“นายกรัฐมนตรี” น้อมรับ “พระราชเสาวนีย์” วอนชาวไทยทุกคนช่วยส่งใจพับนกกระดาษ 62 ล้านตัว-แสดงพลังความห่วงใยประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมเตือนสติให้ช่วยกันหวงแหนแผ่นดินไทย ยืนยันเปิดโอกาสให้กับผู้ที่หลงผิด มั่นใจดับไฟใต้ใช้ระยะเวลาสั้นลง
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ขอให้คนไทยทุกคนช่วยแสดงพลังความห่วงใยประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่กำลังประสบกับสถานการณ์ความไม่สงบขณะนี้ว่า ถือว่าเป็นบุญของคนไทยที่มีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใย และรักผืนแผ่นดินไทยมาก และทรงรักประเทศไทย และคนไทยทุกคน โดยเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พระองค์ได้แสดงความชัดเจนว่าทรวงห่วงใย และทรงพร้อมแม้กระทั่งจะต้องทรงฝึกยิงปืนคือ พระองค์ท่านต้องการจะบอกให้คนไทยรู้ว่า เราต้องช่วยกันปกป้องผืนแผ่นดินไทย และเราจะต้องรักพี่น้องคนไทยทุกคนไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตาม
5 ธันวาฯโปรยนกกระดาษ 62 ล้านตัวทั่วแดนใต้
“บังเอิญในช่วงเช้าของวันที่ 16 พฤศจิกายน ผมได้สั่งการในคณะรัฐมนตรีให้เชิญชวนคนไทยทุกคนแสดงให้พี่น้องชาวภาคใต้ทั้ง 3 จังหวัดได้รู้ว่า เรารัก และห่วงใยเขา ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด แต่เราต้องการให้ทุกคนอยู่กันอย่างสันติ หยุดรบราฆ่าฟันกันเสียทีเพื่อพ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูง และคนที่หลงผิดจะได้ดึงกันกลับคืนมา ส่วนคนที่ไม่ดีนั้นเราจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับผู้ที่ที่หลงผิดก็ขอให้กลับคืนมาเสีย เพื่อจะได้ยุติการรบราฆ่าฟันกัน ทั้งนี้ ในวันที่ 5 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ในช่วงเช้าเครื่องบินของกองทัพอากาศจะบินพ่นควันสีธงชาติเหนือพื้นที่พี่น้องหมู่บ้านต่างๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจะโปรยนกจำนวน 62 ล้านตัวที่คนไทยร่วมกันพับ เพื่อบอกให้เขารู้ว่าคนไทยทั้งประเทศได้ยึดตามพระราชเสาวนีย์ เพื่อแสดงพลังให้เห็นว่าเรารัก เราห่วงใยเขา เราต้องการสันติภาพ และเราหวงแหนแผ่นดินไทย” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงวิธีการรวบรวมนกทั้ง 62 ล้านตัวที่ประชาชนจะร่วมกันพับว่า หลังจากที่ประชาชนพับแล้ว ทางอำเภอแต่ละแห่งจะไปตระเวนเก็บ หรือประชาชนอาจจะนำมาส่งเองที่อำเภอก็ได้ จากนั้นทางอำเภอจะรวบรวมนำมาส่งที่จังหวัด และทางจังหวัดจะนำมาส่งที่สนามบิน ซึ่งทางกองทัพอากาศก็จะนำมารวมกัน และในวันที่ 1 ธันวาคมก็จะเริ่มทยอยไปไว้ที่ภาคใต้ เพื่อในช่วงเช้าของวันที่ 5 ธันวาคม จะได้บินไปโปรยได้ เมื่อถามว่าทางเจ้าหน้าที่จะต้องปรับวิธีการดำเนินการจับกุมคนร้ายอย่างไรหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ตอนนี้ไม่มีปัญหา เราทำงานกันเข้าที่เข้าทางแล้ว คิดว่าต่อไปนี้คงจะดีขึ้น โดยในส่วนของทหารก็ไม่มีอะไร เพราะทำหน้าที่ปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งหลาย ซึ่งทหารจะต้องดูแลประชาชนเหมือนเดิมแน่นอน เพราะหากไม่ดูแลแล้วใครจะดูแล
ยืนยันใช้ “ตำรวจ” หากต้องมีการสลายฝูงชน
