รายการคนในข่าวประจำวันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2547 ได้สนทนาในหัวข้อ “ปิดฉากผืนผ้าใบในทีมชาติ ไม่ได้โม้” มี จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ เป็นผู้ดำเนินรายการ แขกรับเชิญมี ร.อ.สมรักษ์ คำสิงห์ (รน.) วีรบุรุษเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย และอ.ละเอียด รักสุจริต ครู “สมรักษ์” สมัยเรียน ร.ร.ผดุงศิษย์พิทยา มาร่วมสนทนา
พิธีกร สวัสดีค่ะคุณผู้ชมคะขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการคนในข่าววันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2547ค่ะ นั่นคือภาพประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 เหรียญทองโอลิมปิกเหรียญแรกได้มาจากชายผู้นี้ สมรักษ์ คำสิงห์ และเมื่อวานนี้ก็เป็นวันอีกวันนึงที่เค้าจะต้องจดจำไปตลอดชั่วชีวิตเช่นเดียวกัน เพราะว่าเค้าได้รับใช้ชาติมาหลายครั้งหลายหนแล้วจะด้วยความล้มเหลวหรือจะด้วยเหตุผลใดๆ ที่ทำให้เค้าต้องตัดสินใจแขวนนวมเมื่อวานนี้ วันนี้เราจะมาคุยกันจะมาเปิดใจกันว่าเส้นทางชีวิตของชายผู้นี้ต่อไปจะเป็นอย่างไรค่ะ ขอแนะนำคุณสมรักษ์ คำสิงห์ค่ะ สวัสดีค่ะ เมื่อวานนี้พึ่งจะเหนื่อยจากงานที่ขอนแก่นเป็นยังไงบ้างคะบรรยากาศเมื่อวานเต็มไปด้วยน้ำตาตอนขึ้นไปพูดบนเวที
คุณสมรักษ์ ใช่ครับ เป็นอะไรที่ประทับใจมากและก็เป็นภาพที่ผมว่ามันยิ่งใหญ่นะและก็ทุกคนในห้องที่จัดเลี้ยงร้องไห้ร้องตามผมหมด
พิธีกร คุณบาสพูดอะไรทำไมทุกคนถึงร้องไห้คะ
คุณสมรักษ์ ผมก็ไม่รู้พูดอะไร
พิธีกร จำไม่ได้แล้ว
คุณสมรักษ์ เพราะว่ามันตื้นตันมาก
พิธีกร พูดไปตามอารมณ์ความรู้สึกตอนนั้นใช่มั้ยคะ
คุณสมรักษ์ ใช่ๆ คือตอนผมได้เหรียญทองผมนึกว่าผมยิ่งใหญ่แล้วนะไปไหนมาไหนก็มีคนชื่นชมมีคนแห่แหนก็เวลาเราแพ้เนี่ยหายากแล้วมาขอนแก่นแล้วคนขอนแก่นมาจัดงานเลี้ยงอำลาให้ผมคือว่ายังเชิดชูผม
พิธีกร เกิดคำถามว่าสมรักษ์หายไปไหนตั้งต้อง 2 – 3 ปีไม่ได้ไปชกมวยไปเล่นหนัง แล้วทำไมถึงตัดสินใจกลับมารับใช้ชาติอีกครั้งนึงมีคนเค้าพูดถึงขนาดว่า อ๋อ ตังค์หมดแล้วสิท่า
คุณสมรักษ์ จริงๆ แล้วผมก็เลิกมานานแล้ว แล้วมีคนมาแทนที่ผมเยอะ สรุปแล้วรุ่น 57 กิโลกรัม นักมวยเราหายากก็มีทางท่านนายกทางโค้ชก็มาดึงผมไปชกไปคุยกับผมที่ร้านให้ผมกลับไปชก
พิธีกร อ๋อ ไปตามเลย
คุณสมรักษ์ ครับผม เพราะว่าคนอื่นไปคัดแล้ว แต่ว่าคัดไม่ได้ก็เลยให้ผมลองไปคัดดู พอผมไปคัดผมไปครั้งเดียวผมได้เลย
พิธีกร เดี๋ยวก่อนน้ำหนักตอนนั้นเท่าไหร่คะ
คุณสมรักษ์ 68 กิโลกรัมครับ
พิธีกร แล้วไปชกรุ่น 57 ต้องลดน้ำหนักถึง 11 กิโล
คุณสมรักษ์ ใช่ แล้วหยุดไป 3 ปี
พิธีกร การฝึกซ้อมอะไรก็ไม่ได้ต่อเนื่อง
คุณสมรักษ์ จริงๆ ผมก็บอกแล้วเราน่าจะลงรุ่น 60 กิโลหรือว่า 64 อะไรอย่างเนี้ย แต่ถ้าเราขึ้นไปคัดกับน้องๆ เค้าเนี่ยมันก็จะเป็นการตัดโอกาสเด็กเค้าก็จะเสียกำลังใจ เราก็ต้องปล่อยโอกาสให้เค้าบ้าง
พิธีกร ด้วยความจำใจรึเปล่าคะถามจริงๆ
คุณสมรักษ์ ผมเต็มใจอยู่แล้วครับ
พิธีกร แต่รู้มั้ยว่าเราจะต้องลดน้ำหนักถึง 11 กิโลกรัม คือรู้มั้ยว่าเราจะเจออะไรข้างหน้าคิดอะไรอยู่ตอนนั้นน่ะ
คุณสมรักษ์ ผมเป็นนักมวย ผมรักมวยมากกว่า ผมมีความรู้สึกว่าในยามที่ประเทศชาติต้องการเราก็น่าจะกลับมารับใช้ประเทศชาติ
พิธีกร คิดว่าตัวเองยังไหวแล้วก็สู้
คุณสมรักษ์ ครับ ทั้งๆ ที่ผมรู้ว่าเราไม่เหมือนเดิมแล้วนะ เราช้า เราแก่ไปเยอะหยุดไปนาน แล้วก็ต้องลดน้ำหนักเยอะ แต่ว่าการไปเก็บตัวซ้อมมวยผมก็ช่วยทีมได้เยอะ หมายถึงว่าต้องสอนน้องๆ ด้วยเป็นผู้หลักผู้ใหญ่โม้อบรมน้องไปเรื่อยเปื่อยและก็ช่วยสอนเทคนิคน้องเวลาเล่นคู่เวลาลงนวมก็ช่วยน้องเค้า
พิธีกร แทนที่ไปเก็บตัวจะซ้อมของตัวเองแต่ไปช่วยเค้า
คุณสมรักษ์ ช่วยเค้ามากกว่าช่วยทีมมากกว่า เอาประสบการณ์ที่เรามีไปสอนน้องก็ภูมิใจนะที่เด็กขึ้นมาแทนที่เรา
