หลวงปู่เทศนาเนื่องในวันอาสาฬหบูชา ให้ปฏิบัติธรรมด้วยการบริจาคทาน ใส่บาตร ไหว้พระ สวดมนต์ รักษาศีล เจริญภาวนา แผ่เมตตา และแบ่งคุณงามความดีให้ผู้อื่น ส่วนวันเข้าพรรษา มีธรรมเนียมปฏิบัติ คือ ถวายเทียนพรรษา ถวายผ้าอาบน้ำฝน และสมาทานศีล ทั้งนี้ขอให้ทำด้วยความตั้งใจและบริสุทธิ์ใจ
สนธิ – สวัสดีครับท่านผู้ชมสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง 11 นิวส์วัน ซึ่งถ่ายทอดสดไปยังผู้ที่รับสัญญาณดาวเทียมโดยผ่านเคเบิลท้องถิ่นทั่วประเทศไทย 407 เจ้า และท่านผู้ฟังสถานีวิทยุอ.ส.ม.ท. เอฟเอ็ม 97.5 วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 30 ก.ค. 2547 เหมือนกับทุกๆ ศุกร์ที่ผม สนธิ ลิ้มทองกุล กลับมาพบกับท่านผู้ชมเป็นประจำทุกวัน พร้อมกับคุณสำราญ รอดเพชรและก็องค์หลวงปู่พุทธะอิสระ และอาจารย์สามารถ มังสัง ส่วนรายการที่เคยดูอยู่ที่ยูบีซี 19 และยูบีซี 77 นั้น ก็มีข่าวดีมาบอกว่า ก็คงอีกไม่นานจะได้กลับมาดูเหมือนเดิม แต่ถึงจะไม่มียูบีซี 19 หรือ ยูบีซี 77 ก็ยังมีท่านผู้ชมประมาณ 1.5 ล้านบ้าน ทั่วประเทศไทย ดูรายการนี้อยู่ วันนี้พวกเรามากันพร้อมแล้ว ก็ขออนุญาตทักทายและกราบนมัสการองค์หลวงปู่พุทธะอิสระพร้อมกันครับ นมัสการหลวงปู่ครับ
หลวงปู่ – เจริญธรรมท่านผู้ฟัง ผู้ชมรายการสภาท่าพระอาทิตย์ที่รักทุกท่าน คุณสนธิ ลิ้มทองกุล คุณสำราญ รอดเพชร คุณสามารถ มังสัง ยังไม่ออกซะทีนะ
สนธิ – ครับ มันเหมือนคนถ่ายท้อง มันเรื่อยมาจากลำไส้จนถึงรูทวารและมันคาอยู่ตรงนั้น ผมต้องออกแรงเบ่งซักนิดหนึ่งคงหลุดออกมาแล้ว
หลวงปู่ – เมื่อวานฉันไปกระบี่กลับมา ยังมีแฟนคลับบนเครื่องบินมาทักเลย แฟนคลับฉัน แฟนคลับคุณ
สนธิ – อย่างที่ผมเรียนให้ท่านผู้ชมทราบว่า เคเบิลท้องถิ่นซึ่งในประเทศไทยมีอยู่ 408 เจ้า รวมทั้งยูบีซี ตัดยูบีซีออก ก็เหลือ 407 เจ้า เขาก็รับรายการนี้กันหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่เสียดายที่คนกรุงเทพฯ ไม่ได้ดู
หลวงปู่ – ที่จริงเราไม่เข้าใจนะ รายการดี มีสาระ ไม่น้ำเน่าให้ภูมิปัญญา แนะนำวิถีคิดที่ถูกต้องมันกลายเป็นว่าไม่ได้รับการสนับสนุนจากส่วนกลาง
สำราญ – ดูในกฎกติกา อะไรต่างๆ น่าจะเรียบร้อยนะ
สนธิ – น่าจะเรียบร้อย เป็นเพียงแต่ทางอ.ส.ม.ท.ไปเกรงว่า เขาอ้างว่าเขาต้องป้องกันตัวเอง เนื่องจากหนึ่ง เขาจะต้องเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพราะฉะนั้นแล้ว การที่เขาให้ออกนั้นจะมีกระทบ ต่อเงื่อนไขสัมปทานของไอทีวี ที่มีต่อมีรัฐบาลหรือเปล่าซึ่งก็เคยคุยกันไปแล้ว ทั้งในระดับรองนายกฯ วิษณุ ว่าไม่มี เรื่องนี้เป็นเรื่องของรัฐบาลกับไอทีวี อ.ส.ม.ท. ไม่ต้องมาห่วงใยแทน ก็ยังเป็นประเด็นเก่าอยู่ ซึ่งเข้าใจว่าคงจะได้พบท่านรองฯวิษณุวันนี้เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งประเด็นอื่นๆ เขาไม่ติดใจหมดแล้วคือทั้งหมด 4-5 ประเด็น เคลียร์ไปแล้ว 4 ประเด็น หรือประเด็นสุดท้ายเท่านั้นเอง
หลวงปู่ – ใช้เวลาคงไม่นาน
สนธิ – ก็หวังว่าอย่างนั้นครับ หลวงปู่แต่ว่ามันจะมาก็มา ไม่มาก็ช่าง
หลวงปู่ – ไม่มาก็ไป
สนธิ – ก็ไปครับ
สำราญ – ต้องให้โหรดูดวงไหมครับ
สนธิ – โหรเขาบอกว่ายังไงก็จบครับ
สามารถ – คือยังไงก็จบ เพียงแต่ว่ามันจุกจิก แต่ที่จุกจิกไม่ใช่กติกาครับ แต่มันขึ้นกับตัวบุคคล เป็นพฤติกรรมเฉพาะตัว
หลวงปู่ – รู้สึกโหรวันนี้จะวัยรุ่นมากไปหน่อย
สามารถ – วันนี้สีเหลืองนะ
หลวงปู่ – เหลืองอย่างเดียวไม่พอ ลายอีก
สนธิ – เมื่อเช้าผมอ่านเว็บไซต์ผมตกใจนะคุณสำราญ บอกว่าวันนี้วันสุดท้าย จะมีอีก 2 หน่อไปสมัคร สนุกสนานมาก คนหนึ่งชื่อกฤษดา อรุณวงศ์ ณ อยุธยา อดีตผู้ว่าฯ เก่า
หลวงปู่ – อายุท่านไม่เยอะไปแล้วหรือ
สนธิ - ผมไม่ทราบเหมือนกัน และคนใครนะ
สำราญ – นิติภูมิ นวรัตน์
สนธิ – คอลัมนิสต์ มีคนเคยถามผม ก็เลยต้องพูดต่อหน้าหลวงปู่ซักนิดนึง ให้เป็นสัจวาจา ว่าที่ผมอยู่ในวงการสื่อมวลชนในที่สุดแล้วผมจะไปเล่นการเมืองใช่ไหม ผมก็ตอบเขาว่า เขาคิดผิด ไม่ใช่หรอก ตีให้ตายชีวิตนี้ก็ไม่ลงไปเล่นการเมือง ทุกวันนี้มีความรู้สึกว่า เมื่อเราเข้าไปสู่การเมือง เราก็จะเปลี่ยนไปทันที มันจะโดนครอบ เพราะฉะนั้นเราเป็นตัวของเราเอง และเราทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์แบบทำให้ดีที่สุด ผมคิดว่าเราช่วยชาติได้ดีกว่าการที่เข้าไปเล่นการเมือง
หลวงปู่ – ถ้าคุณสนธิจำได้ ฉันเคยพูดกับคุณว่า ณ วันนี้ที่เรายืนอยู่ในท่ามกลางกระแสและเราไม่โยกสั่นคลอน เราสามารถติติงให้สติเตือนและชี้แนะได้ทั่วแผ่นดิน แต่ถ้าวันหนึ่งเราไปอยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เราไม่มีสิทธิ์จะไปติติงชี้แนะ ตักเตือนใครได้และสุดท้ายถ้าขืนติติง ตักเตือน ชี้แนะ อาจกลายเป็นความหมายของคำว่าขาประจำมาอีกแล้ว
สามารถ – ไม่ตัดสิน ไม่ท้วงติงไม่ชี้แนะ ก็ยังพอทำเนา ถ้าลงไปปกป้องพวกกันเองยิ่งหนัก
หลวงปู่ - ตอนที่ฉันเป็นเจ้าคณะตำบลฉันจะพูดน้อยมากเกี่ยวกับเรื่องการปกครองบริหารจัดการคณะสงฆ์ แต่พอออกมาจากเจ้าคณะตำบล ฉันจะชี้ให้เห็นถึงคำ ถึงพยัญชนะ สิ่งที่ควรไม่ควร อคติ ไม่ควรจะมีอยู่ในชั้นปกครอง
สามารถ – หลวงปู่กำลังจะบอกว่า เวลาลงเรือลำเดียวกันแล้ว มีคนหนึ่งในเรือไม่ดี มันก็ลำบาก พูดยาก เพราะทะเลาะกันไปเรือมันจมนะ
หลวงปู่ – มันไม่ยอมพาย ปล่อยให้เราพายคนเดียว แต่พอเราขึ้นจากเรือ ทีนี้เราจะชี้ได้ว่า ใครอยู่ในเรือไม่ยอมพาย และเป็นตัวไขรูอีก เมื่อเช้าผ่านสนามหลวง เขามาจัดขายตลาดนัดอีกรอบ ซุ้มสนามหลวงเต็มไปด้วยซุ้มของวัดต่างๆ
สามารถ – สัปดาห์พระพุทธศาสนา
สนธิ – ผมมองว่า ยุทธวิธีในการดึงคนเข้าสู่เทศกาลศาสนา ทำผิดหมด ไม่ใช่ ลักษณะของการวางซุ้มแบบนั้น เป็นเหมือนงานวัด พุทธศาสนาไม่ควรเป็นงานวัด และยิ่งกว่านั้นบางคนก็ถือโอกาส บางซุ้มตั้งบาตร มีพระ พร้อมรับสังฆทานตรงนั้น
หลวงปู่ – ตั้งต้นผ้าป่าด้วย และโยมก็โทร.เข้ามา ฉันจัดรายการสดนะ จะจัดทั้งที ทำไมไม่คิดจะให้คนเข้าไปร่วมบ้าง จัดแบบนี้หมายถึงไม่อยากให้คนไปร่วม เพราะที่จอดรถหาไม่ได้ ห้องน้ำก็ไม่มี ความสะดวกไม่มี มีแต่ซุ้มเฉยๆ
สนธิ – และที่สำคัญ คือพวกพระ เณร ชีที่มาร่วม หลายๆคนไม่มีที่พักในกรุงเทพฯ เลยต้องปักกลดตรงนั้น แล้วสนามหลวงคุณจะไปพักอย่างนั้นได้อย่างไร ไม่ใช่เรื่องง่าย รถกทม. ไปจอดก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก มันประเจิดประเจ้อและมันไม่เหมาะสม เหมือนห้องน้ำ คุณสำราญก็รู้ว่าห้องน้ำที่วัด อันไหนที่พระเข้า ชาวบ้านไม่ให้เข้า
หลวงปู่ – ฉันนั่งรถมา ก็นึกในใจว่า ถ้าฉันมีสตางค์นะ จะไปเช่าอิมแพคเมืองทองธานี ให้พวกนี้ไปอยู่ซัก 5-7 วัน ที่นั่นมีที่พัก มีห้องน้ำ มีที่จอดรถ โอ่โถงและห้องแอร์ต่างหาก ใครอยากไปร่วมงานก็ได้
สนธิ – จริงๆ การจัดเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา แทบจะไม่ต้องนิมนต์พระจากวัดต่างๆให้มาจัดนิทรรศการ ต้องเป็นภาครัฐจัดเลย ในเชิงรุก ผมคิดว่า ต้องจัดในเชิงกระบวนทัศน์ สร้างบรรยากาศทั้งหมด เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนชาวพุทธ เนื่องจากวันพรุ่งนี้เป็นวันอาสาฬหบูชา ขอให้พวกเราแต่งขาว เสื้อขาว กางเกงขาวกันหน่อยและถ้าเป็นไปได้ก็เข้าวัดฟังธรรม ให้ทางวัดมีการประชาสัมพันธ์กัน โดยสื่อของรัฐ สื่อของรัฐวันศุกร์ หรืออาทิตย์ทั้งอาทิตย์ ผมยังไม่เห็นสื่อของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นช่อง 9 อ.ส.ม.ท. อ้าวเดี๋ยวโดนเขาเล่นงานอีกแล้ว ช่องต่างๆ ดำเนินการ แนะนำกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในวันเสาร์นี้และวันอาทิตย์วันเข้าพรรษา คือว่าในเรื่องจิตวิญญาณจะมาขาย อะไรกัน จิตวิญญาณ เป็นเรื่องการส่งเสริมให้คนเข้าถึง เห็นคุณค่าของมัน เหมือนความรักพ่อแม่ หรือครูอาจารย์ ที่มีต่อลูกศิษย์ หรือลูกหลายจะไปขายยังไงครับ
หลวงปู่ – คือเขามองไม่เห็นเป็นตัวเลข เขามองเห็นเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบหนึ่ง แต่ไม่คิดคำนึงว่ามันจะส่งผลระยะยาวแก่สังคม
สำราญ – สัปดาห์นี้ข่าวน้องแนทกลบหมด
หลวงปู่ – เรากำลังคุยกันธรรมะธรรมโม นี่ชวนลงหนังโป๊
สำราญ – ผมลองทดสอบสมาธิดู พอเอาเรื่องน้องแนทมาวงแตกเลย
สนธิ – แสดงว่าจิตใจคุณหมกมุ่นเรื่องน้องแนทตลอดเวลา
สำราญ – เปล่าครับ ผมแค่พูดธรรมดา
สามารถ – ถ้าต้องการส่งเสริมอย่างคุณสนธิ ว่าคือทางการลงไปจัดเองและให้วัดต่าง ๆให้ความร่วมมือ จัดอยู่ที่วัด และให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง แต่ละที่ แต่ละตำบล แต่ละอำเภอเข้าวัด
หลวงปู่ – ให้ความสนับสนุนส่งเสริม ฉันอยากจะให้ทำอย่างนั้นคือพระบางวัดมาจากขอนแก่น ศรีสะเกษ สุราษฎร์ ฯ มาทำอะไร
สามารถ – เปิดโอกาสให้คนกลุ่มใช้ตรงนี้ เจตนาแอบแฝงเข้ามาหาประโยชน์กับศาสนาได้
หลวงปู่ – ดังนั้นอยากจะบอกว่า ถ้ารัฐจะทำจริงๆ ให้รณรงค์เป็นเรื่องเป็นราวและสร้างบรรยากาศของการเรียนรู้จริยธรรม ศีลธรรมในวันอาสาฬหบูชา จริงๆ หาที่ที่เหมาะสมและฉันไม่รู้ไม่เข้าใจว่า หอประชุมแห่งชาติสิริกิติ์มันสร้างด้วยเงินภาษีราษฎร ทำไมเรื่องของศาสนาไม่มีโอกาสเข้าไปใช้เลย
สนธิ – เขาให้เอกชนเข้าไปจัดการบริหารและมอบรายได้ส่วนหนึ่งให้ราชการ
หลวงปู่ – ในกรณีอย่างนี้เป็นส่วนรวม เป็นของภาครัฐที่ต้องให้การสนับสนุนและให้ความสำคัญ ฉันมองว่าไม่ว่าจะเอกชนหรือไม่ ต้องมีข้อแม้และวงเล็บไว้บ้าง ว่าถ้างานเกี่ยวกับกิจกรรมของสังคม กิจกรรมสำคัญที่เป็นเรื่องของประเทศชาติจำเป็นต้องให้ความร่วมมือ
สำราญ – เอาเถอะครับ ถึงแม้จะเต็มไปด้วยสีสัน กลายเป็นตลาดนัด แต่ที่ท้องสนามหลวงเราจะไปตักตวงอะไรบ้างไหม
หลวงปู่ – ฉันมองดูแล้ว แต่ละองค์ก็นั่งหาว ตบยุง พระเทศน์ก็เทศน์ให้เก้าอี้ฟัง มีหน้ามาไม่กี่คนมารถเดียวกัน นี่ความเป็นจริง ดังนั้นเรามองว่า เหมือนตำน้ำพริกละลายน้ำ ไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร และไม่ได้เทิดทูนด้วยนะ เราทำสัปดาห์พุทธศาสนาเพื่อหวังเทิดทูนบูชา เคารพ และการที่ไปอยู่ริมถนน ข้างถนน เกลื่อนกล่นไปด้วยเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจ เป็นบรรยากาศของพุทธหรือ
สามารถ – เหมือนตลาดขายพระพุทธรูป
สำราญ – ดูแล้วตลกดี กลางวันมีแสดงธรรม ขายพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง พอตกดึกหน่อย 4-5 ทุ่ม ตี 1 ตี 2 ก็มีผู้หญิง จริงๆ นี่เป็นเรื่องที่รู้ๆ กันอยู่ ภาพที่ตัดกัน
หลวงปู่ – คุณกำลังบอกว่ามันมีผีขนุน ผีมะขาม
สำราญ – เทศกิจยังตามไปจับเลย
หลวงปู่ – คือภาพมันหักมุมแบบเห็นได้ชัดใช่ไหม คุณกำลังบอกฉันว่าไม่น่าเป็นสถานที่แห่งการเคารพ เทิดทูน บูชา
สามารถ – สัปดาห์พุทธศาสนาไปจัดในที่อโคจร
หลวงปู่ – ที่ที่ไม่ควรไป อย่างคนบางประเภท อย่างฉัน สมณะ ชี พราหมณ์
สนธิ – เขาคงอยากให้พระเจ้าไปโปรดผีขนุน
สามารถ – นี่ก็ไป
สำราญ – กรรมการตีระฆัง ยกแรกหมดเวลา เบอร์โทรศัพท์ฝากคำถามไว้ที่ทีมงานนะครับ 02-629-4433 นะครับ คำถามเก่ามีเยอะนะครับ เราไปเคารพธงชาติ ฟังข่าวต้นชั่วโมงเดี๋ยวกลับมาครับ
ช่วง 2
สำราญ – กลับมาช่วงที่ 2 ของรายการสภาท่าพระอาทิตย์นะครับ
หลวงปู่ - ... มันจะชนะความโกรธได้
สำราญ – เลิกทวงหนี้เพื่อนใน 3 เดือน
หลวงปู่ – แสดงว่า อาชีพตลอดเดือนทุกเดือนที่ผ่านมา ทวงหนี้ทุกวัน
สำราญ – มีบางกลุ่มรับจ้างทวงหนี้
สามารถ – สำหรับพวกทวงหนี้ ผมขอฝากได้ไหม ไม่ทวงในพรรษา นอกพรรษาไม่ต้องทวง
หลวงปู่ – คุณทำอะไรก็ได้ในส่วนที่อยู่ในกุศลแล้วกัน ให้อารมณ์มันเข้าไปจับอยู่ในกุศลธรรม ไม่ว่าจะเป็นสติ สมาธิ ปัญญา ศีล
สำราญ – นิ่ง แน่แน่วใน 3 เดือนนี้
หลวงปู่ - แน่วแน่อยู่ในกุศลจิต กุศลธรรม ซักข้อหนึ่ง และตั้งอธิษฐานไว้ในใจว่า ถ้าเราจะมีปัญญาก็ต้องมีปัญญาที่ซื่อตรง ต้องเป็นปัญญาที่ไม่เอาเปรียบ ไม่คดโกงใคร และเสียสละแบ่งปัน
สำราญ – พวกที่ติดหุ้นอยู่ 3 เดือนนี้เลิกเล่นหุ้นก็ไม่ได้อีก
หลวงปู่ – หุ้นมันเป็นอาชีพ เป็นโลภมูลจิตนะ ถ้าทำจนกระทั่งมันเป็นอาชีพไปแล้วมันก็กลายเป็นเหมือนกับว่า วันทั้งวันต้องนั่งเฝ้าจอ
สำราญ – มีเพื่อนฝูงบางคน เรานึกไม่ถึง ไปติดหุ้นกับเขาด้วย มันก็แปลก และว้าวุ่นกันทั้งตลาดหุ้นตอนนี้
สนธิ – ไม่ต้องมองหน้าผม ผมไม่ได้เล่นหุ้น
สามารถ – หุ้นถ้าเล่นลักษณะลงทุน ผมเห็นด้วยนะ แต่ถ้าเล่นเก็งกำไร เฝ้าหน้าจอไม่เห็นด้วย เข้าข่ายอบายมุข
หลวงปู่ – สร้างความโลภ มันคือการพนัน
สำราญ – เราจะใช้วิหารทำไปแก้ไขยังไงได้บ้าง
หลวงปู่ – ลดโลภะลง แสดงว่าท่านผู้นั้นอยู่ในอกุศลวิหาร โลภวิหาร และจิตเขาจะไม่นิ่ง ไม่กระสับกระส่าย จิตไม่นิ่งจะสับสน จะคิดใคร่ครวญ และพวกนี้จะเห็นแก่ตัวมากขึ้น
สามารถ – หลวงปู่กำลังบอกว่า ถ้าจะเลิกเล่นหุ้น เลิกตัวแรกคือโลภะ ลดความโลภลง และเหตุจูงใจให้แสวงหาไม่มี
