xs
xsm
sm
md
lg

รำลึก"จิตร ภูมิศักดิ์"นักคิด นักเขียนยุคทรราชย์ครองเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คนในข่าว ประจำวันที่ 28 พฤษภาคม 2547 จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ เชิญคุณทองใบ ทองเปาว์ เพื่อนร่วมคุกลาดยาว ของ จิตร ภูมิศักดิ์คุณสุรชัย จันทิมาธร ศิลปินผู้แต่งเพลง จิตร ภูมิศักดิ์ และ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ผู้ประสานงานจัดตั้งกองทุน มาร่วมสนทยานในรายการคนในข่าว ประจำวันที่ 28 พฤษภาคม ภายใต้หัวข้อ“รำลึก จิตร ภูมิศักดิ์” โดยเริ่มต้นรายการด้วยเสียงเพลง “จิตร ภูมิศักดิ์” ของคุณสุรชัย หรือหงา คาราวาน

พิธีกร : สวัสดีค่ะคุณผู้ชมค่ะขอต้อนรับสู่รายการคนในข่าวค่ะ ประจำวันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม 2547 ค่ะ เพลงที่พึ่งจบลงไปคือเพลง จิตร ภูมิศักดิ์นะค่ะ ขับร้องและทำนองโดยคุณ สุรชัย จันทิมาธร หรือว่าน้าหงา คาราวาน ของเรานั้นเองนะค่ะวันนี้นั้นคือประเด็นที่เราจะมาพูดกันว่าชายที่ชื่อ จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นใครมาจากไหนทำไมชื่อของชายผู้นี้สังคมไทยจำเป็นจะต้องจดจำและก็ดำเนินงานความคิดของเขาคนนี้ตลอดไปนะค่ะเราจะคุยกับแขกรับเชิญของเรา 3ท่าน ค่ะ ท่านแรก อ.ทองใบ ทองเปาว์ สว.มหาสารคาม ในฐานะเพื่อนร่วมงานและก็เพื่อนร่วมมหาลัยลาดยาวของจิตร ภูมิศักดิ์ด้วยนะค่ะ สวัสดีค่ะ อาจารย์

คุณทองใบ : สวัสดีครับ

พิธีกร : ค่ะ อีกท่านหนึ่งก็อย่างที่ร้องเพลงให้เราฟังกันไปแล้วเพลงซึ้งกินใจแต่งขึ้นมาด้วยความรักและก็ห่วงหาอาลัยคุณจิตร ภูมิศักดิ์ เป็นการส่วนตัวนะค่ะ คุณสุรชัย จันทิมาธรหรือว่าน้าหงา คาราวานค่ะ

คุณสุรชัย : สวัสดีครับ

พิธีกร : ค่ะทั้งสองท่านนี้จะคุยกับเรายังมีอีกท่าหนึ่งน่ะคะ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นายกสมาคมจดหมายเหตุไทยผู้ที่จะเป็นผู้ประสานกองทุน จิตร ภูมิศักดิ์ขึ้นจะมาคุยกับเราอีกด้วยวันี้นะค่ะหัวข้อที่เราจะคุยกันคงจะต้องเรียนคุณผู้ชมนะค่ะว่าหลายๆท่านนั้นอาจจะไม่ร่วมสมัยแต่หลายๆท่านนั้นคงจะได้อ่านผลงานของชายผู้นี้และคงจะรู้ว่าแนวคิดของชายผู้นี้เป็นอย่างไรแต่ถ่าแหละว่าคนรุ่นหลังแหละเป็นอย่างไรรู้จัก จิตร ภูมิศักดิ์อย่างไรบ้างในฐานะที่เป็นนักคิด นักเขียนหรือว่านักต่อสู้กันแน่เราจะมาคุยกันและวันนี้ค่ะสำหรับคุณผู้ชมที่ฝากคำไว้กับท่านรายการนะค่ะที่หมายเลข 02-6294433 และ SMS ผ่านทาง DTAC AIS กด 11เว้นวรรคตามด้วยข้อความนะค่ะและกดส่งมาที่ 85077 เราจะให้บัตรคอนเสิร์ตค่ะ รายได้สมทบกองทุน จิตร ภูมิศักดิ์ และก็จะมีคนหนุ่มสาวไปร่วมงานมากมากมายโดยเฉพาะคนที่รู้สึกว่าอยากจะสานต่อแนวความคิดของคุณ จิตร ภูมิศักดิ์ นั้นก็คือศิลปินขอเราไม่ต้องแนะนำกันมาก บัตรคอนเสิร์ตนี้จะที 4 ใบ เราจะให้ 2 ท่านด้วยกันท่านละ 2ใบ ด้วยกันยังไงโทรศัพท์เข้ามาที่ 02-6294433 ดิฉันอนุญาตพักกันสักครู่เดี๋ยวกลับมาชมกันค่ะ