พิธีกร ถึงแม้ว่าเราจะแพ้ไม่ได้เหรียญอะไรกลับมาเลยก็ตาม
คุณสมรักษ์ ครับผม
พิธีกร เสียใจมั้ยคะถามจริงๆ
คุณสมรักษ์ ก็เสียใจทุกคนไปก็มีหวังหมดล่ะครับจะบอกว่าไม่เสียใจก็คงไม่ได้ เพราะผมไปตอนนั้นผมก็หวังไว้เหมือนกัน
พิธีกร แต่เตรียมใจเอาไว้แล้วเหมือนกัน
คุณสมรักษ์ ครับถ้าเกิดได้มาเนี่ยมันก็เป็นอีกประวัติศาสตร์หนึ่ง
พิธีกร เอาล่ะคุณสมรักษ์เดี๋ยวเราจะพักกันสักครู่ก่อนรู้แล้วที่มาที่ไปว่าทำไมคุณสมรักษ์ คำสิงห์ถึงยินดีที่จะไปรับใช้ประเทศชาติ เดี๋ยวกลับมาช่วงหน้าค่ะ
พิธีกร เอาล่ะค่ะกลับมาคุยกันต่อกับคุณสมรักษ์ คำสิงห์นะคะต้องย้อนถามกลับไปถึงอดีตเมื่อตอนปี 39 กลับมาเป็นฮีโร่ของคนไทยเหรียญทองเหรียญแรกเนี่ยนะคะเค้าว่ากันว่าได้สตางค์รวมเบ็ดเสร็จแล้วเกือบร้อยล้านจริงรึเปล่าถึงมั้ยคะ
คุณสมรักษ์ ไม่ถึงครับ ข่าวโม้
พิธีกร แต่ว่าได้ไปเยอะเหมือนกันประมาณได้มั้ยคะมีอยู่เท่าไหร่ตอนนั้น
คุณสมรักษ์ ได้เหลือจริงๆ ก็ประมาณ 21 ล้าน
พิธีกร ก็แบ่งส่วนแบ่งให้กับทีมไป
คุณสมรักษ์ แบ่งทีมด้วย
พิธีกร แล้วเอาสตางค์ไปทำอะไรบ้าง
คุณสมรักษ์ ผมก็ซื้อบ้านครับ
พิธีกร หลังแรกเท่าไหร่คะ
คุณสมรักษ์ เกือบ 9 ล้าน 10 ล้านครับ
พิธีกร แล้วไงคะอยู่ได้นานแค่ไหน
คุณสมรักษ์ ก็อยู่มาตลอด ผมพึ่งมาเปลี่ยนปีนี้เองก็อยากมีปั๊มน้ำมันก็ทำ
พิธีกร ที่ชัยภูมิ
คุณสมรักษ์ ครับ อยากมีรถทัวร์ก็ซื้อรถทัวร์ อยากมีหมู่บ้านจัดสรรก็ทำ
พิธีกร คือพูดง่ายๆ ว่าตอนนั้นเนี่ยคือมีสตางค์แล้วอยากทำอะไรก็ทำ
คุณสมรักษ์ ครับ ผมโชคดีนะอยากทำอะไรก็ได้ทำถึงมันจะเจ๊งบ้างขาดทุนบ้างมันเป็นเรื่องของธุรกิจ
พิธีกร ตกลงธุรกิจที่เหลือยู่เป็นรูปเป็นร่างจริงๆ เนี่ย
คุณสมรักษ์ ตอนนี้สมรักษ์ย่างเกาหลีเนี่ยยังอยู่ไม่ได้โม้
พิธีกร ไม่ได้โม้ คำนี้มาจากไหนคะหลายคนยังสงสัยอยู่ เพราะว่าเป็นคนขี้โม้เองโดยธรรมชาติหรือเปล่า
คุณสมรักษ์ ไม่หรอก ผมปกติก็จะโดนนักข่าวหาว่าขี้โม้อะไรอย่างเนี้ย
พิธีกร ทำไมล่ะคะทำไมนักข่าวหาว่าเราขี้โม้ เพราะเราไปโม้ว่าเราทำโน่นได้ทำนี่ได้จริงรึเปล่า
คุณสมรักษ์ ก็เวลาเค้าถามว่าต่อยกับคนนี้เป็นไงบ้าง ก็บอกคนนี้เคยต่อยกับผมมา 3 ครั้งแล้วแพ้ผมหมดเลย ผมก็คุยไปยิ้มไปหัวเราะไปไงเป็นสไตล์ของผมคนนี้ผมต่อยมือเดียวก็ชนะ
พิธีกร คือพูดทีเล่นทีจริง
คุณสมรักษ์ จริงๆ เลย
พิธีกร นักข่าวก็เลยแหมโม้ตลอด
คุณสมรักษ์ คือนักมวยปกติเนี่ยจะถามคำตอบคำ แต่ผมถามคำตอบไป 20 คำ
พิธีกร เอาล่ะมาคุยกันต่อเรื่องธุรกิจปั๊มน้ำมันยังอยู่
คุณสมรักษ์ ครับ
พิธีกร หมู่บ้านจัดสรรก็ยังอยู่
คุณสมรักษ์ ครับ
พิธีกร อยู่ที่ไหนคะ
คุณสมรักษ์ ขอนแก่น
พิธีกร ยังขายได้
คุณสมรักษ์ ก็พอได้ก็คือต้องหุ้นกัน อย่างหมู่บ้านจัดสรรก็คือต้องหุ้นกับเค้า เพราะมันใช้เงินเยอะ
พิธีกร อย่างกรณีปั๊มน้ำมันหรือว่าหมู่บ้านจัดสรรเนี่ยให้ใครดูแลให้ใครบริหารให้
คุณสมรักษ์ ก็เป็นญาติๆ กันครับ แต่ว่าทุกอย่างก็ชื่อผมหมด บางครั้งเราต้องดูแลญาติพี่น้องนะครับ คือถ้าเกิดไม่ให้ทำอะไรเลยอยู่ๆ เดี๋ยวก็มาขอความช่วยเหลือสู้เราไปลงทุนอะไรให้สักอย่างไปทำมาหากินเอง
พิธีกร แล้วอย่างค่ายมวยเนี่ยจะทำสืบเจตนารมย์ตัวเองต่อไป
คุณสมรักษ์ ก็จริงๆ แล้วผมทำมาก่อนที่ผมจะได้เหรียญทองโอลิมปิก เพราะว่าผมมีความรู้สึกว่าผมชอบกีฬามวยเนี่ยเป็นอะไรที่มีบุณคุณกับผม ผมมายืนอยู่ตรงนี้ได้ทุกวันนี้ก็เพราะกีฬามวย เพราะฉะนั้นมวยเนี่ยเป็นสายเลือดผมแล้ว ผมเลี้ยงเด็กนักมวยมาตั้งแต่ยังไม่ได้เหรียญทองโอลิมปิก ผมก็เอาเด็กทางบ้านมาส่งเรียนมั่ง ตอนนั้นผมยังไม่มีตังค์นะมากินด้วยกันอยู่ด้วยกันเป็นพี่กับน้อง แล้วก็อีกอยากหนึ่งที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้ได้ ผมเชื่อว่าอาจจะเป็นบุญพาวาสนาส่ง แล้วก็ไม่จำเป็นต้องมาชกมวยอย่างแถวบ้านเค้าก็เอามาฝาก