หลวงปู่ – เรามาคุยเรื่องอาสาฬหบูชาหน่อยได้ไหม ที่จริงวันนี้สำคัญนะ ที่จริงแล้ว อาสาฬหบูชาก็คือวันบูชาในเพ็ญกลางเดือนแปด
สามารถ – อาสาฬหะ แปลว่าเดือนแปด
หลวงปู่ – ปีนี้มีแปด 2 ครั้ง เขาถือแปดหลัง เป็นประมาณ เพราะฉะนั้นวันบูชาอาสาฬหะ เขาเรียกว่า บูชาในกลางเดือนแปด หรือวันเพ็ญเดือนแปด และถามว่ามันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในวันนี้ ก็เป็นวันที่พระพุทธเจ้าแสดงธัมมจักกัปวัตตนสูตร เรียกว่า ปฐมเทศนา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าแสดงอริยสัจ 4 จนทำให้พระอัญญาโกณทัญญะ มีดวงตาเห็นธรรม เรียกว่าวันเกิดพระสังฆรัตนะ รูปแรกของโลก เป็นพระสงฆ์องค์แรกของโลก และพระองค์ทรงให้การบวชด้วย เอหิภิกขุอุปสัมปทา และหลังจากแสดงธรรมโปรดพระปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 แล้ว วันรุ่งขื้นของวันอาสาฬหบูชาก็เป็นวันเข้าพรรษา พระองค์ก็ทรงพาพระคือภิกษุทั้ง 5 รูปไปเข้าพรรษาแรก เรียกว่าปฐมพรรษา
สามารถ – พระสงฆ์ที่ว่าคือพระสงฆ์ที่ได้ดวงตาเห็นธรรมนะ
หลวงปู่ – พระสงฆ์องเดียว
สามารถ – คือครบพระรัตนะ คือมีอริยสงฆ์เกิดขึ้น คือได้ดวงตาเห็นธรรม
สนธิ – ใช้ภาษาชาวบ้านแล้วกัน คือวันพรุ่งนี้คือวันที่เรามีพระพุทธเจ้า สอง มีพระธรรม เพราะพระองค์ท่านแสดงธรรม สามมีพระสงฆ์องค์แรก คือโกณทัญญะ นั่นแหละ 3 อย่าง เกิดพระรัตนตรัย
หลวงปู่ – แสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร มีองค์ประกอบห้ามส่วนที่สุดสองอย่าง และก็ทรงแสดงสิ่งที่ควรกระทำ 8 อย่างและทรงชี้ให้เห็นถึงเหตุปัจจัยของการต้องทำ 8 อย่าง เพราะมันมีทุกข์ มีเหตุเกิดทุกข์ เพราะฉะนั้นข้อปฏิบัติของการดับทุกข์ มันมีอยู่ ก็มีอยู่ใน 8 อย่างนี้ เทศน์มรรค 8 ประการ เริ่มจากสัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมาอาชีวะ สัมมากัมมันตะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาวิริยะ
สำราญ – ทรงล่วงรู้ยังไงว่าต้องเข้าพรรษา แค่ 3 เดือน
สามารถ – คืออย่างนี้ย้อนกลับไปในอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมัธยมประเทศ มันจะมีฝนตกหนักในช่วง 3 เดือน สัญจรไปไหนลำบาก แรก ๆ ก็ไม่มีการจำพรรษา แต่ว่าเมื่อเดินไป ชาวบ้านติเตียนบอกว่า พระไปเหยียบย่ำต้นข้าวบ้าง นกยังต้องหยุดอยู่ในรัง 3 เดือน ไปไหนไม่ได้ แล้วทำไมพระไม่หยุด
สนธิ - ถ้าพระธรรมวินัยข้อนี้เกิดขึ้น เพราะว่าพระพุทธเจ้าทรงเห็นสภาพภูมิอากาศและฤดูกาลในอินเดียเป็นอย่างนั้น แต่ในอนาคตเมื่อพระพุทธศาสนาแผ่กระจายไปทั่วโลกแล้ว บางฤดูอย่างเช่นในต่างประเทศ ในยุโรป ทางอเมริกา ในช่วงเข้าพรรษากลับเป็นช่วงซึ่งไม่มีอะไรเลย เป็นหน้าร้อนด้วยซ้ำ เดือนก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. ซึ่ง 3-4 เดือน อากาศสบายที่สุด
หลวงปู่ – ที่จริงแล้วการเข้าพรรษาไม่ได้มีวัตถุประสงค์อย่างนั้นอย่างเดียว การเข้าพรรษาก็มีวัตถุประสงค์อีกอย่างหนึ่งเข้ามาคือว่า พระที่เป็นพระเถระ เมื่ออยู่ในที่ใดที่หนึ่ง พระที่เป็นภิกษุ อาคันตุกะ หรือเป็นภิกษุที่เป็นภิกษุใหม่ เรียกว่า ภิกษุนวกะ ก็จะได้มีโอกาสอยู่ร่วมกับพระที่เป็นพระเถระ เมื่ออยู่ร่วมแล้ว ก็จะได้เป็นข้อวัตรปฏิบัติ พยัญชนะ ในภูมิธรรมต่างๆ ที่พระเถระเหล่านั้นปฏิบัติมา เพราะถือว่าการเรียนรู้ศึกษา ระเบียบธรรมเนียมปฏิบัติ กติกาและวินัยกรรมที่มีอยู่ในพระเถระเหล่านั้นที่ได้สืบทอดผ่องถ่ายต่อๆมาด้วย และอีกอย่างคือเปิดโอกาสให้ชาวบ้าน เวลาออกพรรษาพระก็ต่างคนต่างไปใช่ไหม พอเข้าพรรษา ชาวบ้านก็ได้มีโอกาสทำบุญ ฟังธรรม บริจาคทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ก็มีพระอยู่มากๆ ชาวบ้านจะมีความรู้สึกศรัทธา ปลาบปลื้มเลื่อมใส
สามารถ – ในแง่วินัย มีมหาปเทส 4 ให้ปรับพระวินัยได้ตามความเหมาะสม
หลวงปู่ - เขามีพรรษาแรก พรรษาหลัง
สนธิ – ถ้าอีกหน่อยพระพุทธศาสนาเจริญก้าวหน้าในประเทศตะวันตก ในทางตะวันออกที่เขามีการเข้าพรรษา ทางโน้นอาจจะไม่จำเป็นเข้าพรรษา
สามารถ – เข้าพรรษาหน้าไหนก็ได้ที่เดินทางลำบาก
สนธิ – เช่นหน้าหนาวของเขา ซึ่งมีหิมะตกหนัก
หลวงปู่ - นั่นก็ได้
สามารถ – มีมหาปเทส 4 รองรับว่าอะไรที่ไม่ได้ตรัสไว้ แต่ว่าต่อไปมีสิ่งเกิดใหม่ก็ให้เปลี่ยนได้
หลวงปู่ – พรรษา พระพุทธเจ้าทรงกำหนดไว้ 2 พิธี พิธีแรกคือแรม 1 ค่ำ เดือน 8 จนถึงกลางเดือน 12 พิธีที่ 2 เรียกว่า พรรษาหลัง มันก็เริ่มต้นตั้งแต่กลางเดือน 12 จนไปถึงกลางเดือน 4 อย่างนี้เป็นต้น ดังนั้นช่วงจังหวะ 2 พรรษาคือพรรษาแรกกับพรรษาหลัง ต้องดูว่าไปตรงกับฤดูไหน พระองค์ทรงให้ขยับได้ แต่ถ้าหากว่าในกรณีที่เมื่อขยับแล้วมันยังไม่ตรงเหตุปัจจัย ก็ใช้มหาปเทส 4 เป็นตัววิเคราะห์ แต่โดยรวมแล้ว พระยึดถือตัวนี้เป็นเกณฑ์ ในวันปวารณา คือวันออกพรรษา เขาถือว่า ออกพรรษา พร้อมกันหมด ไม่ค่อยมีใครยึดถือพรรษาที่ 2 เพราะพรรษาที่ 2 เมื่อยึดถือไปแล้ว อานิสงส์กฐินมันจะหลุดไป มันจะมาดูอานิสงส์กฐินด้วย พระกฐินมันทอดได้สูงสุดจนถึงกลางเดือน 12 พอพ้นจากนั้นแล้วก็ทอดไม่ได้แล้ว
สำราญ – อย่างพม่า ศรีลังกา อินเดีย
หลวงปู่ – เหมือนกัน ฤดูกาลเหมือนกัน แต่ถ้าปรับเปลี่ยนไปแล้วบางอย่างมันอาจจะไม่ได้อานิสงส์
สามารถ – ที่คุณสนธิถามน่าสนใจมาก เพราะพระพุทธศาสนาปัจจุบันไม่ได้อยู่ในเอเชียอย่างเดียว แต่ไปยุโรป อเมริกา ซึ่งฤดูกาลเขาต่างจากเดิม อันนี้มหาปเทส 4 รองรับปรับได้ แต่พระสงฆ์ต้องประชุมกันนะ
สนธิ – ต้องเป็นสงฆ์ในประเทศนั้นนะ
หลวงปู่ – และแจ้งให้สงฆ์ส่วนกลางได้รับรู้ว่า เรากำลังเข้าพรรษาอยู่ สงฆ์ส่วนกลางอาจจะมีการตั้งสมณทูตขึ้นมาและประกาศส่วนญัตติ แจ้งให้สงฆ์ส่วนกลางคือสงฆ์ที่มาจากที่ไกล เป็นพระอาคันตุกะ
สนธิ – คือในลักษณะของพุทธศาสนา เราจะไม่มีเหมือนศาสนาคริสต์ อย่างคริสต์ ยึดเอากรุงวาติกันเป็นหลัก พระคาดินัล ที่อยู่ประเทศต่างๆ ล้วนได้รับการแต่งตั้งจากกรุงวาติกันทั้งสิ้น ส่วนในประเทศเอเชียนั้น สุดแล้วแต่ประเทศใครประเทศมัน ก็คือมีพระสังฆราช แต่อย่างในตะวันตก ในสหรัฐอเมริกา
หลวงปู่ – ก็ต้องไปดูว่าเขามาจากประเทศไหน และเขาจะต้องแจ้งกลับ ถามว่าทำไมต้องแจ้ง มันเป็นธรรมเนียมของผู้ปกครอง
สามารถ – อันนี้เป็นเรื่องฝ่ายปกครอง แต่ในแง่วินัย ให้ถือคามสีมา แปลว่าเขตปกครอง ก็ประชุมสงฆ์ตรงนั้น
หลวงปู่ – สาเหตุที่ให้แจ้งต่อสงฆ์ส่วนกลาง เพราะเมื่อถึงคราวฤดูพรรษา สงฆ์ส่วนกลาง เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจำพรรษาไม่ตรงกับเรา ถึงเวลาเขาจะอนุเคราะห์ต่อสงฆ์กลุ่มน้อยนั้น สงฆ์ส่วนกลางจะส่งพระมหาเถระไปเยี่ยมและแสดงธรรม
สนธิ – ผมกำลังกราบเรียนว่า จริงๆ แล้วพระพุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องที่สลับซับซ้อน ผมเคยคิดเช่นนั้น วันนี้ผมค่อนข้างเข้าใจดีพอสมควร ว่าโดยที่ผมไม่จำเป็นต้องพูดภาษา พระพุทธศาสนา เหมือนว่าวันอาสาฬหบูชาคือวันอะไร คือวันที่มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์พร้อมกัน ถ้าเข้าใจอย่างนี้และผมยังยืนยันว่า ถ้าเราหรือว่าทางราชการหรือพวกวัดต่างๆ หรือมหาเถรสมาคมหรือองค์พุทธศาสนา ถ้าสามารถอธิบายพุทธศาสนาให้ชาวบ้านเข้าใจได้ง่าย ออกไปมากๆ มันจะดีกว่า พยายามมาพูดบาลีให้หลายคนฟัง
หลวงปู่ – คุยเรื่องนี้ ก็คุยเลย ศุกร์หน้าจะต้องเข้าพรรษาแล้วใช่ไหม ฉันยังนึกเลยว่าสงสัยมาสาย เพราะปกติออกตี 5
สนธิ – ไปออกสดที่นั่นเลยไหมครับ
หลวงปู่ – ออกตี 5 ฉันต้องรอให้สว่างก่อนและบิณฑบาตแล้วจึงจะมาหรือไม่ก็ต้องสั่งหยุดบิณฑบาต มันขาดกิจวัตร
สำราญ – โอบีก็ได้ ไปถ่ายทดสด
หลวงปู่ – อย่างนั้นก็ดี อนุโมทนาสาธุการ
สำราญ – ตอนนี้เราต้องเบรกกัน 2 นาทีนะครับช่วงหน้าจะมาเติมเต็มกันและตอบคำถามรวดเดียวครับ ตอนนี้พักกันซักครู่เดียวครับ
ช่วง 3
สำราญ – ช่วงที่ 3 ของรายการสภาท่าพระอาทิตย์วันศุกร์นะครับ สนทนาธรรมกับหลวงปู่พุทธะอิสระ นะครับ พูดถึงวันอาสาฬหบูชามาพอสมควร มีอะไรที่จะเพิ่มเติมไหมครับ
หลวงปู่ – ที่จริงควรพูดเรื่องผ้าอาบน้ำฝนนะ
สามารถ – ผ้าอาบน้ำฝนเกิดเพราะหนึ่ง วิสาขาเข้าไปจะนิมนต์พระมาทำบุญ ไม่เห็นพระสักองค์ เห็นแต่เปรต ก็คือฝนตก พระอาบน้ำและเปลือยกาย ตอนนั้นวินัยยังไม่ห้ามเปลือยกายนะครับ ก็ไม่เห็นพระ มาบอกพระพุทธเจ้าว่าไม่เห็น เห็นแต่เปรต พระพุทธเจ้าทราบความก็บัญญัติเพิ่มเติมจากไตรจีวร 3ผืนให้เพิ่มผ้าอาบน้ำฝนมาอีก 1 ผืน
หลวงปู่ – ผ้าอาบน้ำฝนใช้เฉพาะหน้าฝนเท่านั้น นอกนั้นก็อธิษฐานให้สามารถจะเป็นของกลาง คือของที่ใครมีสิทธิ์ใช้ได้ เป็นของกลาง อย่างนี้เป็นต้น
สนธิ – ชุดที่พระในเมืองไทยใส่ พันแบบนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร
หลวงปู่ – การนุ่งห่มของพระพุทธเจ้าสมัยโบราณก็เหมือนกับเทวรูปสมัยคันธาระ จะพาด ๆ
สามารถ – สมัยก่อนการแต่งตัว รูปแบบก็พาดๆ
หลวงปู่ – พาดเฉียง พาดบ่า กระชับให้อยู่แล้วกัน
สามารถ – ในวินัยบอกว่าให้แต่งกายแบบสมณสารูป ดูแล้วไม่ประเจิดประเจ้อ มิดชิดและนุ่งห่มให้เป็นปริมณฑล ไม่รุ่มร่าม
สนธิ – แสดงว่าแต่ละประเทศนุ่งห่มไม่เหมือนกันแล้วแต่
หลวงปู่ – แต่อย่าให้ประเจิดประเจ้อ
สนธิ – อย่างผมดูพระจีนก็ไม่ผิดวินัยใช่ไหมครับ
สามารถ – ไม่ผิดวินัย
สนธิ – แล้วเมืองไทยเอามาจากไหน
หลวงปู่ –มีนิกาย อย่างของฉันมาจากรามัน มาจากมอญ ก็คือธรรมยุต ม้วนเข้า แต่ถ้าเป็นมหานิกาย ม้วนออก และมีการพันมังกร คือพันแขน อันนี้ฉันซุกแขน มันคนละอย่างกัน มหานิกายจะห่มมังกร แต่ธรรมยุตจะห่มอย่างนี้
สำราญ – ห่มคลุมทั้ง 2 ไหล่เรียกว่าอะไร
หลวงปู่ – อย่างนี้เรียกว่าห่มคลุม ถ้าห่มดองจะเปิดไหล่ข้างหนึ่ง แต่อยู่ในวัด คลุมออกนอกวัด และการห่มดองแบบนี้ ที่จริงพระพุทธเจ้าก็ห่มแบบนี้ แต่ตอนหลังมาก็ทรงบัญญัติผ้าพิเศษ คือผ้าสังฆาฏิ คือผ้าสังฆาฏิ ไม่ได้พาดบ่า แต่เขาไว้ห่มทับอีกทีหนึ่ง เราจะเห็นพระทางเหนือชอบ เวลาห่มดองจะมีผ้าคลุมไหล่อีกทีหนึ่ง เขามีไว้ห่มนอนก็ได้ แทนผ้าห่มก็ได้ แต่พระเมืองไทยแค่พาด
สามารถ – พุทธบัญญัติบอกว่าอนุญาตให้ใช้ผ้า 2 ชั้น เรียกว่า สังฆาฏิ เอาไว้สำหรับคลุมกันหนาว
หลวงปู่- ถ้าพระป่าหรือพระธุดงค์จะเอามาห่มสำหรับกันหนาว
สนธิ – แล้วสีจีวรละครับ
หลวงปู่ - สีย้อมฝาด
สามารถ – พุทธานุญาต บอกอย่างนี้ ผ้ากาสาวะ แปลตรงตัวว่า ย้อมด้วยน้ำฝาด สีฝาด ๆ หม่น ๆ
หลวงปู่ – และสีที่อนุญาตที่กำหนดในพระธรรมวินัยก็มีสีแดงเรื่อๆ และก็สีเหลืองขมิ้นเน่า และไม่ใช่เหลือง
สนธิ – ของหลวงปู่เรียกว่าเสียงอะไรครับ
หลวงปู่ – แก่นขนุน
สามารถ- เดิมทีเดียวเขาแก่นขนุนมาต้มไงครับ จะออกสีนี้แหละ
หลวงปู่ – และมีสีที่หมักด้วยใบไม้แต่ถ้าเหลืองพราวไม่ได้ ตามพระวินัย
สามารถ – กาสาวะ แปลว่าสีหม่น
หลวงปู่ – สีที่ไม่สวย จะเห็นว่าเจ้าคุณบางรูปชอบใส่ผ้าไหม วูบวาบ มีแสง ไม่ได้เลย ขัดวินัย
สำราญ – แต่เหมือนบางรูปจงใจนะ
หลวงปู่ – มีตังค์นะ ผิดหรือ
สำราญ – พระรวยทำอะไรไม่น่าเกลียดมีด้วยหรือครับ
หลวงปู่ – คือบางทีเราต้องยอมรับว่าพระก็เหมือนชาวบ้าน กิเลส ตัณหา อุปาทาน ความทะยานอยาก ความชอบ มีความดี ความได้ ไม่ได้ต่างจากชาวบ้านเลย ถ้าตราบใดที่ยังจะยุ่งกับลาภสักการะ เรียกว่าโลกธรรม 8 ประการ มีชีวิตไม่ต่างจากชาวบ้าน
หลวงปู่ – เอาเป็นว่ามีลาภ เสื่อมลาภ มีทุกข์ มีนินทา มีสรรเสริญ ถ้าไปยุ่งกับมันมาก อาจจะทำเลอะเทอะก็มี
สามารถ – เพราะว่าโลกธรรมครอบงำเมื่อไหร่ จิตใจรองรับคุณธรรมไม่ได้
หลวงปู่ – ธรรมชาติของจิตอย่างนี้ เราพูดธรรมะจ๋าหน่อย คือจิตมนุษย์เหมือนกับช่องว่างเล็กๆ พอมันมีอะไรเข้ามาอยู่ อะไรเข้ามาอยู่ถ้าเป็นกุศล ก็เหมือนกับไฟฟ้าเข้ามาอยู่ในห้องมืด ๆ ก็จะทำให้จิตสว่างแต่ถ้าเผอิญสิ่งเข้ามาอยู่กลายเป็นถ่าน มันดำ มันมีฝุ่นด้วย มันก็ทำให้ห้องนั้นมืดดำไปด้วยและในขณะที่มีถ่านมาอยู่ไฟเข้ามาอยู่ได้ไหม ไม่ได้ ขณะที่มีไฟมาอยู่ ความมืดมาอยู่ก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นจิต คือห้องห้องนี้จะให้แขกแปลกหน้าได้มาอยู่แค่ตนเดียว ทีละอย่าง ทีละเจตสิก ในขณะที่ความสว่างเข้ามา ความมืดหายไป ความมืดเข้ามา ความสว่างหายไป
สามารถ – ในบาลีบอกอย่างนี้ ในขณะจิตเดียว จิตรับรู้ได้อารมณ์เดียว
หลวงปู่ – เขาก็เลยต้องฝึกให้จิตนี้มีเครื่องอยู่อย่างสว่าง เรียกว่ากุศล เพื่อทำให้จิตนี้สว่างตลอดเวลา
สำราญ – ชั่วกับดีอยู่ด้วยกันไม่ได้
หลวงปู่ – ไม่ได้ ที่มีเขามีคำโบราณสอนไว้ว่า เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ มีเสือขาว กับเสือดำ ธรรมชาติของจิตเป็นอย่างนั้น ดังนั้นในขณะที่โลกธรรมมันมาสิง อวิชชา ก็หลั่งไหลพรั่งพรูเข้ามา ส่วนที่เป็นวิชา ส่วนที่เป็นกุศล ความสว่าง มันก็ไม่หลั่งไหลพรั่งพรู มันจะอยู่รวมกันไม่ได้ เหมือนกับน้ำกับน้ำมัน จะแยกกันเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แม้น้ำมันจะหกลงน้ำ มันก็จะไม่รวมกับน้ำ ฉะนั้นธรรมชาติของจิต ถ้าเราไม่ระมัดระวัง และปล่อยให้โลกธรรมมาครอบงำ ความอยากจะตามมาเยอะแยะมากมาย นี่เป็นตัวอันตราย
