ปทุมธานี - “หลวงพ่อนะจ๊ะ” ใช้วันอาสาฬหบูชาเผยโฉมต่อบรรดาสาวก ฝากศิษยานุศิษย์ช่วยถามดีเอสไอ บอกให้ชัดบุกจับวันไหนแน่ เผยเกร็งมาหลายหนแล้ว เหน็บ “ขีดเส้นตาย” จนปากกาขาดตลาด แนะไหนๆ ก็ไหนๆ ลากเวลาไปวันออกพรรษาสะดวกสุด
ที่วัดจานบินช่วงเช้าของวันวานที่ผ่านมา หลวงพ่อนะจ๊ะนั่งมาในรถเข็นเคลือบทองคำแท้ที่มีลูกศิษย์ใกล้ชิดทำหน้าที่เป็นผู้เข็นรถอยู่ด้านหลัง โดยมีคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่า 10 คนติดตามมาอีกโขยงใหญ่ ท่ามกลางความดีอกดีใจของเหล่าสาวกนับหมื่นคนที่เฝ้ารอการปรากฏตัวของหลวงพ่อธัมมี่ผู้พร่ำบอกตอกย้ำเรื่องจะพาทุกๆ คนมุ่งสู่สรวงสวรรค์ให้จงได้ เพียงแต่ต้องทุ่มเงินในการทำบุญให้มากที่สุดเท่าที่จะหามาได้สำหรับปูทางสะดวกนั่นเอง
ทันทีที่หลวงพ่อนะจ๊ะโบกมือในท่าทางเดียวกับผู้ประกวดมิสยูนิเวิร์สไปรอบๆ บริเวณวัด เสียงสาธุ...สาธุ...ซ้าธุ กังวานกระหึ่มจนดังไกลไปกว่าสิบกิโลเมตร ส่งผลให้หลวงพ่อหน้าบานเป็นจานดาวเทียม จากนั้นกล่าวคล้ายเสียงกระซิบกระซาบใส่ไมโครโฟนว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของวัดจานดาวเทียม แม้ตนจะไม่เปิดเผยว่าจะปรากฏตัว แต่ด้วยศรัทธาบารมีจึงดลบันดาลให้คนดีๆ มารวมตัวกันในจานดาวเทียมลำนี้โดยมิได้นัดหมาย หลายคนเท่าที่ดูโหงวเฮ้งรับรองว่าอีกไม่นานจะได้ขึ้นไปบนสวรรค์แน่นอน ส่วนอีกหลายคนอัตราการทำบุญยังไม่คงเส้นคงวา จึงขอเตือนว่าต้องสละปัจจัยให้เยอะกว่าเดิม
“ลูกศิษย์ของหลวงพ่อหลายคนน้ำตาซึม อีกจำนวนมากร้องไห้โฮที่เห็นหลวงพ่อปรากฏตัว ส่วนใหญ่คิดว่าหลวงพ่อถูกอุ้มจับเงียบๆ ไปแล้ว เพราะดีเอสไอก็ดี ตำรวจก็ดี ทหารก็ดีประโคมข่าวว่าขีดเส้นตายจะจับหลวงพ่อมาหลายครั้งหลายหน หลวงพ่อเองบอกตามตรงนะจ๊ะ มีเกร็งอยู่บ้าง ก็เขาบอกจับแน่ จนแล้วจนรอดก็ไม่จับ ขีดเส้นตายให้หลวงพ่อจนปากกาเกลี้ยงตลาด ฉะนั้นเนื่องในวันสำคัญของพุทธศาสนาหลวงพ่ออยากฝากไปถามดีเอสไอจะมาจับหลวงพ่อวันไหนเอาให้ชัวร์ วันอาสาฬหบูชามาจับไม่ได้แล้ว กำลังจะผ่านไปแล้ว เอาเป็นออกพรรษาดีมั้ย ช่วง 3 เดือนจากนี้ไปหลวงพ่อไปจำวัดที่อื่นไม่ได้ มันผิดหลักผิดศีล ที่สำคัญคือฝ่ายดีเอสไอจะได้ไม่ต้องขีดเส้นตายให้เมื่อยมืออีก หลวงพ่อเองก็จะได้ไม่ตกอยู่ในอาการเกร็ง อย่าลืมละ บอกให้แน่จับวันไหน” หลวงพ่อนะจ๊ะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเนิบเนือย เล่นเอาสาวกยิ้มแก้มตุ่ยก่อนจะโก่งก้นกราบด้วยความพร้อมเพรียง