พิธีกร อ๋อ เค้าเอามาฝากแต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นนักมวยทุกคน
คุณสมรักษ์ ใช่ เค้าถามว่าเสียค่าใช้จ่ายมั้ยคิดเท่าไหร่บอกไม่เรียนฟรีพี่แค่เด็กมาเล่นกีฬาผมก็ดีใจแล้ว ผมก็มีเทรนเนอร์ฝึกให้และก็ไม่จำเป็นต้องไปชกมวยจริงๆ เป็นการออกกำลังกาย
พิธีกร ตอนนี้ดูแลเด็กกี่คนคะ
คุณสมรักษ์ เด็กในค่ายผมจริงๆ ที่ชกมวยจริงๆ ประมาณ 10 กว่าคน เพราะว่าผมเพิ่มตั้งค่ายที่สมรักษ์อย่างเกาหลี ส่วนมากก็เป็นเด็กกำพร้าและก็ลูกพนักงานในร้านอยากหัดก็ไปหัดลูกค้าที่มานั่งทานก็อยากเอาลูกมาฝาก
พิธีกร ก็รับเหรอคะ
คุณสมรักษ์ คือเราไม่ได้คิดตังค์
พิธีกร แล้วงานแสดง งานพิธีกรหรือว่าถ่ายแบบอะไรก็แล้วแต่ไม่ชอบเหรุอคะได้สตางค์เยอะกว่าด้วย
คุณสมรักษ์ นั่นคืออีกวงการนึงมากกว่า แต่พื้นฐานผมคือนักมวย
พิธีกร นี่คุณสมรักษ์กำลังจะบอกใช่มั้ยคะว่าสึดท้ายบั้นปลายชีวิตยังไงก็ไม่พ้นมีชีวิตอยู่กับการทำค่ายมวยสอนเด็กๆ
คุณสมรักษ์ คืออย่างตอนเย็นมาผมไม่ได้ไปไหน ผมก็อยู่ในค่ายมวยบางทีอย่างบ้านผมเนี่ยหลังนึงซื้อมาหลายตังค์ ผมยังไม่ค่อยนอนบ้านเลย ผมจะนอนอยู่ค่ายมวยมากกว่าจนแฟนผมบอกว่าสร้างมาทำไมเนี่ยซื้อทำไมเนี่ย 7 – 8 ล้านซื้อทำไม
พิธีกร ค่ะ นี่แสดงว่ารักอาชีพนี้จริงๆ รักกีฬาชนิดนี้เป็นชีวิตจิตใจ แต่เดี๋ยวก่อนนะคะก่อนที่สมรักษ์ คำสิงห์คนนี้จะก้าวมาถึงวันนี้ได้มีบุคคลสำคัญอยู่คนนึงสมัยตอนที่เป็นนักเรียนเป็นผู้สนับสนุนดูแลและก็ต้องบอกว่าเป็นผู้ที่มีบุญคุณกับสมรักษ์ คำสิงห์อย่างยิ่ง พักกันสักครู่ช่วงหน้ากลับมาดูกันค่ะว่าเป็นใคร
พิธีกร ช่วงท้ายของรายการนะคะเราได้รับเกรียติจากต้องเรียกได้ว่าเป็นคนดูแลสมรักษ์ คำสิงห์ สมัยตอนที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนผดุงศิษย์พิทยา แล้วก็ดูแลกันมาเป็นอย่างดีนะคะแล้วก็ดูแลค่ายมวยของโรงเรียนด้วย คุณครูละเอียด รักสุจริต ตอนนี้เป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองของโรงเรียนผดุงศิษย์พิทยาค่ะ อาจารย์ขาสวัสดีค่ะ ขอบพระคุณค่ะอาจารย์ขาที่มาให้เกรียติกับรายการของเราในวันนี้นะคะ สมรักษ์เนี่ยเค้าพูดถึงอาจารย์ละเอียดเกือบจะทุกครั้งที่เค้าจะต้องกลับไปที่โรงเรียนหรือว่าจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเค้าบอกว่าเค้าเรียกแม่จริงรึเปล่าคะ
คุณละเอียด ค่ะ
พิธีกร ดูแลเค้ายังไงคะตอนนั้น
คุณละเอียด ก็ดูแลเหมือนลูกชายคนสุดท้องค่ะ หลักธรรมดาเนี่ยจะเป็นคนที่รักเด็กๆ ที่มาจากต่างจังหวัดอย่างเนี้ยนะคะ เพราะว่ามาจากบ้านไกลก็จะเอาใจใส่เค้ามาก
พิธีกร เค้าเป็นคนพิเศษของอาจารย์เลยรึเปล่าคะต้องดูแลเค้าเป็นพิเศษ
คุณละเอียด ก็ต้องดูค่ะ เพราะว่าเราก็ทราบว่าเด็กถ้ามาจากต่างจังหวัดแล้วก็ต้องห่างพ่อห่างแม่อะไรอย่างเนี้ยนะคะและก็อยากจะดูแลเค้าให้ดีที่สุดค่ะ
พิธีกร คุณบาสเป็นน้องเล็กหรือคะตอนนั้น
คุณละเอียด ไม่ค่ะ พอเข้าเนี่ยจะมีหลายๆ คนนะคะและก็เป็นนักมวยที่มาจากขอนแก่นก็มีหลายคน ตั้งแต่พี่ชายเค้ามาและก็คนอื่นอีก
คุณสมรักษ์ คือตอนนั้นนักมวยเยอะมาก
คุณละเอียด ตอนเรียน ม.2 ค่ะ
พิธีกร เมื่อก่อนเค้าขี้โม้มั้ยคะ
คุณละเอียด ไม่ค่ะ
คุณสมรักษ์ คือมีนักมวยเยอะมากที่แม่ละเอียดเค้าดูแล แต่จะดูแลผมเป็นพิเศษ เพราะนักมวยตรงนั้นเนี่ยมีผมหล่อที่สุด
พิธีกร ไม่ค่อยโม้เท่าไหร่เลยค่ะ อาจารย์ขาและเมื่อก่อนลักษณะนิสัยคุณสมรักษ์เป็นยังไงคะ
คุณละเอียด เป็นคนร่าเริงเค้าจะพูดอะไรเค้าก็จะพูดไปตรงๆ
พิธีกร อ๋อ เป็นคนตรงไปตรงมา
คุณละเอียด ค่ะ
พิธีกร แล้วกับเพื่อนเป็นยังไงคะ
คุณละเอียด เพื่อนรักเค้ามากเลยค่ะ
พิธีกร อย่างที่เค้าเล่าให้ฟังว่าเป็นลักษณะนิสัยชอบช่วยเหลือเพื่อนฝูง
คุณละเอียด ค่ะ
พิธีกร แล้วดูแลกันมากี่ปีแล้วคะ
คุณละเอียด ก็ตั้งแต่ ม.2 จนกระทั่งจบการศึกษาค่ะ ก็คือว่าเค้าก็หน่วยกร้านในเรื่องของมวยนะคะ เค้ามีทักษะดีมาก
