คู้บอน คันนายาว
แล้วโครงการโคล้านตัวหรือโคแก้จน หรือ ชื่อล่าสุดที่เป็นทางการ “โครงการส่งเสริมเลี้ยงโคเนื้อล้านครอบครัว” ก็ผ่านมติที่ประชุมของคณะรัฐมนตรีนัดประวัติศาสตร์โลก (ที่มีประชาชนเข้าร่วมรับฟัง ) เมื่อวันที่ 10 พ.ย.47 ที่อิมแพค เมืองทองธานี
โดยโครงการนี้ที่ประชุมครม.ได้อนุมัติ งบประมาณ 4,426 ล้านบาท ในการเพิ่มประสิทธิภาพ – ผสมพันธุ์โคเนื้อในระยะเวลา 4 ปี ( 2548- 2551) และพร้อมกันนี้ครม.ยังได้อนุมัติจัดตั้งบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลเฉพาะกิจ (Special Purpose Vehicle : SPV) เพื่อรองรับการบริหารจัดการโครงการโคล้านตัวอีกด้วย
โครงการโคล้านครอบครัวเสนอโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คนที่นำเสนอต่อที่ประชุมหรือเป็นเจ้าของเรื่องคือ นายเนวิน ชิดชอบ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และผู้ที่แสดงความเห็นต่อที่ประชุมอย่างเอาการเอางาน อีก 2 คนก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ อ ดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์
ขณะที่รองนายกฯที่กำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ อย่างจาตุรนต์ ฉายแสง พูดบ้างเล็กน้อย และรมว.เกษตรฯ คนใหม่อย่างวันมูหะมัดนอร์ มะทา ไม่พูดอะไรเลย
ทำไม สมศักดิ์ เทพสุทิน จึงกระตือรือร้นในการแสดงความเห็น ? คำตอบไม่ได้อยู่ในสายลม แต่อยู่ตรงที่ว่า...เขาคืออดีตรมว.เกษตรฯ ผู้ผลักดันโครงการนี้มากับมือ ทำมากับมือตั้งแต่ต้น ตั้งแต่พ..ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้แสดงอาการว่าเห็นด้วยหรือไม่ และต่อมาเปิดไฟเขียวผ่านตลอด จนกระทั่งประกาศเป็นธงนโยบายของพรรคไทยรักไทยในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า..
คนที่เป็นมือทำงานโคแก้จนของสมศักดิ์ก็คือเพื่อนเก่าตั้งแต่พรรคกิจสังคมขอ งเขา นาม วิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นประธานที่ปรึกษารมว.เกษตรฯ(สมศักดิ์)
นอกเหนือจากเป้าหมายอื่นๆ ทั้งหลายทั้งปวงแล้ว ทั้ง “สมศักดิ์ - วิวรรธนไชย” ปรารถนาเป็นอย่างสูงที่จะปั้นโครงการนี้ให้เข้าตาประธานกรรมการที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยวิวรรธนไชยนั้นนอกเหนือจากลงคลุกพื้นที่แล้วยังโหมงานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ ถึงขนาดให้ทำ วีซีดีเพลงโคแก้จน โดยใช้แอ๊ด คาราบาว ร้องและเป็นพรีเซ็นเตอร์
เรื่องน่าเศร้าสำหรับ "สมศักดิ์ – วิวรรธนไชย" จนแทบจะโยนกล่องวีซีดีทิ้งก็คือ วันเดียวกับที่ทำวีซีดีเสร็จ มีการปรับครม.ทักษิณ 10 สมศักดิ์ถูกโยกจากเก้าอี้รมว.เกษตร ฯ ขึ้นเป็นรองนายกฯ แต่อาศัย “ลูกบ้าเที่ยวล่าสุด” ของวิวรรธนไชย เพียงวันที่สองหลังสมศักดิ์ถูกปรับเขาสามารถทำให้วีซีดีเพลงโคแก้จนปรากฏอยู่หน้าจอโทรทัศน์และเจื้อยแจ้วอยู่ตามสถานีวิทยุกระจายเสียง...
