยมีนายทหารพิเศษประจำหน่วยทหารรักษาพระองค์ 8 นายประกอบด้วย ผบ.เหล่าทัพ และเสธ.เหล่าทัพ ตามเสด็จ

จากนั้นเวลา 17.40 น.พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตรผบ.สส.ได้นำพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.สามภพ อัมระปาล ผบ.ทร. พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา ผบ.ทอ.และเสนาธิการเหล่าทัพเข้าประจำที่หน้าพลับพลาเพื่อกราบบังคมทูลถวายพระชัยมงคล และนำแถวถวายคำสัตย์ปฏิญาณฯ โดยมีใจความว่า

“ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ และทหารทุกหน่วยทุกเหล่าทัพ ต่างสำนึกในพระมาหกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพได้เวียนมาบรรจบอีกวาระ นับตั้งแต่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้เสด็จเถลิงราชสมบัติจนถึงกาลมหามงคล ที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 77 พรรษา ได้ทรงยึดมั่นในทศพิธราชธรรม และบำเพ็ญพระกรณียกิจนานัปการ ทรงตรากตำพระวรกายโดยมิได้ย่อท้อ เพื่อขจัดปัดเป่าบรรเทาทุกข์ ของพสกนิกรชาวไทยทุกภูมิภาค ทุกเชื่อชาติศาสนา ที่ได้เกิดอาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้ให้มีความผาสุกร่มเย็น ภายใต้พระบรมโพธิสมภารโดยถ้วนหน้าเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันว่า ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก ได้ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาประเทศ พัฒนาชนบท และสร้างความสามัคคีปรองดองในภาวะวิกฤตต่างๆ เป็นที่ประจักษ์ถ่องแท้ ถึงความเป็นพระมหากษัตริย์ ที่ทรงเข้าใจถึงจิตใจของประชาชน พระเมตตาอันเปี่ยมล้นได้ก่อให้เกิดความผูกพันลึกซึ้ง ระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์และพสกนิกรชาวไทย ข้าพุทธเจ้าเหล่าทัพทั้งหลายจักพร้อมใจถวายชีวิต และเลือดเนื้อเป็นราชพลี เพื่อรักษาไว้ซึ่งอิสระภาพและอธิปไตยของชาติไทย ให้พ้นจากอริราชศัตรูภัยพาลทั้งมวล จักมุ่งมั่นรวมใจสมัครสมานสามัคคี ยึดมั่นในผลประโยชน์ของแผ่นดิน และยึดถือพระบรมราโชบายและพระราชดำริทุกประการ เป็นหลักในการปฏิบัติงาน จักเป็นกำลังสร้างสรรค์ความอยู่เย็นเป็นสุขแก่ปวงชนชาวไทย เพื่อความวัฒนาสถาพรของประเทศชาติและราชบัลลังก์

ต่อมาเมื่อเวลา 17.55 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราโชวาทแก่ทหารรักษาพระองค์ ว่า ข้าพเจ้าและพระราชินี มีความชื่นชมเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นความเข้มแข็งของทหารรักษาพระองค์ ในพิธีตรวจพลสวนสนามครั้งนี้ ขอขอบใจทุกคนคำสัตย์สัญญา และคำอวยพรทุกข้อที่ให้กับข้าพเจ้าด้วยไมตรีและความจริงใจ ข้าพเจ้าขอสนองตอบไมตรีครั้งนั้นด้วยใจจริงเช่นกัน ประเทศชาติประกอบด้วยผืนแผ่นดินและประชาชนและผืนแผ่นดินนั้นเป็นที่เกิดที่อาศัยที่อำนวยประโยชน์สุขและความมั่นคงแก่ประชาชนให้สามารถอยู่กันเป็นปึกแผ่นและเป็นประเทศชาติได้ด้วยเหตุนี้ประชาชนผู้อยู่ในแผ่นดินจึงต้องมีหน้าที่ต้องร่วมกันประกอบกรณียกิจเพื่อรักษาความเป็นปกติเรียบร้อย และความมั่นคงปลอดภัยของแผ่นดินไว้ ให้เป็นที่อยู่ที่ทุกคนจะอยู่อาศัยและประกอบอาชีพด้วยความผาสุกร่มเย็น ขอให้ทหารรักษาพระองค์ทุกคนทุกตำแหน่ง ทุกชั้นยศ ได้ตั้งจิตตั้งใจที่เที่ยงตรง และหนักแน่น เพื่อปฏิบัติหน้าที่ของตนทั้งในฐานะที่เป็นทหารและในฐานะที่เป็นประชาชนให้พร้อมเพรียงเข็มแข็งและประสานสอดคล้องกันเพื่อให้ชาติบ้านเมืองของเราธำรงยั่งยืนอยู่ได้ด้วยความมั่นคงเป็นปกติสุขต่อไป

จากนั้นวงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมทั้งปล่อยลูกโปร่งจำนวน 7,200 ลูก และแพรถวายพระพร“ทรงพระเจริญ” ปืนใหญ่ยิงสลุตถวาย 21 นัด

จากนั้นแถวทหารเคลื่อนพลเพื่อสวนสนามจนเวลา 19.00น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินกลับด้วยรถยนต์พระที่นั่ง แถวกองผสม สั่งถวายความเคารพ พร้อมสั่งแถวทหารเปล่งเสียงทรงพระเจริญตาม 3 ครั้ง