พิธีกร อาจารย์เห็นแววเค้ามั้ยคะตอนนั้นว่าเด็กคนนี้แหละมีอะไรพิเศษกว่าคนอื่น
คุณละเอียด คือโดยมากทั่วๆ ไปเราจะดูเด็กหลายคนนะคะที่มาจากต่างจังหวัด เราจะให้ความสนใจเค้ามากหนังสือเรียนหรือว่าอุปกรณ์อะไรที่เค้าต้องการจะใช้เนี่ยจะช่วยเค้าหรือขาดเหลือทางด้านการเงินอะไรก็ให้ค่ะ
พิธีกร คุณสมรักษ์ เห็นบอกว่าไปต่างประเทศนี่ถ้าไม่ได้อ.ละเอียดนี่แย่เลยใช่มั้ยคะยังไงคะเล่าให้ฟังหน่อย
คุณสมรักษ์ ไม่หรอกไม่มีอะไร
พิธีกร ช่วยติวภาษาอังกฤษ
คุณละเอียด ก็มีพี่ชายมาอะไรอย่างเนี้ยก็จะซื้อของมาให้เคาทาน แล้วก็ซื้อหนังสือมาให้เค้าตลอดเวลา ถ้ามีอะไรที่จะให้ช่วยเหลือก็ยินดีอยู่แล้วค่ะ
พิธีกร อาจารย์เคยคิดมั้ยคะว่าลูกสิทธิ์คนนี้เนี่ยวันนึงเค้าจะได้เป็นวีรบุรุษของคนไทยคนแรกเลยที่ได้เหรียญทอง
คุณละเอียด ก็คิดอยู่เสมอนะคะ เพราะว่าที่โรงเรียนเนี่ยจะเป็นพวกนักมวยที่มีชื่อเสียง อย่างที่ผ่านๆ มานะคะรุ่นพี่เค้าก็หลายคนที่ผ่านมาเค้าก็เรียนเก่งด้วย แล้วก็อย่างสมรักษ์เนี่ยก็เรียกว่าเค้าก็มีความพยายามมุ่งมั่น
พิธีกร เกเรมั้ยคะขี้เกียจซ้อมอะไรบ้างรึเปล่าหนีเที่ยวอะไรบ้างมั้ยคะ
คุณละเอียด ก็ไม่ค่อยมีค่ะ
พิธีกร คุณสมรักษ์ ตอนเด็กๆ เนี่ยเคยมีความฝันคิดว่าตัวเองต่อไปในอนาคตเนี่ยจะประสบความสำเร็จในอาชีพมวยมั้ยหรือยังไง
คุณสมรักษ์ คิดครับ ผมเป็นนักมวยเลือกชกมวยแล้ว ผมก็มีความคิดว่าผมต้องเก่ง ผมต้องดัง ผมต้องมีตังค์ ผมดีใจที่เราชกมวยแล้วได้ตังค์ เพราะคิดว่าเราต้องช่วยเหลือครอบครัวได้
พิธีกร คิดว่าตัวเองทำได้แน่ๆ
คุณสมรักษ์ ทำได้
พิธีกร ประสบความสำเร็จมาตลอดใช่มั้ยคะอาจารย์สำหรับสมรักษ์ คำสิงห์เนี่ยต่อยมวยทีไรได้ถ้วยทุกทีเลยรึเปล่าคะ
คุณละเอียด ค่ะ
คุณสมรักษ์ ครับ ได้เรียนฟรีเลยตั้งแต่เข้า ม.2
พิธีกร เป็นคนขี้อายจริงเหรอคะตอนเด็กๆ
คุณละเอียด ก็ไม่เชิงมั้งคะ ไม่เชิงอายค่ะ แต่ชั่งพูดชั่งคุยถ้าเค้าอยากถามอะไรเค้าก็ถาม
พิธีกร อาจารย์ขาวันที่ลูกศิษย์คนนี้ได้เหรียญทองกลับมาอาจารย์ดูข่าวอยู่แน่นอน
คุณละเอียด ดูค่ะ
พิธีกร รู้สึกยังไงบ้างคะ
คุณละเอียด มันก็เป็นความปลื้มใจด้วยว่าเด็กเราได้ก้าวมาถึงจุดนี้และก็ทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติและโรงเรียนของเราด้วยนะคะก็เวลาที่เค้าไปอยู่อเมริกาเนี่ยเค้าจะโทรมาหาตลอด
พิธีกร โทรมาคุยอะไรกับ อ.ละเอียดคะคุณบาส
คุณสมรักษ์ ก็คุยไปเรื่อยเปื่อย
พิธีกร คุณสมรักษ์ เวลาที่ตัวเองรู้สึกท้อแท้ผิดหวังหรือว่าถูกกระทำมาเนี่ยเคยโทรศัพท์ไปคุยกับ อ.ละเอียดบ้างมั้ยคะ
คุณสมรักษ์ เวลาท้อแท้ผมไม่ค่อยคุยเท่าไหร่ คือถ้าผมมีทุกข์ ผมไม่อยากให้คนอื่นทุกข์ด้วยหรอก
พิธีกร อาจารย์ขาวันนี้ลูกชายคนนี้แขวนนวมแล้วอยากจะพูดอะไรกับคุณบาสมั้ยคะ
คุณละเอียด ก็เมื่อกี๊ก็คุยกับเค้าบอกว่ากีฬามันก็เป็นอย่างนี้แหละและก็เราก็มีจุดหมายอะไรที่เค้าตั้งใจมาเราก็ทำได้สำเร็จแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปไขว่คว้าอะไรอีกเค้าก็มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เค้าต้องการแล้ว
พิธีกร และคุณบาสล่ะคะอยากจะพูดอะไรกับอาจารย์และก็ท่านผู้ชมทางบ้านมั้ยคะ
คุณสมรักษ์ ครับ ก็จริงๆ แล้วอยากฝากถึงคนไทยทั่วประเทศนะครับ ผมก็รับใช้ชาติมานานนะและก็ผมไปทุกครั้ง ผมหวังทุกครั้ง ผมรักอาชีพนักมวยและผมก็รักประเทศชาติ ผมต้องการชัยชนะ ผมไม่อยากกลับมือเปล่าทุกครั้ง แต่ว่าบางครั้งหมัดมวยเนี่ยกีฬามีแพ้มีชนะ ผมไม่ถือว่าผมเป็นวีรบุรุษ ผมไม่ถือว่าผมเป็นฮีโร่ แต่มาทำตรงนี้ด้วยใจที่ผมรัก ผมทำแล้วมีความสุข ถึงผมจะแพ้หรือชนะมันเป็นเรื่องธรรมดา ผมพร้อมที่จะรับใช้ประเทศชาติทุกเมื่อ ถ้าชาติต้องการ สำหรับอาจารย์นี่ก็อบรมสั่งสอนมาให้ผมเป็นคนดีมีความรู้ แต่อาจารย์ไม่ได้สอนให้ผมโม้ ผมโม้เอง