ในเนื้อเพลงโคแก้จนนั้นชัดยิ่งกว่าชัดว่า...เชิดชูสมศักดิ์อย่างเลิศลอย ประมาณว่าเป็น..ฮ๊โร่ โคล้านตัว...
จึงน่าจะกล่าวได้ว่า...น้ำตาแห่งความเสียดายที่สมศักดิ์หลั่งรินวันที่อำลากระทรวงเกษตรฯ มีสัดส่วนของหยดน้ำตาจาก ฮีโร่ โคล้านตัว อยู่ในอัตราสูง...
เมื่อสมศักดิ์หลุดจากกระทรวงเกษตรฯ แต่นโยบายโคล้านตัวกลายเป็นธงนโยบายของพรรคไทยรักไทย แต่เจ้ากระทรวงคนใหม่อย่างวันมูหะมัดนอร์ มะทา ยังตั้งหลักไม่ได้ โครงการวัวล้านตัวจึงตกอยู่ในมือของรมช.เกษตรฯ ที่ดูแลกรมปศุสัตว์ และ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อสค.) อย่างเนวิ น ชิดชอบ...
เนวิน ยังคงดำรงเป้าหมายของโครงการไว้แทบครบถ้วน แต่ปรับเปลี่ยนวิธีการใหม่บางส่วนเสนอโครงการนี้เข้าครม.นัดประวัติศาสตร์ ขณะที่สมศักดิ์ยังรักและผูกพันถึงขั้นตามไปขอให้เปลี่ยนชื่อโครงการใหม่ว่า...โครงการโคล้านครอบครัว...กันเลยทีเดียว..
แม้จะดำรงเป้าหมาย – ปรัชญาเดิม เหมือนที่ “สมศักดิ์ – วิวรรธนไชย”ตั้งไว้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า..โครงการที่คลอดออกมามีความแปรกแปร่งและแตกต่างออกไป จนชวนให้ตั้งปุจฉาว่าโครงการนี้จะ..เกิดความสิ้นเปลือง /ล่าช้า เผลอๆ จะกลายพันธุ์เป็นวัวพลาสติกหรือไม่ ?
หลักใหญ่ๆ ของความแตกต่าง ก็คือตามแนวของสมศักดิ์ เริ่มจากซื้อวัวแจกให้ชาวบ้าน แล้วตามไปผสมเทียม-พัฒนาพันธุ์ในภายหลัง ส่วนแนวของเนวินเริ่มจากอบรมเจ้าหน้าที่ผสมเทียม 2 หมื่นคน ค่าอบรมคนละ 7 พันบาท จากนั้นไปผสมเทียม-พัฒนาพันธุ์แล้วแจกโคให้ชาวบ้านเลี้ยง...
เพียงเริ่มต้นก็แตกต่างกัน...ถ้าสังเกตให้ดี ที่ปรึกษาของสมศักดิ์อย่างวิวรรธนไชยก็ให้สัมภาษณ์แสดงความอึดอัดขัดข้องใจ ทำนองว่าโครงการมันเริ่มกลายพันธุ์....
นี่ยังไม่นับความสลับซับซ้อนของSPV ที่นาทีนี้ยังเป็นองค์กรซ่อนเงื่อน เพราะยังเป็นSPV บนแผ่นกระดาษ ไม่เห็นตัวตน ความโปร่งใสยังเป็นเรื่องรอคอยการพิสูจน์.....
แม้ว่าโครงการโคล้านตัวอาจจะเป็นที่เข้าตาโดนใจชาวบ้านระดับรากหญ้าอยู่ไม่น้อย...แต่สังคมโดยรวมทั่วๆไป ยังคาใจอยู่พอประมาณ...และเป็นภารกิจที่ คนชื่อ “ทักษิณ – สมศักดิ์ –เนวิน” จะต้องช่วยกันอธิบาย ด้วยภาษาและโครงการเดียวกัน...นับจากนี้เป็นต้นไป..
เบื้องแรกเอาให้ชัดว่าเพลงโคล้านครอบครัว ใครจะประสานเสียงสูง ต่ำ...ใครจะเป็นนักร้องนำกันแน่..!?
