กรุงเทพฯ - ตำรวจไทยบินด่วน อเมริกา คว้าหมับจับอยู่มือต้นเหตุ กดไลค์ กดแชร์ ที่เป็นความมั่นคงในไทยอยู่ตอนนี้ เจ้าตัวเป็นฝรั่งวัยกระเตาะ รวบตัวได้ขณะบรรยายอยู่ในสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่
กดไลค์ภัยมั่นคง กดแชร์ภัยรัฐบาล กลายเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อตำรวจไทยเลิกจับปลาซิวปลาสร้อย เหล่าเด็กๆ นักศึกษากะลาครอบที่อยากเป็นซัมบอดี้ด้วยการสร้างซัมสตอรี่ขึ้นมาดังอย่างกลุ่มเจ๊นิว รัดศาสตร์ เอ๊ย! จ่านิว รัดศาสตร์ หันไปจับต้นตอไลค์และแชร์มหาภัยตัวเอ้ระดับที่โลกต้องสะเทือน โดยบินด่วนไปที่ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ถิ่นพำนักของต้นเหตุ การกดไลค์และแชร์ดังกล่าว
เมื่อไปถึงก็ทราบว่าเจ้าตัวไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง จึงขับรถตามไปสวมกุญแจมือคาห้องเลกเชอร์ สร้างความตกตะลึงให้กับนักศึกษาและบรรดาอาจารย์คนอื่นๆไปทั่ว แล้วดิ่งขึ้นเครื่องบินกลับมาไทยในแทบจะทันที
เมื่อเครื่องลงจอดทางตำรวจก็ได้นำผู้ต้องหาซึ่งยังเป็นเด็กหนุ่มฝรั่งผิวขาวหน้าตาแป้นแล้นมาแสดงต่อสื่อมวลชน พร้อมอ้างว่า ถ้าไม่มีนายฝรั่งคนนี้ ก็จะไม่มีการกดไลค์ กดแชร์ ที่เป็นภัยความมั่นคงที่กำลังป่วนรัฐบาล และ คสช.อยู่ในขณะนี้แน่นอน
เมื่อนำตัวผู้ต้องหาออกมา สื่อทั้งไทยและเทศก็ต่างตื่นตะลึง เมื่อปรากฏว่า ที่ตำรวจไทยจับมานั้น คือ นายมาร์ก เอลเลียต ซักเคอร์เบิร์ก วัย 31 ปี เจ้าของและผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก เว็บไซต์โซเชียล มีเดียที่มีอิทธิพลที่สุดในโลกขณะนี้ โดยทางตำรวจยืนยันว่าถ้าไม่มีนายคนนี้ ก็จะไม่มีเฟซบุ๊ก เมื่อไม่มีเฟซบุ๊ก ก็จะไม่มีการกดไลค์กดแชร์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงตามมาตรา 116 อย่างแน่นอน แหล่งข่าวในสำนักงานตำรวจแห่งชาตินายหนึ่งกล่าว
ข่าวนี้สร้างความตื่นตะลึงไปทั่วโลก หนังสือพิมพ์และนิตยสารชื่อดังต่างบินมาทำข่าวกันจ้าละหวั่น โดยนายซักเคอร์เบิร์ก ก็สารภาพทั้งน้ำตาว่า ที่เฟซบุ๊กมีปุ่มไลค์ปุ่มแชร์ให้ผู้ใช้งานกดก็เพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาสร้างภัยความมั่นคงอย่างที่ใครๆ คิด พร้อมบอกอีกว่าถ้าได้ประกันตัวไป จะไปลบปุ่มไลค์และปุ่มแชร์บนเฟซบุ๊ก เพื่อความสบายใจของใครหลายๆ คน นายซักเคอร์เบิร์ก กล่าวทั้งน้ำตา