พิธีกร : เอาล่ะค่ะรายการคนในข่าวของเราในวันนี้จะมาคุยกันในเรื่องของคุณ จิตร ภูมิศักดิ์เราจะรำลึกถึงชายผู้นี้นะค่ะถ้าถามคุณผู้ชมว่าท่านรู้จักคุณ จิตร ภูมิศักดิ์ในฐานะอะไรก็หลายคนคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้วแต่วันนี้เราคุยกันว่าตกลงว่า คุณ จิตร ภูมิศักดิ์เนี่ยนะค่ะมีความรู้เรื่องมีความเชี่ยวชาญอะไรบ้างและแนวความคิดที่เกิดเป็นตำนานขึ้นมาเนี่ยหลายคยถามว่าทำไมเราจะต้องยึดแนวหลักนี้แล้วสืบสานตำนานเหล่านี้ไปให้คนยุคหลังได้รู้จักกันเราจะมาคุยกับแขกรับเชิญของเราค่ะคงจะต้องเรียนถามคุณสุรชัยหรือน้าหงาก่อนนะค่ะแต่งเพลงนี้ขึ้นมาเนี่ยด้วยความรู้สึกอะไรเพลงไพเราะมากเลยนะค่ะ

คุณสุรชัย : คือด้วยความศรัทธานะในความคิดคือผมไม่เคยรู้จักเป็นส่วนตัวนะครับ

พิธีกร : ค่ะ ไม่เคยพบกันเลยใช่ไหมค่ะ

คุณสุรชัย : คงจะไม่ได้พบกันเพราะว่าท่านก็เสียไปตั้งแต่ พ.ศ. 2508 ผมก็กำลังจะย่างเข้ากรุงเทพพอดีช่วงนี้ก็คงจะไม่ได้เจอกันแน่ แต่ว่าวีรกรรมที่ทำไว้มากมาย พวกพี่ๆรุ่นพี่หรือเป็นนักเขียนนั้นเล่าให้ฟังบ้าง ก็ไม่ได้แจ่มชัดอะไรมากนักที่นี้ว่าเรื่องที่มาเขียนเพลง จิตร ภูมิศักดิ์นั้นช่วงของ 14 ตุลาปี 16 นะครับหลังจากนั้นก็ไปมีผลสะเทือนทางความคิดมากก็มีคนเล่าเรื่อง จิตร ให้ฟังครับ ผมก็รู้สึกสนใจและได้ไปค้นคว้าในระดับหนึ่ง รู้ว่าเป็นนิสิตจุฬาที่โดนจับโยนบกเพราะทำหนังสือ โยนบกนี้ถือว่าไม่ธรรมดานะครับ หลังหักแทบพัง

พิธีกร : อ๋อ ค่ะๆ

คุณสุรชัย : ก็ แค่นี้ก็ถือว่าเป็นวีรกรรมที่สะดุดแล้วนะรับ เพราะว่าข้อหาที่เขาโดนโยนบกก็คือเป็นพวกหัวรุนแรงอะไรทำนองนั้นยิ่งน่าสนใจไปใหญ่

