xs
xsm
sm
md
lg

ชะตาชีวิต..."คนไร้สัญชาติ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปัญหาคนไร้สัญชาติ เป็นปัญหาเรื้อรัง ที่ถูกหมักหมมมานาน โยภาครัฐ ไม่ได้หาหนทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง อีกทั้ง ไม่ได้หาทางออกให้กับบุคคลไร้สัญชาติ ที่บางคนถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญของชาติ รายการคนในข่าว ประจำวันอังคารที่ 29 มิถุนายน 2547 โดยอัญชลีพร กุสุมภ์ ได้เชิญอาจารย์น้ำ ค้าง แซ่ตั้ง อาจารย์คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ นายกิตติพงศ์ ศิลปวงส์เจริญ วิศวกรบริษัทเอกชนชื่อดัง ที่ถูกถอนสัญชาติ และรศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิรา สายสุนทร จากคระนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาร่วมสนทนาในหัวข้อ"ชะตาชีวิต...คนไร้สัญชาติ”

พิธีกร สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการตนในข่าวนะคะวันอังคารที่ 29 มิถุนายน 2547นะคะใครที่ยืนขึ้นในระหว่างเวทีเสวนาที่ ม.ธรรมศาสตร์เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน นั้นถือว่าเป็นคนที่สุดๆแล้วจริงๆจึงต้องลุกขึ้นที่นั้นเนื่องจากบนเวทีมีคำถามว่าใครกำลังมีปัญหาเรื่องคนไร้สัญชาติในเวทีเสวนาในวันนั้นและปรากฎว่าคนที่ลุกขึ้นยืนร่วม 100 คนนี่นะคะล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีการศึกษาแล้วก็กำลังรอโอกาสทางสังคมทั้งนั้นเลย เขาบอกว่าจริงๆนั้นยังน้อยนะคะถ้าหากจะหาจริงๆในประเทศนั้นยังมีอีกเยอะแล้วก็อยู่ในสภาวะที่มีคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติด้วยนะคะนี่คือปัญหาที่เราจะคุยกันในวันนี้คะเรื่องของชะตาชีวิตของคยไร้สัญชาติเพราะวันนั้นมีคน 2 คนที่ยอมรับในเวทีนั้นนะคะว่าเขากำลังมีปัญหาเรื่องคนไร้สัญชาติและเป็นที่สนใจของสังคมคะวันนี้เขาจะมาเปิดเผยและพูดคุยกับเรานะคะ ท่านแรกนะคะเป็น อ.สอนหนังสืออยู่ที่ ม.อัสสัมชัญหรือว่าแอแบคนะคะวันนี้อธิการบดีทำหนังสือยืนยันเลยว่าเธอสอนหนังสือนักศึกษาเป็น 1000 คนเพราะฉะนั้นเธอเป็นคนที่มีคุณภาพคนหนึ่งนั้นคือ อ.น้ำค้าง แซ่ตั้งคะ อ.น้ำค้างอยู่ในฐานะผู้ไร้สัญชาตินะคะ อีกท่านหนึ่งนะคะตอนแรกผู้ที่ทำการอภิปายบอกว่ามีวิศวกรคนหนึ่งอยู่ในสภาวะที่ไร้สัญชาติเหมือนกันแต่ก็ไม่แน่ใว่าเขาจะเปิดเผยตัวหรือเปล่าแล้วก็มีเขานี่ละคะที่ลุกขึ้นในวงเสวนานั้น นั้นก็คือคุณกิตติพงศ์ ศิลปวงศ์เจริญค่ะ

คุณกิตติพงศ์ สวัสดีครับ

พิธีกร คุณกิตติพงศ์เป็นวิศวกรไฟฟ้านะคะอยู่บริษัท ซี.พี.เรากล้าที่จะบอกถึงสถาบันถึงที่ที่เขาทำงานคะเพราะนี่คือสถาบันที่ยอมรับคนที่มีปัญหาในการไร้สัญชาติให้เข้ามาทำงานขอบคุณมากนะคะสวัสดีคะ เป็นแขกของเราในวันนี้ตื่นเต้นไหมคะ