สำราญ – ขอเริ่มต้นด้วยคำถามเบาๆ คนเล่นไพ่บาปหรือไม่
หลวงปู่ – พูดชัดๆ ก็บาป และชั่วอีกต่างหาก
สำราญ – กรรมที่ได้รับคืออะไรครับ
หลวงปู่ – ติดคุก ไม่มีตังค์ เมา
สำราญ – คุณบรรดาศักดิ์ บอกว่า อยากให้หลวงปู่เล่าเรื่องพระศิวะ กับพระพิฆเนศ โดยสังเขป
หลวงปู่ – พระศิวะ เป็นศาสดาหนึ่งในศาสนาพราหมณ์ ซึ่งเกิดในชั้นหลัง ที่จริงแล้วเป็นศาสดาหนึ่งในศาสนาฮินดู ซึ่งแตกมาจากพราหมณ์ ฮินดูเกิดในยุคตรีมูรติ คือยุคที่พุทธศาสนารุ่งเรืองและพราหมณ์สู้ไม่ได้ เลยมาสร้างศาสนาใหม่เรียกว่า ตรีมูรติ หรือฮินดู
สามารถ – เลียนแบบพระรัตนตรัย
หลวงปู่ – ดังนั้นเมื่อศาสนาพุทธ มีพุทธ ธรรม สงฆ์ ศาสนาพราหมณ์มีแค่พระพรหมองค์เดียวสู้ไม่ได้ ก็เลยมาตั้งตรีมูรติขึ้น และมีพระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ ดังนั้นพระศิวะ เป็นผู้ทำลาย พระพรหม เป็นผู้สร้าง เขาเชื่อกันอย่างนั้น และพระวิษณุ เป็นผู้ส่งเสริมสนับสนุนให้รุ่งเรืองเจริญ
สนธิ – พระนารายณ์ละครับ
หลวงปู่ - พระวิษณุคือพระนารายณ์
สนธิ – เมื่อวานมีรุ่นน้องผม เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ชื่อดร.ปานปรีย์ แวะมาเยี่ยม ผู้ช่วยรัฐมนตรีพาณิชย์ เขาก็เล่าให้ฟังว่า ผมเจรจากับทูตอินเดียนะ ผมก็เวียนหัว มันพูดแล้วก็ส่ายหัวไป อาจารย์สามารถเคยไปเรียนอินเดียมา และผมก็มีเพื่อนเป็นอินเดีย ลูกชายอดีตรมว.กลาโหมอินเดีย นายกฤษณะ เมนอน ชื่อบัชการ์ เมนอน ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันนะ จบออกซ์ฟอร์ดมานะ อยู่อเมริกามาตั้งนาน อยู่กับผมก็ยังโยกหัว
สามารถ – สั่นหัวกับคนอินเดียมันอันเดียวกัน เป็นสิ่งที่อินเดียเป็นเหมือนกันหมด
สนธิ- เพราะอะไร
สามารถ – มันเป็นวัฒนธรรมมากกว่า ส่ายหัวของอินเดียไม่ได้แปลว่าปฏิเสธนะ เห็นด้วยนะ มันมาจากนาฏศิลป์จากอินเดียนะ เบื้องต้นนาฏศิลป์เขาต้องหัดคอก่อน
หลวงปู่ – คุณรู้ไหม นาฏศิลป์อินเดียเกิดมาจากใคร 3 ศาสดา เกิดจากพระศิวะ ท่าพระศิวะลีลาศ ศิวะอวตาร ศิวะโลกนาถ ถ้ารำเมื่อไหร่ ซวยเมื่อนั้น โลกจะพินาศ
สามารถ – แปลว่าโกรธ
สนธิ – พระศิวะ คือพระที่ถือสามง่ามและมีงูพันคอใช่ไหมครับ
หลวงปู่ – ใช่ เป็นฤษี ถือพรตอยู่ในภูเขาลูกหนึ่ง
สำราญ – แล้วเคยออกมารำบ้างไหมครับ
หลวงปู่ – เขาบอกว่าเคยออกมารำหลายครั้ง ตอนที่ไฟบัลลัยกัลป์เผาโลก ตามตำนาน
สำราญ – ตอน 11 กันยา ออกมารำไหมครับ
หลวงปู่ – ตอนนั้นละเมอ มาดูอีกคำถามหนึ่ง บอกว่า พระพิฆเนศ ก็คือลูกชายพระศิวะที่เกิดจากพระนางอุมา และก็มีฤทธิ์อำนาจเท่าพ่อ รบกับพระศิวะมาแล้วรอบหนึ่ง เพราะพระนางอุมา สั่งไม่ให้ใครเข้า ในขณะที่ตนกำลังบำเพ็ญตบะ พระศิวะอยากจะไปเยี่ยมพระมเหสีของตน ก็มาเจอลูกชาย เฝ้าหน้าประตูก็พยายามเข้า สุดท้ายก็ไม่เข้า เข้าไม่ได้ รบกันจนกระทั่งสุดท้ายจากพระกุมาร เสมอกันตลอด มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ท่านโกรธและตัดว่าไอ้เด็กหัวหาย แล้วเอาหัวช้างมาต่อ
สนธิ – แล้ววงการศิลปินชอบนับถือพระพิฆเนศ
หลวงปู่ – เป็นเจ้าแห่งศิลปะ ภูมิปัญญา
สามารถ – เหมือนกรีก ถือว่าอังคารเป็นเจ้าแห่งสงคราม
สนธิ – ผมงงมานานแล้ว ทำไมหนังอินเดียต้องนาร้าย นารายณ์
หลวงปู่ – ก็แปลว่า สวัสดี ขอให้เจริญ
สามารถ – พระนารายณ์กับพระรามคนเดียวกันนะ คือพระนารายณ์มีสิบปาง ปางหนึ่งเป็นพระรามและสุดท้าย ปางที่สิบ คือพระนารายณ์อวตารเป็นพระพุทธเจ้านะ ก็เลยผนวกพุทธเป็นพราหมณ์เลย
สนธิ – คล้ายๆศาสนาฮินดูไม่ยอมแพ้ และบอกว่าพระเจ้าตัวเองตายไปแล้ว เกิดเป็นพระพุทธเจ้า ทำให้คนนับถือพุทธต้องนับถือฮินดูด้วย
หลวงปู่ – เดิมทีศาสนานี้ต้นกำเนิดมาจากพราหมณ์และพราหมณ์สู้กับพุทธไม่ได้ เพราะพระพุทธมี พุทธ ธรรม สงฆ์ มีรัตนะ 3 ตอนหลังมา พราหมณ์เห็นท่าไม่ดี ก็เลยแตกสาขาออกมาเป็นฮินดู และตั้งศาสนาขึ้น เรียกว่าศาสนาตรีมูรติ คือมีพระเจ้า 3 องค์ ซึ่งทำหน้าที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปและสุดท้ายแต่ละองค์ก็มีอวตารของตน องค์สุดท้ายที่เป็นผู้สนับสนุนส่งเสริมหรือพระวิษณุ ก็มีอวตาร 1 ใน 10 ก็คือเป็นพระพุทธเจ้า เขาสอนใหม่
สนธิ – และรามายณะ ใครแต่ง
สามารถ – เป็นมหากาพย์ของอินเดีย เป็นสงครามระหว่าง ชน 2 เผ่าคือมิลักขะกับอารยัน พระนารายณ์คือเผ่าอารยัน ทศกัณฑ์เป็นมิลักขะ
หลวงปู่ – นี่เป็นภาคโลก ถ้ารามายณะ ภาคพิสดาร จะมีสวรรค์กับนรก ยักษ์กับสวรรค์รบกัน
สามารถ – นั่นอีกภาคหนึ่ง ซึ่งภาคนี้เปลี่ยนการต่อสู้ระหว่างสองชนชาติเป็นตัวแทนต่อสู้กันยาวนาน
หลวงปู่ – อ้างว่า สวรรค์กับยักษ์รบกันทำให้มนุษย์โลกรบกันด้วย มันเกิดกลียุค
สนธิ – รามายณะ เป็นตัวแทนอารยัน ก็เป็นต้นตระกูลของฮิตเลอร์ซิ ฮิตเลอร์ถือว่ามันเป็นอารยัน
สามารถ – คืออารยันถือว่าเป็นต้นกำเนิดของมนุษย์
หลวงปู่ – เข้าที่ซักทีนะนายจ๋า
สำราญ – ผมก็เคลิ้มไปด้วย คุณนก ถามว่า อ่านข่าวที่คนขับรถชนพระตายโดยที่เขาไม่เจตนา อยากทราบว่าจะบาปมากน้อยแค่ไหน เท่าที่เคยได้ยินคือ ใครฆ่าพระถือว่าบาปถึงขั้นแผ่นดินสูบ
หลวงปู่ – ไม่ใช่ มันอยู่ที่เจตนาฆ่า และพระนั้นต้องเป็นพระอรหันต์ มีคุณสมบัติ ถ้าพระธรรมดา เป็นผัวชาวบ้าน ปลอมมาบวช มันก็เหมือนกับฆ่าคนธรรมดา ก็ติดคุกไป แต่ถ้ากรณีพระที่ไม่ได้เป็นผัวชาวบ้านและมีใจศรัทธา ปรารถนาบวชและขับรถไปชนท่าน ถึงกับสิ้นชีพ ก็ถือว่าเป็นกรรมที่เราผูกพันกันมา มันเป็นเรื่องเจตนา ขับรถถ้าประมาทก็โดน
สำราญ -ถ้าไม่เจตนาก็ไม่เป็นไร
หลวงปู่ – เป็น แต่ไม่มีกรรมที่สามารถโดนธรณีสูบขนาดนั้น
สำราญ – ได้รับคำสั่งต้องพักเร่งด่วนครับ ช่วงหน้าตอบคำถามล้วนๆ ครับ
ช่วง 4-5
สำราญ- กลับมาช่วงสุดท้ายนะครับ
หลวงปู่ - ... หัวใจสำคัญของพระไตรปิฎก ทั้ง 84,000
สำราญ – ข้อที่สอง คำว่ามะหังมาตาปิตุนังวะ ตาเทสุวรรณทามิ เป็นคำที่ใช้ไหว้บิดามารดาอย่างเดียวหรือไหว้ปู่ย่าตายายด้วย
สามารถ – ผมไม่เคยเห็นบทนี้นะ เป็นความเชื่อและไม่ทราบว่าเอามาจากบทไหน
หลวงปู่ – เป็นเกจิชั้นรอง ที่จริงจะไหว้พ่อแม่ ไม่จำเป็นต้องท่องคาถาอะไร ตรงเข้าไปใกล้ๆ และก้มลงกราบก็จบแล้ว และสบายใจแบบคุณสนธิว่า พูดภาษาไทยง่ายๆ อีกไม่กี่จะถึงวันแม่ก็บอกว่า แม่ครับ ผมรักแม่ เราบอกรักคนทั้งโลกได้ แต่บอกรักแม่มันกระดาก เรื่องจริง คุณเคยบอกไหม
สนธิ – ผมยอมรับอันนี้ และเป็นอะไรที่ยังเสียดายทุกวันนี้ เพราะเมื่อวันแม่ที่จะถึงนี้ ผมไม่มีแม่ให้ไหว้แล้ว
สำราญ – เราไม่พูดคำว่ารักแม่ แต่พูดคำอื่นได้ไหม
หลวงปู่ – แล้วบอกรักแม่มันเป็นยังไง
สนธิ – ผมว่ามองมุมกลับก็ไม่ได้ตาย กลับเป็นสิ่งที่ทำให้แม่ปลื้มใจมาก
หลวงปู่ – คุณสำราญยังมีแม่ใช่ไหม เคยบอกรักแม่ไหม
สำราญ - ไม่ได้ใช้คำว่ารัก
สนธิ –เอาอย่างนี้ซิ 12 สิงหา คุณกราบตักแม่ และบอกว่าแม่ครับ ผมรักแม่ ลองดูซิ ผมรับประกันว่าคุณไม่ตาย แต่ห้ามมีต่อนะ แม่มีเงินเหลือบ้างไหมจะไปซื้อถึงกอล์ฟ
หลวงปู่ – ลองบอกรักแม่บ้าง
สำราญ – คือคนภาคใต้ จะเขินๆ ครับ
หลวงปู่ – ไม่ใช่คนใต้อย่างเดียว คนภาคอื่นก็เป็น
สนธิ – ผมคิดว่าคนทั่วโลก ยกเว้นฝรั่ง คือฝรั่งกับคนทางตะวันออกต่างกัน ฝรั่งมันให้ความรักกันฟุ่มเฟือยเหลือเกิน คำว่า ไอเลิฟยู เหมือนสวัสดี มันเละเทะจนไม่มีความหมาย ฉะนั้นทางตะวันออกไม่ค่อยใช้ แต่ว่าเมื่อเราใช้ไปทีไร มันมีค่ามาก และควรจะใช้คำคนที่คิดว่ามีค่า
หลวงปู่ – ดังนั้นลองบอกรักแม่บ้าง บางทีเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุด เหนือกว่าสิ่งอื่นใด
สำราญ - แม่ครับ ผมรักแม่มาก
หลวงปู่ – ไม่ต้องมากหรอก
สนธิ – พอจะทำก็เวอร์ทันที ก็แค่กราบตักแม่ และบอกว่าวันนี้วันแม่ ผมอยากจะบอกให้แม่รู่วาผมรักแม่ แค่นี้พอแล้วและแม่จะน้ำตาไหล หรือไม่แม่ก็ตบกะโหลกทันทีบอกว่าทำไมมึงต้องรอจนกูจะตาย
สำราญ – ตกลงยังไงครับ มะหังมาตา
สามารถ – ถ้าแปลตามตัวที่ผมเห็น ก็แปลว่าไหว้พ่อไหว้แม่ แต่ถามว่าปู่ย่าตายหรือเปล่า แล้วพ่อแม่คุณมาจากไหนละ ถ้าไม่มีปู่ย่าตายายแล้ว
หลวงปู่ – ถ้าไหว้พ่อแม่คุณก็ไปถึงปู่ย่าตายาย
สำราญ – คุณคะนึงนิตย์ถามว่าการกราบศพอย่างไรจึงจะถูกต้อง
หลวงปู่ – เขามีวิธีการปฏิบัติ ถ้าผู้ตายอายุน้อยกว่าผู้เป็น คือคนไปเยี่ยมศพ เขาจะไม่กราบ จะแค่ยืนเฉยๆ ไว้อาลัยทำความเคารพ หรือไม่ก็นั่งนิ่ง
สนธิ – แต่อย่ากราบศพเหมือนกราบพระ ผมเจอหลายรายแล้ว กราบ 3 ครั้ง
หลวงปู่ – แบมือด้วยนะ
สนธิ – ต้องเอามือพนม
หลวงปู่ – แต่ในกรณีที่ผู้ตายอายุมากกว่าและเราอายุน้อย กราบได้ ยิ่งเป็นพ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย จุดธูป 1 ดอกและกราบลงไปครั้งเดียว ไม่ต้องแบมือ
สามารถ – เอาง่ายๆ ว่า กราบศพอย่าให้เหมือนกราบพระแล้วกัน
สนธิ – คนไทยยังกราบพระไม่เป็น เพราะสมัยก่อนผมก็กราบไม่เป็น จนกระทั่งไปบวช หลวงพ่อญา ท่านซีเรียสมาก กับพิธีกรรมที่พระกราบพระ ท่านบอกว่าคนไทยกราบไม่ถูก และหลวงปู่บอกว่า ขอให้กราบด้วยจิตวิญญาณ อย่าแต่เพียงว่ากราบ กราบให้จบไปโดยเร็ว
สำราญ – คุณพิมพร ปทุมธานี บอกว่า อยากให้อธิบายคำว่า นามโกรธ
หลวงปู่ – นามโกรธ คือใจ มีความโกรธ มีความพยาบาทอยู่ในใจ ก็จะเตือนให้รู้ว่าเป็นคำอธิษฐานหรือคำภาวนา ของพวกเจริญกรรมฐานในรูปนาม ร่างกายเรามี 2 อย่าง รูป กับนาม ก็คือใจ นามเป็นใจ รูปก็คือร่างกาย
สำราญ – คุณรัตน์แม่สอด บอกว่า คนที่ลืมพ่อแม่จะได้รับผลกรรมอย่างไร
หลวงปู่ – ควรจะเป็นคนที่โดนโลกลืม เพราะไม่มีใครจะมีคุณเท่าพ่อแม่แล้ว เรายังลืมเขาได้ เพราะฉะนั้นคนนี้ไม่ควรจะเป็นคนที่คนอื่นคิดถึง
สามารถ – คนที่ปฏิเสธผู้ให้กำเนิดก็คือปฏิเสธตัวเอง เพราะว่าถ้าคนนั้นไม่มี คุณก็ไม่มี
หลวงปู่ – ไม่มีพ่อแม่แล้วคุณจะมีชีวิตได้ยังไง
สำราญ – จาก จ.ตรัง เข้าใจว่าเป็นสุภาพสตรีนะครับ บอกว่าปัจจุบันเป็นทุกข์จากคู่ครองทั้งเรื่องผู้หญิงเจ้าชู้ อารมณ์เกรี้ยวกราด ใช้เงินเกินตัว เคยไปดูหมอ บอกว่า สงสัยเราทำไม่ดีกับเขาในชาติที่แล้ว อยากทราบว่าจะมีวิธีการทำอย่างไรให้พ้นทุกข์
หลวงปู่ – มีปากก็พูดซิ บอกว่า น้อง พี่ไม่ชอบพฤติกรรมที่น้องทำอย่างนี้ มันน่าเบื่อน่ารำคาญ เซ็ง หงุดหงิด ทำงานเหนื่อยทั้งวันและยังมาเจอการระบายอารมณ์ใส่และในขณะเดียวกันเงินทองหาได้ น้องกลับไปถลุง
สำราญ – นี่เข้าใจว่าผู้หญิงนะครับ
หลวงปู่ – อย่างนั้นพี่เอาไปถลุงอย่างนี้ไม่ถูกต้องควรจะหาวิธีแก้ไข ชีวิตคู่มันอยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกันและกัน ก็หายกัน แต่ถ้าคนหนึ่งปรับและอีกคนหนึ่งไม่ยอมปรับ แสดงว่ามันอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้วฉันไม่ได้ยุให้คุณเลิกนะ แต่อยากให้เข้าใจถึงสถานภาพของชีวิตคู่ว่าต่างคนต่างปรับ ไม่ใช่ให้ใครคนใดคนหนึ่งปรับอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ไหวแน่ ชีวิตคู่ต้องไม่ยืนอยู่บนพื้นฐานของความเห็นแก่ตัว มันต้องอยู่บนพื้นฐานของความมีน้ำใจ และเสียสละ และแบ่งปันกันและกัน ถึงจะอยู่ร่วมกันได้
สำราญ – คุณหวาย พระโขนง ถามว่าคนเราถ้าไม่นับถือศาสนาใดเลยได้หรือไม่ เพียงแต่เราเป็นคนดี
หลวงปู่ – ดีแค่ไหน และมีอะไรพิสูจน์ว่าคุณดี ศาสนา คือมาตรฐานหรือกติกา หรือมาตรฐานในการพิสูจน์ความดี และคุณบอกว่าคุณไม่นับถือศาสนาอะไรเลย คุณจะแน่ใจได้ยังไงว่า สิ่งที่คุณดีมีมาตรฐาน ไม่ใช่ดีโปรโมต
สามารถ – เอาอย่างนี้ดีกว่า คำสอนศาสนามีทั้งส่วนที่เป็นทฤษฎี คำสอนและส่วนที่ปฏิบัติ ดังนั้นถ้าคุณทำดี จะเอาทฤษฎีตัวไหนเรียนรู้เรื่องการทำดีก่อน
สำราญ – เขาไม่อยากถูกครอบงำด้วยมาตรฐาน
หลวงปู่ – แล้วคุณจะอยู่ในโลกนี้ได้อย่างไร ในเมื่อทั้งโลกมีมาตรฐานของเขา มันก็มีคนอย่างนี้อยู่ เรียกว่าเป็นมิจฉาทิฐิ ผู้มีความเห็นผิด เพราะว่าไม่ยอมรับมาตรฐานของสากลโลก เช่น มาตรฐานสากลโลกบอกว่า การฆ่าสัตว์เป็นบาป เราบอกว่า เราไม่ยอมรับมาตรฐาน
สำราญ - เขาบอกว่า มิจฉาทิฐิของเขาไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
หลวงปู่ – ไม่มีหรอกว่า ความคิดผิด แล้วบอกว่าคนอื่นไม่เดือดร้อน แม้ตัวเองก็เดือดร้อน เพราะเมื่อไม่รับมาตรฐานคนอื่น คนอื่นก็ไม่ให้ ความยอมรับคุณ และคุณก็เป็นคนเดือดร้อนเอง
สามารถ – ประเด็นแรกถ้าคุณไม่ยอมรับมาตรฐานของสังคม และคุณเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ถามว่าคนอื่นเดือดร้อนไหม แน่นอนเดือดร้อน
หลวงปู่ – และตัวคุณเองจะเดือดร้อนแต่ภายหลัง เมื่อทุกคนไม่คบคุณ เพราะไม่มีมาตรฐาน
สามารถ – ทันทีที่คุณยอมรับว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เป็นสมาชิกหนึ่งของสังคม และคุณไม่ทำตามเขา
