นางปวีณา หงสกุล ผู้ลงสมัครอิสระ
หมายเลข 7
-ประธาน "มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี"
-อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร 5 สมัย
-อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแลการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
-อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
-อดีตเลขาธิการพรรคชาติพัฒนา
-สำเร็จการศึกษาโรงเรียนสตรีวรนารถ
-สำเร็จการศึกษาโรงเรียนเคนยอน เร เมเธอดิสต์ เกิร์ล สคูล ปีนัง มาเลเซีย (Kenyon Rae Methodist Girl School)
-สำเร็จการศึกษา Bachelor of Commerce วิทยาลัย Bliss College เมืองโคลัมเบีย มลรัฐโอไฮไฮ สหรัฐอเมริกา
-สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรชั้นสูง วิทยาลัยพระปกเกล้า รุ่นที่ 1
-สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี ศิลปศาสตร์บัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
-สำเร็จการศึกษาปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
-กำลังศึกษา ปริญญาโท สาขาเศรษฐศาสตร์การเมือง
หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2518 - 2528 ผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาลาดพร้าว
2529 - 2535 ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ โรงแรมโซฟิเทล หัวหิน
2531 - 2547 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร 5 สมัย
(พ.ศ.2531 / 2535 / 2538 / 2539 และ 2544)
2535 - 2536 ประธานชมรมรัฐสภาสตรีไทย คนแรก (ประธานชมรม ส.ส.หญิง วุฒิสภาหญิง)
2538 - 2539 รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง
2538 - 2540 ประธานคณะกรรมการเร่งรัดและประสานการปฎิบัติงานเยาวชนสตรี ภาครัฐและเอกชนสำนักนายกรัฐมนตรี
2539 - 2541 ประธานกรรมมาธิการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สภาผู้แทนราษฎร
2541 - 2542 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
2541 - 2542 รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พรบ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2542 สภาผู้แทนราษฎรล
2542 - 2543 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
2542 - 2543 ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
2544 - 2547 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
เลขาธิการพรรคชาติพัฒนา
2541 ได้รับการยกย่องเป็นสตรีดีเด่นประจำปี 2541 จากสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยเหลือพิทักษ์สิทธิเด็กและสตรีตลอดมา
2541 ได้รับเกียรติจากสื่อมวลชนของรัฐสภา เลือกให้เป็นดาวเด่นในสภาปี 2541
2541 ผลการสำรวจความเห็นประชาชน จากสวนดุสิตโพล ตุลาคม 2541 "นักการเมืองที่ซื่อสัตย์ที่สุด 5 อันดับแรก"
2541 ผลการสำรวจประชาชนทั่วประเทศจากสวนดุสิตโพล วันที่ 30 ธันวาคม 2541 เรื่อง "ที่สุดแห่งปี 2541" ข้อ 9 นักการเมืองยอดนิยม อันดับ 1 ฝ่ายหญิง ได้แก่ ส.ส.ปวีณา หงสกุล
2542 ได้รับรางวัล "ยอดหญิง" ปี 2542 จากสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาธินัดดามาตุ
2544 1 พฤษภาคม 2544 ดุสิตโพล ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้แรงงาน "นักการเมืองที่ผู้ใช้แรงงานเห็นว่าเป็นที่พึ่งได้อันดับ 1 คือ ส.ส.ปวีณา หงสกุล" ที่สุดแห่งปี 2544 ผลการสำรวจความคิดเห็นระหว่างวันที่ 1-30 ธันวาคม 2544 จากสวนดุสิตโพล สถาบันราชภัฎสวนดุสิต ประชาชนทั่วประเทศจำนวน 24,891 คน เป็นนักการเมืองหญิงที่ประชาชนชอบมากที่สุด อันดับ 1 คือส.ส.ปวีณา หงสกุล
2546 ผลการสำรวจความคิดเห็นของศูนย์ประชามติสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยสำรวจความคิดเห็นเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,390 คน เรื่อง "การเมืองในสายตาเด็ก" นักการเมืองที่เด็กชื่นชอบมากที่สุดคือ ส.ส.ปวีณา หงสกุล
-ปริญญาบัตร คหกรรมศาสตร์บัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพัฒนาการครอบครัวและเด็ก พ.ศ.2536
-ปริญญาบัตร ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ.2536
-นักเหินเวหากิตติมศักดิ์ของกองทัพอากาศ พ.ศ.2536
-โล่และเข็มเชิดชูเกียรติ เพื่อแสดงว่าเป็นผู้สนับสนุนกิจการของกองทัพอากาศมาด้วยดี
-ประกาศนียบัตรแสดงความสามารถในการบินกิตติมศักดิ์ของกรมตำรวจ พ.ศ.2532
-นักบินกิตติมศักดิ์ของกองทัพอากาศ พ.ศ.2542
-ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกนักโดดร่มกองทัพบก พ.ศ.2543
-ได้รับประกาศเกียรติคุณให้มีสิทธประดับเข็มเครื่องหมาย พระปรมาภิไธยย่อ ภปร.จากกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน พ.ศ.2543
-ได้รับเครื่องหมายเกียรติยศ กระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2543
-ได้รับเข็มพระนามาภิไธยย่อ "ส.ธ." พ.ศ.2547
จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี
-มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
-มหาวชิรมงกุฎไทย (ม.ว.ม)
§ กรุงเทพฯ เมืองสะดวก ย่นเวลาเดินทาง ยืดเวลาให้ครอบครัว
§ กรุงเทพฯ เมืองสีเขียว น้ำใส หายใจสะอาด ปราศจากขยะ
§ กรุงเทพฯ เมืองแห่งโอกาส เสริมปัญญา สานทักษะ สร้างรายได้
§ กรุงเทพฯ เมืองสีขาว ปลอดภัย ปลอดโรค ปลอดยา
§ กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์ สีสันของผู้อยู่และผู้มาเยือน
โดยการทำให้บรรลุเป้าหมายทั้ง 5 ข้อนี้ นางปวีณากล่าวว่า จะเน้นการสร้างเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยสร้างชุดอาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน (อปพร) จากทุกเขตใน กทม. มาจับมือทำงานร่วมกัน เพราะด้วยงบประมาณของกรุงเทพฯ เพียง 31,000 ล้านบาทต่อปี เมื่อเทียบกับปริมาณปัญหาที่กำลังรอการแก้ไขของกรุงเทพฯ แล้วย่อมไม่เพียงพออย่างแน่นอน ดังนั้นคุณสมบัติสำคัญอย่างหนึ่งของผู้ว่า กทม. นอกจากเป็นนักบริหารที่ดีแล้ว ยังต้องเป็นนักประสานงานที่มีความสามารถด้วย จึงจะสามารถโน้มน้าวให้หน่วยงานรัฐ และกระทรวงต่างๆ มาทำงานร่วมกันให้เกิดความสำเร็จได้
www.pavena-bkk.com