คุณกิตติพงศ์ ตื่นเต้นมากครับ

พิธีกร รู้สึกคิดถูกหรือคิดผิดที่ออกมาเปิดเผยตัว

คุณกิตติพงศ์ ผมว่าคิดถูกนะครับเพื่อแก้ปัญหาของตัวเองให้จบ

พิธีกร คิดอยู่นานหรือยังคุณกิตติพงศ์

คุณกิตติพงศ์ ก็คิดอยู่นานเหมือนกันครับเพราะกลัวกระแสสังคมที่จะเข้ามากลัวที่บริษัทจะรับไม่ได้นะครับ

พิธีกร และหลังจากที่กลับไปทำงานเมื่อวานนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ

คุณกิตติพงศ์ ก็ยังไม่ค่อยมีกระแสเท่าไรครับ

พิธีกร เจ้านายรู้หรือยังคะ

คุณกิตติพงศ์ เจ้านายโดยตรงรู้แล้วครับ

พิธีกร อ.น้ำค้างละคะมีกระแสว่ายังไงหลังจากที่ออกมาเปิดเผยตัว

คุณน้ำค้าง ก็ส่วนใหญ่อาจจะยังไม่ทราบข่าวคะ

พิธีกร คิดนานไหมคะที่จะเปิดเผย
คุณน้ำค้าง ก็ประมาณสักพักใหญ่ๆคือคุณแม่สนับสนุนในเรื่องนี้เพราะว่าสังคมจะร่วมกันแก้ปัญหา

พิธีกร และก็ไม่รู้เป็นอะไรว่ากันว่าหมู่บ้านของคุณน้ำค้างนั้นเด็กเรียนเก่งกันหมดเลยเข้ามาก็เรียนกันดีๆเยอะเลยและก็เป็นคนที่ไม่มีสัญชาติเอาละคะเดี๋ยวเราพักกันสักครู่ก่อนนะคะเดี๋ยวกลับมาคุยกันคะ

พิธีกร สมาชิกของคนไร้สัญชาติจะไปทางไหนกฎหมายผิดหรือคนผิดกฎหมายและกฎหมายนี้จะแก้ไขได้หรือไม่แล้วมีทางออกอย่างวันนี้เราจะคุยกันนะคะมีความคิดเห็นหรือว่าจะแสดงความคิดเห็นอย่างไรก็โทรศัพท์มาที่ 02-6294433 แล้วก็ SMS มาได้นะคะทั้ง DTAC และ AISนะคะส่งมาที่กด 11 เว้นวรรคแล้วตามด้วยข้อความแล้วก็ส่งมาที่ 85077นะคะทุกข้อความจะขึ้นที่หน้าจอนะคะเอาละคะกลับมาขอทำความรู้จักกับคุณกิตติพงศ์ก่อน อย่างคุณกิตติพงศ์ไร้ว่าคนไร้สัญชาติหรือว่าคนไร้รัฐคะเขามีความต่างกัน 2 อันทราบไหมว่าตัวเองอยู่ในประเภทไหน

คุณกิตติพงศ์ ของผมอยู่ในคนไร้รัฐ

พิธีกร ไร้รัฐเลยนะคะ

คุณกิตติพงศ์ ครับ

พิธีกร เป็นยังไงคะชีวิตความเป็นมาของคุณกิตติพงศ์

คุณกิตติพงศ์ ก็ช่วงนั้นพ่อมาจากเมืองจีนนะครับแล้วก็มาทำการค้าขายทำทองแล้วก็ข้ามไปที่เวียงจันทร์

พิธีกร เดี๋ยวก่อนมาจากเมืองจีนแล้วมาไทย

คุณกิตติพงศ์ ครับถือใบต่างด้าว

พิธีกร ถือใบต่างด้าวจากประเทศจีนมา

คุณกิตติพงศ์ ไม่ครับ ถือใบต่างด้าวจากประเทศไทยนี่ละครับ ถือใบต่างด้าวของประเทศไทยเข้าเมืองโดยถูกกฎหมายและก็เดินทางไปเวียงจันทร์เพื่อทำธุรกิจและก็ไปเจอแม่ แม่เป็นคนลาวและก็แม่ก็ได้ตามพ่อมาที่เมืองไทยซึ่งอาศัยอยู่แถวหนองคายนะครับซึ่งต่อมาญาติฝ่ายแม่ก็ต้องการที่จะอพยพไปอยู่ต่างประเทศซึ่งพ่อก็ไม่เห็นด้วยนะครับ

