"กลาโหม"ผนึก"ดาโต๊ะนิเดร์ วาบา"ร่วมสร้างสันติสุขชายแดนใต้

“รมว.กลาโหม” จับมือ “ผู้นำด้านการศึกษา-สอนศาสนาอิสลาม” น้อมรับกระแสพระราชดำรัส-ร่วมหาแนวทางสร้างสันติสุขโดยสันติวิธีใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมวอน “สื่อมวลชน” ช่วยเสนอข่าวที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันต์ รมว.กลาโหม ได้พบปะกับดาโต๊ะ นิเดร์ วาบา นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายอับดุลลา อาซิส ยานยา ประธานชมรมครูปอเนาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายอุเซน ดาโห๊ะ เลขานุการของดาโต๊ะนิเดร์ นายสาโรจน์ จรจิต หัวหน้าฝ่ายการศึกษาโรงเรียนปอเนาะภาคใต้ นายแสวง มนัสสกุล กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และนายนิรันดร์ พันธรกิจ ผู้อำนวยการสำนักจุฬาราชมนตรี เพื่อหารือถึงแนวทางความร่วมมือในการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง

"ดาโต๊ะนิเดร์"ชี้ไฟใต้แก้ไม่ตก-เพราะปัญหาสะสม
ดาโต๊ะนิเดร์ วาบา กล่าวภายหลังจากการเข้าหารือถึงข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหา และจัดระเบียบโรงเรียนปอเนาะ โดยย้ำว่า สถาบันการศึกษาที่สอนศาสนาอิสลามมี 2 สถาบัน คือ สถาบันโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม และสถาบันศึกษาปอเนาะ ซึ่งเป็น 2 องค์กรใหญ่ใน 5 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งการเข้าศึกษานั้น เด็กจะเป็นผู้เลือกเองว่าต้องการเรียนเกี่ยวกับศาสนาอิสลามเพื่อนำไปใช้ในการดำรงชีวิต เพราะคำสอนของศาสนาสอนให้ดำรงชีวิตอย่างสันติสุขบนแผ่นดินของพระเจ้าอัลเลาะห์ที่สร้างไว้ให้

“ในวันนี้เราอยู่กันอย่างหลากหลายในเรื่องขนบธรรมเนียม และความแตกต่างทางศาสนา ซึ่งศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประนีประนอม ไม่ใช่ศาสนาสร้างปัญหา ซึ่งเมื่อลูกหลานเราเข้าไปศึกษาใน 2 สถาบัน ก็จะศึกษาเกี่ยวกับหลักการชีวิตความเป็นอยู่อย่างสันติสุขในโลกนี้ และโลกข้างหน้า ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นผมไม่ปฏิเสธ แต่เห็นว่าเป็นส่วนน้อยที่สุด ซึ่งถ้าจะรีบแก้ไขก็แก้ได้ แต่ไม่ทราบว่าเพราะอะไรที่ไม่ได้แก้ไข อีกทั้งยังปล่อยให้ปัญหาสะสมมากขึ้น แล้วพอจะแก้ปัญหาด้วยวิธีสันติก็ทำไม่ได้ จึงต้องใช้ความรุนแรง ซึ่งผมคิดว่าเราได้บทเรียนจากสิ่งที่เกิดขึ้น” ดาโต๊ะ กล่าว

วอน “สื่อ” เสนอข่าวที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง
ดาโต๊ะนิเดร์ วาบา กล่าวด้วยว่า การเดินทางมาครั้งนี้เป็นไปตามคำเชิญของ รมว.กลาโหม ซึ่งต้องการเชิญมานานแล้ว เพื่อจะได้ตกลงกันร่วมทำงาน ร่วมมือร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมสร้างสันติภาพ สันติสุข และร่วมดูแลปกป้องประเทศชาติโดยสันติวิธี ซึ่งจะต้องอาศัยเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ดูแลความสงบสุข ขณะเดียวกัน อยากขอร้องสื่อมวลชนให้ช่วยลงข่าวที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ เมื่อถามถึงกระแสพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แล้วรู้สึกอย่างไร พร้อมสนองพระราชเสาวนีย์หรือไม่ ดาโต๊ะนิเดร์ วาบา กล่าวว่า เห็นได้อย่างชัดเจนเรื่องการน้อมรับจากพวกเราโดยได้ถ่ายทอดให้เยาวชนในโรงเรียนสอนศาสนา ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งครูอาจารย์ ผู้ปกครอง ผู้บริหารโรงเรียน และประชาชนรอบบริเวณโรงเรียน บางคนสัญญาว่าเราจะอยู่ร่วมกันอย่างนี้ตลอดไปเพื่ออนาคตลูกหลาน นอกจากนี้จะเข้าไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในมัสยิดใน 5 จังหวัดด้วย

