เพราะในโลกนี้มีคนหลายพันล้านคนอาศัยอยู่ แม้จะต่างเผ่าพันธุ์ กระนั้นก็มีคนอยู่ไม่น้อยหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกันเด๊ะ ทั้งที่ไม่ใช่คู่แฝด ไม่ได้เป็นญาติโกโหติกาอะไรกันเลย
ว่ากันตามตรง ก่อนที่จะมีข่าว “ครูพลศึกษา” หน้าตาเหมือน “ซูเปอร์ตู่” ก่อนหน้านี้ มีผู้พบเจอ “โชเฟอร์แท็กซี่” นายหนึ่ง ซึ่งก็หน้าตา “เหมียนมาก” กับทั่นผู้นำไทย จนหลายคนทึกทักขั้นเป็นตุเป็นตะว่า “ทำหน้าล้อ” บ้าง หรือ “บิ๊กตู่” ปลอมตัวเป็นสารถีขับแท็กซี่หาข่าว รวมทั้งการปลอมตัวเป็นครูอยู่ที่จังหวัดหนองคาย
แหลม บางลี่ ลงพื้นที่ไปพิสูจน์ความจริง ถึงจะไม่มีโอกาสพูดคุยกับคนหน้าเหมือนทั้ง 2 พะหน่อ แต่ก็มีคำบอกเล่าจากชาวบ้านผู้ซึ่งสนิทชิดเชื้อกับ 2 คนหน้าเหมือน พอสังเขปดังนี้
แหลม : “ตกลงพี่คนขับแท็กซี่แค่หน้าคล้ายคลึงกับท่านนายกฯ ถูกต้องนะครับ”
เพื่อนบ้าน 1 : “ตามนั้นเลย เท่าที่ผมรู้จัก แกมักขับรถอย่างเดียว ไม่ค่อยพูด ไม่ใช่เป็นคนโอ้โห น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง อะไรยังงี้ นึกออกไหม”
แหลม : “บ้านติดกัน เคยกินข้าววงเดียวกันหรือเปล่า”
เพื่อนบ้าน 1 : “เคยสิ เค้าชอบผัดกะเพรามาก ยิ่งเป็นกะเพรากลิ่นฉุนๆ นี่ยิ่งชอบ เวลาผมไปบ้านนอก ได้กะเพราป่ามา ก็จะหิ้วติดมือมาฝาก เป็นคนชอบกลิ่นกะเพราอย่างแรงเลย”
แหลม : “แล้วเพื่อนของพี่ละครับ (หมายถึงครูหนองคาย)
เพื่อนบ้าน 2 : “ก็แค่หน้าเหมือนนะ เพื่อนพี่เขาเป็นคนใจเย็น ไม่ฉุนเฉียวง่าย ทั้งๆ ที่เป็นครูสอนพลศึกษา เท่าที่รู้จักกันมาเค้าแยกแยะเด็กนักเรียนออก อย่างเช่นเด็กคนไหนเกเร ขี้โกง เค้าจะทำโทษเด็กคนนั้นทันทีเลย ว่ากันไปตามหนักตามเบา มีอยู่หนหนึ่งเด็กแบ่งแยกกันเป็นฝักฝ่าย ขยายวงกว้างจนน่าตกใจ เพราะเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งไปแจ้งครูใหญ่ว่ามีเพื่อนนักเรียนด้วยกันขโมย ข้าวของ เรื่องลุกลามบานปลายจนครูใหญ่เสนอทางออก บอกให้เด็กทั้งสองฝ่ายหันมาจับมือปรองดองกัน แต่เพื่อนพี่คนนี้เขาไม่ยอม เขายืนยันว่าต้องลงโทษเด็กขี้โกง ไม่เท่านั้นนะ ยังไล่เรียงว่ามีใครร่วมลักขโมยอีกด้วย”
แหลม : “คำถามสุดท้าย มีอะไรที่ลุงโชเฟอร์แท็กซี่กับครูพลศึกษาเหมือนกันมั่กๆ”
เพื่อนบ้าน : “ชอบดู และชอบอ่านเอเอสทีวี ติดงอมแงมเชียวแหละ”