พิธีกร ญาติฝ่ายแม่นี่อยู่เมืองไทยหรืออยู่ลาว

คุณกิตติพงศ์ อยู่ที่ลาวครับก็ต้องการที่จะอพยพไปอยู่ที่ประเทศที่ 3 ซึ่งตอนนั้นพ่อไม่เห็นด้วยกับแม่เขาก็เลยมาอยู่ที่ประเทศไทยช่วยกันทำมาหากินนะครับแล้วตอนนั้นที่แม่เข้ามาก็ไม่ได้กลับประเทศลาวนะครับก็ได้มาซื้อบัตรประชาชนในประเทศไทย

พิธีกร ตอนแรกคุณแม่เข้ามานี่ได้ใบต่างด้าวไหมคะ

คุณกิตติพงศ์ ไม่ครับถือพาสปอร์ตเข้ามา

พิธีกร ก็ยอมรับผิดกันตรงๆว่าซื้อบัตรเข้ามาแล้วพ่อละค่ะ

คุณกิตติพงศ์ คุณพ่อก็เป็นใบต่างด้าวถูกต้องตามกฎหมายนะครับ

พิธีกร ไม่ได้ซื้อ แล้วทีนี้ต่อมาลูกก็เกิดในเมืองไทย

คุณกิตติพงศ์ ครับเกิดในเมืองไทยซึ่งเกิดได้ประมาณ 1 ปีก็มาอยู่ในกรุงเทพแล้วพอประมาณปี 32 ซึ่งรู้สึกว่าจะมีการเปลี่ยนฐานข้อมูลของทะเบียนราษฎ์ก็มีการตรวจสอบแล้วก็พบว่าน่าจะมีปัญหาซึ่งตอนนั้นผมยังเล็กอยู่ไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไรพ่อแม่ก็ไม่มีความรู้ก็ไม่รู้ว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นมาภายหลังแล้วก็ต่อมาเมื่อปี 40

พิธีกร ตอนนั้นคุณกิตติพงศ์เรียนอยู่ชั้นไหนคะเมื่อปี 32

คุณกิตติพงศ์ เมื่อปี 32ก็ประมาณ ม.1

พิธีกร ตอนนั้นมีผลอะไรกับคุณกิตติพงศ์ไหมคะ

คุณกิตติพงศ์ ไม่มีผลอะไรเลยครับก็ใช้ชีวิตตามปกติแล้วก็อายุครบก็ทำบัตรประชาชนแล้วพอปี 40 ที่มีการเลือกตั้งผู้ว่าผมก็เลยตรวจสอบรายชื่อดูนะครับซึ่งมันไม่มีรายชื่อแจ้งมาว่ามีสิทธิ์เลือกตั้งแล้วผมก็เลยไปสอบถามทางเขตว่าเพราะอะไรถึงได้ไม่มีชื่อ

พิธีกร คะนี่แสดงว่าเป็นพลเมืองไทยที่มีความรับผิดชอบจะไปเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ด้วยแล้วไปตรวจรายชื่อก่อน

คุณกิตติพงศ์ ใช่ครับตรวจรายชื่อว่ามีสิทธิ์เลือกตั้งหรือเปล่าพอเราไปตรวจแล้วไม่มีรายชื่อแล้วพอไปถามเขาก็บอกว่าทะเบียนนี้มีปัญหา

พิธีกร หลังจากนั้นแล้วเกิดอะไรขึ้นตอนนั้นเรียนหรือว่าทำงานคะ

คุณกิตติพงศ์ ตอนนั้นก็เรียนอยู่ครับซึ่งตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะมีการแก้ไขได้ก็เลยไปถามกรมการปกครองเขตและก็ที่ว่าการกรุงเทพเพื่อที่จะสอบถามว่าเกิดจากสาเหตุอะไรซึ่งก็ไม่ได้รับคำแนะนำที่ดีนะครับก็มีคำแนะนำว่าน่าจะศึกษาต่อให้จบผมก็เลยไปศึกษาต่อ

พิธีกร เรียนจนจบครั้งสุดท้ายจบที่ไหนคะ

คุณกิตติพงศ์ วิศวกรรมศาสตร์ที่ ม.ขอนแก่น

พิธีกร ที่เรียนที่นี่มานะว่าจะต้องเรียนให้จบเพื่อเป็นพลังในการที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยรึเปล่าคะ