พิธีกร ค่ะ วันนี้ขอบพระคุณทั้ง 2 ท่านเป็นอย่างสูงเลยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ ขอบคุณท่านผู้ชมทุกๆ ท่านนะคะที่ติดตาม วันนี้เวลาหมดแล้วสำหรับรายการคนในข่าว พบกันใหม่นะคะเวลาเดิม สวัสดีค่ะ
พิธีกร สวัสดีค่ะคุณผู้ชมคะขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการคนในข่าววันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2547ค่ะ นั่นคือภาพประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 เหรียญทองโอลิมปิกเหรียญแรกได้มาจากชายผู้นี้ สมรักษ์ คำสิงห์ และเมื่อวานนี้ก็เป็นวันอีกวันนึงที่เค้าจะต้องจดจำไปตลอดชั่วชีวิตเช่นเดียวกัน เพราะว่าเค้าได้รับใช้ชาติมาหลายครั้งหลายหนแล้วจะด้วยความล้มเหลวหรือจะด้วยเหตุผลใดๆ ที่ทำให้เค้าต้องตัดสินใจแขวนนวมเมื่อวานนี้ วันนี้เราจะมาคุยกันจะมาเปิดใจกันว่าเส้นทางชีวิตของชายผู้นี้ต่อไปจะเป็นอย่างไรค่ะ ขอแนะนำคุณสมรักษ์ คำสิงห์ค่ะ สวัสดีค่ะ เมื่อวานนี้พึ่งจะเหนื่อยจากงานที่ขอนแก่นเป็นยังไงบ้างคะบรรยากาศเมื่อวานเต็มไปด้วยน้ำตาตอนขึ้นไปพูดบนเวที
คุณสมรักษ์ ใช่ครับ เป็นอะไรที่ประทับใจมากและก็เป็นภาพที่ผมว่ามันยิ่งใหญ่นะและก็ทุกคนในห้องที่จัดเลี้ยงร้องไห้ร้องตามผมหมด
พิธีกร คุณบาสพูดอะไรทำไมทุกคนถึงร้องไห้คะ
คุณสมรักษ์ ผมก็ไม่รู้พูดอะไร
พิธีกร จำไม่ได้แล้ว
คุณสมรักษ์ เพราะว่ามันตื้นตันมาก
พิธีกร พูดไปตามอารมณ์ความรู้สึกตอนนั้นใช่มั้ยคะ
คุณสมรักษ์ ใช่ๆ คือตอนผมได้เหรียญทองผมนึกว่าผมยิ่งใหญ่แล้วนะไปไหนมาไหนก็มีคนชื่นชมมีคนแห่แหนก็เวลาเราแพ้เนี่ยหายากแล้วมาขอนแก่นแล้วคนขอนแก่นมาจัดงานเลี้ยงอำลาให้ผมคือว่ายังเชิดชูผม
พิธีกร เกิดคำถามว่าสมรักษ์หายไปไหนตั้งต้อง 2 – 3 ปีไม่ได้ไปชกมวยไปเล่นหนัง แล้วทำไมถึงตัดสินใจกลับมารับใช้ชาติอีกครั้งนึงมีคนเค้าพูดถึงขนาดว่า อ๋อ ตังค์หมดแล้วสิท่า
คุณสมรักษ์ จริงๆ แล้วผมก็เลิกมานานแล้ว แล้วมีคนมาแทนที่ผมเยอะ สรุปแล้วรุ่น 57 กิโลกรัม นักมวยเราหายากก็มีทางท่านนายกทางโค้ชก็มาดึงผมไปชกไปคุยกับผมที่ร้านให้ผมกลับไปชก
พิธีกร อ๋อ ไปตามเลย
คุณสมรักษ์ ครับผม เพราะว่าคนอื่นไปคัดแล้ว แต่ว่าคัดไม่ได้ก็เลยให้ผมลองไปคัดดู พอผมไปคัดผมไปครั้งเดียวผมได้เลย
พิธีกร เดี๋ยวก่อนน้ำหนักตอนนั้นเท่าไหร่คะ
คุณสมรักษ์ 68 กิโลกรัมครับ
พิธีกร แล้วไปชกรุ่น 57 ต้องลดน้ำหนักถึง 11 กิโล
คุณสมรักษ์ ใช่ แล้วหยุดไป 3 ปี
พิธีกร การฝึกซ้อมอะไรก็ไม่ได้ต่อเนื่อง
คุณสมรักษ์ จริงๆ ผมก็บอกแล้วเราน่าจะลงรุ่น 60 กิโลหรือว่า 64 อะไรอย่างเนี้ย แต่ถ้าเราขึ้นไปคัดกับน้องๆ เค้าเนี่ยมันก็จะเป็นการตัดโอกาสเด็กเค้าก็จะเสียกำลังใจ เราก็ต้องปล่อยโอกาสให้เค้าบ้าง
พิธีกร ด้วยความจำใจรึเปล่าคะถามจริงๆ
คุณสมรักษ์ ผมเต็มใจอยู่แล้วครับ
พิธีกร แต่รู้มั้ยว่าเราจะต้องลดน้ำหนักถึง 11 กิโลกรัม คือรู้มั้ยว่าเราจะเจออะไรข้างหน้าคิดอะไรอยู่ตอนนั้นน่ะ
คุณสมรักษ์ ผมเป็นนักมวย ผมรักมวยมากกว่า ผมมีความรู้สึกว่าในยามที่ประเทศชาติต้องการเราก็น่าจะกลับมารับใช้ประเทศชาติ
พิธีกร คิดว่าตัวเองยังไหวแล้วก็สู้
คุณสมรักษ์ ครับ ทั้งๆ ที่ผมรู้ว่าเราไม่เหมือนเดิมแล้วนะ เราช้า เราแก่ไปเยอะหยุดไปนาน แล้วก็ต้องลดน้ำหนักเยอะ แต่ว่าการไปเก็บตัวซ้อมมวยผมก็ช่วยทีมได้เยอะ หมายถึงว่าต้องสอนน้องๆ ด้วยเป็นผู้หลักผู้ใหญ่โม้อบรมน้องไปเรื่อยเปื่อยและก็ช่วยสอนเทคนิคน้องเวลาเล่นคู่เวลาลงนวมก็ช่วยน้องเค้า
พิธีกร แทนที่ไปเก็บตัวจะซ้อมของตัวเองแต่ไปช่วยเค้า
คุณสมรักษ์ ช่วยเค้ามากกว่าช่วยทีมมากกว่า เอาประสบการณ์ที่เรามีไปสอนน้องก็ภูมิใจนะที่เด็กขึ้นมาแทนที่เรา
พิธีกร ถึงแม้ว่าเราจะแพ้ไม่ได้เหรียญอะไรกลับมาเลยก็ตาม
คุณสมรักษ์ ครับผม
พิธีกร เสียใจมั้ยคะถามจริงๆ
คุณสมรักษ์ ก็เสียใจทุกคนไปก็มีหวังหมดล่ะครับจะบอกว่าไม่เสียใจก็คงไม่ได้ เพราะผมไปตอนนั้นผมก็หวังไว้เหมือนกัน