พิธีกร : ทำหนังสือที่แปลกไปจากหนังสือที่เขาทำมาหนังสือรำลึกถึงวันปิยะมหาราชใช่ไหมค่ะ

คุณสุรชัย : ก็ในแง่กล่าวโดยความเป็นนิสิตจุฬาในสมัยนั้นค่อนข้างจะเป็นมหาลัยที่พัฒนาว่านั้นเพราะฉะนั้นติดมาหนึ่งก็ถือว่าเป็นปีศาจแล้วว่าอย่างนั้น

พิธีกร : ค่ะ ก็เลยรู้สึกสนใจและติดตามงานเขียนหรือค่ะ

คุณสุรชัย : งานเขียนผมไม่ได้อ่านครับเพราะว่า 2500 ขึ้นมาเนี่ยก็ไม่ค่อยมีใครรับรู้เรื่องราวเหล่านี้คนเหล่านี้ติดคุกมั้ง เข้าป่ามั้ง

พิธีกร : เนี่ยคือมุมมองของคนที่ไม่เคยเจอแต่ได้ยินชื่อเสียงบรรดานักเขียนรุ่นพี่ๆเล่าให้ฟังมาที่นี้จะต้องเรียนถาม อ. ชาญวิทย์นะค่ะคุณ จิตร ภูมิศักด์เนี่ยถ้าถามกันจริงๆ เนี่ยต้องยกย่องให้เป็นนักอะไรค่ะ นักคิด นักเขียนหรือว่านักต่อสู้

ดร.ชาญวิทย์ : ถ้าเราศึกษาชีวิตผลงานของ จิตร ภูมิศักดิ์ให้ลึกลงไปอีกเราก็จะเห็นว่า จิตรภูมิศักดิ์เป็นอะไรต่อมิอะไรอีกหลากหลายมาก เพราะฉะนั้นความเป็นอะไรต่อมิอะไรอันหลากหลายของคุณ จิตรนี่ ผมคิดว่าเขาน่าสนใจมาก

พิธีกร : ค่ะ

ดร.ชาญวิทย์ : คือมีมุมมองเยอะเลยนะครับ คือบ้างคนอาจจะชอบ จิตร ภูมิศักดิ์แค่ว่าเขาแต่งเพลงบางคนที่เจาะลึกมากๆเลยก็ชื่นชมผลงานอย่าง ผลงานที่เป็นเล่มหลังปริญญาเอกนะครับถึงแม้ว่าเขายังไม่ได้ปริญญาโทก็ตาม จบอักษรศาสตร์จุฬานะครับแต่ว่างานที่ว่าความเป็นมาของคำสยามนะครับเล่มนั้นนะผมคิดว่ายิ่งกว่าวิทยานิพนธ์เสียอีก ดังนั้นนี่คือความหลากหลาย ความมีเสน่ห์ของ จิตร ภูมิศักดิ์ โดยตัวของผลงานนะครับและผมคิดว่าบ้างทีคุณจิตร ภูมิศักดิ์อาจจะโชคร้ายที่เสียชีวิตเร็วเกินไปถ้าเขาอยู่จนมาถึงปัจจุปันเขาก็จะมีอายุ 74 ปี

พิธีกร : 74 ค่ะ

ดร.ชาญวิทย์ : 74 ปีนะครับ คุณ จิตร นั้นไปสิ้นชีวิตที่สกลนครปี 2509 ที่คุณหงาแต่งไว้ว่าพฤษภา 2509 แรงร่มเงาจางหายดังนั้นคุณ จิตร ก็เสียชีวิตไปเมื่อมีอายุ 36 เท่านั้นเองก็คือตายเมื่อหนุ่มนี่นะครับก็เลยกลายมาเป็นความอมตะ