สำราญ – แต่ถ้าเป็นสุขที่จะเป็นอย่างนั้นละ
หลวงปู่ – ถ้าเขาเป็นสุขที่จะเป็นอย่างนั้นแสดงว่าเขาจะอยู่ในโลกใบนี้ด้วยตัวคนเดียว สัมพันธภาพของมนุษยชาติ ไม่ใช่อยู่คนเดียวเป็นสุข แต่ก็ต้องบวกกับคนอื่นๆ ต้องมีสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ฉะนั้นในขณะที่ตัวเองมีสัมพันธ์กับคนอื่น และมาตรฐานตัวเองมันต่ำกว่าคนอื่น หรือไม่ตรงกับคนอื่น มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นสุข เว้นแต่ว่าคนนั้นยืนอยู่บนพื้นฐานของความเห็นแก่อย่างร้ายกาจและไม่ยอมรับใครเลย
สำราญ – คุณนพพร ถามคุณสนธิ บอกว่า ที่คุณสนธิบอกว่าไปต่างประเทศแล้วเจอหนังสือที่กล่าวถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า และมาประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิต อยากทราบว่าหนังสือชื่ออะไร
สนธิ – คุณนพพร ช่วยบอกที่อยู่มาและผมจะเอารายละเอียดให้ ชื่อ What would Buddha do พระพุทธเจ้าจะทำยังไงต่อกรณีแบบนี้ และค่อยๆ ยกเหตุการณ์ปัจจุบัน ที่เป็นเรื่องการบริหารชีวิตประจำวันขึ้นมา พูดง่ายๆ ว่าเอาธรรมะ มาใช้กับชีวิตประจำวันนั่นเอง ช่วยฝากที่อยู่ ชื่อ สกุลและผมจะถ่ายเอกสารให้ว่าหน้าปกเป็นยังไงบ้าง
สำราญ - จากสุพรรณบุรี ไม่ถามอะไร เพียงแต่ชื่นชมรายการ รูปแบบรายการดีมาก และอยากให้มาจัดรายการครบทุกคน วงเล็บ จะได้ไม่เสียเปรียบ ผมวงเล็บเอง คุณณัฐวรา ถามว่า วันอาสาฬหบูชา ไม่ถือว่า เป็นวันหยุด แต่ทำไมรัฐวิสาหกิจ และข้าราชการจึงหยุดชดเชยในวันจันทร์
สามารถ – ชดเชยวันเข้าพรรษา วันเข้าพรรษาถือว่าเป็นวันหยุด ถ้าชดเชยอาสาฬหบูชาด้วยก็เป็น 4 วัน
หลวงปู่ – แปลกมาก วันเข้าพรรษาถือเป็นวันหยุดแต่วันออกพรรษาไม่ถือว่า เป็นวันหยุด
สนธิ – เป็นเรื่องตลกนะ พอเขาหยุดชดเชยวันศาสนานะ เป็นลองวีคเอนด์ คนไปเที่ยวกันหมด ผมคิดว่าเป็นประเด็นที่ผมคิดว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องหาทางแก้ไขแล้วเรื่องนี้คือถ้าจะหยุดสงกรานต์ ชดเชยสงกรานต์ ชดเชยปีใหม่ ไปเที่ยวอีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าการหยุดแบบนี้ทำให้คนไปเที่ยวนะครับ จริงอยู่ไปบังคับใครไม่ได้ ผมเรียนยืนยันว่า วันเข้าพรรษาพวกหยุด 3 วัน พวกบาร์เหล้า ต้องปิดหมด
หลวงปู่ – พวกหัวก้าวหน้าบอกว่าโลก มันเปลี่ยนไปแล้ว จะมาบังคับศรัทธากันไม่ได้
สำราญ – ผมในฐานะที่ยังอบายมุขเขรอะ คือของจริงวันพระ หรือวันเข้าพรรษาเทศกาลสำคัญ ร้านอาหารทั่วไปเขาก็ให้ความร่วมมือนะครับ แต่ปรากฏว่า ผับ เธค เปิดเหมือนเดิม ขายเหล้าพรึบ
หลวงปู่ – ไม่เข้าใจว่า เป้าประสงค์การหยุดเพื่ออะไร ดังนั้นรัฐบาลต้องหาวิธีหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหาวิธี
สำราญ – พูดตรง ๆคือผับ เธค เหล่านี้จะเลี้ยงดูเจ้าหน้าที่ ส่งส่วยอยู่ พูดแล้วของขึ้น
หลวงปู่ – เราไปเถอะ
สนธิ – คุณหาเหามาใส่ผมนะเนี่ย ผู้สมรู้ร่วมคิด
หลวงปู่ – ที่จริงแล้วเป็นอะไรที่ลูบหน้าปะจมูกมานานแล้ว และไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหนที่จะใส่ใจเรื่องศาสนาเท่าที่ควรเท่าไหร่
สำราญ – จากสุราษฎร์ธานีนะครับ บอกว่า ที่วัดหน้าเมือง อยู่ข้างโรงเรียนพาณิชย์ มีพระรูปหนึ่ง คอร์รัปชั่นแบ่งที่วัดไปขายให้นายทุน นำไปขายต่อชาวบ้าน ตอนนี้วัดกำลังสร้างโบสถ์ แต่พื้นที่คับแคบ ไม่สามารถสร้างโบสถ์ได้ อยากให้ช่วยบอกกรมศาสนา ช่วยตรวจสอบด้วย
หลวงปู่ – คำถามนี้เป็นคำถามเดียวกับที่ฉันได้จดหมายร้องเรียน เขาส่งมาที่หนังสือพิมพ์ธรรมลีลา
สามารถ – เข้าใจว่า วัดนี้คงเป็นวัดราช ไม่ใช่วัดหลวง
หลวงปู่ – และเข้าใจว่า คนทำน่าจะเป็นสมภารด้วย เพราะถ้าไม่ใช่สมภารทำไม่ได้
สำราญ – ผมอุตส่าห์ไม่ระบุแล้วหลวงปู่
หลวงปู่ – เรื่องจริง เขาเขียนมา
สนธิ – ถ้าไม่ใช่สมภารจะทำได้ยังไง เพราะอำนาจอยู่ที่สมภาร
หลวงปู่ – วัดหน้าเมืองไม่ใช่วัดราช
สามารถ – คือที่ผมพูด ที่วัดที่ขึ้นทะเบียนเป็นวัดแล้ว ระบุชัดเจนแล้วมันแบ่งขายไม่ได้ เวนคืนยังไม่ได้
หลวงปู่ – เข้าใจว่า เขาถวายแต่ยังไม่ได้ทำหลักฐาน
สนธิ – ผมว่าวันนี้เราเหลือเวลาให้หลวงปู่เทศน์ 5 นาทีนะ เพราะว่ามีคนอยากให้หลวงปู่เทศน์เรื่องกรรมตามทัน
สำราญ – และเนื่องในวันอาสาฬหบูชา ตอนนี้ขออีก 2 คำถามจากสุราษฎร์ฯ ไปที่บุรีรัมย์ ถามว่าเลี้ยงสุนัขไว้ แต่ตัวใดที่รักมากๆ จะต้องตายทุกที ไม่ทราบจะเป็นเพราะอะไรครับ
หลวงปู่- ตัวไหนรักก็ตาย ไม่รักก็ตาย ตายช้าตายเร็วเท่านั้น บางทีตัวไหนที่รักมาก เราใส่ใจมันมาก ให้กินมากๆ ท้องแตกตายก็มี จริงๆ ที่วัดฉันมี หมาหลวงตาออกมาเป็นครอก และเณรก็อุ้มคอกที่มันงาม มันสวย ถูกใจเณร แต่เลี้ยงตายหมด แต่หลวงตาเลี้ยงแบบตามมีตามเกิด หมาก็อยู่จนโต ถามว่าทำไมถึงตาย ก็อุ้มมันมากไป กินเยอะไป ขี้ไหล ถ่ายท้อง ตาย
สามารถ – หมาจับอาบน้ำบ่อยๆ ก็ตาย
หลวงปู่ – ประแป้งอีก แล้วแป้งเย็น หมาก็หนาวตัวสั่น
สนธิ – หมาจริงๆ แล้ว อาบน้ำมากสุดอาทิตย์ละครั้ง
หลวงปู่ – เมื่อเช้ากลับจากกระบี่และมาเดินเล่นกับเสือตัวเล็ก และเสือตัวเล็กก็รู้สึกจะได้รับการทำนุบำรุง ประแป้งด้วยนะ เราก็มองว่าเสือมันหงอยๆ เลยถามเณร ผมอาบน้ำประแป้ง มันคงจะหนาว ก็บอกว่า กำลังจะฆ่ามันแล้ว เอาไปนอนด้วย ไปป้อนนม ดูแล
สำราญ – คุณอธิวัฒน์จากน่าน ถามว่าหลังจากสวดมนต์แล้วจะอธิษฐานให้ลูกเป็นคนดี เชื่อฟังพ่อแม่และให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ว่าจะบังเกิดผลหรือไม่
หลวงปู่ – อธิฐานอย่างเดียวไม่ได้ ต้องสอนด้วย นำลูกไปสัมผัสสิ่งที่ดีงาม และหาวิธีดึงลูกเข้าสู่ความหมายของคำว่ากตัญญูรู้คุณ ตอบแทนคุณ ต้องค่อยๆ อธิบาย อธิษฐานอย่างเดียวไม่ได้ประโยชน์
สำราญ – คุณพรชัย จ.ตรัง บอกว่า ขณะที่นั่งสมาธิไป รู้สึกว่าร่างกายเคลื่อนไหวโดยจิตรู้อยากทราบว่าเป็นความหลงหรือความจริง
หลวงปู่ – การนั่งสมาธิ แล้วรู้สึกว่า ร่างกายเคลื่อนไหวโดยจิตรู้ มันมี 2 อาการ คือในขณะที่เราเจริญกรรมฐาน เจริญสมาธิ เจริญวิปัสสนา เจริญการภาวนาอย่างใดอย่างหนึ่ง จนกระทั่งจิตมันสงบ จนกระทั่งถึงคำว่า ปีติ มันมีอาการแตกต่างกัน อย่างกรณีเช่น บางทีเราทำถึงปิตินั้นแล้ว ตัวมันพองขึ้น และมันโยกคลอน และมันเกิดปีติสุข อย่างนั้นเรียกว่า อารมณ์ของสมาธิ แต่ในกรณีที่ถ้าทำแล้วไม่ถึงคำว่า ปีติ แต่เราบอกว่า เรานั่งสมาธิ แต่จิตมันเคลื่อนออกไปอย่างอื่น ไปรับรู้สิ่งอื่นแสดงว่าคุณขาดสมาธิ ขาดสติ
สำราญ – คุณมนต์ ถามว่า ทำไมชาวอินเดียจึงนับถือศาสนาพุทธน้อยเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ศาสนาพุทธเกิดที่อินเดีย
หลวงปู่ – ต้องยอมรับว่า อย่างที่เล่าเมื่อครู่นี้ว่าศาสนาพุทธกับฮินดู พราหมณ์ สู้กันมาจนกระทั่งพราหมณ์ ยอมรับไม่ได้คือยอมรับว่าแพ้พุทธ ตอนหลังต้องตั้งศาสนาใหม่เรียกว่าศาสนาฮินดู ยุคตรีมูรติ เขาพยายามประยุกต์ทุกเรื่องที่เป็นของพุทธ เอาไปเป็นของศาสนาฮินดู ในขณะเดียวกันก็สร้างความเชื่อ ที่แปลก แม้กระทั่งหนู หรืองู หรือวัว สัตว์เดรัจฉานบางประเภทที่อยู่ใกล้ชิดกับคนเยอะแยะก็เอามาเป็นพระเจ้า เป็นคนที่อำนาจ เป็นผู้ที่มีฤทธิ์เดช ศักดิ์สิทธิ์มันก็เลยกลายเป็นว่า ความเชื่อเหล่านี้มันขยายออกไป จนกลายเป็นที่ยอมรับระดับทั้งกลาง ล่าง บน ศาสนาพุทธก็โดนกลืนและเรื่องความคิดที่สำคัญคือว่า เขาสอนในศาสนาฮินดูว่า พระศาสดาเป็นเพียงแค่หนึ่งในปางอวตารของพระเจ้าสูงสุดของฮินดูเท่านั้น เขาก็เลยมองว่า อย่างนั้นนับถือฮินดูก็เหมือนนับถือพุทธ เพราะว่าพระพุทธก็เป็นปางอวตารของพระพุทธเจ้า นั่นคือวิธีกลืนคำสอน และในขณะเดียวกันศาสนาพุทธยังไม่ได้รับภัยพิบัติจากอิสลาม หรือว่าจากผู้ที่อยู่นอกศาสนาที่ครั้งหนึ่งเคยไปยกทัพ และยึดเมืองอินเดียไว้ และทำให้พุทธล่มสลาย ถึงขนาดฆ่าฟันพระเป็นแสนๆ องค์ พวกโมกุล
สามารถ – มหาวิทยาลัยนาลันทาในขณะนั้น พระมีประมาณ 500-600 องค์นะ ถูกฆ่าตายเรียบเลย พอพระเข้าไปแล้ว มัวแต่นั่งสวดมนต์ พวกนั้นก็ฆ่าไปหมดเลย
หลวงปู่ – เขาบอกว่า เลือดนองพื้นเต็มไปหมด
สามารถ – และมีการเผามหาวิทยาลัยนาลันทาทิ้งเลย ณ วันนี้ถ้าไป จะมีขี้เถ้า ข้าวสารที่ไหม้ ให้ดูอยู่ ผมไปดูแล้ว
หลวงปู่ – และที่ไหนที่พวกนี้เข้าไปจะฆ่าหมด นอกลัทธิ นอกศาสนา ถือว่าไม่เป็นบาป ราชวงศ์โมกุล คือราชวงศ์ที่สร้างทัชมาฮาล
สำราญ – จากนี้จะเป็นเวลาอันเป็นมงคล ได้เวลาเทศนาแล้ว เนื่องในโอกาส เป็นวันอาสาฬหบูชาและมะรืนนี้วันเข้าพรรษา กราบเรียนหลวงปู่ให้ศีล ให้พรกับท่านผู้ฟัง ท่านผู้ชมด้วยครับ
หลวงปู่ – การแสดงธรรมมีหลายวิธี แต่ท่านพิธีกรทั้ง 3 คน ต้องเข้าใจด้วยว่า ที่เราคุยกันอยู่ก็เป็นการแสดงธรรมอย่างหนึ่ง แต่เป็นการแสดงธรรมในวิธีปุจฉา วิสัชนา การแสดงธรรมที่ให้องค์ใดองหนึ่งขึ้นมาเทศน์และเทศน์องค์เดียว เป็นการปาฐกธรรม หรือการอภิปรายธรรม ซึ่งถ้าจะให้ได้ประโยชน์สูงสุดคือการปุจฉาวิสัชนา เพราะว่ามีผู้สงสัยและสอบถามปัญหาและพูดคุย บางครั้งบางปัญหามันตรงกับจริตของคนฟังหลายคน แต่เรื่องที่ตนเองอยากพูด บางครั้งก็ไม่ตรงใจกับคนอยากฟัง แต่ในเมื่อคนมีขอร้อง ก็จะพูดว่า วันพรุ่งนี้จะเป็นวันอาสาฬหบูชา และวันมะรืนนี้เป็นวันเข้าพรรษา ประเพณีปฏิบัติของวันอาสาฬหบูชาคือการบูชาในกลางเดือนแปด หรือวันเพ็ญกลางเดือนแปด และต่อมาวิธีบูชาพระพุทธเจ้าก็ยกย่องสรรเสริญ นิยมว่าปฏิบัติบูชาเป็นวิธีบูชาที่สูงสุด ประเสริฐสุด ได้ผลมากที่สุด และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ปฏิบัติ และบูชาเอง ดังนั้นถ้าท่านทั้งหลายอยากบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งวันอาสาฬหบูชา เป็นวันเกิดพระสงฆ์ หรือสังฆรัตนะองค์แรกของโลกด้วยการฟังธัมมจักกัปวัตตนสูตร ด้วยการมีดวงตาเห็นธรรม ของพระอัญญาโกณฑัญญะ ขอบวชในพุทธศาสนาด้วยเอหิภิกขุปสัมปทา โดยพระศาสดาทรงอนุญาตให้บวชด้วยพระองค์เอง เป็นปฐมกาลอุปสมบทบรรพชา หรือบรรพชาอุปสมบทด้วยซ้ำ ดังนั้นพรุ่งนี้เป็นวันเกิดพระสงฆ์ วันเกิดสังฆรัตนะ และวันแสดงธรรมปฐมเทศนา ใจความสำคัญวันพรุ่งนี้มี 3 อย่าง และวิธีปฏิบัติในวันพรุ่งนี้ โดยทั่วไปก็มีการจัดบริจาคทาน ใส่บาตร ไหว้พระ สวดมนต์ รักษาศีล เจริญภาวนา แผ่เมตตา และแบ่งคุณงามความดีให้คนทั้งหลาย รุ่งขึ้นอีกวันก็เป็นวันเข้าพรรษา ก็มีธรรมเนียมปฏิบัติ มีการถวายเทียนพรรษา ถวายผ้าอาบน้ำฝน มีการวิรัติ คือสมาทานองค์แห่งวิหารธรรมข้อใดข้อหนึ่งอย่างที่กล่าวมา บางคนอาจจะขอสมาทานศีล 3 ข้อใน 5 ข้อ หรือว่า 5 ข้อทั้งหมด บางคนอาจจะสมาทานเรื่องรักษาสติมั่น บางคนอาจจะสมาทาน ว่าจะปฏิบัติตนเป็นคนกตัญญูซื่อสัตย์ สุจริตและยุติธรรม บางคนก็อาจจะปฏิบัติสมาทาน องค์แห่งการละ เลิก อบายมุข เหตุเครื่องเสียหาย ชิบหาย ที่มอมเมาตัวเองตลอดมา ในช่วงปีที่ผ่านมาอย่างนี้เป็นต้น ดังนั้นจะทำอะไรก็แล้วแต่ ขอให้เป็นการกระทำอย่างตั้งมั่น จริงใจ บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นวิหารธรรม ในส่วนศีล สมาธิ ปัญญา ทาน หรือคุณงามความดีใด ๆ ขอให้เป็นวิหารธรรมที่ได้มาจากใจ ออกมาจากใจและทำอย่างจริงใจ และตั้งใจที่จะทำ ไม่ใช่ทำแบบลวกๆ และขอไปที ทำเฉพาะวันเข้าพรรษา คือวันเดียว และอีก 3 เดือนไม่ทำ และวันต่อๆ ไปก็ไม่ได้ทำ ก็ไม่ใช่ ดังนั้นพุทธบริษัทที่ดีจะเป็นพุทธบริษัทที่รู้ตื่นและเบิกบาน มันก็ต้องทำดี พูดดี คิดดี ทำอย่างไร พูดอย่างนั้น ทำ พูด คิด ต้องเป็นเรื่องเดียวกัน และเป็นเรื่องกุศลธรรม เรื่องแห่งกุศลกรรม เรื่องแห่งวิหารธรรมที่เป็นส่วนกุศลคือมีเครื่องอยู่ที่อิงอาศัยคุณงามความดีของตน ที่รักทั้งหลายคงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราอิงอาศัยอกุลธรรม อิงอาศัยราคะวิหาร โทสะวิหาร โมหะวิหาร โลภวิหาร กันมาเนิ่นนานหลายสิบปี หลายพันปีแล้วเพราะบางคนเกิดมาหลายยุคสมัย หลายภพชาติแล้ว แต่มาช่วงพรรษานี้และเวลาต่อไปนี้ขอเปลี่ยนเป็นการมาอาศัย กุศลวิหาร อาศัยสติวิหาร อาศัยสมาธิวิหาร อาศัยศีลและวิหาร อาศัยปัญญาวิหาร อาศัยคุณงามความดีให้เป็นเครื่องอยู่หรือเครื่องอาศัยที่เรียกว่าเป็นวิหารและแม้ที่สุดก็ต้องทำมันอย่างจริงจัง ตั้งใจ สุจริตใจ หรือไม่ก็จะหันมาใส่ใจต่อสิ่งที่เป็นเรื่องภูมิธรรม พระศาสดาทรงแสดงและสอนไว้เป็นข้อๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหิริโอตัปปะ สติสัมปชัญญะหรือไม่ก็เป็นอธิษฐานธรรม ที่กล่าวไปว่า มีปัญญา อย่างซื่อตรงและก็มีน้ำใจต่อคนทั้งหลาย รวมทั้งใส่ใจที่จะเป็นคนที่หยุดนิ่ง ปฏิบัติคุณงามความดี ให้สมบูรณ์ และทำตนเป็นผู้รักษาประโยชน์ตน และท่านให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท เหล่านี้ก็เป็นคุณเครื่องสอนและแสดงออกให้ท่านได้รับรู้ถึงคุณงามความดีและเป็นที่อาศัยของท่านทั้งหลายด้วยต่อไป เจริญธรรม
สนธิ – สาธุ