พิธีกร แต่เตรียมใจเอาไว้แล้วเหมือนกัน
คุณสมรักษ์ ครับถ้าเกิดได้มาเนี่ยมันก็เป็นอีกประวัติศาสตร์หนึ่ง
พิธีกร เอาล่ะคุณสมรักษ์เดี๋ยวเราจะพักกันสักครู่ก่อนรู้แล้วที่มาที่ไปว่าทำไมคุณสมรักษ์ คำสิงห์ถึงยินดีที่จะไปรับใช้ประเทศชาติ เดี๋ยวกลับมาช่วงหน้าค่ะ
พิธีกร เอาล่ะค่ะกลับมาคุยกันต่อกับคุณสมรักษ์ คำสิงห์นะคะต้องย้อนถามกลับไปถึงอดีตเมื่อตอนปี 39 กลับมาเป็นฮีโร่ของคนไทยเหรียญทองเหรียญแรกเนี่ยนะคะเค้าว่ากันว่าได้สตางค์รวมเบ็ดเสร็จแล้วเกือบร้อยล้านจริงรึเปล่าถึงมั้ยคะ
คุณสมรักษ์ ไม่ถึงครับ ข่าวโม้
พิธีกร แต่ว่าได้ไปเยอะเหมือนกันประมาณได้มั้ยคะมีอยู่เท่าไหร่ตอนนั้น
คุณสมรักษ์ ได้เหลือจริงๆ ก็ประมาณ 21 ล้าน
พิธีกร ก็แบ่งส่วนแบ่งให้กับทีมไป
คุณสมรักษ์ แบ่งทีมด้วย
พิธีกร แล้วเอาสตางค์ไปทำอะไรบ้าง
คุณสมรักษ์ ผมก็ซื้อบ้านครับ
พิธีกร หลังแรกเท่าไหร่คะ
คุณสมรักษ์ เกือบ 9 ล้าน 10 ล้านครับ
พิธีกร แล้วไงคะอยู่ได้นานแค่ไหน
คุณสมรักษ์ ก็อยู่มาตลอด ผมพึ่งมาเปลี่ยนปีนี้เองก็อยากมีปั๊มน้ำมันก็ทำ
พิธีกร ที่ชัยภูมิ
คุณสมรักษ์ ครับ อยากมีรถทัวร์ก็ซื้อรถทัวร์ อยากมีหมู่บ้านจัดสรรก็ทำ
พิธีกร คือพูดง่ายๆ ว่าตอนนั้นเนี่ยคือมีสตางค์แล้วอยากทำอะไรก็ทำ
คุณสมรักษ์ ครับ ผมโชคดีนะอยากทำอะไรก็ได้ทำถึงมันจะเจ๊งบ้างขาดทุนบ้างมันเป็นเรื่องของธุรกิจ
พิธีกร ตกลงธุรกิจที่เหลือยู่เป็นรูปเป็นร่างจริงๆ เนี่ย
คุณสมรักษ์ ตอนนี้สมรักษ์ย่างเกาหลีเนี่ยยังอยู่ไม่ได้โม้
พิธีกร ไม่ได้โม้ คำนี้มาจากไหนคะหลายคนยังสงสัยอยู่ เพราะว่าเป็นคนขี้โม้เองโดยธรรมชาติหรือเปล่า
คุณสมรักษ์ ไม่หรอก ผมปกติก็จะโดนนักข่าวหาว่าขี้โม้อะไรอย่างเนี้ย
พิธีกร ทำไมล่ะคะทำไมนักข่าวหาว่าเราขี้โม้ เพราะเราไปโม้ว่าเราทำโน่นได้ทำนี่ได้จริงรึเปล่า
คุณสมรักษ์ ก็เวลาเค้าถามว่าต่อยกับคนนี้เป็นไงบ้าง ก็บอกคนนี้เคยต่อยกับผมมา 3 ครั้งแล้วแพ้ผมหมดเลย ผมก็คุยไปยิ้มไปหัวเราะไปไงเป็นสไตล์ของผมคนนี้ผมต่อยมือเดียวก็ชนะ
พิธีกร คือพูดทีเล่นทีจริง
คุณสมรักษ์ จริงๆ เลย
พิธีกร นักข่าวก็เลยแหมโม้ตลอด
คุณสมรักษ์ คือนักมวยปกติเนี่ยจะถามคำตอบคำ แต่ผมถามคำตอบไป 20 คำ
พิธีกร เอาล่ะมาคุยกันต่อเรื่องธุรกิจปั๊มน้ำมันยังอยู่
คุณสมรักษ์ ครับ
พิธีกร หมู่บ้านจัดสรรก็ยังอยู่
คุณสมรักษ์ ครับ
พิธีกร อยู่ที่ไหนคะ
คุณสมรักษ์ ขอนแก่น
พิธีกร ยังขายได้
คุณสมรักษ์ ก็พอได้ก็คือต้องหุ้นกัน อย่างหมู่บ้านจัดสรรก็คือต้องหุ้นกับเค้า เพราะมันใช้เงินเยอะ
พิธีกร อย่างกรณีปั๊มน้ำมันหรือว่าหมู่บ้านจัดสรรเนี่ยให้ใครดูแลให้ใครบริหารให้
คุณสมรักษ์ ก็เป็นญาติๆ กันครับ แต่ว่าทุกอย่างก็ชื่อผมหมด บางครั้งเราต้องดูแลญาติพี่น้องนะครับ คือถ้าเกิดไม่ให้ทำอะไรเลยอยู่ๆ เดี๋ยวก็มาขอความช่วยเหลือสู้เราไปลงทุนอะไรให้สักอย่างไปทำมาหากินเอง
พิธีกร แล้วอย่างค่ายมวยเนี่ยจะทำสืบเจตนารมย์ตัวเองต่อไป
คุณสมรักษ์ ก็จริงๆ แล้วผมทำมาก่อนที่ผมจะได้เหรียญทองโอลิมปิก เพราะว่าผมมีความรู้สึกว่าผมชอบกีฬามวยเนี่ยเป็นอะไรที่มีบุณคุณกับผม ผมมายืนอยู่ตรงนี้ได้ทุกวันนี้ก็เพราะกีฬามวย เพราะฉะนั้นมวยเนี่ยเป็นสายเลือดผมแล้ว ผมเลี้ยงเด็กนักมวยมาตั้งแต่ยังไม่ได้เหรียญทองโอลิมปิก ผมก็เอาเด็กทางบ้านมาส่งเรียนมั่ง ตอนนั้นผมยังไม่มีตังค์นะมากินด้วยกันอยู่ด้วยกันเป็นพี่กับน้อง แล้วก็อีกอยากหนึ่งที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้ได้ ผมเชื่อว่าอาจจะเป็นบุญพาวาสนาส่ง แล้วก็ไม่จำเป็นต้องมาชกมวยอย่างแถวบ้านเค้าก็เอามาฝาก
พิธีกร อ๋อ เค้าเอามาฝากแต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นนักมวยทุกคน
คุณสมรักษ์ ใช่ เค้าถามว่าเสียค่าใช้จ่ายมั้ยคิดเท่าไหร่บอกไม่เรียนฟรีพี่แค่เด็กมาเล่นกีฬาผมก็ดีใจแล้ว ผมก็มีเทรนเนอร์ฝึกให้และก็ไม่จำเป็นต้องไปชกมวยจริงๆ เป็นการออกกำลังกาย