พิธีกร : อ๋อ ค่ะๆ

ดร.ชาญวิทย์ : คือ จิตรนี่จะไม่มีทางแก่เลยนะครับ โดยเห็นรูปเป็นเด็กและก็เป็นหนุ่มนะครับอันนี้เป็นทั้งโชคร้ายและโชคดีไปในตัวแต่ว่าความตายทำให้ขาเป็นอมตะแล้วเขาเกิดครั้งที่ 2 โดย จิตร ภูมิศักดิ์ เกิด 2 ครั้ง

พิธีกร : ทำไมค่ะ

ดร.ชาญวิทย์ : เกิดครั้งแรกก็คือเกิดจริงๆ นะครับแต่พอหลังเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2516 นะครับผมคิดว่า จิตร เกิดใหม่นะครับเกิดใหม่ที่ ผมคิดว่าพี่ทองใบ ทองเปาว์ ก็มีส่วนนะครับ

พิธีกร : ค่ะ

ดร.ชาญวิทย์ : มากๆนะครับ เหมือนผม ผมก็เหมือนกับหงาและครับผมไม่เคยอ่านงานและไม่เคยเจอมมาก่อน 14 ตุลา แต่หลังจาก 14 ตุลา ผมว่าหนังสือที่สำคัญมากๆ เลยเล่มหนึ่งคือ คอมมิวนิสต์ลาดยาวของทองเปา ทองเปาว์

พิธีกร : คงจะเขียนเรื่องมหาวิทยาลัยลาดยาวนะค่ะ

ดร.ชาญวิทย์ : ครับ มันทำให้เรารู้จักเป็นครั้งแรกนะครับและตอนนั้นก็มีงานศิปะเพื่อชีวิต ศิลปะเพื่อประชาชนออกมาก่อนหน้านั้นหน่อยและจะตามมาด้วยหนังสือที่สนใจมากหลายเรื่องมันก็ทำให้เราหันมาสนใจตามอ่าน จากนั้นก็เลยสนใจเรื่องของชีวิต จิตร ภูมิศักดิ์ขึ้นมา

พิธีกร : เมื่อ อาจารย์ศึกษาชีวิตความเป็นมาชีวิต จิตร ภูมิศักดิ์ อาจารย์พอจะมองได้ไหมค่ะจุดเริ่มต้นของแนวความคิดที่แปลกแยกมาจากไหนมาอย่างไร

ดร.ชาญวิทย์ : จริงๆแล้วเราจะเรียกอย่างนั้นก็ได้นะครับอันนี้ก็ต้องบอกว่าสังคมไทยในส่วนหนึ่งก็ทำให้คนที่จะต้องสู้ด้วยสันติวิธีต้องไปจับอาวุธก็มี

พิธีกร : อาจารย์บอกว่าถูกกดดันใช่ไหมค่ะ

ดร.ชาญวิทย์ : แน่นอนคนเรานะครับถ้าไม่ถูกกดดันไม่ทำแน่นอน อันนั้นเป็นส่วนหนึ่งและก็เป็นความเชื่อส่วนบุคลนะครับว่าแนวทางอย่างนี้เป็นแนวทางที่ถูกต้องนะครับ แต่ว่าคนเรานี่กว่าจะไปถึงจุดๆหนึ่งของการมีความคิดอะไรบ้างอย่างต้องใช้เวลาเพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นมาโดยอัตโนมัตผมเข้าใจว่าเราเริ่มกลับไปดูงานของคุณ จิตร ภูมิศักดิ์ อย่างเช่นหนังเรื่องโหมโรงนะครับ

พิธีกร : ค่ะ

ดร.ชาญวิทย์ : คุณ จิตร เขียนเอาไว้เมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว มหัศจรรย์มากนะครับ งานตอนนั้นประมาณปี 2497 เล่นดนตรีไทยนี่ดีดจะเข้นะครับ

