xs
xsm
sm
md
lg

วะฮาบีย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศรีม่วง

มีความเข้าใจผิดกันมากเกี่ยวกับอิสลามสาย "วะฮาบีย์" หรือ วะฮาบียะฮฺ หลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ถึงกับหน่วยงานด้านความมั่นคงฝ่ายการข่าวระบุชัดเจนว่า ผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้เป็นกลุ่มหัวรุนแรงจากพวกมุสลิมนิกาย "วะฮาบีย์" โดยอาจนำไปโยงกับกลุ่มอัลกออีดะฮฺของ อุซามะฮ์ บินมูฮัมมัด บินลาดิน ที่นิยมใช้ความรุนแรง เพราะ นับถือศาสนาอิสลามสายวะฮาบีย์

แต่ข้อเท็จจริงคือ วะฮาบีย์ ไม่ใช่ลักธิหนึ่งในอิสลาม แต่เป็นชื่อขบวนการฟื้นฟู้อิสลาม ภายใต้การนำของปราชญ์ทางศาสนาที่ชื่อ เชคมูฮัมมัด อินนฺ อับดุลวาฮาบ มีชีวิตอยู่ในช่วง ฮิจเราะฮศักราช (ฮ.ศ.)1115-1206 ตรกับ คริสศักราช (ค.ศ.)1703-1791 ที่เมืองนัจด ซาอุดิอาระเบีย

อัลวะอาบ มาจากพยางที่สองของบิดา แต่มีคนเรียกเพี้ยนเป็น วะฮบีย์ ซึ่งที่ถูกต้องคือวะฮาบียะฮฺ หมายถึง "ขบวนการฟื้นฟูอิสลาม" ซึ่งคำนี้มักจะใช้ไปในทางลบ

กลุ่มวะฮาบีย์จึงเรียกตัวเองว่า "สะลาฟียะฮ" ซึ่งแปลว่า "กลุ่มที่ยึดมั่นในแนวคิดดั้งเดิมของอิสลาม"

สาเหตุที่เกิดอิสลามสายนี้เนื่องจากช่วง ศตวรรณที่ 12 แห่งฮิจเราะฮศักราช ศาสนาและศิลธรรมในโลกอิสลามเสื่อมทรามลงมากที่สุด มีการเบี่ยงเบนศาสนา เอาหลักศาสนาไปยึดโยงกับวัฒนธรรมความเชื่อในท้องถิ่นต่าง ๆ คิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ ๆ ในศาสนา จนทำให้หลักศาสนาที่แท้จริงตามแนวทางของศาสนทูต มูฮัมมัด (ศ็อลลอลลอฮุวะลัยฮิวะสัลลัม) แปลเปลี่ยนไป

เชคมูฮัมมัด อินนฺ อับดุลวาฮาบ ซึ่งถือเป็นปราชญ์ของอิสลามในยุคนั้น พยายามเรียกร้องเชิญชวนให้คนมุสลิมหันกลับมาสู่แนวทางอันบริสุทธิของอิสลาม

เขาได้รับการต่อต้านจากผู้ปกครองเมืองที่ระเริงกับความเชื่อที่แปลเปลี่ยนไปจากหลักอิสลามที่แท้จริง

เมื่อท่านเดินทางมาถึงเมืองอัดอัรอียะฮ ซึ่งเป็นเขตปกครองของตระกูลสะอูด (ราชวงศ์สะอูดในปัจจุบัน) ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากเจ้าเมือง และตกลงที่จะร่วมมือฟื้นฟูและเผยแพร่คำสอนของอิสลามตามหลักที่ถูกต้อง

จากนั้นไม่นานชาวเมืองก็หันกลับมายึดแบบอย่างคำสอนของศาสดามูฮัมมัด อันบริสุทธิ์

ภายใต้การอุปถัมป์ของราชวงศ์สะอูดทำให้ วะฮาบียะฮฺ แพร่หลายในซาอุฯ โดยเฉพาะหลังสถาปนาอาณาจักรโดยกษัตริย์อับดุลอาซีซ อิบนฺ อับดุรรอหมาน อาลิสะอูด ใน ฮ.ศ.1351

ต่อมาวะฮาบียะฮุ ก็เผยแพร่อย่างรวดเร็วยังกลุ่มประเทศต่าง ๆ ในโลกมุสลิม ผ่านคณะต่าง ๆ ที่เข้ามาประกอบพิธีฮัจย์และอุมเราะฮฺ และนักศึกษาที่เข้ามาศึกษาในมัสยิดหะรอม ที่นครมักกะฮ และนครมะดีนะฮ

และนักศึกษาที่เข้ามาศึกาาในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ในซาอุฯและประเทศใกล้เคียง

รัฐบาลซาอุฯได้ให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนมุสลิมทั่วโลกจำนวนมากเพื่อศึกษาในสถานศึกษาที่สอนเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม รวมทั้งมุสลิมในประเทศไทยด้วย

ปัจจุบันนักศึกษาเหล่านี้ได้กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก ในประเทศไทยก็มีอิสลามสายวะฮาบีย์ จำนวนมากทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้

ถ้า วะฮาบีย์ นิยมความรุนแรง มีแนวคิดแบ่งแยกดินแดน ป่านนี้ประเทศไทยคงวุ่นวายไปทั่ว

นักศึกษาที่ไปเรียนในซาอุฯ หรือประเทศอื่น ๆ ที่เป็นอิสลามสายวะฮาบิย์ ไม่เคยมีการฝึกอาวุธ หรือสอนให้ใช้ความรุนแรง

เพราะวะฮาบีย์ เรียกร้องให้ผู้คนกลับเข้าสู่หลักคำสอนดั้งเดิมอันบริสุทธิ์ของอิสลาม ไม่ต่างอะไรจากชบวนการฟื้นฟูอิสลามอื่น ๆ ในแนวอะฮลิสสุนนะฮ (สุนนีย์) ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้อิสลามนิกายชีอะฮ์ ก็ถูกป้ายสีว่าผู้อยู่เบื้องหลัง เป็นภัยคุกครามความไม่สงบ จนต้องกระจัดกระจายหนี้หาย จนภายหลังพิสูจน์ได้ว่าชีอะฮ์ถูกใส่ร้าย

ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ อาจมีบางคนที่ถูกฝึกมาปฎิบัติการในลักษณะเช่นนี้จริง โดยร่วมมือกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลและพวกที่แสวงหาประโยชน์ทั้งจากพวกมีสีและไม่มีสีผสมผสานกัน

การเหมาเข่งโยนความผิดให้อิสลามสายวาฮะบิย์ คือพวกที่สร้างความวุ่นวายที่ต้องกำจัด โดยไม่ศึกษาความเป็นจริงรังแต่จะดึงเอาคนอีกจำนวนมาก ที่ไม่รู้เรื่องเข้าสู่ขบวนการได้

และเมื่อถึงจุดนั้นจะยิ่งก่อให้เกิดปัญหาโดยไม่มีที่สิ้นสุด

กำลังโหลดความคิดเห็น