สำราญ – ได้เวลานะครับ ก็วันนี้เวลาหมดแล้วครับ ขอบพระคุณทุกคำถามทุกสายทุกเสียงที่โทร.เข้ามานะครับ วันนี้กราบนมัสการหลวงปู่ครับ ลาผู้ชมไปก่อน สวัสดีครับ
สนธิ – สวัสดีครับท่านผู้ชมสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง 11 นิวส์วัน ซึ่งถ่ายทอดสดไปยังผู้ที่รับสัญญาณดาวเทียมโดยผ่านเคเบิลท้องถิ่นทั่วประเทศไทย 407 เจ้า และท่านผู้ฟังสถานีวิทยุอ.ส.ม.ท. เอฟเอ็ม 97.5 วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 30 ก.ค. 2547 เหมือนกับทุกๆ ศุกร์ที่ผม สนธิ ลิ้มทองกุล กลับมาพบกับท่านผู้ชมเป็นประจำทุกวัน พร้อมกับคุณสำราญ รอดเพชรและก็องค์หลวงปู่พุทธะอิสระ และอาจารย์สามารถ มังสัง ส่วนรายการที่เคยดูอยู่ที่ยูบีซี 19 และยูบีซี 77 นั้น ก็มีข่าวดีมาบอกว่า ก็คงอีกไม่นานจะได้กลับมาดูเหมือนเดิม แต่ถึงจะไม่มียูบีซี 19 หรือ ยูบีซี 77 ก็ยังมีท่านผู้ชมประมาณ 1.5 ล้านบ้าน ทั่วประเทศไทย ดูรายการนี้อยู่ วันนี้พวกเรามากันพร้อมแล้ว ก็ขออนุญาตทักทายและกราบนมัสการองค์หลวงปู่พุทธะอิสระพร้อมกันครับ นมัสการหลวงปู่ครับ
หลวงปู่ – เจริญธรรมท่านผู้ฟัง ผู้ชมรายการสภาท่าพระอาทิตย์ที่รักทุกท่าน คุณสนธิ ลิ้มทองกุล คุณสำราญ รอดเพชร คุณสามารถ มังสัง ยังไม่ออกซะทีนะ
สนธิ – ครับ มันเหมือนคนถ่ายท้อง มันเรื่อยมาจากลำไส้จนถึงรูทวารและมันคาอยู่ตรงนั้น ผมต้องออกแรงเบ่งซักนิดหนึ่งคงหลุดออกมาแล้ว
หลวงปู่ – เมื่อวานฉันไปกระบี่กลับมา ยังมีแฟนคลับบนเครื่องบินมาทักเลย แฟนคลับฉัน แฟนคลับคุณ
สนธิ – อย่างที่ผมเรียนให้ท่านผู้ชมทราบว่า เคเบิลท้องถิ่นซึ่งในประเทศไทยมีอยู่ 408 เจ้า รวมทั้งยูบีซี ตัดยูบีซีออก ก็เหลือ 407 เจ้า เขาก็รับรายการนี้กันหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่เสียดายที่คนกรุงเทพฯ ไม่ได้ดู
หลวงปู่ – ที่จริงเราไม่เข้าใจนะ รายการดี มีสาระ ไม่น้ำเน่าให้ภูมิปัญญา แนะนำวิถีคิดที่ถูกต้องมันกลายเป็นว่าไม่ได้รับการสนับสนุนจากส่วนกลาง
สำราญ – ดูในกฎกติกา อะไรต่างๆ น่าจะเรียบร้อยนะ
สนธิ – น่าจะเรียบร้อย เป็นเพียงแต่ทางอ.ส.ม.ท.ไปเกรงว่า เขาอ้างว่าเขาต้องป้องกันตัวเอง เนื่องจากหนึ่ง เขาจะต้องเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพราะฉะนั้นแล้ว การที่เขาให้ออกนั้นจะมีกระทบ ต่อเงื่อนไขสัมปทานของไอทีวี ที่มีต่อมีรัฐบาลหรือเปล่าซึ่งก็เคยคุยกันไปแล้ว ทั้งในระดับรองนายกฯ วิษณุ ว่าไม่มี เรื่องนี้เป็นเรื่องของรัฐบาลกับไอทีวี อ.ส.ม.ท. ไม่ต้องมาห่วงใยแทน ก็ยังเป็นประเด็นเก่าอยู่ ซึ่งเข้าใจว่าคงจะได้พบท่านรองฯวิษณุวันนี้เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งประเด็นอื่นๆ เขาไม่ติดใจหมดแล้วคือทั้งหมด 4-5 ประเด็น เคลียร์ไปแล้ว 4 ประเด็น หรือประเด็นสุดท้ายเท่านั้นเอง
หลวงปู่ – ใช้เวลาคงไม่นาน
สนธิ – ก็หวังว่าอย่างนั้นครับ หลวงปู่แต่ว่ามันจะมาก็มา ไม่มาก็ช่าง
หลวงปู่ – ไม่มาก็ไป
สนธิ – ก็ไปครับ
สำราญ – ต้องให้โหรดูดวงไหมครับ
สนธิ – โหรเขาบอกว่ายังไงก็จบครับ
สามารถ – คือยังไงก็จบ เพียงแต่ว่ามันจุกจิก แต่ที่จุกจิกไม่ใช่กติกาครับ แต่มันขึ้นกับตัวบุคคล เป็นพฤติกรรมเฉพาะตัว
หลวงปู่ – รู้สึกโหรวันนี้จะวัยรุ่นมากไปหน่อย
สามารถ – วันนี้สีเหลืองนะ
หลวงปู่ – เหลืองอย่างเดียวไม่พอ ลายอีก
สนธิ – เมื่อเช้าผมอ่านเว็บไซต์ผมตกใจนะคุณสำราญ บอกว่าวันนี้วันสุดท้าย จะมีอีก 2 หน่อไปสมัคร สนุกสนานมาก คนหนึ่งชื่อกฤษดา อรุณวงศ์ ณ อยุธยา อดีตผู้ว่าฯ เก่า
หลวงปู่ – อายุท่านไม่เยอะไปแล้วหรือ
สนธิ - ผมไม่ทราบเหมือนกัน และคนใครนะ
สำราญ – นิติภูมิ นวรัตน์
สนธิ – คอลัมนิสต์ มีคนเคยถามผม ก็เลยต้องพูดต่อหน้าหลวงปู่ซักนิดนึง ให้เป็นสัจวาจา ว่าที่ผมอยู่ในวงการสื่อมวลชนในที่สุดแล้วผมจะไปเล่นการเมืองใช่ไหม ผมก็ตอบเขาว่า เขาคิดผิด ไม่ใช่หรอก ตีให้ตายชีวิตนี้ก็ไม่ลงไปเล่นการเมือง ทุกวันนี้มีความรู้สึกว่า เมื่อเราเข้าไปสู่การเมือง เราก็จะเปลี่ยนไปทันที มันจะโดนครอบ เพราะฉะนั้นเราเป็นตัวของเราเอง และเราทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์แบบทำให้ดีที่สุด ผมคิดว่าเราช่วยชาติได้ดีกว่าการที่เข้าไปเล่นการเมือง
หลวงปู่ – ถ้าคุณสนธิจำได้ ฉันเคยพูดกับคุณว่า ณ วันนี้ที่เรายืนอยู่ในท่ามกลางกระแสและเราไม่โยกสั่นคลอน เราสามารถติติงให้สติเตือนและชี้แนะได้ทั่วแผ่นดิน แต่ถ้าวันหนึ่งเราไปอยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เราไม่มีสิทธิ์จะไปติติงชี้แนะ ตักเตือนใครได้และสุดท้ายถ้าขืนติติง ตักเตือน ชี้แนะ อาจกลายเป็นความหมายของคำว่าขาประจำมาอีกแล้ว
สามารถ – ไม่ตัดสิน ไม่ท้วงติงไม่ชี้แนะ ก็ยังพอทำเนา ถ้าลงไปปกป้องพวกกันเองยิ่งหนัก
หลวงปู่ - ตอนที่ฉันเป็นเจ้าคณะตำบลฉันจะพูดน้อยมากเกี่ยวกับเรื่องการปกครองบริหารจัดการคณะสงฆ์ แต่พอออกมาจากเจ้าคณะตำบล ฉันจะชี้ให้เห็นถึงคำ ถึงพยัญชนะ สิ่งที่ควรไม่ควร อคติ ไม่ควรจะมีอยู่ในชั้นปกครอง
สามารถ – หลวงปู่กำลังจะบอกว่า เวลาลงเรือลำเดียวกันแล้ว มีคนหนึ่งในเรือไม่ดี มันก็ลำบาก พูดยาก เพราะทะเลาะกันไปเรือมันจมนะ
หลวงปู่ – มันไม่ยอมพาย ปล่อยให้เราพายคนเดียว แต่พอเราขึ้นจากเรือ ทีนี้เราจะชี้ได้ว่า ใครอยู่ในเรือไม่ยอมพาย และเป็นตัวไขรูอีก เมื่อเช้าผ่านสนามหลวง เขามาจัดขายตลาดนัดอีกรอบ ซุ้มสนามหลวงเต็มไปด้วยซุ้มของวัดต่างๆ
สามารถ – สัปดาห์พระพุทธศาสนา
สนธิ – ผมมองว่า ยุทธวิธีในการดึงคนเข้าสู่เทศกาลศาสนา ทำผิดหมด ไม่ใช่ ลักษณะของการวางซุ้มแบบนั้น เป็นเหมือนงานวัด พุทธศาสนาไม่ควรเป็นงานวัด และยิ่งกว่านั้นบางคนก็ถือโอกาส บางซุ้มตั้งบาตร มีพระ พร้อมรับสังฆทานตรงนั้น
หลวงปู่ – ตั้งต้นผ้าป่าด้วย และโยมก็โทร.เข้ามา ฉันจัดรายการสดนะ จะจัดทั้งที ทำไมไม่คิดจะให้คนเข้าไปร่วมบ้าง จัดแบบนี้หมายถึงไม่อยากให้คนไปร่วม เพราะที่จอดรถหาไม่ได้ ห้องน้ำก็ไม่มี ความสะดวกไม่มี มีแต่ซุ้มเฉยๆ
สนธิ – และที่สำคัญ คือพวกพระ เณร ชีที่มาร่วม หลายๆคนไม่มีที่พักในกรุงเทพฯ เลยต้องปักกลดตรงนั้น แล้วสนามหลวงคุณจะไปพักอย่างนั้นได้อย่างไร ไม่ใช่เรื่องง่าย รถกทม. ไปจอดก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก มันประเจิดประเจ้อและมันไม่เหมาะสม เหมือนห้องน้ำ คุณสำราญก็รู้ว่าห้องน้ำที่วัด อันไหนที่พระเข้า ชาวบ้านไม่ให้เข้า
หลวงปู่ – ฉันนั่งรถมา ก็นึกในใจว่า ถ้าฉันมีสตางค์นะ จะไปเช่าอิมแพคเมืองทองธานี ให้พวกนี้ไปอยู่ซัก 5-7 วัน ที่นั่นมีที่พัก มีห้องน้ำ มีที่จอดรถ โอ่โถงและห้องแอร์ต่างหาก ใครอยากไปร่วมงานก็ได้
สนธิ – จริงๆ การจัดเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา แทบจะไม่ต้องนิมนต์พระจากวัดต่างๆให้มาจัดนิทรรศการ ต้องเป็นภาครัฐจัดเลย ในเชิงรุก ผมคิดว่า ต้องจัดในเชิงกระบวนทัศน์ สร้างบรรยากาศทั้งหมด เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนชาวพุทธ เนื่องจากวันพรุ่งนี้เป็นวันอาสาฬหบูชา ขอให้พวกเราแต่งขาว เสื้อขาว กางเกงขาวกันหน่อยและถ้าเป็นไปได้ก็เข้าวัดฟังธรรม ให้ทางวัดมีการประชาสัมพันธ์กัน โดยสื่อของรัฐ สื่อของรัฐวันศุกร์ หรืออาทิตย์ทั้งอาทิตย์ ผมยังไม่เห็นสื่อของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นช่อง 9 อ.ส.ม.ท. อ้าวเดี๋ยวโดนเขาเล่นงานอีกแล้ว ช่องต่างๆ ดำเนินการ แนะนำกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในวันเสาร์นี้และวันอาทิตย์วันเข้าพรรษา คือว่าในเรื่องจิตวิญญาณจะมาขาย อะไรกัน จิตวิญญาณ เป็นเรื่องการส่งเสริมให้คนเข้าถึง เห็นคุณค่าของมัน เหมือนความรักพ่อแม่ หรือครูอาจารย์ ที่มีต่อลูกศิษย์ หรือลูกหลายจะไปขายยังไงครับ
หลวงปู่ – คือเขามองไม่เห็นเป็นตัวเลข เขามองเห็นเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบหนึ่ง แต่ไม่คิดคำนึงว่ามันจะส่งผลระยะยาวแก่สังคม
สำราญ – สัปดาห์นี้ข่าวน้องแนทกลบหมด
หลวงปู่ – เรากำลังคุยกันธรรมะธรรมโม นี่ชวนลงหนังโป๊
สำราญ – ผมลองทดสอบสมาธิดู พอเอาเรื่องน้องแนทมาวงแตกเลย
สนธิ – แสดงว่าจิตใจคุณหมกมุ่นเรื่องน้องแนทตลอดเวลา
สำราญ – เปล่าครับ ผมแค่พูดธรรมดา
สามารถ – ถ้าต้องการส่งเสริมอย่างคุณสนธิ ว่าคือทางการลงไปจัดเองและให้วัดต่าง ๆให้ความร่วมมือ จัดอยู่ที่วัด และให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง แต่ละที่ แต่ละตำบล แต่ละอำเภอเข้าวัด
หลวงปู่ – ให้ความสนับสนุนส่งเสริม ฉันอยากจะให้ทำอย่างนั้นคือพระบางวัดมาจากขอนแก่น ศรีสะเกษ สุราษฎร์ ฯ มาทำอะไร
สามารถ – เปิดโอกาสให้คนกลุ่มใช้ตรงนี้ เจตนาแอบแฝงเข้ามาหาประโยชน์กับศาสนาได้
หลวงปู่ – ดังนั้นอยากจะบอกว่า ถ้ารัฐจะทำจริงๆ ให้รณรงค์เป็นเรื่องเป็นราวและสร้างบรรยากาศของการเรียนรู้จริยธรรม ศีลธรรมในวันอาสาฬหบูชา จริงๆ หาที่ที่เหมาะสมและฉันไม่รู้ไม่เข้าใจว่า หอประชุมแห่งชาติสิริกิติ์มันสร้างด้วยเงินภาษีราษฎร ทำไมเรื่องของศาสนาไม่มีโอกาสเข้าไปใช้เลย
สนธิ – เขาให้เอกชนเข้าไปจัดการบริหารและมอบรายได้ส่วนหนึ่งให้ราชการ
หลวงปู่ – ในกรณีอย่างนี้เป็นส่วนรวม เป็นของภาครัฐที่ต้องให้การสนับสนุนและให้ความสำคัญ ฉันมองว่าไม่ว่าจะเอกชนหรือไม่ ต้องมีข้อแม้และวงเล็บไว้บ้าง ว่าถ้างานเกี่ยวกับกิจกรรมของสังคม กิจกรรมสำคัญที่เป็นเรื่องของประเทศชาติจำเป็นต้องให้ความร่วมมือ
สำราญ – เอาเถอะครับ ถึงแม้จะเต็มไปด้วยสีสัน กลายเป็นตลาดนัด แต่ที่ท้องสนามหลวงเราจะไปตักตวงอะไรบ้างไหม
หลวงปู่ – ฉันมองดูแล้ว แต่ละองค์ก็นั่งหาว ตบยุง พระเทศน์ก็เทศน์ให้เก้าอี้ฟัง มีหน้ามาไม่กี่คนมารถเดียวกัน นี่ความเป็นจริง ดังนั้นเรามองว่า เหมือนตำน้ำพริกละลายน้ำ ไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร และไม่ได้เทิดทูนด้วยนะ เราทำสัปดาห์พุทธศาสนาเพื่อหวังเทิดทูนบูชา เคารพ และการที่ไปอยู่ริมถนน ข้างถนน เกลื่อนกล่นไปด้วยเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจ เป็นบรรยากาศของพุทธหรือ
สามารถ – เหมือนตลาดขายพระพุทธรูป
สำราญ – ดูแล้วตลกดี กลางวันมีแสดงธรรม ขายพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง พอตกดึกหน่อย 4-5 ทุ่ม ตี 1 ตี 2 ก็มีผู้หญิง จริงๆ นี่เป็นเรื่องที่รู้ๆ กันอยู่ ภาพที่ตัดกัน
หลวงปู่ – คุณกำลังบอกว่ามันมีผีขนุน ผีมะขาม
สำราญ – เทศกิจยังตามไปจับเลย
หลวงปู่ – คือภาพมันหักมุมแบบเห็นได้ชัดใช่ไหม คุณกำลังบอกฉันว่าไม่น่าเป็นสถานที่แห่งการเคารพ เทิดทูน บูชา
สามารถ – สัปดาห์พุทธศาสนาไปจัดในที่อโคจร
หลวงปู่ – ที่ที่ไม่ควรไป อย่างคนบางประเภท อย่างฉัน สมณะ ชี พราหมณ์
สนธิ – เขาคงอยากให้พระเจ้าไปโปรดผีขนุน
สามารถ – นี่ก็ไป
สำราญ – กรรมการตีระฆัง ยกแรกหมดเวลา เบอร์โทรศัพท์ฝากคำถามไว้ที่ทีมงานนะครับ 02-629-4433 นะครับ คำถามเก่ามีเยอะนะครับ เราไปเคารพธงชาติ ฟังข่าวต้นชั่วโมงเดี๋ยวกลับมาครับ
ช่วง 2
สำราญ – กลับมาช่วงที่ 2 ของรายการสภาท่าพระอาทิตย์นะครับ
หลวงปู่ - ... มันจะชนะความโกรธได้
สำราญ – เลิกทวงหนี้เพื่อนใน 3 เดือน
หลวงปู่ – แสดงว่า อาชีพตลอดเดือนทุกเดือนที่ผ่านมา ทวงหนี้ทุกวัน
สำราญ – มีบางกลุ่มรับจ้างทวงหนี้
สามารถ – สำหรับพวกทวงหนี้ ผมขอฝากได้ไหม ไม่ทวงในพรรษา นอกพรรษาไม่ต้องทวง
หลวงปู่ – คุณทำอะไรก็ได้ในส่วนที่อยู่ในกุศลแล้วกัน ให้อารมณ์มันเข้าไปจับอยู่ในกุศลธรรม ไม่ว่าจะเป็นสติ สมาธิ ปัญญา ศีล
สำราญ – นิ่ง แน่แน่วใน 3 เดือนนี้
หลวงปู่ - แน่วแน่อยู่ในกุศลจิต กุศลธรรม ซักข้อหนึ่ง และตั้งอธิษฐานไว้ในใจว่า ถ้าเราจะมีปัญญาก็ต้องมีปัญญาที่ซื่อตรง ต้องเป็นปัญญาที่ไม่เอาเปรียบ ไม่คดโกงใคร และเสียสละแบ่งปัน
สำราญ – พวกที่ติดหุ้นอยู่ 3 เดือนนี้เลิกเล่นหุ้นก็ไม่ได้อีก
หลวงปู่ – หุ้นมันเป็นอาชีพ เป็นโลภมูลจิตนะ ถ้าทำจนกระทั่งมันเป็นอาชีพไปแล้วมันก็กลายเป็นเหมือนกับว่า วันทั้งวันต้องนั่งเฝ้าจอ
สำราญ – มีเพื่อนฝูงบางคน เรานึกไม่ถึง ไปติดหุ้นกับเขาด้วย มันก็แปลก และว้าวุ่นกันทั้งตลาดหุ้นตอนนี้
สนธิ – ไม่ต้องมองหน้าผม ผมไม่ได้เล่นหุ้น
สามารถ – หุ้นถ้าเล่นลักษณะลงทุน ผมเห็นด้วยนะ แต่ถ้าเล่นเก็งกำไร เฝ้าหน้าจอไม่เห็นด้วย เข้าข่ายอบายมุข
หลวงปู่ – สร้างความโลภ มันคือการพนัน
สำราญ – เราจะใช้วิหารทำไปแก้ไขยังไงได้บ้าง
หลวงปู่ – ลดโลภะลง แสดงว่าท่านผู้นั้นอยู่ในอกุศลวิหาร โลภวิหาร และจิตเขาจะไม่นิ่ง ไม่กระสับกระส่าย จิตไม่นิ่งจะสับสน จะคิดใคร่ครวญ และพวกนี้จะเห็นแก่ตัวมากขึ้น
สามารถ – หลวงปู่กำลังบอกว่า ถ้าจะเลิกเล่นหุ้น เลิกตัวแรกคือโลภะ ลดความโลภลง และเหตุจูงใจให้แสวงหาไม่มี
หลวงปู่ – เรามาคุยเรื่องอาสาฬหบูชาหน่อยได้ไหม ที่จริงวันนี้สำคัญนะ ที่จริงแล้ว อาสาฬหบูชาก็คือวันบูชาในเพ็ญกลางเดือนแปด
