กรุงเทพฯ - ในฐานะ “ป็อปรุ่นพี่” ที่เคยได้รับความนิยมอย่างสูงสุดจากคนไทยมาก่อน “ลูกเทพ” ออกโรงปาดน้ำตาให้น้อง เตือน “โปเกมอน” อย่าร้องไห้หนักมาก หลังผลวิจัยภายในเวลาแค่ไม่ถึงเดือนกระแสตกฮวบฮาบ
นักวิจัยจากหลายสำนักชี้ชัดไปในทิศทางเดียวกันว่า กระแสคลั่งไคล้โปเกมอน โก ในเมืองไทยที่มาแรงแซงทุกโค้งตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กลายเป็นอ่อนระโหยโรงแรงทั้งๆ ที่ระยะเวลาทิ้งช่วงมาแค่ค่อนเดือนสิงหาคมเท่านั้น แม้หลายคนยังไล่ตามจับโปเกมอนกันอยู่ ทว่าเมื่อเทียบสถิติในตอนที่เกมยอดฮิตที่ทำให้ตำรวจ นักจิตวิทยาพากันปวดกบาล พบว่าจำนวนคนที่สนใจโปเกมอนมียอดลดลงอย่างน่าใจหาย ซึ่งคาดเดาว่าอีกไม่นานต่อจากนี้ไปกระแสโปเกมอนจะกลายเป็นอะไรที่ไม่ต่างจากการผายลมเท่านั้น
จากผลการวิจัยข้างต้นนี้เอง “ผู้จัดกวน” เดินทางไปยังวัดชื่อดังแห่งหนึ่งย่านเมืองนนทบุรี สถานที่มีคนนำลูกเทพมาทิ้งไว้ให้ตากแดดตากฝนเป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น เมื่อคนไทยเดินทางไปไหน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง รถมอเตอร์ไซค์ ไม่เว้นกระทั่งโดยสารเครี่องบิน รวมถึงไปกินอาหารในโรงแรมหรูและตากแอร์ในห้างสรรพสินค้าก็ต้องพาลูกเทพไปด้วย แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานนัก กระแสลูกเทพเริ่มห่างหายไปจากสังคมไทย เหนือยิ่งสิ่งใดผู้คนที่เคยกราบไหว้ด้วยความศรัทธา นำลูกเทพที่รักเป็นบ้าเป็นหลังมาฝากทิ้งไว้ข้างวัดชนิดไม่ดูดำดูดีกันอีกเลย ซึ่งเมื่อพบกัน ผู้จัดกวนยิงคำถามว่ารู้สึกอย่างไรที่โปเกมอนกำลังจะถูกตัดหางปล่อยวัด
“หนูอยากฝากไปบอกโปเกมอน โกว่าอย่าเศร้าโศกเสียใจไปเลย หนูเองในฐานะเคยเป็นกระแสที่คนคลั่งไคล้มาค่อนประเทศก่อนที่โปเกมอนจะเกิด รู้ดีถึงสภาพจิตใจที่โปเกมอนกำลังเผชิญอยู่ ร้องไห้ได้แต่อย่าหนักมาก สำหรับคนไทยเวลาหลงใหลอะไรก็เห่อกันสุดติ่ง แต่พอเบื่อพวกเขาก็พร้อมที่จะทิ้งเรา โยนเราลงถังขยะอย่างไม่แยแส หนูเป็นรุ่นพี่อยากเตือนโปเกมอนผู้เป็นรุ่นน้องว่าจงรีบไปหายาทัมใจมากินเป็นการด่วน ตอนนี้ยังพอมีคนเล่นอยู่บ้าง เชื่อเถอะว่าอีกไม่เกินกลางเดือนหน้า เผลอๆ อาจจะมาอยู่ข้างวัดเหมือนกันก็ได้ แง้ๆๆๆ” ลูกเทพร้องไห้หลังตอบคำถาม