พิธีกร : ซึ่งเป็นดนตรีไทยที่คุณ จิตร ถนัดด้วยแล้วก็เล่นได้ดีที่สุดด้วย

ดร.ชาญวิทย์ : แล้วก็มีจะเข้ของคุณ จิตรด้วยอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แรงงานนะครับ อันนี้เป็นสมบัติของคุณจิตรที่ยังอยู่ตกทอดในปัจจุบัน

พิธีกร : คงจะต้องเรียนถาม อ. ทองใบว่าต้องนั้นที่คุณ จิตรอยู่ในคุกกับ อ. ทองใบนั้นเป็นระยะเวลา 6-7 ปีได้ ใช่ไหมค่ะอาจารย์ อาจารย์เป็นเพื่อนกันมาก่อนใช่ไหมค่ะหรือรู้จักกันมาก่อนใช่ไหมค่ะ

อ.ทองใบ : ก็อยู่กันคนละสถาบันนะครับ ผมอยู่ธรรมศาสตร์ จิตรเขาอยู่จุฬา ก็โคจรมาพบกันเมื่อปี 2496 เราทำงานด้วยกันตั้งแต่นั้น เป็นพนักงานพิสูจน์อักษรนะครับและในระหว่างทำงานนี่ จิตรก็เริ่มวิจารณ์หนังสือ จิตรนี่จะชอบอ่านหนังสอมากเป็นพิเศษในสมัยนั้น

พิธีกร : ค่ะ เขาอ่านแล้วเขาเคยคุยกับ อาจารย์ไหมค่ะว่ามีความรู้สึกอย่างไรกับลิทธิเหล่านั้นมีความแนวความคิดอะไรแปลกๆออกมาและถ่ายทอดออกมาให้เราๆได้รับฟังบางไหมค่ะ

อ.ทองใบ : ไม่ได้คุยหรอกครับ

พิธีกร : ค่ะ

อ.ทองใบ : คงจะเป็นเพราะว่ารู้กันอยู่ก็เลยไม่คุยแต่ก็คิดว่าไปกันได้นะ

พิธีกร : ค่ะ และหลังจากถูกข้อหาเป็น กบฏใช่ไหมค่ะ

อ.ทองใบ : ครับตอนนั้นเราก็อยู่ด้วยกันจนร่วมปีกว่าๆแล้วจิตรเขาก็กลับไปเรียนต่อจนกระทั่งจบมาซึ่งตอนนี้เราก็จะไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยๆนะครับ

พิธีกร : ไปเจอกันอีกทีก็ที่ลาดยาวหรอกค่ะ
อ.ทองใบ : ไม่ๆ

พิธีกร : อาจารย์ขาอยากให้ อาจารย์เล่าชีวิตความเป็นอยู่ที่คุกลาดยาวที่อยู่กันมา 6-7 ปีคุณจิตรนี่ใหม่ๆเพื่อนๆที่ติดคุกด้วยกันจะประนามคุณจิตรว่าเป็นตัวเจ้าปัญหาเรียกร้องอย่างนั้นอย่างนี้แต่สุดท้ายนี่ทุกคนได้ผลประโยชน์เท่ากันหมด โดยการเรียกร้องของคุณ จิตร นี่ยังไงค่ะ อาจารย์เล่าให้ฟังหน่อย