สามารถ – อาสาฬหะ แปลว่าเดือนแปด
หลวงปู่ – ปีนี้มีแปด 2 ครั้ง เขาถือแปดหลัง เป็นประมาณ เพราะฉะนั้นวันบูชาอาสาฬหะ เขาเรียกว่า บูชาในกลางเดือนแปด หรือวันเพ็ญเดือนแปด และถามว่ามันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในวันนี้ ก็เป็นวันที่พระพุทธเจ้าแสดงธัมมจักกัปวัตตนสูตร เรียกว่า ปฐมเทศนา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าแสดงอริยสัจ 4 จนทำให้พระอัญญาโกณทัญญะ มีดวงตาเห็นธรรม เรียกว่าวันเกิดพระสังฆรัตนะ รูปแรกของโลก เป็นพระสงฆ์องค์แรกของโลก และพระองค์ทรงให้การบวชด้วย เอหิภิกขุอุปสัมปทา และหลังจากแสดงธรรมโปรดพระปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 แล้ว วันรุ่งขื้นของวันอาสาฬหบูชาก็เป็นวันเข้าพรรษา พระองค์ก็ทรงพาพระคือภิกษุทั้ง 5 รูปไปเข้าพรรษาแรก เรียกว่าปฐมพรรษา
สามารถ – พระสงฆ์ที่ว่าคือพระสงฆ์ที่ได้ดวงตาเห็นธรรมนะ
หลวงปู่ – พระสงฆ์องเดียว
สามารถ – คือครบพระรัตนะ คือมีอริยสงฆ์เกิดขึ้น คือได้ดวงตาเห็นธรรม
สนธิ – ใช้ภาษาชาวบ้านแล้วกัน คือวันพรุ่งนี้คือวันที่เรามีพระพุทธเจ้า สอง มีพระธรรม เพราะพระองค์ท่านแสดงธรรม สามมีพระสงฆ์องค์แรก คือโกณทัญญะ นั่นแหละ 3 อย่าง เกิดพระรัตนตรัย
หลวงปู่ – แสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร มีองค์ประกอบห้ามส่วนที่สุดสองอย่าง และก็ทรงแสดงสิ่งที่ควรกระทำ 8 อย่างและทรงชี้ให้เห็นถึงเหตุปัจจัยของการต้องทำ 8 อย่าง เพราะมันมีทุกข์ มีเหตุเกิดทุกข์ เพราะฉะนั้นข้อปฏิบัติของการดับทุกข์ มันมีอยู่ ก็มีอยู่ใน 8 อย่างนี้ เทศน์มรรค 8 ประการ เริ่มจากสัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมาอาชีวะ สัมมากัมมันตะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาวิริยะ
สำราญ – ทรงล่วงรู้ยังไงว่าต้องเข้าพรรษา แค่ 3 เดือน
สามารถ – คืออย่างนี้ย้อนกลับไปในอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมัธยมประเทศ มันจะมีฝนตกหนักในช่วง 3 เดือน สัญจรไปไหนลำบาก แรก ๆ ก็ไม่มีการจำพรรษา แต่ว่าเมื่อเดินไป ชาวบ้านติเตียนบอกว่า พระไปเหยียบย่ำต้นข้าวบ้าง นกยังต้องหยุดอยู่ในรัง 3 เดือน ไปไหนไม่ได้ แล้วทำไมพระไม่หยุด
สนธิ - ถ้าพระธรรมวินัยข้อนี้เกิดขึ้น เพราะว่าพระพุทธเจ้าทรงเห็นสภาพภูมิอากาศและฤดูกาลในอินเดียเป็นอย่างนั้น แต่ในอนาคตเมื่อพระพุทธศาสนาแผ่กระจายไปทั่วโลกแล้ว บางฤดูอย่างเช่นในต่างประเทศ ในยุโรป ทางอเมริกา ในช่วงเข้าพรรษากลับเป็นช่วงซึ่งไม่มีอะไรเลย เป็นหน้าร้อนด้วยซ้ำ เดือนก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. ซึ่ง 3-4 เดือน อากาศสบายที่สุด
หลวงปู่ – ที่จริงแล้วการเข้าพรรษาไม่ได้มีวัตถุประสงค์อย่างนั้นอย่างเดียว การเข้าพรรษาก็มีวัตถุประสงค์อีกอย่างหนึ่งเข้ามาคือว่า พระที่เป็นพระเถระ เมื่ออยู่ในที่ใดที่หนึ่ง พระที่เป็นภิกษุ อาคันตุกะ หรือเป็นภิกษุที่เป็นภิกษุใหม่ เรียกว่า ภิกษุนวกะ ก็จะได้มีโอกาสอยู่ร่วมกับพระที่เป็นพระเถระ เมื่ออยู่ร่วมแล้ว ก็จะได้เป็นข้อวัตรปฏิบัติ พยัญชนะ ในภูมิธรรมต่างๆ ที่พระเถระเหล่านั้นปฏิบัติมา เพราะถือว่าการเรียนรู้ศึกษา ระเบียบธรรมเนียมปฏิบัติ กติกาและวินัยกรรมที่มีอยู่ในพระเถระเหล่านั้นที่ได้สืบทอดผ่องถ่ายต่อๆมาด้วย และอีกอย่างคือเปิดโอกาสให้ชาวบ้าน เวลาออกพรรษาพระก็ต่างคนต่างไปใช่ไหม พอเข้าพรรษา ชาวบ้านก็ได้มีโอกาสทำบุญ ฟังธรรม บริจาคทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ก็มีพระอยู่มากๆ ชาวบ้านจะมีความรู้สึกศรัทธา ปลาบปลื้มเลื่อมใส
สามารถ – ในแง่วินัย มีมหาปเทส 4 ให้ปรับพระวินัยได้ตามความเหมาะสม
หลวงปู่ - เขามีพรรษาแรก พรรษาหลัง
สนธิ – ถ้าอีกหน่อยพระพุทธศาสนาเจริญก้าวหน้าในประเทศตะวันตก ในทางตะวันออกที่เขามีการเข้าพรรษา ทางโน้นอาจจะไม่จำเป็นเข้าพรรษา
สามารถ – เข้าพรรษาหน้าไหนก็ได้ที่เดินทางลำบาก
สนธิ – เช่นหน้าหนาวของเขา ซึ่งมีหิมะตกหนัก
หลวงปู่ - นั่นก็ได้
สามารถ – มีมหาปเทส 4 รองรับว่าอะไรที่ไม่ได้ตรัสไว้ แต่ว่าต่อไปมีสิ่งเกิดใหม่ก็ให้เปลี่ยนได้
หลวงปู่ – พรรษา พระพุทธเจ้าทรงกำหนดไว้ 2 พิธี พิธีแรกคือแรม 1 ค่ำ เดือน 8 จนถึงกลางเดือน 12 พิธีที่ 2 เรียกว่า พรรษาหลัง มันก็เริ่มต้นตั้งแต่กลางเดือน 12 จนไปถึงกลางเดือน 4 อย่างนี้เป็นต้น ดังนั้นช่วงจังหวะ 2 พรรษาคือพรรษาแรกกับพรรษาหลัง ต้องดูว่าไปตรงกับฤดูไหน พระองค์ทรงให้ขยับได้ แต่ถ้าหากว่าในกรณีที่เมื่อขยับแล้วมันยังไม่ตรงเหตุปัจจัย ก็ใช้มหาปเทส 4 เป็นตัววิเคราะห์ แต่โดยรวมแล้ว พระยึดถือตัวนี้เป็นเกณฑ์ ในวันปวารณา คือวันออกพรรษา เขาถือว่า ออกพรรษา พร้อมกันหมด ไม่ค่อยมีใครยึดถือพรรษาที่ 2 เพราะพรรษาที่ 2 เมื่อยึดถือไปแล้ว อานิสงส์กฐินมันจะหลุดไป มันจะมาดูอานิสงส์กฐินด้วย พระกฐินมันทอดได้สูงสุดจนถึงกลางเดือน 12 พอพ้นจากนั้นแล้วก็ทอดไม่ได้แล้ว
สำราญ – อย่างพม่า ศรีลังกา อินเดีย
หลวงปู่ – เหมือนกัน ฤดูกาลเหมือนกัน แต่ถ้าปรับเปลี่ยนไปแล้วบางอย่างมันอาจจะไม่ได้อานิสงส์
สามารถ – ที่คุณสนธิถามน่าสนใจมาก เพราะพระพุทธศาสนาปัจจุบันไม่ได้อยู่ในเอเชียอย่างเดียว แต่ไปยุโรป อเมริกา ซึ่งฤดูกาลเขาต่างจากเดิม อันนี้มหาปเทส 4 รองรับปรับได้ แต่พระสงฆ์ต้องประชุมกันนะ
สนธิ – ต้องเป็นสงฆ์ในประเทศนั้นนะ
หลวงปู่ – และแจ้งให้สงฆ์ส่วนกลางได้รับรู้ว่า เรากำลังเข้าพรรษาอยู่ สงฆ์ส่วนกลางอาจจะมีการตั้งสมณทูตขึ้นมาและประกาศส่วนญัตติ แจ้งให้สงฆ์ส่วนกลางคือสงฆ์ที่มาจากที่ไกล เป็นพระอาคันตุกะ
สนธิ – คือในลักษณะของพุทธศาสนา เราจะไม่มีเหมือนศาสนาคริสต์ อย่างคริสต์ ยึดเอากรุงวาติกันเป็นหลัก พระคาดินัล ที่อยู่ประเทศต่างๆ ล้วนได้รับการแต่งตั้งจากกรุงวาติกันทั้งสิ้น ส่วนในประเทศเอเชียนั้น สุดแล้วแต่ประเทศใครประเทศมัน ก็คือมีพระสังฆราช แต่อย่างในตะวันตก ในสหรัฐอเมริกา
หลวงปู่ – ก็ต้องไปดูว่าเขามาจากประเทศไหน และเขาจะต้องแจ้งกลับ ถามว่าทำไมต้องแจ้ง มันเป็นธรรมเนียมของผู้ปกครอง
สามารถ – อันนี้เป็นเรื่องฝ่ายปกครอง แต่ในแง่วินัย ให้ถือคามสีมา แปลว่าเขตปกครอง ก็ประชุมสงฆ์ตรงนั้น
หลวงปู่ – สาเหตุที่ให้แจ้งต่อสงฆ์ส่วนกลาง เพราะเมื่อถึงคราวฤดูพรรษา สงฆ์ส่วนกลาง เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจำพรรษาไม่ตรงกับเรา ถึงเวลาเขาจะอนุเคราะห์ต่อสงฆ์กลุ่มน้อยนั้น สงฆ์ส่วนกลางจะส่งพระมหาเถระไปเยี่ยมและแสดงธรรม
สนธิ – ผมกำลังกราบเรียนว่า จริงๆ แล้วพระพุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องที่สลับซับซ้อน ผมเคยคิดเช่นนั้น วันนี้ผมค่อนข้างเข้าใจดีพอสมควร ว่าโดยที่ผมไม่จำเป็นต้องพูดภาษา พระพุทธศาสนา เหมือนว่าวันอาสาฬหบูชาคือวันอะไร คือวันที่มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์พร้อมกัน ถ้าเข้าใจอย่างนี้และผมยังยืนยันว่า ถ้าเราหรือว่าทางราชการหรือพวกวัดต่างๆ หรือมหาเถรสมาคมหรือองค์พุทธศาสนา ถ้าสามารถอธิบายพุทธศาสนาให้ชาวบ้านเข้าใจได้ง่าย ออกไปมากๆ มันจะดีกว่า พยายามมาพูดบาลีให้หลายคนฟัง
หลวงปู่ – คุยเรื่องนี้ ก็คุยเลย ศุกร์หน้าจะต้องเข้าพรรษาแล้วใช่ไหม ฉันยังนึกเลยว่าสงสัยมาสาย เพราะปกติออกตี 5
สนธิ – ไปออกสดที่นั่นเลยไหมครับ
หลวงปู่ – ออกตี 5 ฉันต้องรอให้สว่างก่อนและบิณฑบาตแล้วจึงจะมาหรือไม่ก็ต้องสั่งหยุดบิณฑบาต มันขาดกิจวัตร
สำราญ – โอบีก็ได้ ไปถ่ายทดสด
หลวงปู่ – อย่างนั้นก็ดี อนุโมทนาสาธุการ
สำราญ – ตอนนี้เราต้องเบรกกัน 2 นาทีนะครับช่วงหน้าจะมาเติมเต็มกันและตอบคำถามรวดเดียวครับ ตอนนี้พักกันซักครู่เดียวครับ
ช่วง 3
สำราญ – ช่วงที่ 3 ของรายการสภาท่าพระอาทิตย์วันศุกร์นะครับ สนทนาธรรมกับหลวงปู่พุทธะอิสระ นะครับ พูดถึงวันอาสาฬหบูชามาพอสมควร มีอะไรที่จะเพิ่มเติมไหมครับ
หลวงปู่ – ที่จริงควรพูดเรื่องผ้าอาบน้ำฝนนะ
สามารถ – ผ้าอาบน้ำฝนเกิดเพราะหนึ่ง วิสาขาเข้าไปจะนิมนต์พระมาทำบุญ ไม่เห็นพระสักองค์ เห็นแต่เปรต ก็คือฝนตก พระอาบน้ำและเปลือยกาย ตอนนั้นวินัยยังไม่ห้ามเปลือยกายนะครับ ก็ไม่เห็นพระ มาบอกพระพุทธเจ้าว่าไม่เห็น เห็นแต่เปรต พระพุทธเจ้าทราบความก็บัญญัติเพิ่มเติมจากไตรจีวร 3ผืนให้เพิ่มผ้าอาบน้ำฝนมาอีก 1 ผืน
หลวงปู่ – ผ้าอาบน้ำฝนใช้เฉพาะหน้าฝนเท่านั้น นอกนั้นก็อธิษฐานให้สามารถจะเป็นของกลาง คือของที่ใครมีสิทธิ์ใช้ได้ เป็นของกลาง อย่างนี้เป็นต้น
สนธิ – ชุดที่พระในเมืองไทยใส่ พันแบบนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร
หลวงปู่ – การนุ่งห่มของพระพุทธเจ้าสมัยโบราณก็เหมือนกับเทวรูปสมัยคันธาระ จะพาด ๆ
สามารถ – สมัยก่อนการแต่งตัว รูปแบบก็พาดๆ
หลวงปู่ – พาดเฉียง พาดบ่า กระชับให้อยู่แล้วกัน
สามารถ – ในวินัยบอกว่าให้แต่งกายแบบสมณสารูป ดูแล้วไม่ประเจิดประเจ้อ มิดชิดและนุ่งห่มให้เป็นปริมณฑล ไม่รุ่มร่าม
สนธิ – แสดงว่าแต่ละประเทศนุ่งห่มไม่เหมือนกันแล้วแต่
หลวงปู่ – แต่อย่าให้ประเจิดประเจ้อ
สนธิ – อย่างผมดูพระจีนก็ไม่ผิดวินัยใช่ไหมครับ
สามารถ – ไม่ผิดวินัย
สนธิ – แล้วเมืองไทยเอามาจากไหน
หลวงปู่ –มีนิกาย อย่างของฉันมาจากรามัน มาจากมอญ ก็คือธรรมยุต ม้วนเข้า แต่ถ้าเป็นมหานิกาย ม้วนออก และมีการพันมังกร คือพันแขน อันนี้ฉันซุกแขน มันคนละอย่างกัน มหานิกายจะห่มมังกร แต่ธรรมยุตจะห่มอย่างนี้
สำราญ – ห่มคลุมทั้ง 2 ไหล่เรียกว่าอะไร
หลวงปู่ – อย่างนี้เรียกว่าห่มคลุม ถ้าห่มดองจะเปิดไหล่ข้างหนึ่ง แต่อยู่ในวัด คลุมออกนอกวัด และการห่มดองแบบนี้ ที่จริงพระพุทธเจ้าก็ห่มแบบนี้ แต่ตอนหลังมาก็ทรงบัญญัติผ้าพิเศษ คือผ้าสังฆาฏิ คือผ้าสังฆาฏิ ไม่ได้พาดบ่า แต่เขาไว้ห่มทับอีกทีหนึ่ง เราจะเห็นพระทางเหนือชอบ เวลาห่มดองจะมีผ้าคลุมไหล่อีกทีหนึ่ง เขามีไว้ห่มนอนก็ได้ แทนผ้าห่มก็ได้ แต่พระเมืองไทยแค่พาด
สามารถ – พุทธบัญญัติบอกว่าอนุญาตให้ใช้ผ้า 2 ชั้น เรียกว่า สังฆาฏิ เอาไว้สำหรับคลุมกันหนาว
หลวงปู่- ถ้าพระป่าหรือพระธุดงค์จะเอามาห่มสำหรับกันหนาว
สนธิ – แล้วสีจีวรละครับ
หลวงปู่ - สีย้อมฝาด
สามารถ – พุทธานุญาต บอกอย่างนี้ ผ้ากาสาวะ แปลตรงตัวว่า ย้อมด้วยน้ำฝาด สีฝาด ๆ หม่น ๆ
หลวงปู่ – และสีที่อนุญาตที่กำหนดในพระธรรมวินัยก็มีสีแดงเรื่อๆ และก็สีเหลืองขมิ้นเน่า และไม่ใช่เหลือง
สนธิ – ของหลวงปู่เรียกว่าเสียงอะไรครับ
หลวงปู่ – แก่นขนุน
สามารถ- เดิมทีเดียวเขาแก่นขนุนมาต้มไงครับ จะออกสีนี้แหละ
หลวงปู่ – และมีสีที่หมักด้วยใบไม้แต่ถ้าเหลืองพราวไม่ได้ ตามพระวินัย
สามารถ – กาสาวะ แปลว่าสีหม่น
หลวงปู่ – สีที่ไม่สวย จะเห็นว่าเจ้าคุณบางรูปชอบใส่ผ้าไหม วูบวาบ มีแสง ไม่ได้เลย ขัดวินัย
สำราญ – แต่เหมือนบางรูปจงใจนะ
หลวงปู่ – มีตังค์นะ ผิดหรือ
สำราญ – พระรวยทำอะไรไม่น่าเกลียดมีด้วยหรือครับ
หลวงปู่ – คือบางทีเราต้องยอมรับว่าพระก็เหมือนชาวบ้าน กิเลส ตัณหา อุปาทาน ความทะยานอยาก ความชอบ มีความดี ความได้ ไม่ได้ต่างจากชาวบ้านเลย ถ้าตราบใดที่ยังจะยุ่งกับลาภสักการะ เรียกว่าโลกธรรม 8 ประการ มีชีวิตไม่ต่างจากชาวบ้าน
หลวงปู่ – เอาเป็นว่ามีลาภ เสื่อมลาภ มีทุกข์ มีนินทา มีสรรเสริญ ถ้าไปยุ่งกับมันมาก อาจจะทำเลอะเทอะก็มี
สามารถ – เพราะว่าโลกธรรมครอบงำเมื่อไหร่ จิตใจรองรับคุณธรรมไม่ได้
หลวงปู่ – ธรรมชาติของจิตอย่างนี้ เราพูดธรรมะจ๋าหน่อย คือจิตมนุษย์เหมือนกับช่องว่างเล็กๆ พอมันมีอะไรเข้ามาอยู่ อะไรเข้ามาอยู่ถ้าเป็นกุศล ก็เหมือนกับไฟฟ้าเข้ามาอยู่ในห้องมืด ๆ ก็จะทำให้จิตสว่างแต่ถ้าเผอิญสิ่งเข้ามาอยู่กลายเป็นถ่าน มันดำ มันมีฝุ่นด้วย มันก็ทำให้ห้องนั้นมืดดำไปด้วยและในขณะที่มีถ่านมาอยู่ไฟเข้ามาอยู่ได้ไหม ไม่ได้ ขณะที่มีไฟมาอยู่ ความมืดมาอยู่ก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นจิต คือห้องห้องนี้จะให้แขกแปลกหน้าได้มาอยู่แค่ตนเดียว ทีละอย่าง ทีละเจตสิก ในขณะที่ความสว่างเข้ามา ความมืดหายไป ความมืดเข้ามา ความสว่างหายไป
สามารถ – ในบาลีบอกอย่างนี้ ในขณะจิตเดียว จิตรับรู้ได้อารมณ์เดียว
หลวงปู่ – เขาก็เลยต้องฝึกให้จิตนี้มีเครื่องอยู่อย่างสว่าง เรียกว่ากุศล เพื่อทำให้จิตนี้สว่างตลอดเวลา
สำราญ – ชั่วกับดีอยู่ด้วยกันไม่ได้
หลวงปู่ – ไม่ได้ ที่มีเขามีคำโบราณสอนไว้ว่า เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ มีเสือขาว กับเสือดำ ธรรมชาติของจิตเป็นอย่างนั้น ดังนั้นในขณะที่โลกธรรมมันมาสิง อวิชชา ก็หลั่งไหลพรั่งพรูเข้ามา ส่วนที่เป็นวิชา ส่วนที่เป็นกุศล ความสว่าง มันก็ไม่หลั่งไหลพรั่งพรู มันจะอยู่รวมกันไม่ได้ เหมือนกับน้ำกับน้ำมัน จะแยกกันเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แม้น้ำมันจะหกลงน้ำ มันก็จะไม่รวมกับน้ำ ฉะนั้นธรรมชาติของจิต ถ้าเราไม่ระมัดระวัง และปล่อยให้โลกธรรมมาครอบงำ ความอยากจะตามมาเยอะแยะมากมาย นี่เป็นตัวอันตราย
