ตั้งแต่ปฏิบัติหน้าที่มา “จ่าเฉย” ไม่เคยพูด
อืมม์...แล้วถ้าจ่าแกพูด ทุกคนคงวิ่งกันป่าราบ ไม่ใช่เพราะกลัว “ดอกพิกุล” ที่หล่นออกมาจากปาก หากแต่เกิดอาการขวัญหนีดีฝ่อมากกว่า
แต่...ลืมไม่ได้เด็ดขาดว่า จ่าเฉยหาใช่เป็นใบ้ เออ...แล้วทำไมแกจะพูดบ้างไม่ได้ล่ะ
จ่าแกเป็นตำรวจนี่นา...ต้เองพูดได้สิ
บักแหลม : “จ่าครับ เรื่องนี้เป็นที่ฮือฮามว้ากกก ผมอยากให้จ่าแสดงความคิดเห็นอ้ะ”
จ่าเฉย : “ผมคงหุบปากเฉยๆ เหมือนเดิมไม่ได้ คนไทยต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน”
บักแหลม : “แหม…พอพูดเข้าเท่านั้นแหละ เหมือนมีอะไรอึดอัดยังงั้น”
จ่าเฉย : “ก็ที่ท่านนายกรัฐมนตรีไปซิ่งแมงกะไซค์อ่ะดี๊ เฮ้อ (ส่ายหัว) ไม่น่าเลย ผมเพิ่งเขียนใบสั่งส่งไปรษณีย์เมื่อวาน งานนี้จัดเต็ม หมวกกันน็อกก็ไม่สวม ขับขี่ในที่หวงห้าม แล้วไม่แน่ใจมีใบขับขี่หรือเปล่า เยอะ! งานนี้เยอะจริงๆ”
บักแหลม : “โห ลุงตู่แกซิ่งแป๊บเดียวเอง”
จ่าเฉย : “อ้าว! ถ้าคนอื่นพูดแบบนี้มั่ง จะให้จ่าเฉยทำไง มัน...แหม คือแบบว่า...มันสองมาตรฐานไม่ได้ คุณต้องเห็นใจจ่าบ้าง (ลากเสียงยาวเหมือนน้อยเนื้อต่ำใจ)”
บักแหลม: “เอาน่าจ่า ขำๆ ท่านเป็นผู้นำประเทศนะนั่น เออ ผมว่านะ ท่านคงมีเหตุผล”
จ่าเฉย : “เหตุผล? เหตุผลอะไร จะเอาไบสั่งไปกินก๋วยเตี๋ยวฟรีที่โคราชเรอะ ก็เชิญท่าน แต่ต้องทำตามกฎหมายนะ หมวกกันน็อกใส่ ไฟหน้าเปิด ติดแผ่นป้ายทะเบียน พกใบขับขี่ด้วย”
บักแหลม : “อูววว์ เสียงเข้มปรี๊ดเชียว ท่านคงไม่กินหรอกก๋วยเตี๋ยวฟรี คงมีอะไรที่ลุ่มลึกกว่านั้น”
จ่าเฉย : “โฆษณาแฝงรึ (นิ่งคิดครู่หนึ่ง) ใช่...อาจใช่ ทำไมต้องยี่ห้อนี่ รุ่นนั้น สมัครออกรายการ ทีวียังถูกถอดถอนได้ นี่ขับแมงกะไซค์แบบมีนัยซ่อนเร้น อืมมม์”
บักแหลม : “โอ๊ย! ผมไม่เอาด้วยละจ่า อะไรจะจริงจังป่านนี้ ลุงตู่แกเป็นคนดีจะตาย เฮ้อ!”