คุณกิตติพงศ์ ใช่ครับ เพื่อที่จะมาเปลี่ยนแปลงชีวิตที่เป็นปัญหาอยู่ตรงนี้

พิธีกร กลับมาที่คุณน้ำค้างบ้างเป็นยังไงคะความเป็นมาของครอบครัวคุณน้ำค้าง

คุณน้ำค้าง คือปู่ ย่า ตา ยาย เป็นชาวจีนแล้วก็อพยพไปประเทศพม่าและพ่อ แม่ก็เกิดที่ประเทศพม่าโดยที่พ่อก็ไม่มีสัญชาติ เพราะว่าทางปู่กับย่ามีใบต่างด้าวพ่อก็เลยไม่มีปัญหา ส่วนทางแม่นี่ตอนเกิดมีสัญชาติพม่าค่ะ แล้วภายหลังประเทศพม่าเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วเขาก็จะยึดทรัพย์สินกับกิจการของคนที่มีเชื้อชาติจีน สุดท้ายกิจการของตาก็ถูกยึดไป พอถูกยึดทรัพย์สินตรงนี้ไปก็คือหมดตัวไม่มีอะไรเหลือคุณตาก็เลยส่งคุณแม่กลับไปประเทศจีน พออพยพไปที่เมืองจีนเสร็จแล้วภายในประเทศจีนก็เกิดความวุ่นวายสมัยปฏิวัติวัฒนธรรมอยู่ไม่ได้ก็เลยหนีกลับมาที่พม่าสุดท้ายก็เลยเข้ามาที่ประเทศไทยค่ะ

พิธีกร อยู่ที่อำเภอ

คุณน้ำค้าง อำเภอแม่สอด จังหวัดตากค่ะ

พิธีกร แล้วเรียนจบอะไรมาคะ

คุณน้ำค้าง เรียนจบปริญญาโทวิทยาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีค่ะ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศค่ะ

พิธีกร ที่

คุณน้ำคาง ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญค่ะ

พิธีกร ปริญญาตรีล่ะคะ

คุณน้ำค้าง ปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญเหมือนกันค่ะ

พิธีกร ทำไมถึงเลือกมาที่นี่คะ

คุณน้ำค้าง เพราะว่าไม่มีสิทธิ์สอบโควต้าค่ะ สมัยนั้นเขายังไม่ให้คนที่โอนสัญชาติสอบโควต้าและก็เผอิญสอบเทียบได้ค่ะ

พิธีกร แล้วไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยปกติก็ไม่ได้หรือคะ

คุณน้ำค้าง ก็เลยลองช่วง ม.5หลังจากสอบเทียบได้ก็เคยไปลองครั้งหนึ่งแต่ว่าไม่ติดค่ะ เพราะว่าไม่ได้เตรียมตัว

พิธีกร คุณกิตติพงศ์ตอนที่เรียนจบแล้วเนี่ยไปหางานยังไงคะ

คุณกิตติพงศ์ ตอนที่หางานช่วงแรกเนี่ยบัตรประชาชนยังไม่หมดอายุก็สมัครงานตามปกติ

พิธีกร เหลือเยอะมั้ยคะเวลาของการหมดอายุบัตรประชาชน

คุณกิตติพงศ์ เหลืออีกประมาณ 6 เดือนครับ

พิธีกร อีก 6 เดือน ก็คือถ้าจบช้าไปอีก 6 เดือนนี่ก็จะมีปัญหา ทีนี้ก็ไปสมัครงาน

คุณกิตติพงศ์ ก็สมัครไปที่ซีพีที่แรกเขาก็รับ

พิธีกร ได้เลย เกรดดีมั้ยคะตอนจบเนี่ย

คุณกิตติพงศ์ ก็ปานกลางครับ

พิธีกร แล้วทำได้กี่ปีแล้วคะ

คุณกิตติพงศ์ 4 ปีแล้วครับ

พิธีกร 4 ปีเข้าไปก็คือนำบัตรประชาชนที่ก่อนหมดอายุไป แล้วหลังจากหมดอายุแล้วเนี่ยไปต่อบัตรประชาชนได้มั้ยคะ
คุณกิตติพงศ์ ไม่ได้ครับ