สำราญ – ขอเริ่มต้นด้วยคำถามเบาๆ คนเล่นไพ่บาปหรือไม่
หลวงปู่ – พูดชัดๆ ก็บาป และชั่วอีกต่างหาก
สำราญ – กรรมที่ได้รับคืออะไรครับ
หลวงปู่ – ติดคุก ไม่มีตังค์ เมา
สำราญ – คุณบรรดาศักดิ์ บอกว่า อยากให้หลวงปู่เล่าเรื่องพระศิวะ กับพระพิฆเนศ โดยสังเขป
หลวงปู่ – พระศิวะ เป็นศาสดาหนึ่งในศาสนาพราหมณ์ ซึ่งเกิดในชั้นหลัง ที่จริงแล้วเป็นศาสดาหนึ่งในศาสนาฮินดู ซึ่งแตกมาจากพราหมณ์ ฮินดูเกิดในยุคตรีมูรติ คือยุคที่พุทธศาสนารุ่งเรืองและพราหมณ์สู้ไม่ได้ เลยมาสร้างศาสนาใหม่เรียกว่า ตรีมูรติ หรือฮินดู
สามารถ – เลียนแบบพระรัตนตรัย
หลวงปู่ – ดังนั้นเมื่อศาสนาพุทธ มีพุทธ ธรรม สงฆ์ ศาสนาพราหมณ์มีแค่พระพรหมองค์เดียวสู้ไม่ได้ ก็เลยมาตั้งตรีมูรติขึ้น และมีพระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ ดังนั้นพระศิวะ เป็นผู้ทำลาย พระพรหม เป็นผู้สร้าง เขาเชื่อกันอย่างนั้น และพระวิษณุ เป็นผู้ส่งเสริมสนับสนุนให้รุ่งเรืองเจริญ
สนธิ – พระนารายณ์ละครับ
หลวงปู่ - พระวิษณุคือพระนารายณ์
สนธิ – เมื่อวานมีรุ่นน้องผม เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ชื่อดร.ปานปรีย์ แวะมาเยี่ยม ผู้ช่วยรัฐมนตรีพาณิชย์ เขาก็เล่าให้ฟังว่า ผมเจรจากับทูตอินเดียนะ ผมก็เวียนหัว มันพูดแล้วก็ส่ายหัวไป อาจารย์สามารถเคยไปเรียนอินเดียมา และผมก็มีเพื่อนเป็นอินเดีย ลูกชายอดีตรมว.กลาโหมอินเดีย นายกฤษณะ เมนอน ชื่อบัชการ์ เมนอน ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันนะ จบออกซ์ฟอร์ดมานะ อยู่อเมริกามาตั้งนาน อยู่กับผมก็ยังโยกหัว
สามารถ – สั่นหัวกับคนอินเดียมันอันเดียวกัน เป็นสิ่งที่อินเดียเป็นเหมือนกันหมด
สนธิ- เพราะอะไร
สามารถ – มันเป็นวัฒนธรรมมากกว่า ส่ายหัวของอินเดียไม่ได้แปลว่าปฏิเสธนะ เห็นด้วยนะ มันมาจากนาฏศิลป์จากอินเดียนะ เบื้องต้นนาฏศิลป์เขาต้องหัดคอก่อน
หลวงปู่ – คุณรู้ไหม นาฏศิลป์อินเดียเกิดมาจากใคร 3 ศาสดา เกิดจากพระศิวะ ท่าพระศิวะลีลาศ ศิวะอวตาร ศิวะโลกนาถ ถ้ารำเมื่อไหร่ ซวยเมื่อนั้น โลกจะพินาศ
สามารถ – แปลว่าโกรธ
สนธิ – พระศิวะ คือพระที่ถือสามง่ามและมีงูพันคอใช่ไหมครับ
หลวงปู่ – ใช่ เป็นฤษี ถือพรตอยู่ในภูเขาลูกหนึ่ง
สำราญ – แล้วเคยออกมารำบ้างไหมครับ
หลวงปู่ – เขาบอกว่าเคยออกมารำหลายครั้ง ตอนที่ไฟบัลลัยกัลป์เผาโลก ตามตำนาน
สำราญ – ตอน 11 กันยา ออกมารำไหมครับ
หลวงปู่ – ตอนนั้นละเมอ มาดูอีกคำถามหนึ่ง บอกว่า พระพิฆเนศ ก็คือลูกชายพระศิวะที่เกิดจากพระนางอุมา และก็มีฤทธิ์อำนาจเท่าพ่อ รบกับพระศิวะมาแล้วรอบหนึ่ง เพราะพระนางอุมา สั่งไม่ให้ใครเข้า ในขณะที่ตนกำลังบำเพ็ญตบะ พระศิวะอยากจะไปเยี่ยมพระมเหสีของตน ก็มาเจอลูกชาย เฝ้าหน้าประตูก็พยายามเข้า สุดท้ายก็ไม่เข้า เข้าไม่ได้ รบกันจนกระทั่งสุดท้ายจากพระกุมาร เสมอกันตลอด มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ท่านโกรธและตัดว่าไอ้เด็กหัวหาย แล้วเอาหัวช้างมาต่อ
สนธิ – แล้ววงการศิลปินชอบนับถือพระพิฆเนศ
หลวงปู่ – เป็นเจ้าแห่งศิลปะ ภูมิปัญญา
สามารถ – เหมือนกรีก ถือว่าอังคารเป็นเจ้าแห่งสงคราม
สนธิ – ผมงงมานานแล้ว ทำไมหนังอินเดียต้องนาร้าย นารายณ์
หลวงปู่ – ก็แปลว่า สวัสดี ขอให้เจริญ
สามารถ – พระนารายณ์กับพระรามคนเดียวกันนะ คือพระนารายณ์มีสิบปาง ปางหนึ่งเป็นพระรามและสุดท้าย ปางที่สิบ คือพระนารายณ์อวตารเป็นพระพุทธเจ้านะ ก็เลยผนวกพุทธเป็นพราหมณ์เลย
สนธิ – คล้ายๆศาสนาฮินดูไม่ยอมแพ้ และบอกว่าพระเจ้าตัวเองตายไปแล้ว เกิดเป็นพระพุทธเจ้า ทำให้คนนับถือพุทธต้องนับถือฮินดูด้วย
หลวงปู่ – เดิมทีศาสนานี้ต้นกำเนิดมาจากพราหมณ์และพราหมณ์สู้กับพุทธไม่ได้ เพราะพระพุทธมี พุทธ ธรรม สงฆ์ มีรัตนะ 3 ตอนหลังมา พราหมณ์เห็นท่าไม่ดี ก็เลยแตกสาขาออกมาเป็นฮินดู และตั้งศาสนาขึ้น เรียกว่าศาสนาตรีมูรติ คือมีพระเจ้า 3 องค์ ซึ่งทำหน้าที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปและสุดท้ายแต่ละองค์ก็มีอวตารของตน องค์สุดท้ายที่เป็นผู้สนับสนุนส่งเสริมหรือพระวิษณุ ก็มีอวตาร 1 ใน 10 ก็คือเป็นพระพุทธเจ้า เขาสอนใหม่
สนธิ – และรามายณะ ใครแต่ง
สามารถ – เป็นมหากาพย์ของอินเดีย เป็นสงครามระหว่าง ชน 2 เผ่าคือมิลักขะกับอารยัน พระนารายณ์คือเผ่าอารยัน ทศกัณฑ์เป็นมิลักขะ
หลวงปู่ – นี่เป็นภาคโลก ถ้ารามายณะ ภาคพิสดาร จะมีสวรรค์กับนรก ยักษ์กับสวรรค์รบกัน
สามารถ – นั่นอีกภาคหนึ่ง ซึ่งภาคนี้เปลี่ยนการต่อสู้ระหว่างสองชนชาติเป็นตัวแทนต่อสู้กันยาวนาน
หลวงปู่ – อ้างว่า สวรรค์กับยักษ์รบกันทำให้มนุษย์โลกรบกันด้วย มันเกิดกลียุค
สนธิ – รามายณะ เป็นตัวแทนอารยัน ก็เป็นต้นตระกูลของฮิตเลอร์ซิ ฮิตเลอร์ถือว่ามันเป็นอารยัน
สามารถ – คืออารยันถือว่าเป็นต้นกำเนิดของมนุษย์
หลวงปู่ – เข้าที่ซักทีนะนายจ๋า
สำราญ – ผมก็เคลิ้มไปด้วย คุณนก ถามว่า อ่านข่าวที่คนขับรถชนพระตายโดยที่เขาไม่เจตนา อยากทราบว่าจะบาปมากน้อยแค่ไหน เท่าที่เคยได้ยินคือ ใครฆ่าพระถือว่าบาปถึงขั้นแผ่นดินสูบ
หลวงปู่ – ไม่ใช่ มันอยู่ที่เจตนาฆ่า และพระนั้นต้องเป็นพระอรหันต์ มีคุณสมบัติ ถ้าพระธรรมดา เป็นผัวชาวบ้าน ปลอมมาบวช มันก็เหมือนกับฆ่าคนธรรมดา ก็ติดคุกไป แต่ถ้ากรณีพระที่ไม่ได้เป็นผัวชาวบ้านและมีใจศรัทธา ปรารถนาบวชและขับรถไปชนท่าน ถึงกับสิ้นชีพ ก็ถือว่าเป็นกรรมที่เราผูกพันกันมา มันเป็นเรื่องเจตนา ขับรถถ้าประมาทก็โดน
สำราญ -ถ้าไม่เจตนาก็ไม่เป็นไร
หลวงปู่ – เป็น แต่ไม่มีกรรมที่สามารถโดนธรณีสูบขนาดนั้น
สำราญ – ได้รับคำสั่งต้องพักเร่งด่วนครับ ช่วงหน้าตอบคำถามล้วนๆ ครับ
ช่วง 4-5
สำราญ- กลับมาช่วงสุดท้ายนะครับ
หลวงปู่ - ... หัวใจสำคัญของพระไตรปิฎก ทั้ง 84,000
สำราญ – ข้อที่สอง คำว่ามะหังมาตาปิตุนังวะ ตาเทสุวรรณทามิ เป็นคำที่ใช้ไหว้บิดามารดาอย่างเดียวหรือไหว้ปู่ย่าตายายด้วย
สามารถ – ผมไม่เคยเห็นบทนี้นะ เป็นความเชื่อและไม่ทราบว่าเอามาจากบทไหน
หลวงปู่ – เป็นเกจิชั้นรอง ที่จริงจะไหว้พ่อแม่ ไม่จำเป็นต้องท่องคาถาอะไร ตรงเข้าไปใกล้ๆ และก้มลงกราบก็จบแล้ว และสบายใจแบบคุณสนธิว่า พูดภาษาไทยง่ายๆ อีกไม่กี่จะถึงวันแม่ก็บอกว่า แม่ครับ ผมรักแม่ เราบอกรักคนทั้งโลกได้ แต่บอกรักแม่มันกระดาก เรื่องจริง คุณเคยบอกไหม
สนธิ – ผมยอมรับอันนี้ และเป็นอะไรที่ยังเสียดายทุกวันนี้ เพราะเมื่อวันแม่ที่จะถึงนี้ ผมไม่มีแม่ให้ไหว้แล้ว
สำราญ – เราไม่พูดคำว่ารักแม่ แต่พูดคำอื่นได้ไหม
หลวงปู่ – แล้วบอกรักแม่มันเป็นยังไง
สนธิ – ผมว่ามองมุมกลับก็ไม่ได้ตาย กลับเป็นสิ่งที่ทำให้แม่ปลื้มใจมาก
หลวงปู่ – คุณสำราญยังมีแม่ใช่ไหม เคยบอกรักแม่ไหม
สำราญ - ไม่ได้ใช้คำว่ารัก
สนธิ –เอาอย่างนี้ซิ 12 สิงหา คุณกราบตักแม่ และบอกว่าแม่ครับ ผมรักแม่ ลองดูซิ ผมรับประกันว่าคุณไม่ตาย แต่ห้ามมีต่อนะ แม่มีเงินเหลือบ้างไหมจะไปซื้อถึงกอล์ฟ
หลวงปู่ – ลองบอกรักแม่บ้าง
สำราญ – คือคนภาคใต้ จะเขินๆ ครับ
หลวงปู่ – ไม่ใช่คนใต้อย่างเดียว คนภาคอื่นก็เป็น
สนธิ – ผมคิดว่าคนทั่วโลก ยกเว้นฝรั่ง คือฝรั่งกับคนทางตะวันออกต่างกัน ฝรั่งมันให้ความรักกันฟุ่มเฟือยเหลือเกิน คำว่า ไอเลิฟยู เหมือนสวัสดี มันเละเทะจนไม่มีความหมาย ฉะนั้นทางตะวันออกไม่ค่อยใช้ แต่ว่าเมื่อเราใช้ไปทีไร มันมีค่ามาก และควรจะใช้คำคนที่คิดว่ามีค่า
หลวงปู่ – ดังนั้นลองบอกรักแม่บ้าง บางทีเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุด เหนือกว่าสิ่งอื่นใด
สำราญ - แม่ครับ ผมรักแม่มาก
หลวงปู่ – ไม่ต้องมากหรอก
สนธิ – พอจะทำก็เวอร์ทันที ก็แค่กราบตักแม่ และบอกว่าวันนี้วันแม่ ผมอยากจะบอกให้แม่รู่วาผมรักแม่ แค่นี้พอแล้วและแม่จะน้ำตาไหล หรือไม่แม่ก็ตบกะโหลกทันทีบอกว่าทำไมมึงต้องรอจนกูจะตาย
สำราญ – ตกลงยังไงครับ มะหังมาตา
สามารถ – ถ้าแปลตามตัวที่ผมเห็น ก็แปลว่าไหว้พ่อไหว้แม่ แต่ถามว่าปู่ย่าตายหรือเปล่า แล้วพ่อแม่คุณมาจากไหนละ ถ้าไม่มีปู่ย่าตายายแล้ว
หลวงปู่ – ถ้าไหว้พ่อแม่คุณก็ไปถึงปู่ย่าตายาย
สำราญ – คุณคะนึงนิตย์ถามว่าการกราบศพอย่างไรจึงจะถูกต้อง
หลวงปู่ – เขามีวิธีการปฏิบัติ ถ้าผู้ตายอายุน้อยกว่าผู้เป็น คือคนไปเยี่ยมศพ เขาจะไม่กราบ จะแค่ยืนเฉยๆ ไว้อาลัยทำความเคารพ หรือไม่ก็นั่งนิ่ง
สนธิ – แต่อย่ากราบศพเหมือนกราบพระ ผมเจอหลายรายแล้ว กราบ 3 ครั้ง
หลวงปู่ – แบมือด้วยนะ
สนธิ – ต้องเอามือพนม
หลวงปู่ – แต่ในกรณีที่ผู้ตายอายุมากกว่าและเราอายุน้อย กราบได้ ยิ่งเป็นพ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย จุดธูป 1 ดอกและกราบลงไปครั้งเดียว ไม่ต้องแบมือ
สามารถ – เอาง่ายๆ ว่า กราบศพอย่าให้เหมือนกราบพระแล้วกัน
สนธิ – คนไทยยังกราบพระไม่เป็น เพราะสมัยก่อนผมก็กราบไม่เป็น จนกระทั่งไปบวช หลวงพ่อญา ท่านซีเรียสมาก กับพิธีกรรมที่พระกราบพระ ท่านบอกว่าคนไทยกราบไม่ถูก และหลวงปู่บอกว่า ขอให้กราบด้วยจิตวิญญาณ อย่าแต่เพียงว่ากราบ กราบให้จบไปโดยเร็ว
สำราญ – คุณพิมพร ปทุมธานี บอกว่า อยากให้อธิบายคำว่า นามโกรธ
หลวงปู่ – นามโกรธ คือใจ มีความโกรธ มีความพยาบาทอยู่ในใจ ก็จะเตือนให้รู้ว่าเป็นคำอธิษฐานหรือคำภาวนา ของพวกเจริญกรรมฐานในรูปนาม ร่างกายเรามี 2 อย่าง รูป กับนาม ก็คือใจ นามเป็นใจ รูปก็คือร่างกาย
สำราญ – คุณรัตน์แม่สอด บอกว่า คนที่ลืมพ่อแม่จะได้รับผลกรรมอย่างไร
หลวงปู่ – ควรจะเป็นคนที่โดนโลกลืม เพราะไม่มีใครจะมีคุณเท่าพ่อแม่แล้ว เรายังลืมเขาได้ เพราะฉะนั้นคนนี้ไม่ควรจะเป็นคนที่คนอื่นคิดถึง
สามารถ – คนที่ปฏิเสธผู้ให้กำเนิดก็คือปฏิเสธตัวเอง เพราะว่าถ้าคนนั้นไม่มี คุณก็ไม่มี
หลวงปู่ – ไม่มีพ่อแม่แล้วคุณจะมีชีวิตได้ยังไง
สำราญ – จาก จ.ตรัง เข้าใจว่าเป็นสุภาพสตรีนะครับ บอกว่าปัจจุบันเป็นทุกข์จากคู่ครองทั้งเรื่องผู้หญิงเจ้าชู้ อารมณ์เกรี้ยวกราด ใช้เงินเกินตัว เคยไปดูหมอ บอกว่า สงสัยเราทำไม่ดีกับเขาในชาติที่แล้ว อยากทราบว่าจะมีวิธีการทำอย่างไรให้พ้นทุกข์
หลวงปู่ – มีปากก็พูดซิ บอกว่า น้อง พี่ไม่ชอบพฤติกรรมที่น้องทำอย่างนี้ มันน่าเบื่อน่ารำคาญ เซ็ง หงุดหงิด ทำงานเหนื่อยทั้งวันและยังมาเจอการระบายอารมณ์ใส่และในขณะเดียวกันเงินทองหาได้ น้องกลับไปถลุง
สำราญ – นี่เข้าใจว่าผู้หญิงนะครับ
หลวงปู่ – อย่างนั้นพี่เอาไปถลุงอย่างนี้ไม่ถูกต้องควรจะหาวิธีแก้ไข ชีวิตคู่มันอยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกันและกัน ก็หายกัน แต่ถ้าคนหนึ่งปรับและอีกคนหนึ่งไม่ยอมปรับ แสดงว่ามันอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้วฉันไม่ได้ยุให้คุณเลิกนะ แต่อยากให้เข้าใจถึงสถานภาพของชีวิตคู่ว่าต่างคนต่างปรับ ไม่ใช่ให้ใครคนใดคนหนึ่งปรับอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ไหวแน่ ชีวิตคู่ต้องไม่ยืนอยู่บนพื้นฐานของความเห็นแก่ตัว มันต้องอยู่บนพื้นฐานของความมีน้ำใจ และเสียสละ และแบ่งปันกันและกัน ถึงจะอยู่ร่วมกันได้
สำราญ – คุณหวาย พระโขนง ถามว่าคนเราถ้าไม่นับถือศาสนาใดเลยได้หรือไม่ เพียงแต่เราเป็นคนดี
หลวงปู่ – ดีแค่ไหน และมีอะไรพิสูจน์ว่าคุณดี ศาสนา คือมาตรฐานหรือกติกา หรือมาตรฐานในการพิสูจน์ความดี และคุณบอกว่าคุณไม่นับถือศาสนาอะไรเลย คุณจะแน่ใจได้ยังไงว่า สิ่งที่คุณดีมีมาตรฐาน ไม่ใช่ดีโปรโมต
สามารถ – เอาอย่างนี้ดีกว่า คำสอนศาสนามีทั้งส่วนที่เป็นทฤษฎี คำสอนและส่วนที่ปฏิบัติ ดังนั้นถ้าคุณทำดี จะเอาทฤษฎีตัวไหนเรียนรู้เรื่องการทำดีก่อน
สำราญ – เขาไม่อยากถูกครอบงำด้วยมาตรฐาน
หลวงปู่ – แล้วคุณจะอยู่ในโลกนี้ได้อย่างไร ในเมื่อทั้งโลกมีมาตรฐานของเขา มันก็มีคนอย่างนี้อยู่ เรียกว่าเป็นมิจฉาทิฐิ ผู้มีความเห็นผิด เพราะว่าไม่ยอมรับมาตรฐานของสากลโลก เช่น มาตรฐานสากลโลกบอกว่า การฆ่าสัตว์เป็นบาป เราบอกว่า เราไม่ยอมรับมาตรฐาน
สำราญ - เขาบอกว่า มิจฉาทิฐิของเขาไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
หลวงปู่ – ไม่มีหรอกว่า ความคิดผิด แล้วบอกว่าคนอื่นไม่เดือดร้อน แม้ตัวเองก็เดือดร้อน เพราะเมื่อไม่รับมาตรฐานคนอื่น คนอื่นก็ไม่ให้ ความยอมรับคุณ และคุณก็เป็นคนเดือดร้อนเอง
สามารถ – ประเด็นแรกถ้าคุณไม่ยอมรับมาตรฐานของสังคม และคุณเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ถามว่าคนอื่นเดือดร้อนไหม แน่นอนเดือดร้อน
หลวงปู่ – และตัวคุณเองจะเดือดร้อนแต่ภายหลัง เมื่อทุกคนไม่คบคุณ เพราะไม่มีมาตรฐาน
สามารถ – ทันทีที่คุณยอมรับว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เป็นสมาชิกหนึ่งของสังคม และคุณไม่ทำตามเขา
สำราญ – แต่ถ้าเป็นสุขที่จะเป็นอย่างนั้นละ