เมื่อถามถึงเรื่องการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมที่เคยบอกว่าจะไม่ใช้ทหาร นายกฯ กล่าวว่า อันนั้นเป็นเรื่องของการคุมฝูงชน ซึ่งเราจะใช้ตำรวจเพราะมีความชำนาญในการคุมฝูงชนเพื่อจะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุอะไรแค่นั้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องใด เมื่อถามอีกว่าจะต้องส่งกำลังทหารเข้าไปเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงดำริว่าประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ไว้ใจทหาร พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เมื่อก่อนนี้เราจัดกำลังทหารกระจายไปนิดหนึ่ง แต่วันนี้เราจัดกำลังให้ไปลงในจุดที่อ่อนไหวเรียบร้อยหมดแล้ว และขณะนี้เหตุการณ์ได้เบาบางลง ส่วนแนวทางที่จะนำประชาชนมาฝึกความกล้า ได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า เป็นการฝึกป้องกันตัวเองของคนคนที่เป็นแม่หม้ายบ้าง หรือพวกกลุ่มไทยพุทธที่ถูกความพยายามกดดันให้ออกจากพื้นที่ ซึ่งตรงนี้เรากำลังฝึกอยู่บ้าง
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีมองว่าระยะเวลาการปราบปรามโจรก่อการร้ายจะสั้นลงนั้น เกิดจากความมั่นใจตรงไหน พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เกิดจากปัจจัยที่มีเหตุเกิด 2 แห่ง ทั้งกรือเซะ และตากใบ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่มีคนตายจำนวนมาก แต่สิ่งที่เราได้รับคือข้อมูลต่างๆ มันทำให้เห็นภาพชัดเจนมากๆ ซึ่งการติดตามตัวคนร้ายต่อไปนี้จะทำให้เจ้าหน้าที่เบาขึ้น เพราะต่อไปมันจะแคบลง การทำงานจะแคบขึ้น เมื่อถามอีกว่า ได้มีการกำหนดระยะเวลาหรือไม่ว่าการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ ว่าจะคลี่คลาย หรือจบลงเมื่อใด นายกฯ กล่าวว่า คงไม่ต้องกำหนด แต่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด
ชี้วางบึ้มหน้าบ้าน “อารีเพ็ญ” ไม่เกี่ยวกับการเมือง
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงเหตุการณ์วางระเบิดหน้าบ้านนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.พรรคไทยรักไทย จังหวัดนราธิวาสว่า จากการรายงานทราบว่ามีการวางระเบิดห่างประมาณ 20 เมตรจากบ้าน และใกล้บริเวณโรงเรียน แต่ก็สามารถกู้เก็บได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นเรื่องของการก่อความไม่สงบ แต่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการเมือง เมื่อถามถึงกรณีที่ก่อการร้ายปล้นอาวุธปืนของอาสาสมัครหมู่บ้านป้องกันตนเอง หรือ ชรบ. และปืนของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านนั้น นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุข 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ กอ.สสส.จชต.กำลังทำหน้าที่ตรงนี้อย่างเต็มที่ แต่ไม่ขอพูดรายละเอียดในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนจะสวนทางกับเจตนารมณ์ของรัฐบาล ซึ่งตั้งใจมอบอาวุธปืนให้ปกป้องพี่น้องประชาชน แต่กลุ่มโจรกลับมาปล้นไปหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เริ่มเห็นปัญหาบางอย่างแล้ว และกำลังแก้ปันอยู่ ซึ่งระหว่างทำไปก็คงต้องแก้ไขไปด้วย
รายงานข่าวจากหน่วยข่าวในพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุว่า มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเดินสายแจกจ่ายใบปลิวใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนราธิวาส ปัตตานี และยะลา ซึ่งใบปลิวดังกล่าวมีขนาดเอ 4 พิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีภาพของ พล.ท.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี แม่ทัพภาค 4 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ ผู้อำนวยการ กอ.สสส.จชต. โดยด้านบนของหัวกระดาษมีข้อความในภาษาไทยว่า “ทักษิณทมิฬ บ่อเกิดแห่งม็อบเลือด” กรณีม็อบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามหาผู้อยู่เบื้องหลังที่มาของใบปลิวนี้ เนื่องจากอาจสร้างความแตกแยกให้กับชาวไทยในท้องถิ่น โดยได้เร่งเข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชนในท้องที่ต่อไปอีกด้วย