พิธีกร 4 ปีมาแล้วที่คุณไม่มีบัตรประชาชน

คุณกิตติพงศ์ ใช่ครับ

พิธีกร โดนตำรวจเรียกบ้างมั้ย

คุณกิตติพงศ์ ไม่เคยเลยครับ

พิธีกร แล้วไปทำบัตรเครดิตมีใช้มั้ยคะ

คุณกิตติพงศ์ ไม่มีครับ

พิธีกร ATM

คุณกิตติพงศ์ ATM ช่วงนั้นที่ทำบัตรยังไม่หมดอายุ

พิธีกร เกณฑ์ทหารยังไงคะ

คุณกิตติพงศ์ เรียน รด.ครับ

พิธีกร จะซื้อบ้าน ซื้อรถได้มั้ยคะเนี่ย

คุณกิตติพงศ์ ไม่ได้ครับ

พิธีกร แล้วทำยังไงคะที่วางแผนไว้

คุณกิตติพงศ์ ที่วางแผนไว้ตอนนี้ก็ยังทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้นเกี่ยวกับทางด้านธุรกรรมอะไรพวกเนี้ย
พิธีกร มาเริ่มรู้ตัวว่าปัญหามาแล้วเนี่ยตอนปีไหน

คุณกิตติพงศ์ เริ่มรู้เมื่อสมัครงานได้มันต้องทำเรื่องบัตรประกันสังคม แล้วก็บัตรผู้เสียภาษี ซึ่งไปขอทำแล้วนะครับก็ไม่สามารถทำได้ เพราะว่าไม่มีชื่อในฐานข้อมูล

พิธีกร บัตรประชาชนก็หมดอายุ

คุณกิตติพงศ์ บัตรประชาชนยังไม่หมด แต่ไม่มีชื่อในฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ของทางทะเบียนราษฎร์

พิธีกร อ๋อ แสดงว่าเขาก็ถอน

คุณกิตติพงศ์ ใช่ครับ

พิธีกร แล้วทำยังไงคะ ทุกวันนี้มีประกันสังคมมั้ยคะ

คุณกิตติพงศ์ ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ไม่มีครับ

พิธีกร ไม่มีประกันสังคม เสียภาษี

คุณกิตติพงศ์ ก็เสียภาษี ณ ที่จ่าย

พิธีกร จริงๆ แล้วอยู่ในสภาพเดียวกับคุณกิตติพงศ์เนี่ย ถ้าจะให้ถูกต้องเนี่ยต้องทำยังไงใบอนุญาติประกอบการทำงาน คือถ้าเป็นคนต่างด้าวก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญชาติ ไม่มีอะไรเลย ต่างกับคุณน้ำค้างที่ยังมีใบซึ่งแสดงความมีตัวตนเป็นใบอะไรคะ

คุณน้ำค้าง ผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่าค่ะ เป็นบัตรสีชมพูค่ะ และก็มี ทร.13 เป็นหลักฐานทางทะเบียนบ้านเรา

พิธีกร ผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่านี่เขาก็กำหนดด้วยว่าจะต้องอยู่ที่พื้นที่ ให้อยู่ที่ไหนคะ
คุณน้ำค้าง ใช่ค่ะ เฉพาะภายในอำเภอแม่สอดค่ะ

พิธีกร แล้วมาอยู่นี่ได้ยังไง

คุณน้ำค้าง ก็คือขออนุญาติกับทางจังหวัดค่ะ ขออนุญาติออกนอกพื้นที่

พิธีกร แล้วตอนที่เรียนจบปริญญาโทแล้วหางานยังไงบ้างคะ

คุณน้ำค้าง ก็คือส่งใบสมัครไปตามบริษัทต่างๆ

พิธีกร ตอนที่สมัครไปก็ต้องบอกสิว่าเราเป็นผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่า

คุณน้ำค้าง บางครั้งก็ใส่ บางที่ก็ไม่ได้ใส่ บางทีถ้าเกิดไม่เขียนไปเขาก็จะเรียกไปสัมภาษณ์ เสร็จแล้วพอได้เจอหลักฐานสำเนาบัตรผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่า เขาก็จะค่อนข้างที่จะกลัวที่จะรับคนไม่มีสัญชาติตรงนี้ค่ะ

พิธีกร ว่างงานอยู่นานมั้ยคะ

คุณน้ำค้าง ปีกว่าๆ ค่ะ ก็เลยกลับไปช่วยพ่อแม่ขายของที่แม่สอดค่ะ

พิธีกร เสร็จแล้วก็ตัดสินใจกลับมากรุงเทพฯอีกครั้งเพราะอะไรคะ

คุณน้ำค้าง เพราะว่าคุณแม่ค่ะผลักดันว่าให้ลองไปสมัครงานใหม่สิ เผื่อมีโอกาสก็เลยกลับมาสมัครงานใหม่ค่ะ