ด้าน พล.อ.สัมพันธ์ กล่าวว่า การหารือกันวันนี้ได้ตกลงกันว่าจะร่วมมือกันเพื่อความสงบสุข สันติ ความสามัคคี และความรักกันของคนไทยในภาคใต้ ซึ่งจะทำให้กลับมาสู่ความสงบสุข โดยผู้นำศาสนา และผู้นำด้านการศึกษามีแผนที่จะดำเนินการร่วมกัน จึงเป็นสิ่งที่น่าดีใจเป็นอย่างยิ่ง และหวังว่าทุกคนจะสนองพระราชเสาวนีย์ด้วยความสามัคคี พร้อมความเข้าใจซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ ยังขอเชิญชวนประชาชนให้ช่วยกันส่งความปรารถนาดีถึงพี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยการพับนก

“กลาโหม” มั่นใจเจ้าหน้าที่รับมือกับสถานการณ์ได้
“เชื่อว่าเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะสงบขึ้น เพราะกระแสพระราชเสาวนีย์ รวมทั้งการหารือกันในวันนี้ เป็นสัญญาณที่ดีในความร่วมมือเพื่อสันติสุข ซึ่งในส่วนของคนกลุ่มเล็กๆ ที่ยังไม่เข้าใจ และยังเป็นปัญหาอยู่นั้น เราน่าจะแก้ปัญหาได้ ส่วนเรื่องโรงเรียนปอเนาะนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการกำลังร่วมมือกันแก้ไขปัญหากับผู้นำศาสนา เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของคนในพื้นที่ สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มวัยรุ่นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ซื้อรถจักรยานยนต์จำนวนมากนั้น กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าใครซื้อ แต่ไม่น่าผิดปกติ เพราะการซื้อรถจักรยานยนต์ต้องมีเงินประกัน และมีหลักฐาน ซึ่งผมคิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติ เนื่องจากคนในภาคใต้ชอบใช้รถจักรยานยนต์อยู่แล้ว” พล.อ.สัมพันธ์ กล่าว

พล.อ.สัมพันธ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของนักเรียนนักศึกษาที่ยังไม่มีอาชีพนั้น มีบางส่วนที่ยังไม่มีงานทำ และมีการศึกษาน้อย ซึ่งรัฐบาลจะเร่งให้คนกลุ่มดังกล่าวมีงานทำประมาณ 1 แสนคน และในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ เลขานุการจุฬาราชมนตรีจะเสนอโครงการเพื่อให้เยาวชนมีงานทำ โดยคาดว่าโครงการส่งเสริมอาชีพนี้จะเห็นผลเป็นรูปธรรมได้ภายในเดือนธันวาคม - มกราคม 2548 นี้ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าจะมีการดับไฟ และระเบิดเขื่อนที่อยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น รมว.กลาโหม กล่าวว่า เป็นเพียงข่าวปล่อย เพราะข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น บางครั้งเป็นข่าวโคมลอย ประชาชนไม่ต้องตกใจ ซึ่งเชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะควบคุม และรับมือกับสถานการณ์ได้ ส่วนที่มีใบปลิวออกมาบ่อยๆ และมีข่าวลือต่างๆ ก็อย่าหวั่นไหว แต่หากสงสัยให้สอบถามไปยังหน่วยงานในพื้นที่ซึ่งพร้อมที่จะให้ความกระจ่างได้ทันที