ปทุมธานี - ลูกศิษย์ทั้งพระ - ฆราวาสประสานเสียงยืนยัน “หลวงพ่อนะจ๊ะ” เปลี่ยนใจแน่วแน่ เป็นตายร้ายดีไม่ยอมไปสำนักงานดีเอสไอเด็ดขาด อ้างใคร่ครวญถ้วนถี่ดีแล้ว กร้าว “ขอขึ้นไปสวรรค์ดีกว่า” ท้าใครอยากจับตามขึ้นไปเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่ช่วงเช้าจนสายใกล้เพล ยังไม่ปรากฏแม้แต่เงาของ “หลวงพ่อนะจ๊ะ” เดินทางไปยังสำนักงานดีเอสไอตามที่เจ้าพนักงานขีดเส้นตายไว้ ซึ่งหลายคนคาดเดาว่าท้ายที่สุดคงไม่มาตามที่สื่อมวลชนและสาวกรอคอยอย่างแน่นอน เพื่อให้เกิดความกระจ่าง ผู้จัดกวนสอบถามไปยังลูกศิษย์ใกล้ชิดทั้งคนห่มเหลือง รวมทั้งฆราวาสที่เป็นนายแพทย์รายหนึ่ง แต่ไม่อนุญาตให้เปิดเผยชื่อหรือสถานที่ทำงาน
ลูกศิษย์ผู้ห่มเหลืองบอกว่าอันที่จริงหลวงพ่อตัดสินใจและเปิดเผยให้ลูกศิษย์รวมทั้งสาวกทุกผู้ทุกนามรับรู้ร่วมกันมาเป็นเวลานานกว่า 1 เดือนแล้ว เรื่องที่จะไม่ยอมเดินทางไปสำนักงานดีเอสไอตามหมายเรียก หากทางดีเอสไอจะมาเพราะต้องการสอบปากคำก็ขอให้ยกโขยงกันมาเอง เพราะหลวงพ่อป่วยกระเสาะกระแสะด้วยโรคประจำตัวบางอย่าง พยายามให้ทนายรวมทั้งแพทย์ประจำยานอวกาศชี้แจงไปไม่รู้กี่ครั้งเป็นกี่ครั้ง ทางดีเอสไอก็ไม่เชื่อ ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน รวมทั้งเขย่งยันอย่างเดียวคือให้หลวงพ่อเดินทางไปให้ปากคำและรับรู้ข้อกล่าวหาในวันที่ 16 พ.ค. เท่านั้น
“หลวงพ่อท่านเรียกให้เหล่าลูกศิษย์ใกล้ชิดไปพบในห้องนอน บอกกับทุกคนว่าอาตมาต่อให้เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่มีวันเดินทางไปสำนักงานดีเอสไอ แต่หักใจล้านเปอร์เซ็นต์โดยที่ไม่เคยปริปากบอกใครๆ หรือลูกศิษย์สาวกคนไหนมาก่อน นั่นคือหลวงพ่อขอเปลี่ยนเส้นทาง จากเดินทางไปสำนักงานดีเอสไอขอเปลี่ยนไปเส้นทางสู่สรวงสวรรค์แทน โดยที่ลูกศิษย์รายไหนก็ทัดทานไม่ได้”
ฝ่ายนายแพทย์ผู้เป็นคนใกล้ชิดเสริมว่า ณ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าหลวงพ่อจะเปลี่ยนเส้นทางจากสำนักงานดีเอสไอแล้วมุ่งหน้าไปสวรรค์วันไหน เวลาใด แต่เท่าที่ตนวินิจฉัยคาดการณ์ว่าเหลือเวลาอีกไม่นานนัก เหตุผลคือหลวงพ่อมีความตั้งใจมาก ที่สำคัญด้วยบุญญาบารมีที่ท่านสั่งสมมาเป็นเวลาช้านาน หนทางสู่สรวงสวรรค์เปิดรอรับเป็นกิจพิเศษอยู่แล้ว ส่วนใครจะตามไปจับขอเชิญตามไปได้เลย