พิธีกร เลือกไปที่เอแบค

คุณน้ำค้าง ยังค่ะ ตอนแรกก็คือลองไปสมัครงานที่ต่ำกว่าวุฒิค่ะ คือไปสอนหนังสือเด็ก เพราะคิดว่าถ้าไปสมัครอย่างนี้เราน่าจะมีโอกาสมากถ้าไปแข่งกับระดับปริญญาด้วยกันก็อาจจะสูญเสียโอกาส
พิธีกร ได้ทำ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาที่เอแบค

คุณน้ำค้าง ค่ะ

พิธีกร คุณกิตติพงศ์ยังโชคดีก็คือตอนเรียนก็ได้เรียนจบด้วยมีโอกาสได้ทำบัตรประชาชน จบมาก็มีโอกาสได้ทำงานด้วยบัตรประชาชนยังไม่หมดอายุ แต่น้องชายล่ะคะ เห็นว่าชีวิตต่างกันเลย

คุณกิตติพงศ์ น้องชายก็จบ ปวช. แล้วก็ช่วงนั้นมีปัญหาก็เลยศึกษาต่อไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐานที่จะไปแสดง

พิธีกร เขาเครียดมั้ยคะ

คุณกิตติพงศ์ ก็เครียดครับ

พิธีกร แล้วที่ผ่านมาพยายามที่จะทำให้มันถูกต้องบ้างมั้ยคะ

คุณกิตติพงศ์ ก็มีนะครับ ตอนแรกที่ไม่มีข้อมูล ไม่มีความรู้เลยนะครับ ก็เข้าไปปรึกษาผู้ใหญ่ตามกรมการปกครองหรือว่าทางเขต แล้วก็ได้มีการว่าจ้างทนายความ เพื่อขอสิทธิ์ที่จะเพิ่มชื่อกลับไปเหมือนเดิม ซึ่งตอนนี้เรื่องก็อยู่ที่ศาลปกครอง

พิธีกร จริงๆ แล้วสภาพอย่างคุณกิตติพงศ์เนี่ยถือว่าผิดกฎหมายมั้ย

คุณกิตติพงศ์ ผิดครับ

พิธีกร แล้วคนที่รับไปทำงานผิดมั้ยคะ

คุณกิตติพงศ์ ผิดครับ

พิธีกร คุณน้ำค้างล่ะคะ
คุณน้ำค้าง ผิดค่ะ เพราะว่ากฎหมายกำหนดไว้ว่าคนที่ไม่มีสัญชาติหรือคนต่างด้าวทำงานได้แค่ 27 ประเภท ซึ่งอาชีพที่ทำอยู่ไม่ได้อยู่ในข่ายนั้น

พิธีกร 27 ประเภท มีอะไรบ้างคะ พอนึกออกมั้ยคะ

คุณน้ำค้าง ก็มีกรรมกร ช่างตัดเย็บเสื้อผ้า

พิธีกร ส่วนใหญ่จะเป็นงานกรรมกร คงจะเห็นปัญหาของทั้ง 2 ท่านกันแล้วนะคะ ทีนี้ทางออกจะมีบ้างมั้ย เดี๋ยวช่วงหน้าค่ะ เราเชิญ รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งคลุกคลีอยู่กับเรื่องนี้มาพูดคุยกันถึงทางออกของปัญหาทั้ง 2 ท่านค่ะ

พิธีกร ค่ะ ตอนนี้นะคะ รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ อยู่กับเราแล้วนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่มาเป็นเกียรติกับรายการและคิดว่าคำตอบก็คงจะอยู่ที่อาจารย์ว่าจะทำอย่างไรดี มีคนเสนอความคิดเห็นมาค่ะ บอกว่าต่อแต่นี้ทั้ง 2 ท่านชีวิตเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน อาจารย์ว่าจะเปลี่ยนไปมั้ยคะ

อ.พันธุ์ทิพย์ ดิฉันก็ไม่รู้ว่าจะดีหรือเลว ดิฉันก็บอกเขาทั้ง 2 คนเหมือนกันตอนที่รายการทาบทามไปนะคะว่า ดิฉันเองก็รับผิดชอบเยอะ อย่างคุณกิตติพงศ์เนี่ยเป็นตัวอย่างหนึ่งที่มีปัญหามา 15 ปี คือจริงๆ แล้วปัญหามันเรื้อรัง เพียงแต่ว่าเขาไม่พยายามทำอะไรเลยถ้าลองคุยกับเขาละเอียดๆ คือพยายามหยุดนิ่ง