หลวงปู่ – ถ้าเขาเป็นสุขที่จะเป็นอย่างนั้นแสดงว่าเขาจะอยู่ในโลกใบนี้ด้วยตัวคนเดียว สัมพันธภาพของมนุษยชาติ ไม่ใช่อยู่คนเดียวเป็นสุข แต่ก็ต้องบวกกับคนอื่นๆ ต้องมีสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ฉะนั้นในขณะที่ตัวเองมีสัมพันธ์กับคนอื่น และมาตรฐานตัวเองมันต่ำกว่าคนอื่น หรือไม่ตรงกับคนอื่น มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นสุข เว้นแต่ว่าคนนั้นยืนอยู่บนพื้นฐานของความเห็นแก่อย่างร้ายกาจและไม่ยอมรับใครเลย
สำราญ – คุณนพพร ถามคุณสนธิ บอกว่า ที่คุณสนธิบอกว่าไปต่างประเทศแล้วเจอหนังสือที่กล่าวถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า และมาประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิต อยากทราบว่าหนังสือชื่ออะไร
สนธิ – คุณนพพร ช่วยบอกที่อยู่มาและผมจะเอารายละเอียดให้ ชื่อ What would Buddha do พระพุทธเจ้าจะทำยังไงต่อกรณีแบบนี้ และค่อยๆ ยกเหตุการณ์ปัจจุบัน ที่เป็นเรื่องการบริหารชีวิตประจำวันขึ้นมา พูดง่ายๆ ว่าเอาธรรมะ มาใช้กับชีวิตประจำวันนั่นเอง ช่วยฝากที่อยู่ ชื่อ สกุลและผมจะถ่ายเอกสารให้ว่าหน้าปกเป็นยังไงบ้าง
สำราญ - จากสุพรรณบุรี ไม่ถามอะไร เพียงแต่ชื่นชมรายการ รูปแบบรายการดีมาก และอยากให้มาจัดรายการครบทุกคน วงเล็บ จะได้ไม่เสียเปรียบ ผมวงเล็บเอง คุณณัฐวรา ถามว่า วันอาสาฬหบูชา ไม่ถือว่า เป็นวันหยุด แต่ทำไมรัฐวิสาหกิจ และข้าราชการจึงหยุดชดเชยในวันจันทร์
สามารถ – ชดเชยวันเข้าพรรษา วันเข้าพรรษาถือว่าเป็นวันหยุด ถ้าชดเชยอาสาฬหบูชาด้วยก็เป็น 4 วัน
หลวงปู่ – แปลกมาก วันเข้าพรรษาถือเป็นวันหยุดแต่วันออกพรรษาไม่ถือว่า เป็นวันหยุด
สนธิ – เป็นเรื่องตลกนะ พอเขาหยุดชดเชยวันศาสนานะ เป็นลองวีคเอนด์ คนไปเที่ยวกันหมด ผมคิดว่าเป็นประเด็นที่ผมคิดว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องหาทางแก้ไขแล้วเรื่องนี้คือถ้าจะหยุดสงกรานต์ ชดเชยสงกรานต์ ชดเชยปีใหม่ ไปเที่ยวอีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าการหยุดแบบนี้ทำให้คนไปเที่ยวนะครับ จริงอยู่ไปบังคับใครไม่ได้ ผมเรียนยืนยันว่า วันเข้าพรรษาพวกหยุด 3 วัน พวกบาร์เหล้า ต้องปิดหมด
หลวงปู่ – พวกหัวก้าวหน้าบอกว่าโลก มันเปลี่ยนไปแล้ว จะมาบังคับศรัทธากันไม่ได้
สำราญ – ผมในฐานะที่ยังอบายมุขเขรอะ คือของจริงวันพระ หรือวันเข้าพรรษาเทศกาลสำคัญ ร้านอาหารทั่วไปเขาก็ให้ความร่วมมือนะครับ แต่ปรากฏว่า ผับ เธค เปิดเหมือนเดิม ขายเหล้าพรึบ
หลวงปู่ – ไม่เข้าใจว่า เป้าประสงค์การหยุดเพื่ออะไร ดังนั้นรัฐบาลต้องหาวิธีหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหาวิธี
สำราญ – พูดตรง ๆคือผับ เธค เหล่านี้จะเลี้ยงดูเจ้าหน้าที่ ส่งส่วยอยู่ พูดแล้วของขึ้น
หลวงปู่ – เราไปเถอะ
สนธิ – คุณหาเหามาใส่ผมนะเนี่ย ผู้สมรู้ร่วมคิด
หลวงปู่ – ที่จริงแล้วเป็นอะไรที่ลูบหน้าปะจมูกมานานแล้ว และไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหนที่จะใส่ใจเรื่องศาสนาเท่าที่ควรเท่าไหร่
สำราญ – จากสุราษฎร์ธานีนะครับ บอกว่า ที่วัดหน้าเมือง อยู่ข้างโรงเรียนพาณิชย์ มีพระรูปหนึ่ง คอร์รัปชั่นแบ่งที่วัดไปขายให้นายทุน นำไปขายต่อชาวบ้าน ตอนนี้วัดกำลังสร้างโบสถ์ แต่พื้นที่คับแคบ ไม่สามารถสร้างโบสถ์ได้ อยากให้ช่วยบอกกรมศาสนา ช่วยตรวจสอบด้วย
หลวงปู่ – คำถามนี้เป็นคำถามเดียวกับที่ฉันได้จดหมายร้องเรียน เขาส่งมาที่หนังสือพิมพ์ธรรมลีลา
สามารถ – เข้าใจว่า วัดนี้คงเป็นวัดราช ไม่ใช่วัดหลวง
หลวงปู่ – และเข้าใจว่า คนทำน่าจะเป็นสมภารด้วย เพราะถ้าไม่ใช่สมภารทำไม่ได้
สำราญ – ผมอุตส่าห์ไม่ระบุแล้วหลวงปู่
หลวงปู่ – เรื่องจริง เขาเขียนมา
สนธิ – ถ้าไม่ใช่สมภารจะทำได้ยังไง เพราะอำนาจอยู่ที่สมภาร
หลวงปู่ – วัดหน้าเมืองไม่ใช่วัดราช
สามารถ – คือที่ผมพูด ที่วัดที่ขึ้นทะเบียนเป็นวัดแล้ว ระบุชัดเจนแล้วมันแบ่งขายไม่ได้ เวนคืนยังไม่ได้
หลวงปู่ – เข้าใจว่า เขาถวายแต่ยังไม่ได้ทำหลักฐาน
สนธิ – ผมว่าวันนี้เราเหลือเวลาให้หลวงปู่เทศน์ 5 นาทีนะ เพราะว่ามีคนอยากให้หลวงปู่เทศน์เรื่องกรรมตามทัน
สำราญ – และเนื่องในวันอาสาฬหบูชา ตอนนี้ขออีก 2 คำถามจากสุราษฎร์ฯ ไปที่บุรีรัมย์ ถามว่าเลี้ยงสุนัขไว้ แต่ตัวใดที่รักมากๆ จะต้องตายทุกที ไม่ทราบจะเป็นเพราะอะไรครับ
หลวงปู่- ตัวไหนรักก็ตาย ไม่รักก็ตาย ตายช้าตายเร็วเท่านั้น บางทีตัวไหนที่รักมาก เราใส่ใจมันมาก ให้กินมากๆ ท้องแตกตายก็มี จริงๆ ที่วัดฉันมี หมาหลวงตาออกมาเป็นครอก และเณรก็อุ้มคอกที่มันงาม มันสวย ถูกใจเณร แต่เลี้ยงตายหมด แต่หลวงตาเลี้ยงแบบตามมีตามเกิด หมาก็อยู่จนโต ถามว่าทำไมถึงตาย ก็อุ้มมันมากไป กินเยอะไป ขี้ไหล ถ่ายท้อง ตาย
สามารถ – หมาจับอาบน้ำบ่อยๆ ก็ตาย
หลวงปู่ – ประแป้งอีก แล้วแป้งเย็น หมาก็หนาวตัวสั่น
สนธิ – หมาจริงๆ แล้ว อาบน้ำมากสุดอาทิตย์ละครั้ง
หลวงปู่ – เมื่อเช้ากลับจากกระบี่และมาเดินเล่นกับเสือตัวเล็ก และเสือตัวเล็กก็รู้สึกจะได้รับการทำนุบำรุง ประแป้งด้วยนะ เราก็มองว่าเสือมันหงอยๆ เลยถามเณร ผมอาบน้ำประแป้ง มันคงจะหนาว ก็บอกว่า กำลังจะฆ่ามันแล้ว เอาไปนอนด้วย ไปป้อนนม ดูแล
สำราญ – คุณอธิวัฒน์จากน่าน ถามว่าหลังจากสวดมนต์แล้วจะอธิษฐานให้ลูกเป็นคนดี เชื่อฟังพ่อแม่และให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ว่าจะบังเกิดผลหรือไม่
หลวงปู่ – อธิฐานอย่างเดียวไม่ได้ ต้องสอนด้วย นำลูกไปสัมผัสสิ่งที่ดีงาม และหาวิธีดึงลูกเข้าสู่ความหมายของคำว่ากตัญญูรู้คุณ ตอบแทนคุณ ต้องค่อยๆ อธิบาย อธิษฐานอย่างเดียวไม่ได้ประโยชน์
สำราญ – คุณพรชัย จ.ตรัง บอกว่า ขณะที่นั่งสมาธิไป รู้สึกว่าร่างกายเคลื่อนไหวโดยจิตรู้อยากทราบว่าเป็นความหลงหรือความจริง
หลวงปู่ – การนั่งสมาธิ แล้วรู้สึกว่า ร่างกายเคลื่อนไหวโดยจิตรู้ มันมี 2 อาการ คือในขณะที่เราเจริญกรรมฐาน เจริญสมาธิ เจริญวิปัสสนา เจริญการภาวนาอย่างใดอย่างหนึ่ง จนกระทั่งจิตมันสงบ จนกระทั่งถึงคำว่า ปีติ มันมีอาการแตกต่างกัน อย่างกรณีเช่น บางทีเราทำถึงปิตินั้นแล้ว ตัวมันพองขึ้น และมันโยกคลอน และมันเกิดปีติสุข อย่างนั้นเรียกว่า อารมณ์ของสมาธิ แต่ในกรณีที่ถ้าทำแล้วไม่ถึงคำว่า ปีติ แต่เราบอกว่า เรานั่งสมาธิ แต่จิตมันเคลื่อนออกไปอย่างอื่น ไปรับรู้สิ่งอื่นแสดงว่าคุณขาดสมาธิ ขาดสติ
สำราญ – คุณมนต์ ถามว่า ทำไมชาวอินเดียจึงนับถือศาสนาพุทธน้อยเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ศาสนาพุทธเกิดที่อินเดีย
หลวงปู่ – ต้องยอมรับว่า อย่างที่เล่าเมื่อครู่นี้ว่าศาสนาพุทธกับฮินดู พราหมณ์ สู้กันมาจนกระทั่งพราหมณ์ ยอมรับไม่ได้คือยอมรับว่าแพ้พุทธ ตอนหลังต้องตั้งศาสนาใหม่เรียกว่าศาสนาฮินดู ยุคตรีมูรติ เขาพยายามประยุกต์ทุกเรื่องที่เป็นของพุทธ เอาไปเป็นของศาสนาฮินดู ในขณะเดียวกันก็สร้างความเชื่อ ที่แปลก แม้กระทั่งหนู หรืองู หรือวัว สัตว์เดรัจฉานบางประเภทที่อยู่ใกล้ชิดกับคนเยอะแยะก็เอามาเป็นพระเจ้า เป็นคนที่อำนาจ เป็นผู้ที่มีฤทธิ์เดช ศักดิ์สิทธิ์มันก็เลยกลายเป็นว่า ความเชื่อเหล่านี้มันขยายออกไป จนกลายเป็นที่ยอมรับระดับทั้งกลาง ล่าง บน ศาสนาพุทธก็โดนกลืนและเรื่องความคิดที่สำคัญคือว่า เขาสอนในศาสนาฮินดูว่า พระศาสดาเป็นเพียงแค่หนึ่งในปางอวตารของพระเจ้าสูงสุดของฮินดูเท่านั้น เขาก็เลยมองว่า อย่างนั้นนับถือฮินดูก็เหมือนนับถือพุทธ เพราะว่าพระพุทธก็เป็นปางอวตารของพระพุทธเจ้า นั่นคือวิธีกลืนคำสอน และในขณะเดียวกันศาสนาพุทธยังไม่ได้รับภัยพิบัติจากอิสลาม หรือว่าจากผู้ที่อยู่นอกศาสนาที่ครั้งหนึ่งเคยไปยกทัพ และยึดเมืองอินเดียไว้ และทำให้พุทธล่มสลาย ถึงขนาดฆ่าฟันพระเป็นแสนๆ องค์ พวกโมกุล
สามารถ – มหาวิทยาลัยนาลันทาในขณะนั้น พระมีประมาณ 500-600 องค์นะ ถูกฆ่าตายเรียบเลย พอพระเข้าไปแล้ว มัวแต่นั่งสวดมนต์ พวกนั้นก็ฆ่าไปหมดเลย
หลวงปู่ – เขาบอกว่า เลือดนองพื้นเต็มไปหมด
สามารถ – และมีการเผามหาวิทยาลัยนาลันทาทิ้งเลย ณ วันนี้ถ้าไป จะมีขี้เถ้า ข้าวสารที่ไหม้ ให้ดูอยู่ ผมไปดูแล้ว
หลวงปู่ – และที่ไหนที่พวกนี้เข้าไปจะฆ่าหมด นอกลัทธิ นอกศาสนา ถือว่าไม่เป็นบาป ราชวงศ์โมกุล คือราชวงศ์ที่สร้างทัชมาฮาล
สำราญ – จากนี้จะเป็นเวลาอันเป็นมงคล ได้เวลาเทศนาแล้ว เนื่องในโอกาส เป็นวันอาสาฬหบูชาและมะรืนนี้วันเข้าพรรษา กราบเรียนหลวงปู่ให้ศีล ให้พรกับท่านผู้ฟัง ท่านผู้ชมด้วยครับ
หลวงปู่ – การแสดงธรรมมีหลายวิธี แต่ท่านพิธีกรทั้ง 3 คน ต้องเข้าใจด้วยว่า ที่เราคุยกันอยู่ก็เป็นการแสดงธรรมอย่างหนึ่ง แต่เป็นการแสดงธรรมในวิธีปุจฉา วิสัชนา การแสดงธรรมที่ให้องค์ใดองหนึ่งขึ้นมาเทศน์และเทศน์องค์เดียว เป็นการปาฐกธรรม หรือการอภิปรายธรรม ซึ่งถ้าจะให้ได้ประโยชน์สูงสุดคือการปุจฉาวิสัชนา เพราะว่ามีผู้สงสัยและสอบถามปัญหาและพูดคุย บางครั้งบางปัญหามันตรงกับจริตของคนฟังหลายคน แต่เรื่องที่ตนเองอยากพูด บางครั้งก็ไม่ตรงใจกับคนอยากฟัง แต่ในเมื่อคนมีขอร้อง ก็จะพูดว่า วันพรุ่งนี้จะเป็นวันอาสาฬหบูชา และวันมะรืนนี้เป็นวันเข้าพรรษา ประเพณีปฏิบัติของวันอาสาฬหบูชาคือการบูชาในกลางเดือนแปด หรือวันเพ็ญกลางเดือนแปด และต่อมาวิธีบูชาพระพุทธเจ้าก็ยกย่องสรรเสริญ นิยมว่าปฏิบัติบูชาเป็นวิธีบูชาที่สูงสุด ประเสริฐสุด ได้ผลมากที่สุด และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ปฏิบัติ และบูชาเอง ดังนั้นถ้าท่านทั้งหลายอยากบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งวันอาสาฬหบูชา เป็นวันเกิดพระสงฆ์ หรือสังฆรัตนะองค์แรกของโลกด้วยการฟังธัมมจักกัปวัตตนสูตร ด้วยการมีดวงตาเห็นธรรม ของพระอัญญาโกณฑัญญะ ขอบวชในพุทธศาสนาด้วยเอหิภิกขุปสัมปทา โดยพระศาสดาทรงอนุญาตให้บวชด้วยพระองค์เอง เป็นปฐมกาลอุปสมบทบรรพชา หรือบรรพชาอุปสมบทด้วยซ้ำ ดังนั้นพรุ่งนี้เป็นวันเกิดพระสงฆ์ วันเกิดสังฆรัตนะ และวันแสดงธรรมปฐมเทศนา ใจความสำคัญวันพรุ่งนี้มี 3 อย่าง และวิธีปฏิบัติในวันพรุ่งนี้ โดยทั่วไปก็มีการจัดบริจาคทาน ใส่บาตร ไหว้พระ สวดมนต์ รักษาศีล เจริญภาวนา แผ่เมตตา และแบ่งคุณงามความดีให้คนทั้งหลาย รุ่งขึ้นอีกวันก็เป็นวันเข้าพรรษา ก็มีธรรมเนียมปฏิบัติ มีการถวายเทียนพรรษา ถวายผ้าอาบน้ำฝน มีการวิรัติ คือสมาทานองค์แห่งวิหารธรรมข้อใดข้อหนึ่งอย่างที่กล่าวมา บางคนอาจจะขอสมาทานศีล 3 ข้อใน 5 ข้อ หรือว่า 5 ข้อทั้งหมด บางคนอาจจะสมาทานเรื่องรักษาสติมั่น บางคนอาจจะสมาทาน ว่าจะปฏิบัติตนเป็นคนกตัญญูซื่อสัตย์ สุจริตและยุติธรรม บางคนก็อาจจะปฏิบัติสมาทาน องค์แห่งการละ เลิก อบายมุข เหตุเครื่องเสียหาย ชิบหาย ที่มอมเมาตัวเองตลอดมา ในช่วงปีที่ผ่านมาอย่างนี้เป็นต้น ดังนั้นจะทำอะไรก็แล้วแต่ ขอให้เป็นการกระทำอย่างตั้งมั่น จริงใจ บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นวิหารธรรม ในส่วนศีล สมาธิ ปัญญา ทาน หรือคุณงามความดีใด ๆ ขอให้เป็นวิหารธรรมที่ได้มาจากใจ ออกมาจากใจและทำอย่างจริงใจ และตั้งใจที่จะทำ ไม่ใช่ทำแบบลวกๆ และขอไปที ทำเฉพาะวันเข้าพรรษา คือวันเดียว และอีก 3 เดือนไม่ทำ และวันต่อๆ ไปก็ไม่ได้ทำ ก็ไม่ใช่ ดังนั้นพุทธบริษัทที่ดีจะเป็นพุทธบริษัทที่รู้ตื่นและเบิกบาน มันก็ต้องทำดี พูดดี คิดดี ทำอย่างไร พูดอย่างนั้น ทำ พูด คิด ต้องเป็นเรื่องเดียวกัน และเป็นเรื่องกุศลธรรม เรื่องแห่งกุศลกรรม เรื่องแห่งวิหารธรรมที่เป็นส่วนกุศลคือมีเครื่องอยู่ที่อิงอาศัยคุณงามความดีของตน ที่รักทั้งหลายคงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราอิงอาศัยอกุลธรรม อิงอาศัยราคะวิหาร โทสะวิหาร โมหะวิหาร โลภวิหาร กันมาเนิ่นนานหลายสิบปี หลายพันปีแล้วเพราะบางคนเกิดมาหลายยุคสมัย หลายภพชาติแล้ว แต่มาช่วงพรรษานี้และเวลาต่อไปนี้ขอเปลี่ยนเป็นการมาอาศัย กุศลวิหาร อาศัยสติวิหาร อาศัยสมาธิวิหาร อาศัยศีลและวิหาร อาศัยปัญญาวิหาร อาศัยคุณงามความดีให้เป็นเครื่องอยู่หรือเครื่องอาศัยที่เรียกว่าเป็นวิหารและแม้ที่สุดก็ต้องทำมันอย่างจริงจัง ตั้งใจ สุจริตใจ หรือไม่ก็จะหันมาใส่ใจต่อสิ่งที่เป็นเรื่องภูมิธรรม พระศาสดาทรงแสดงและสอนไว้เป็นข้อๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหิริโอตัปปะ สติสัมปชัญญะหรือไม่ก็เป็นอธิษฐานธรรม ที่กล่าวไปว่า มีปัญญา อย่างซื่อตรงและก็มีน้ำใจต่อคนทั้งหลาย รวมทั้งใส่ใจที่จะเป็นคนที่หยุดนิ่ง ปฏิบัติคุณงามความดี ให้สมบูรณ์ และทำตนเป็นผู้รักษาประโยชน์ตน และท่านให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท เหล่านี้ก็เป็นคุณเครื่องสอนและแสดงออกให้ท่านได้รับรู้ถึงคุณงามความดีและเป็นที่อาศัยของท่านทั้งหลายด้วยต่อไป เจริญธรรม
สนธิ – สาธุ
สำราญ – ได้เวลานะครับ ก็วันนี้เวลาหมดแล้วครับ ขอบพระคุณทุกคำถามทุกสายทุกเสียงที่โทร.เข้ามานะครับ วันนี้กราบนมัสการหลวงปู่ครับ ลาผู้ชมไปก่อน สวัสดีครับ