อ.ทองใบ : ที่เขาบอกว่า จิตรนี่เจ้าปัญหาเป็นความจริงนะ แต่ว่าเจ้าปัญหาของเขาคือปัญหาที่ว่าคนเป็นคนที่ไม่ยอมต่อความไม่ถูกต้องอย่างตอนที่เขาสอบสวนเนี่เขาจะทะเลาะกับพนักงานสอบสวนซึ่งชอบใช้อำนาจและบิดเบือนข้อเท็จจริง จิตมีความรู้ดีมากจนกระทั่งมีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนหลายคน ซึ่งจิตกล้าต่อสู้กล้ายอมรับความจริง เขาก็ไม่ยอมแข็งเสมอ มีบางคนยอมอ่อนให้อำนาจอธรรมแต่จิตเขาไม่ยอม หลังจากนั้นเขาย้ายไปติดคุกที่ห้องขังที่สุดเขาก็ไปลาดยาว เข้าลาดยาวก่อนผมตรงนี้ที่ถามว่าจิตรเป็นคนหัวแข็งมาก ตอบว่าใช่เขาเป็นคนหัวแข็ง บางที่คนเขาก็นึกว่าเราเป็นอันธพาล แต่เป็นอันธพาลที่ต่อสู้กับอำนาจที่ไม่เป็นธรรมต่อสู้เพื่อสิทธิ

พิธีกร : ค่ะอันนี้เขาก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็น อ.ชาญวิทย์ขาผลงานของคุณจิตร ภูมิศักดิ์ในขณะที่อยู่ในคุกลาดยาวมีหนังสือออกมาหลายเล่มด้วยกัน ซึ่งในแต่ละเล่มเป็นไปในทิศทางของลัทธิคอมิวนิสต์เกือบจะทั้งหมดจริงหรือเปล่าค่ะ

ดร.ชาญวิทย์ : ไม่จริง เข้าใจว่าตอนคุณจิตรอยู่ในคุกตอนที่สมัยพี่ทองใบผมว่าที่คุณจิตรค้นมากๆ ก็คือความเป็นมาของคำสยาม ซึ่งผมคิดว่างานเล่มนี้เป็นงานทางด้านภาษาศาสตร์ เป็นงานที่เยี่ยมที่สุดผมเคยเห็นมา

พิธีกร : ค่ะ

ดร.ชาญวิทย์ : ซึ่งเราได้นำมาจัดพิมพ์ เพราะว่าหนังสือเล่มนี้เป็นงานที่เยี่ยมมากๆ คือมันเป็นงานที่ชี้ให้เห็นปัญหาจริงๆของความเป็นมนุษย์ แล้วจะแก้กันอย่างไร ถ้าจะให้พูดกันใน 200 ปีที่ผ่านมาถ้าจะมีจะนักพิมพ์นักเขียน เราสมมุติขึ้นว่ามี 20 คน คุณจิตร ภูมิศักดิ์ต้องเป็นหนึ่งในนั้น

พิธีกร : ต้องเป็นหนึ่งในนั้นนะค่ะ ค่ะมีคำถามากท่านผู้ชมทางบ้าน คุณสมจิตร บางแคคะถามน้าหงานะค่ะ ว่าน้าหงาอ่านหนังสือเล่มไหนของคุณจิตรบ้าง

คุณสุรชัย : ผมอ่านอยู่เรื่องเดียวครับ ผมจำไม่ได้เรื่องอะไร

พิธีกร : อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างค่ะ

คุณสุรชัย : ก็รู้สึกว่า อ่านย้อยหลังมาหลายปี ไปอ่านอีกทีตอนที่อยู่ในป่า ก็เลยทำให้เข้าใจมากขึ้น แล้วทำให้เรากล้าแสดงออก กล้าพูดกล้าทำ

อ.ทองใบ : ขอเสริมนิดนึงนะครับ ตอนที่อ.ชาญวิทย์ พูดถึงเมื่อซักครู่ความเป็นมาของเขาในสยามนี้ ผมเป็นคนเขียนคำนำเอง เพราะว่าตอนนั้นคุณแม่กับคุณพี่ดูแลหนังสือเรื่องนี้อยู่หนังสือเรื่องนี้เราเขียนแบบวัตถุนิยม ซึ่งในสมัยนั้นวัตถุนิยมจะถือว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งในสมันนั้นประชาชนที่ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม ต่อสู้เพื่อสันติภาพก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งงานเขียนของคุณจิตร จะเกี่ยวกับตรงนั้น ซึ่งความคิดของเขาตรงนั้นจะต่างจากคนอื่นเขาก็ถูกมองว่าเป็นคอมมิวนิสต์