พิธีกร เพราะอะไรคะ

อ.พันธุ์ทิพย์ ดิฉันคุยกับหลายเคสที่เป็นแบบนี้คือเด็กไม่เข้าใจนะ กิตติพงศ์อายุ 27 เนี่ย รู้สึกว่าคิดมานานแล้วเหมือนกันรู้สึกนิ่ง แต่ถ้าเป็นเด็กมากๆ เนี่ยเขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้กฎหมาย แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อแม่ทำเช่นนั้น

พิธีกร หยุดนิ่ง แล้ววันที่เขาเปิดเวทีสาธารณะเสวนากันที่ธรรมศาสตร์เนี่ยนะคะ วันนั้นไปเพราะอะไรคะ
คุณกิตติพงศ์ ตัดสินใจแล้วครับว่าจะสู้

อ.พันธุ์ทิพย์ คือเวทีสาธารณะเนี่ย ทำตามที่ท่านนายกท่านเชื้อเชิญมีอยู่วันหนึ่งที่ท่านออกวิทยุบอกว่าท่านอยากแก้ปัญหา เราคนทำงานทางด้านนี้เราก็ขันอาสาทันทีบอกว่าโอเคเราจะทำเวทีสาธารณะ ท่านผู้ใหญ่ที่ธรรมศาสตร์เนื่องในโอกาส 70 ปีธรรมศาสตร์ก็เลยอยากทำกัน ก็เลยประกาศทั่วไปว่าถ้าใครเป็นโลกไร้สัญชาติ โลกไร้รัฐก็ให้มาหาเรา 10 โมง เราก็เปิดห้องรับมากันเต็มห้องเลยค่ะ

พิธีกร ไม่ได้เชิญเป็นพิเศษเลย

อ.พันธุ์ทิพย์ ก็ประกาศทั่วไปเราจะทำอะไรได้ไม่ได้มีงบประมาณอะไร

พิธีกร เอาอย่างนี้ดีกว่า 2 ท่านนี้จะทำยังไงได้คะ จากนี้ไป

อ.พันธุ์ทิพย์ ถ้าว่าไปแล้วเนี่ยมันเป็นศาสตร์ที่ไม่ยากแต่มันก็ไม่ง่าย คือบางคนก็จะบอกว่าร่างกฎหมายใหม่สิ อีกกี่ปีจะเสร็จไม่รู้ร่างกฎหมายใหม่

พิธีกร กฎหมายอะไรคะ

อ.พันธุ์ทิพย์ กฎหมายสัญชาติ กฎหมายเข้าเมือง เอาง่ายๆ คือคำว่า”ไร้รัฐ” อธิบายง่ายๆ ค่ะ มันคือมนุษย์ที่ไม่มีประเทศไหนเขายอมรับ โดยกิตติพงศ์เนี่ยไม่มีสัญชาติของประเทศไหนและที่สำคัญที่สุดคือ เป็นผิดกฎหมายในทุกประเทศ คือรัฐเนี่ยมันมีอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดน เหนือประชากร คราวนี้เนี่ยอย่างกิตติพงศ์เขาเกิดหนองคายแต่ในขณะเดียวกันเนี่ยคุณพ่อ คุณแม่เขาไม่ได้รู้หนังสืออะไร เขาไม่ได้ไปแจ้งเกิดอ่ะ ทีนี้ก็ต้องหาหลักฐานพยานว่าใครจำกิตติพงศ์ได้ ไม่แน่อาจจะมีปาฏิหารย์

พิธีกร แล้วตรงนี้จะทำไงต่อ

อ.พันธุ์ทิพย์ วิธีการทำงานของเราอยู่ตรงนี้ ตรงที่ว่าคือเขาไม่ได้รับการยอมรับ คือเขาเกิดเมืองไทยรึเปล่าเนี่ยถ้าหาพยานหลักฐานได้ก็เป็นไปได้ แต่ว่าอย่าลืมนะคะว่าเขามีความผูกพันทางวัฒนธรรมกับประเทศไทย เขาอยู่ประเทศไทยมา 27 ปี หรือว่าถ้าจะคิดนอกกรอบอย่างที่ท่านรองนายกจาตุรน แนะนำมานะคะถ้ามองว่าเขาคือคุณประโยชน์ของประเทศไทย เขาเป็นบัณฑิตที่เราสร้างขึ้นมาจากระบบการศึกษาไทย ดิฉันก็อยากให้มันมีปาฏิหารย์ที่จะมีมติคณะรัฐมนตรีสำหรับคนอย่างกิตติพงศ์ ซึ่งมีอีกเยอะนะ ก็คือเราไม่ต้องไปดูว่าตอนเขาเกิดเป็นใคร แต่วันนี้เขาเป็นไทยโดยวัฒนธรรม ฉะนั้นวันนี้เราให้สัญชาติไทยกับเขา กฎหมายพร้อมค่ะ นโยบายพร้อมรึเปล่าเท่านั้น อีกประการหนึ่งก็คือว่าถ้าตรงนี้นโยบายมา ดิฉันก็จะให้เขาร้องทุกข์ไปถึงท่านนายก และก็เราควรทำกระบวนการทางกฎหมายไทยด้วย