พิธีกร ตอนนี้ดูแลเด็กกี่คนคะ
คุณสมรักษ์ เด็กในค่ายผมจริงๆ ที่ชกมวยจริงๆ ประมาณ 10 กว่าคน เพราะว่าผมเพิ่มตั้งค่ายที่สมรักษ์อย่างเกาหลี ส่วนมากก็เป็นเด็กกำพร้าและก็ลูกพนักงานในร้านอยากหัดก็ไปหัดลูกค้าที่มานั่งทานก็อยากเอาลูกมาฝาก
พิธีกร ก็รับเหรอคะ
คุณสมรักษ์ คือเราไม่ได้คิดตังค์
พิธีกร แล้วงานแสดง งานพิธีกรหรือว่าถ่ายแบบอะไรก็แล้วแต่ไม่ชอบเหรุอคะได้สตางค์เยอะกว่าด้วย
คุณสมรักษ์ นั่นคืออีกวงการนึงมากกว่า แต่พื้นฐานผมคือนักมวย
พิธีกร นี่คุณสมรักษ์กำลังจะบอกใช่มั้ยคะว่าสึดท้ายบั้นปลายชีวิตยังไงก็ไม่พ้นมีชีวิตอยู่กับการทำค่ายมวยสอนเด็กๆ
คุณสมรักษ์ คืออย่างตอนเย็นมาผมไม่ได้ไปไหน ผมก็อยู่ในค่ายมวยบางทีอย่างบ้านผมเนี่ยหลังนึงซื้อมาหลายตังค์ ผมยังไม่ค่อยนอนบ้านเลย ผมจะนอนอยู่ค่ายมวยมากกว่าจนแฟนผมบอกว่าสร้างมาทำไมเนี่ยซื้อทำไมเนี่ย 7 – 8 ล้านซื้อทำไม
พิธีกร ค่ะ นี่แสดงว่ารักอาชีพนี้จริงๆ รักกีฬาชนิดนี้เป็นชีวิตจิตใจ แต่เดี๋ยวก่อนนะคะก่อนที่สมรักษ์ คำสิงห์คนนี้จะก้าวมาถึงวันนี้ได้มีบุคคลสำคัญอยู่คนนึงสมัยตอนที่เป็นนักเรียนเป็นผู้สนับสนุนดูแลและก็ต้องบอกว่าเป็นผู้ที่มีบุญคุณกับสมรักษ์ คำสิงห์อย่างยิ่ง พักกันสักครู่ช่วงหน้ากลับมาดูกันค่ะว่าเป็นใคร
พิธีกร ช่วงท้ายของรายการนะคะเราได้รับเกรียติจากต้องเรียกได้ว่าเป็นคนดูแลสมรักษ์ คำสิงห์ สมัยตอนที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนผดุงศิษย์พิทยา แล้วก็ดูแลกันมาเป็นอย่างดีนะคะแล้วก็ดูแลค่ายมวยของโรงเรียนด้วย คุณครูละเอียด รักสุจริต ตอนนี้เป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองของโรงเรียนผดุงศิษย์พิทยาค่ะ อาจารย์ขาสวัสดีค่ะ ขอบพระคุณค่ะอาจารย์ขาที่มาให้เกรียติกับรายการของเราในวันนี้นะคะ สมรักษ์เนี่ยเค้าพูดถึงอาจารย์ละเอียดเกือบจะทุกครั้งที่เค้าจะต้องกลับไปที่โรงเรียนหรือว่าจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเค้าบอกว่าเค้าเรียกแม่จริงรึเปล่าคะ
คุณละเอียด ค่ะ
พิธีกร ดูแลเค้ายังไงคะตอนนั้น
คุณละเอียด ก็ดูแลเหมือนลูกชายคนสุดท้องค่ะ หลักธรรมดาเนี่ยจะเป็นคนที่รักเด็กๆ ที่มาจากต่างจังหวัดอย่างเนี้ยนะคะ เพราะว่ามาจากบ้านไกลก็จะเอาใจใส่เค้ามาก
พิธีกร เค้าเป็นคนพิเศษของอาจารย์เลยรึเปล่าคะต้องดูแลเค้าเป็นพิเศษ
คุณละเอียด ก็ต้องดูค่ะ เพราะว่าเราก็ทราบว่าเด็กถ้ามาจากต่างจังหวัดแล้วก็ต้องห่างพ่อห่างแม่อะไรอย่างเนี้ยนะคะและก็อยากจะดูแลเค้าให้ดีที่สุดค่ะ
พิธีกร คุณบาสเป็นน้องเล็กหรือคะตอนนั้น
คุณละเอียด ไม่ค่ะ พอเข้าเนี่ยจะมีหลายๆ คนนะคะและก็เป็นนักมวยที่มาจากขอนแก่นก็มีหลายคน ตั้งแต่พี่ชายเค้ามาและก็คนอื่นอีก
คุณสมรักษ์ คือตอนนั้นนักมวยเยอะมาก
คุณละเอียด ตอนเรียน ม.2 ค่ะ
พิธีกร เมื่อก่อนเค้าขี้โม้มั้ยคะ
คุณละเอียด ไม่ค่ะ
คุณสมรักษ์ คือมีนักมวยเยอะมากที่แม่ละเอียดเค้าดูแล แต่จะดูแลผมเป็นพิเศษ เพราะนักมวยตรงนั้นเนี่ยมีผมหล่อที่สุด
พิธีกร ไม่ค่อยโม้เท่าไหร่เลยค่ะ อาจารย์ขาและเมื่อก่อนลักษณะนิสัยคุณสมรักษ์เป็นยังไงคะ
คุณละเอียด เป็นคนร่าเริงเค้าจะพูดอะไรเค้าก็จะพูดไปตรงๆ
พิธีกร อ๋อ เป็นคนตรงไปตรงมา
คุณละเอียด ค่ะ
พิธีกร แล้วกับเพื่อนเป็นยังไงคะ
คุณละเอียด เพื่อนรักเค้ามากเลยค่ะ
พิธีกร อย่างที่เค้าเล่าให้ฟังว่าเป็นลักษณะนิสัยชอบช่วยเหลือเพื่อนฝูง
คุณละเอียด ค่ะ
พิธีกร แล้วดูแลกันมากี่ปีแล้วคะ
คุณละเอียด ก็ตั้งแต่ ม.2 จนกระทั่งจบการศึกษาค่ะ ก็คือว่าเค้าก็หน่วยกร้านในเรื่องของมวยนะคะ เค้ามีทักษะดีมาก
พิธีกร อาจารย์เห็นแววเค้ามั้ยคะตอนนั้นว่าเด็กคนนี้แหละมีอะไรพิเศษกว่าคนอื่น