พิธีกร : อย่านี้ต้องเรียนถามอ.ชาญวิทย์ว่า ถ้าหากคุณจิตรยังมีชีวิตอยู่เราจะเรียกคุณจิตรว่าอย่างไรดี เราจะเรียกว่านิยมลัทธิคอมมิวนิสต์ เราคงจะไม่เรียกอย่างนั้นใช่ไหมค่ะ แต่ด้วยความกดดันในเรื่องระบอบการปกครอง หรือว่าผู้นำในขณะนั้นทำให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นใช่ไหมค่ะ

ดร.ชาญวิทย์ : ในช่วงชีวิตนั้นนะครับ เมื่อคุณจิตรตัดสินใจเข้าป่า เข้าไปร่วมกับการปฎิวัติกับพวกคอมมิวนิสต์ผมว่าเราต้องศึกษาในฐานะของเขาตอนนั้น ในสมัยนั้นอะไรหลายอย่างมันเปลี่ยนไม่ได้แล้ว

พิธีกร : ค่ะ จะขออนุญาตอ.ชาญวิทย์ และอ.ทองใบนะค่ะ เพราะน้าหงาจะต้องขอตัวกลับก่อน มีคำถามจากทางบ้านถามน้าหงา เรื่องของเพลงค่ะ ถามว่าเพลงของจิตรอยู่ในอัลบั้มไหน เพราะว่าไปซื้อซีดีมาฟังไม่มีเพลงนี้ค่ะ คุณบัณฑิต จากโคราช

คุณสุรชัย : ถ้าคนติดตามก็จะรู้ว่าอยู่ในอัลบั้มไหน มันเป็นอยู่ในระยะแรกๆ ครับ ทีนี้มันก็อัดอีกหลายครั้งนะครับ ผมคิดว่าคงหาได้ไม่ยากเท่าไรนัก

พิธีกร : ค่ะ วันคอนเสิร์ตน้าหงาจะเล่นตอนกี่โมง จากคุณดอนรามคำแหง

คุณสุรชัย : ตอนเย็นๆ ใช่ไหมครับ อาจารย์ครับ

ดร.ชาญวิทย์ : 3 โมง

คุณสุรชัย : ผมไม่ค่อยรู้รายละเอียด

พิธีกร : ค่ะ มีคะคำถามอีกนิดนึง น้าหงาใช้เวลาแต่งเพลงจิตร นานไหม?

คุณสุรชัย : อ๋อ โดยระยะแรกผมเขียน 2 ท่อนก่อน คือท่อนแรกกับท่อนสุดท้าย แล้วหลังจากนั้นร้องไปอยู่พักใหญ่ รายละเอียดไม่เพียงพอมีคนมาเพิ่มเติมให้ คือคุณนิสิต วีระโสภณ ซึ่งตอนนี้ท่านได้เสียไปแล้ว เป็นนักศึกษาม.เชียงใหม่

พิธีกร : ก็เลยแต่งเพิ่ม

คุณสุรชัย : แต่งเพิ่มเข้ามา

พิธีกร : ค่ะ ใครร้องบ้างค่ะเพลงนี้ เอาเป็นว่าเพลงนี้ร้องกันมานานแล้วหาซื้อได้ตามแผงเทป วันอาทิตย์นี้คงเจอน้าหงาที่คอนเสิร์ตได้

คุณสุรชัย : ครับก็คงมีคนเอามาขายละครับ

พิธีกร : เอาละค่ะ จะขออนุญาตท่านผู้ชมพักกันตรงนี้นะค่ะทำไมเยาวชนคนรุ่นหลัง ทำไมต้องรู้จักชายคนนี้มากขึ้น สักครู่เดียวค่ะ

เสียงสัมภาษณ์จากเยาวชน

พิธีกร : แหมอาจารย์ขา ฟังน้องคนสุดท้ายพูดรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหนึ่งนะค่ะ เพราะอย่างน้อยที่สุดก็ยังมีคนรู้จักคุณจิตร ภูมิศักดิ์ ในฐานะนักต่อสู้คงจะต้องเรียนถามอาจารย์ทองใบนิดหนึ่งนะค่ะ ทั้งอาจารย์ และคุณจิตร เป็นนักโทษการเมืองนะค่ะใช่ไหมค่ะ?

