ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้สมัครสังกัดพรรคมวลชน
หมายเลข 3
เกิด10 มิถุนาย 2491
ที่อยู่ 182/1 หมู่ 3 แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ
ชื่อคู่สมรส นางลำเนา อยู่บำรุง
- ประถมศึกษา โรงเรียนวัดบางบอน
- มัธยมศึกษา โรงเรียนวัดสิงห์
- นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- กำลังศึกษาโครงการปรัชญาดุษฎีบัณฑิต
ทางสังคมศาสตร์ สาขานิติศาสตร์
มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- MINI MBA. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
(การฝึกอบรมโครงการพัฒนานักบริหาร)
-เคยรับราชการนายตำรวจกองปราบ ตำแหน่งสุดท้าย สารวัตรแผนก 4 กองกำกับการ 2 กองปราบปราม
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร
ปี 2526, 2529, 2531, 2535/2, 2538, 2539, 2544
- ปี พ.ศ.2526 รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
- ปี พ.ศ.2531 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
- ปี พ.ศ.2533 รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ
- ปี พ.ศ.2534 ได้ลี้ภัยไปอยู่ประเทศเดนมาร์ก หลังเหตุการณ์ปฏิวัติใสประเทศ
โดยความช่วยเหลือขององค์การสหประชาชาติ
- ปี พ.ศ.2538 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
- ปี พ.ศ.2539 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ปัจจุบัน เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ พรรคมวลชน
มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
สโลแกน "7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง"
7 แผน
1.จะสร้างและพัฒนาระบบบริหารให้เป็นธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเอาความสุขของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด และจะประสานความร่วมมือกับองค์กร ที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ เช่นปปช., สตง., ผู้ตรวจการรัฐสภาพฯ, หรือองค์กรภาคเอกชนต่าง ๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารกรุงเทพมหานครอย่างเปิดเผยในทุก ๆ ด้าน
2.จะสร้างกรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองน่าอยู่ มีสภาวะแวดล้อมที่ดี มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเป็นเมืองชั้นนำของโลกทั้งในด้านการพำนักอาศัย การลงทุนและการท่องเที่ยว
3.จะพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและการคมนาคม ทั้งที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลและของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประสานสอดคล้องกันทั้งในด้านการบริหารและการบริการ โดยจะขจัดระเบียบ หรือกฎหมายที่เป็นอุปสรรค และทำลายเส้นแบ่งเขตแดนของแต่ละองค์กรโดยถือเอาประโยชน์และความต้องการของประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้จะเสนอให้รัฐาบาลกระจายอำนาจหรือมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นผู้บริหารแบบบูรณาการ (CEO)ในการบริหารจัดการปัญหาของเมือง เช่น การจราจร หรือกิจการสาธารณูปโค และสาธารณูปกาต่างๆ
4. จะสร้างศักยภาพของเด็ก/ครอบครัว และชุมชนให้เข้มแข็งเพื่อเป็นหลักในการสร้างสังคมที่ดี มีคุณภาพ ให้เป็นพลังในการผลักดันประเทศไทยเข้าแข่งขันในระดับโลก
5. จะสร้างโอกาสให้คนที่จะพัฒนารายได้ สร้างอาชีพหรือทำมาหากินได้อย่างมีความสุข มีความหวัง มีความฝัน โดยจะขจัดอุปสรรคปัญหาที่เป็นเครื่องกีดขวางนโยบายนี้ให้หมดไปอย่างสิ้นเชิง
6. จะสร้างและพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองแห่งอนาคตโดยการจัดรูปการบริหารนครหลวงและปริณมณฑลให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจและการเมือง โดยจะใช้การจัดการที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ ประสานกับรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งของเมืองหลวงชั้นนำระดับโลก
7. จะทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองแห่งเทคโนโลยี ทั้งในด้านการบริหาร การบริการ และการดำรงชีวิตของประชาชนโดยทั่วไป โดยกรุงเทพมหานครจะเป็นองค์กรนำในการเปลี่ยนแปลง เพื่อสิ่งที่ดีกว่า รวดเร็วกว่าและมีคุณภาพกว่า
4 ปรับ
1.ปรับระบบการทำงานให้เป็น E-Bangkok
2.ปรับวัฒนธรรมการทำงานของข้าราชการให้ทันสมัย รวดเร็วและมีคุณภาพ
3. ปรับทัศนคติของข้าราชการให้รักประชาชน รักงานและรักการให้บริการ
4.ปรับกรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองน่าอยู่และเป็นเมืองชั้นนำของโลกที่มีคุณภาพมาตรฐานเป็นสากลในทุกๆ ด้าน
3 หลัก
จะเปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานครด้วยหลักการ 3 อย่าง
1. กรุงเทพ...เมืองน่าอยู่ Living Bangkok
2. คนกรุงเทพ...คุณภาพชีวิตที่ดี
3. การบริหาร...ทันสมัยด้วยเทคโนโลยี มีธรรมาภิบาลและการบริการที่รวดเร็ว มีคุณภาพ
6 เร่ง
1. เร่งให้ระบบบริหารและการให้บริการไปสู่ E-Bangkok เต็มรูปแบบเพื่อให้ประชาชนเป็นศูนย์ในการบริการอย่างแท้จริง เช่น
- One Stop Servie การบริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ
- E-Auction การประมูลทางอินเตอร์เน็ต
- กระจายจุดบริการไปหาประชาชน (ศูนย์การค้า/ร้านสะดวกซื้อ/สถานีรถไฟฟ้าฯ)
-ร่วมประสานการบริการคน กรุงเทพมหานครกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ เช่น ประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ รถไฟฟ้า ทางด่วน เพื่อความสะดวกสูงสุด
-ลดขั้นตอนและปรับวิธีการทำงาน โดยกำจัดเอกสารที่ไม่จำเป็นให้หมดสิ้นไป (Paperless)
นอกจากนี้จะให้การศึกษาเพื่อปรับระบบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการที่ไม่คุ้มค่าและเป็นภาระของประชาชนโดยไม่จำเป็น เช่น ให้ยกเลิกค่าธรรมเนียมในการเก็บขยะ และจะให้มีการทบทวนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการบำบัดน้ำเสีย พัฒนาการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในรูปแบบอื่นที่สะดวกกว่า มีประสิทธิภาพกว่า และไม่มีความซ้ำซ้อน เป็นต้น
2.เร่งสร้างทัศนคติ การให้บริการประชาชนให้เป็นหัวใจ และ วิญญาณ ของข้าราชการ
และเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร
3.เร่งสร้างความน่าอยู่ให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองน่าอยู่ เต็มรูปแบบโดยคนกรุงเทพมหานครจะต้องมีชีวิตที่มีมาตรฐานมีความสุข มีน้ำใจมีความเอื้ออาทรและอยู่ในเมืองที่สะอาด ปราศจากสภาวะแวดล้อมที่เป็นพิษปลอดจากยาเสพติดและมีความเป็นระบบเรียบร้อย โดยสังคมจะต้องมีวิญญาณของความเป็นไทยแต่มีความทันสมัยตามมาตรฐานสากล
4.เร่งสร้างเด็กไทยและสังคมไทยให้พร้อมในการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก เด็กนักเรียนกรุงเทพจะต้องรู้ภาษาอังกฤษและคอมพิวเตอร์ จะร่วมกับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เด็กนักเรียนของกรุงเทพมหานครมีคอมพิวเตอร์ทุกคน เพื่อทำให้บ้านและโรงเรียนไม่มีช่องว่าง เด็กสามารถเรียนรู้ในทุกที่ทุกเวลาในบรรยากาศของการส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเอง และให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้
5.เร่งสร้างความรักและความอบอุ่นของครอบครัวและชุมชนเพื่อให้เป็นฐานที่มั่นคงสำคัญของชีวิตและการพัฒนาสังคม
6.เร่งสร้างกรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองแห่งโอกาสและเป็นเมืองในฝันของคนสู้ชีวิต เพื่อให้ทุกคนมีงานทำและมีรายได้ที่เพียงพอเหมาะสมที่จะเลี้ยงดูครอบครัว โดยจะขจัดความเหลื่อมล้ำในสังคม ร่วมขจัดผู้มีอิทธิพลผู้เอารัดเอาเปรียบ การทุจริตคอรัปชั่นทุกรูปแบบเพื่อให้ทุกคนมีโอกาสมีเสรี และมีความสุขในการทำมาหากินทุกระดับชั้น รวมทั้งชาวต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
http://www.chalermonline.com