กรุงเทพฯ - “ประยุทธ์” แอบงอนนิดๆ พลั้งปากพ้อ “บิ๊กตู่” ไม่มีกล่าวคำร่ำลาหลุดออกมาจากปากแม้ประโยคเดียว โอดทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการทหารบกมา 4 ปี อย่างหนักหน่วงเข้มแข็ง แต่คนเป็นนายกรัฐมนตรีกลับมองผ่าน ยันกลับไปบ้านไปฝึกเลี้ยงหลานหล่อเลี้ยงวัยดึก
วานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการทหารของทหารชั้นนาย พล ประจำปี 2557 ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ. นครนายก ซึ่งภายหลังกล่าวแสดงความในใจกับเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาเสร็จเรียบร้อยแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ในชุดทหารเต็มรูปแบบ บ่นด้วยสุ้มเสียงกระฟัดกระเฟียดกับนายทหารคนสนิทจำนวนหนึ่ง ทำนองว่าตนอุตส่าห์เงี่ยหูรอฟังถ้อยทำนองของสรรพเสียงจากรูปากของ “บิ๊กตู่” นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศไทย ที่ถึงอย่างไรก็ต้องเอ่ยปากกล่าวคำใดๆ ในวันเกษียณอายุราชการของตนบ้าง ฐานะที่สร้างคุณงามความดีให้แก่ชาติบ้านเมืองมากกว่า 30 ปีในชีวิตข้าราชการทหารบก โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก เป็นเวลา 4 ปี ตนมีคุณูปการต่อบ้านเกิดเมืองนอนไม่น้อย ทว่า เฝ้ารอจนแล้วจนรอด “บิ๊กตู่” กลับดูเหมือนเกรงกลัวว่าดอกพิกุลจะร่วงจากปาก ไม่แม้แต่จะฝากคำอำลามาถึงตนสักคำเดียว
“ผมไม่มีสิทธิ์ไปถือโทษโกรธท่านนายกรัฐมนตรี แต่ในความจริง ท่านเป็นผู้นำ และผมเป็นผู้บัญชาการทหารบก ในวันสุดท้ายของการอยู่รับใช้ชาติ ท่านนายกรัฐมนตรีควรให้เกียรติผมด้วยการกล่าวคำอวยพร หรือแม้จะเป็นการโบกมือลาก็ยังดี แต่นี่เงียบเป็นเป่าสากเลย ก็เอาเถอะครับ ไม่ว่ากัน ชีวิตของผมหลังเกษียณก็แปลนไว้ชัดเจนแล้วว่า จะฝึกเลี้ยงหลานเงียบๆ อยู่กับบ้าน ไอ้คนอย่างผมมันเป็นทหารมาตลอดชีวิต เป็นทหารเต็มรูปแบบ จะให้ไปเป็นนู่นเป็นนี่แบบคนบางคนไม่ได้ จริงๆ นะครับ ผมเข้าใจ ท่านนายกรัฐมนตรีงานหนักมาก ไหนจะปฏิรูปประเทศ ปรับโครงสร้างทั้งระบบของ ปตท. ตระเตรียมการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตยอันแท้จริงตามโรดแมปที่ร่างไว้ อย่างนี้ไม่มีเวลาอำลาอาลัยผมก็ไม่ว่ากัน”
ถามว่าจะฝากอะไรถึงนายกฯ บ้าง อดีต ผบ.ทบ. หยุดหายใจเล็กน้อยและว่า “ถ้าจะให้ดี ท่านนายกฯ ต้องแก้ปัญหาที่ต้นตอ ที่ผ่านมาบ้านเมืองแตกแยกเพราะใครก็ต้องแก้ที่คนคนนั้น ไอ้เรื่องสมานฉันท์มันคงยาก หากให้คนดีๆ ไปกอดคอ จับมือกับคนชั่ว เรื่องนี้ผมขอฝากให้ท่านคิดและลงมือทำด้วยในฐานะผู้นำของประเทศ” พล.อ.ประยุทธ์ ฝากถึง “บิ๊กตู่”