แล้วโครงการโคล้านตัวหรือโคแก้จน หรือ ชื่อล่าสุดที่เป็นทางการ “โครงการส่งเสริมเลี้ยงโคเนื้อล้านครอบครัว” ก็ผ่านมติที่ประชุมของคณะรัฐมนตรีนัดประวัติศาสตร์โลก (ที่มีประชาชนเข้าร่วมรับฟัง ) เมื่อวันที่ 10 พ.ย.47 ที่อิมแพค เมืองทองธานี
โดยโครงการนี้ที่ประชุมครม.ได้อนุมัติ งบประมาณ 4,426 ล้านบาท ในการเพิ่มประสิทธิภาพ – ผสมพันธุ์โคเนื้อในระยะเวลา 4 ปี ( 2548- 2551) และพร้อมกันนี้ครม.ยังได้อนุมัติจัดตั้งบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลเฉพาะกิจ (Special Purpose Vehicle : SPV) เพื่อรองรับการบริหารจัดการโครงการโคล้านตัวอีกด้วย
โครงการโคล้านครอบครัวเสนอโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คนที่นำเสนอต่อที่ประชุมหรือเป็นเจ้าของเรื่องคือ นายเนวิน ชิดชอบ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และผู้ที่แสดงความเห็นต่อที่ประชุมอย่างเอาการเอางาน อีก 2 คนก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ อ ดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์
ขณะที่รองนายกฯที่กำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ อย่างจาตุรนต์ ฉายแสง พูดบ้างเล็กน้อย และรมว.เกษตรฯ คนใหม่อย่างวันมูหะมัดนอร์ มะทา ไม่พูดอะไรเลย
ทำไม สมศักดิ์ เทพสุทิน จึงกระตือรือร้นในการแสดงความเห็น ? คำตอบไม่ได้อยู่ในสายลม แต่อยู่ตรงที่ว่า...เขาคืออดีตรมว.เกษตรฯ ผู้ผลักดันโครงการนี้มากับมือ ทำมากับมือตั้งแต่ต้น ตั้งแต่พ..ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้แสดงอาการว่าเห็นด้วยหรือไม่ และต่อมาเปิดไฟเขียวผ่านตลอด จนกระทั่งประกาศเป็นธงนโยบายของพรรคไทยรักไทยในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า..
คนที่เป็นมือทำงานโคแก้จนของสมศักดิ์ก็คือเพื่อนเก่าตั้งแต่พรรคกิจสังคมขอ งเขา นาม วิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นประธานที่ปรึกษารมว.เกษตรฯ(สมศักดิ์)
นอกเหนือจากเป้าหมายอื่นๆ ทั้งหลายทั้งปวงแล้ว ทั้ง “สมศักดิ์ - วิวรรธนไชย” ปรารถนาเป็นอย่างสูงที่จะปั้นโครงการนี้ให้เข้าตาประธานกรรมการที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยวิวรรธนไชยนั้นนอกเหนือจากลงคลุกพื้นที่แล้วยังโหมงานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ ถึงขนาดให้ทำ วีซีดีเพลงโคแก้จน โดยใช้แอ๊ด คาราบาว ร้องและเป็นพรีเซ็นเตอร์
เรื่องน่าเศร้าสำหรับ "สมศักดิ์ – วิวรรธนไชย" จนแทบจะโยนกล่องวีซีดีทิ้งก็คือ วันเดียวกับที่ทำวีซีดีเสร็จ มีการปรับครม.ทักษิณ 10 สมศักดิ์ถูกโยกจากเก้าอี้รมว.เกษตร ฯ ขึ้นเป็นรองนายกฯ แต่อาศัย “ลูกบ้าเที่ยวล่าสุด” ของวิวรรธนไชย เพียงวันที่สองหลังสมศักดิ์ถูกปรับเขาสามารถทำให้วีซีดีเพลงโคแก้จนปรากฏอยู่หน้าจอโทรทัศน์และเจื้อยแจ้วอยู่ตามสถานีวิทยุกระจายเสียง...
