กรุงเทพฯ - คนมีบุญพอกับคนมีบุญไม่พอแตกต่างกันตรงไหน? ล่าสุด วอนพุทธศาสนิกชนเลิกโต้เถียงกันได้แล้ว เผยชัด “คนมีบุญพอ” ต้องแต่งองค์ทรงเครื่องแบบเดียวกับปรากฏในภาพ ผิดจากนี้แสดงว่าเป็นพุทธศาสนิกชนที่บุญยังไม่พอ
เป็นที่ถกเถียงกันมาตั้งแต่อดีตกระทั่งยุคปัจจุบันก็ยังมีคำถามอยู่บ่อยๆ ว่า คนที่มีบุญวาสนาอันแท้จริงนั้น ผู้คนธรรมดาสามัญทั่วๆ ไปจะสังเกตจากตรงไหน หลายคนบอกว่าให้สังเกตจากคนที่ทำบุญด้วยเงินเยอะๆ บางคนบอกว่าต้องไปวัดบ่อยๆ ขณะที่อีกฝ่ายฟันธงว่า ต้องไหว้พระ 9 วัด ส่วนอีกพวกหนึ่งยืนยันว่า คนที่บุญหนักศักดิ์ใหญ่ให้มองจากผิวพรรณที่ผ่องใส รวมทั้งเหตุผลอีกมากมายหลายประการ กระนั้นยังหาข้อยุติไม่ได้ว่าเอาเข้าจริงๆ แล้ว คนมีบุญ หรือคนที่บุญมีพอ มีอะไรให้เป็นเครื่องมือตัดสิน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พุทธศาสนิกชนไทย สามารถตัดสินได้เด็ดขาดเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าคนไหนกันแน่ที่เป็นคนบุญพอตัวจริงเสียงจริง นั่นคือ คนผู้มีพอจะสังเกตจากการแต่งกายซึ่งคนดังกล่าวจะแต่งกายด้วยชุดละม้ายนกยูงสีทอง อันแสดงให้เห็นถึงการสั่งสมบุญกุศลมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นเด็ก ที่สำคัญยังต้องบริจาคปัจจัยในจำนวนที่เพียงพอต่อการเป็นคนมีบุญถึง ส่วนใครที่เป็นพุทธศาสนิกชนผู้ยังไม่สามารถแต่งองค์ทรงเครื่องแบบนี้ได้ ที่สำคัญคือใจไม่กล้าพอจะสวมชุดดังกล่าว แสดงว่าเป็นชาวพุทธแท้ที่ยังมีบุญไม่พอ หรือฟันธงตรงๆ แรงๆ เลย คือ เป็นชาวพุทธที่มีบุญน้อยนั่นเอง
“เป็นอันยุติข้อโต้แย้งกันแล้วนะจ๊ะคุณโยม เฮ้อ! ต่อจากนี้ไปพุทธศาสนาของเราจะไปถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์กันจริงๆ ซะที สตีฟ จ็อป เค้ารออยู่บนนั้นจนเบื่อแล้วแหละ เนี่ย...ก็เห็นกันโจ๋งครึ่มตามหน้าสื่อต่างๆ ทั้งสื่อหลัก สื่อออนไลน์ ใครอยากรู้ว่าคนไหนใครมีบุญพอ มีบุญถึง ก็ให้สังเกตจากการแต่งองค์ทรงเครื่อง มันสูงส่ง สง่างาม ล้ำค่า เพราะมูลค่าชุดของคนบุญพอนี่เป็นพันล้านบาท กว่าจะสะสมแต้ม เก็บคะแนนบุญจนสวมชุดนี้ได้ไม่ใช่ขี้ๆ แบบพวกตาสียายสาเสียเมื่อไหร่ ใครอยากมีบุญพอก็ต้องกล้าแบบนี้” ธัมมี่ ย้ำเสียงชัด