พิธีกร แล้วจะชูประเด็นไหนขึ้นมาคะ ชูประเด็นว่าเขาเป็นคนประพฤติดี การศึกษาดี ทำประโยชน์กับประเทศชาติหรืออะไรคะ

อ.พันธุ์ทิพย์ วิศวกร 1 คน เขาเป็นคุณประโยชน์ให้ประเทศไทยมั้ยคะ แน่นอนใช่มั้ยคะ

พิธีกร คืออย่างน้อยถ้าหากคุณกิตติพงศ์ยืนยันได้ว่าคุณกิตติพงศ์เกิดที่หนองคายจริงๆ เนี่ยเขาก็เป็นคนไทย

อ.พันธุ์ทิพย์ ก็คือร้องขอสัญชาติไทย ก็เขียนคำร้องไปที่กระทรวงมหาดไทย แต่จะยากตรงที่ต้องมีมติคณะรัฐมนตรี วึ่งตรงนี้ท่านนายกบอกว่าใครที่มีคุณประโยชน์กับประเทศไทยก็เสนอมาเถอะ เพราะขนาดนักฟุตบอลยังจะให้สัญชาติได้เลย ทำไมคนของเราแท้ๆ คนที่เขาเติบโตจากแผ่นดินไทย เขาจบโรงเรียนไทย จบมหาลัยไทย เขาไม่คิดจะออกจากประเทศไทย ทำไมให้ไม่ได้

พิธีกร แล้วทีนี้ถ้าหากว่าจะเผื่อคนอีกเยอะแยะ รัฐบาลจะต้องทำยังไงบ้างหรือจะต้องให้ออกมาออกทีวีกันทีละคน แล้วก็ทำหนังสือขอกันทีละคนแบบนี้

อ.พันธุ์ทิพย์ ก็ต้องแก้ทั้งระบบ แล้วตอนนี้เขาก็ท้าทายมาว่าให้เราเสนอทั้งระบบ อย่างน้ำค้าง เนี่ย เขาชัดเจนเขาเกิดในประเทศไทย ฉะนั้นวันนี้ถ้าเห็นว่าเขามีคุณประโยชน์ให้ประเทศไทยเนี่ยเซ็นอนุมัติให้เขาได้สัญชาติไทยเลย แต่ถ้ายังอยากรอไว้ก่อน เพราะอยากจะให้ทำพร้อมๆ กัน วันนี้ให้ใบอนุญาติทำงานเขาสิคะ

พิธีกร ค่ะ เอาล่ะค่ะแล้ว 2 ท่านนี้ชีวิตจากวันนี้เปลี่ยนไปก็จริง แต่ว่าต้องดูต่อไปว่าเปลี่ยนไปในทางที่ดีเนี่ยจะช้าจะเร็วยังไง แล้วก็จะเกิดประโยชน์กับภาพรวมของคนไร้สัญชาติหรือคนไร้รัฐอย่างคุณกิตติพงศ์อีกจำนวนมากอย่างไรด้วยนะคะ วันนี้ขอบพระคุณมากค่ะอาจารย์คะ คุณน้ำค้าง คุณกิตติพงศ์นะคะ แล้วทั้งหมดก็คือฅนในข่าวสำหรับวันนี้นะคะ ขอบคุณมากค่ะทั้งสายโทรศัพท์แล้วก็ SMS ที่ส่งมาสำหรับความคิดเห็น เวลาอาจจะไม่มีพอที่จะพูดถึงทุกข้อความที่ส่งมานะคะ แต่ขอบคุณสำหรับการติดตาม วันนี้ต้องลาไปก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ

กำลังโหลดความคิดเห็น