ในเนื้อเพลงโคแก้จนนั้นชัดยิ่งกว่าชัดว่า...เชิดชูสมศักดิ์อย่างเลิศลอย ประมาณว่าเป็น..ฮ๊โร่ โคล้านตัว...
จึงน่าจะกล่าวได้ว่า...น้ำตาแห่งความเสียดายที่สมศักดิ์หลั่งรินวันที่อำลากระทรวงเกษตรฯ มีสัดส่วนของหยดน้ำตาจาก ฮีโร่ โคล้านตัว อยู่ในอัตราสูง...
เมื่อสมศักดิ์หลุดจากกระทรวงเกษตรฯ แต่นโยบายโคล้านตัวกลายเป็นธงนโยบายของพรรคไทยรักไทย แต่เจ้ากระทรวงคนใหม่อย่างวันมูหะมัดนอร์ มะทา ยังตั้งหลักไม่ได้ โครงการวัวล้านตัวจึงตกอยู่ในมือของรมช.เกษตรฯ ที่ดูแลกรมปศุสัตว์ และ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อสค.) อย่างเนวิ น ชิดชอบ...
เนวิน ยังคงดำรงเป้าหมายของโครงการไว้แทบครบถ้วน แต่ปรับเปลี่ยนวิธีการใหม่บางส่วนเสนอโครงการนี้เข้าครม.นัดประวัติศาสตร์ ขณะที่สมศักดิ์ยังรักและผูกพันถึงขั้นตามไปขอให้เปลี่ยนชื่อโครงการใหม่ว่า...โครงการโคล้านครอบครัว...กันเลยทีเดียว..
แม้จะดำรงเป้าหมาย – ปรัชญาเดิม เหมือนที่ “สมศักดิ์ – วิวรรธนไชย”ตั้งไว้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า..โครงการที่คลอดออกมามีความแปรกแปร่งและแตกต่างออกไป จนชวนให้ตั้งปุจฉาว่าโครงการนี้จะ..เกิดความสิ้นเปลือง /ล่าช้า เผลอๆ จะกลายพันธุ์เป็นวัวพลาสติกหรือไม่ ?
หลักใหญ่ๆ ของความแตกต่าง ก็คือตามแนวของสมศักดิ์ เริ่มจากซื้อวัวแจกให้ชาวบ้าน แล้วตามไปผสมเทียม-พัฒนาพันธุ์ในภายหลัง ส่วนแนวของเนวินเริ่มจากอบรมเจ้าหน้าที่ผสมเทียม 2 หมื่นคน ค่าอบรมคนละ 7 พันบาท จากนั้นไปผสมเทียม-พัฒนาพันธุ์แล้วแจกโคให้ชาวบ้านเลี้ยง...
เพียงเริ่มต้นก็แตกต่างกัน...ถ้าสังเกตให้ดี ที่ปรึกษาของสมศักดิ์อย่างวิวรรธนไชยก็ให้สัมภาษณ์แสดงความอึดอัดขัดข้องใจ ทำนองว่าโครงการมันเริ่มกลายพันธุ์....
นี่ยังไม่นับความสลับซับซ้อนของSPV ที่นาทีนี้ยังเป็นองค์กรซ่อนเงื่อน เพราะยังเป็นSPV บนแผ่นกระดาษ ไม่เห็นตัวตน ความโปร่งใสยังเป็นเรื่องรอคอยการพิสูจน์.....
แม้ว่าโครงการโคล้านตัวอาจจะเป็นที่เข้าตาโดนใจชาวบ้านระดับรากหญ้าอยู่ไม่น้อย...แต่สังคมโดยรวมทั่วๆไป ยังคาใจอยู่พอประมาณ...และเป็นภารกิจที่ คนชื่อ “ทักษิณ – สมศักดิ์ –เนวิน” จะต้องช่วยกันอธิบาย ด้วยภาษาและโครงการเดียวกัน...นับจากนี้เป็นต้นไป..
เบื้องแรกเอาให้ชัดว่าเพลงโคล้านครอบครัว ใครจะประสานเสียงสูง ต่ำ...ใครจะเป็นนักร้องนำกันแน่..!?