อ.ทองใบ : ครับ เราถูกจับในประเด็นการเมือง แต่ว่าทั้งคุณจิตรและผมไม่ได้ทำผิดนะ

พิธีกร : จริงๆนักโทษการเมืองอยู่ในคุกไม่ต้องทำอะไรก็ได้

อ.ทองใบ : ไม่ต้องทำครับ แต่เราทำเพราะว่า เราถือหลักช่วยตัวเอง

พิธีกร : ค่ะ มีท่านผู้ชมทางบ้านหลายคนสนใจ ว่าตอนที่คุณจิตรยังมีชีวิตอยู่ อายุเท่าไรทำไมอายุสั้นจัง จากคุณบุญมา มหาสารคาม

ดร.ชาญวิทย์ : เสียชีวิตเมื่ออายุ 36 ปี

พิธีกร : อายุ 36 เท่านั้นเองนะค่ะ

ดร.ชาญวิทย์ : ที่จ.สกลนคร

พิธีกร : เรื่องขอคอนเสิร์ตนิดหนึ่ง มีคนสนใจมากเลยค่ะ ทำไมถึงจัดรอบเดียวค่ะ อยากดูมากเลยแต่ตอนบ่ายวันอาทิตย์ไม่ว่าง จะมีอีกไหมค่ะอาจารย์

ดร.ชาญวิทย์ : อันนี้ต้องถามหงาครับ ว่าจะยอมไหมจะเล่นให้รึเปล่า อยากชวนให้ไปดูกันสำหรับคนรุ่นใหม่
พิธีกร : อาจารย์ขา กองทุนจิตร ภูมิศักดิ์ ก่อตั้งขึ้นมาก็อยากให้หลายคนช่วยสนับสนุนและดูแลต่อไปด้วย ถ้ามีผู้จะร่วมบริจาคสมทบทุนจะทำอย่างไรค่ะอาจารย์

ดร.ชาญวิทย์ : คือเราอยากชักจูงผู้ที่สนใจร่วมบริจาค ซึ่งเราเปิดบัญชีไว้ที่ธนาคารทหารไทย สาขาท่าพระจันทร์ ถ้าบริจาค 1,000 บาทขึ้นไปเราจะมีหนังสือสมนาคุณ

พิธีกร : ถ้าจะแนะนำเด็กรุ่นใหม่ว่าถ้าอยากรู้จักคุณจิตร ภูมิศักดิ์ให้มากขึ้น อยากรู้แนวคิดว่าบุคคลนี้มีความสำคัญอย่างไร ควรจะอ่านหนังสือเล่มไหนบ้างค่ะ

ดร.ชาญวิทย์ : ถ้าชอบท่องเที่ยวนะครับ ต้องอ่านตำนานแห่งนครวัตร เป็นหนังสือที่เยี่ยมเลยครับ ทำให้เราเข้าใจเรื่องเพื่อนบ้านกันดีเลย

พิธีกร : อาจารย์ขาขออนุญาติจริงๆนะค่ะ วันนี้เวลาหมดแล้ว ขอบคุณทั้ง 3 ท่านอย่างสูงค่ะ วันนี้เราได้รับรู้แล้วว่าจิตร ภูมิศักดิ์คือใคร มีความสำคัญอย่างไร วันนี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ
กำลังโหลดความคิดเห็น