คุณละเอียด คือโดยมากทั่วๆ ไปเราจะดูเด็กหลายคนนะคะที่มาจากต่างจังหวัด เราจะให้ความสนใจเค้ามากหนังสือเรียนหรือว่าอุปกรณ์อะไรที่เค้าต้องการจะใช้เนี่ยจะช่วยเค้าหรือขาดเหลือทางด้านการเงินอะไรก็ให้ค่ะ
พิธีกร คุณสมรักษ์ เห็นบอกว่าไปต่างประเทศนี่ถ้าไม่ได้อ.ละเอียดนี่แย่เลยใช่มั้ยคะยังไงคะเล่าให้ฟังหน่อย
คุณสมรักษ์ ไม่หรอกไม่มีอะไร
พิธีกร ช่วยติวภาษาอังกฤษ
คุณละเอียด ก็มีพี่ชายมาอะไรอย่างเนี้ยก็จะซื้อของมาให้เคาทาน แล้วก็ซื้อหนังสือมาให้เค้าตลอดเวลา ถ้ามีอะไรที่จะให้ช่วยเหลือก็ยินดีอยู่แล้วค่ะ
พิธีกร อาจารย์เคยคิดมั้ยคะว่าลูกสิทธิ์คนนี้เนี่ยวันนึงเค้าจะได้เป็นวีรบุรุษของคนไทยคนแรกเลยที่ได้เหรียญทอง
คุณละเอียด ก็คิดอยู่เสมอนะคะ เพราะว่าที่โรงเรียนเนี่ยจะเป็นพวกนักมวยที่มีชื่อเสียง อย่างที่ผ่านๆ มานะคะรุ่นพี่เค้าก็หลายคนที่ผ่านมาเค้าก็เรียนเก่งด้วย แล้วก็อย่างสมรักษ์เนี่ยก็เรียกว่าเค้าก็มีความพยายามมุ่งมั่น
พิธีกร เกเรมั้ยคะขี้เกียจซ้อมอะไรบ้างรึเปล่าหนีเที่ยวอะไรบ้างมั้ยคะ
คุณละเอียด ก็ไม่ค่อยมีค่ะ
พิธีกร คุณสมรักษ์ ตอนเด็กๆ เนี่ยเคยมีความฝันคิดว่าตัวเองต่อไปในอนาคตเนี่ยจะประสบความสำเร็จในอาชีพมวยมั้ยหรือยังไง
คุณสมรักษ์ คิดครับ ผมเป็นนักมวยเลือกชกมวยแล้ว ผมก็มีความคิดว่าผมต้องเก่ง ผมต้องดัง ผมต้องมีตังค์ ผมดีใจที่เราชกมวยแล้วได้ตังค์ เพราะคิดว่าเราต้องช่วยเหลือครอบครัวได้
พิธีกร คิดว่าตัวเองทำได้แน่ๆ
คุณสมรักษ์ ทำได้
พิธีกร ประสบความสำเร็จมาตลอดใช่มั้ยคะอาจารย์สำหรับสมรักษ์ คำสิงห์เนี่ยต่อยมวยทีไรได้ถ้วยทุกทีเลยรึเปล่าคะ
คุณละเอียด ค่ะ
คุณสมรักษ์ ครับ ได้เรียนฟรีเลยตั้งแต่เข้า ม.2
พิธีกร เป็นคนขี้อายจริงเหรอคะตอนเด็กๆ
คุณละเอียด ก็ไม่เชิงมั้งคะ ไม่เชิงอายค่ะ แต่ชั่งพูดชั่งคุยถ้าเค้าอยากถามอะไรเค้าก็ถาม
พิธีกร อาจารย์ขาวันที่ลูกศิษย์คนนี้ได้เหรียญทองกลับมาอาจารย์ดูข่าวอยู่แน่นอน
คุณละเอียด ดูค่ะ
พิธีกร รู้สึกยังไงบ้างคะ
คุณละเอียด มันก็เป็นความปลื้มใจด้วยว่าเด็กเราได้ก้าวมาถึงจุดนี้และก็ทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติและโรงเรียนของเราด้วยนะคะก็เวลาที่เค้าไปอยู่อเมริกาเนี่ยเค้าจะโทรมาหาตลอด
พิธีกร โทรมาคุยอะไรกับ อ.ละเอียดคะคุณบาส
คุณสมรักษ์ ก็คุยไปเรื่อยเปื่อย
พิธีกร คุณสมรักษ์ เวลาที่ตัวเองรู้สึกท้อแท้ผิดหวังหรือว่าถูกกระทำมาเนี่ยเคยโทรศัพท์ไปคุยกับ อ.ละเอียดบ้างมั้ยคะ
คุณสมรักษ์ เวลาท้อแท้ผมไม่ค่อยคุยเท่าไหร่ คือถ้าผมมีทุกข์ ผมไม่อยากให้คนอื่นทุกข์ด้วยหรอก
พิธีกร อาจารย์ขาวันนี้ลูกชายคนนี้แขวนนวมแล้วอยากจะพูดอะไรกับคุณบาสมั้ยคะ
คุณละเอียด ก็เมื่อกี๊ก็คุยกับเค้าบอกว่ากีฬามันก็เป็นอย่างนี้แหละและก็เราก็มีจุดหมายอะไรที่เค้าตั้งใจมาเราก็ทำได้สำเร็จแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปไขว่คว้าอะไรอีกเค้าก็มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เค้าต้องการแล้ว
พิธีกร และคุณบาสล่ะคะอยากจะพูดอะไรกับอาจารย์และก็ท่านผู้ชมทางบ้านมั้ยคะ
คุณสมรักษ์ ครับ ก็จริงๆ แล้วอยากฝากถึงคนไทยทั่วประเทศนะครับ ผมก็รับใช้ชาติมานานนะและก็ผมไปทุกครั้ง ผมหวังทุกครั้ง ผมรักอาชีพนักมวยและผมก็รักประเทศชาติ ผมต้องการชัยชนะ ผมไม่อยากกลับมือเปล่าทุกครั้ง แต่ว่าบางครั้งหมัดมวยเนี่ยกีฬามีแพ้มีชนะ ผมไม่ถือว่าผมเป็นวีรบุรุษ ผมไม่ถือว่าผมเป็นฮีโร่ แต่มาทำตรงนี้ด้วยใจที่ผมรัก ผมทำแล้วมีความสุข ถึงผมจะแพ้หรือชนะมันเป็นเรื่องธรรมดา ผมพร้อมที่จะรับใช้ประเทศชาติทุกเมื่อ ถ้าชาติต้องการ สำหรับอาจารย์นี่ก็อบรมสั่งสอนมาให้ผมเป็นคนดีมีความรู้ แต่อาจารย์ไม่ได้สอนให้ผมโม้ ผมโม้เอง
พิธีกร ค่ะ วันนี้ขอบพระคุณทั้ง 2 ท่านเป็นอย่างสูงเลยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ ขอบคุณท่านผู้ชมทุกๆ ท่านนะคะที่ติดตาม วันนี้เวลาหมดแล้วสำหรับรายการคนในข่าว พบกันใหม่นะคะเวลาเดิม สวัสดีค่ะ