ภายในบ้านพักส่วนตัวของสมเด็จฯ ฮุนเซน ผู้นำเขมร ซึ่งกำลังนั่งจิบกาแฟดูข่าวทีวีที่กำลังเสนอภาพข่าวทหารไทยมีการเคลื่อนไหวใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา อยู่เพียงลำพัง จู่ๆ มีเสียงดังมาจากตรงปากประตูบ้าน
“ท่านครับ ขออนุญาตหารือเป็นการส่วนตัว” เจ้าของเสียงมิใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นบุตรชายคนโตของฮุนเซน นาม พล.ท.ฮุน มาเนต นั่นเอง
“เข้ามาสิลูก แหม…ทำเป็นทางการไปได้ เออ...เรื่องที่พ่อสั่งไปถึงไหนแล้ว” ฮุนเซนยังจ้องมองภาพ ผบ.ทบ.ไทยในจอโทรทัศน์ด้วยสายตาไร้ความกังวล
“ในฐานะผมเป็นรอง ผบ.ทบ. ยืนยันว่าคราวนี้จัดหนัก จัดเต็มครับพ่อ” ฮุน มาเนต ทอแววตาเข้มจี๊ด
“ดีมาก ตอนนี้ลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ที่หามาได้เข้าไปประชิดชายแดนไทยแล้วหรือยัง” ฮุนเซนหันมามองที่ลูกชาย
“เพียงฝ่ายเราเห็นทหารไทยคนเดียวขยับปืนเท่านั้น ผมสั่งการถล่มทันที พร้อมฝุดๆ ฮะพ่อ” ฮุน มาเนตนั่งบนเก้าอี้ข้างฮุนเซน
“ผู้ใต้บังคับบัญชาของลูกฝึกกันหนักพอแก่การพิชิตศึกแน่หรือ” ฮุนเซนโอบไหล่ลูก
“เดือนเต็มๆ ที่ผ่านมา กองกำลังหลายพันนายถูกสั่งให้ฝึกซ้อมสู้รบด้วยยุทธการพิเศษที่พ่อสั่ง ตกวันละ 3 เวลา เช้า เที่ยง และก็ตอนเย็น ฉะนั้น ผมขอรับประกันด้วยเกียรติ ศึกนี้จะไม่มีฝ่ายเราบาดเจ็บล้มตายแม้แต่คนเดียว ล่าสุดผมเพิ่งได้รับแจ้งจาก ทส.ว่า ตอนนี้เรามีอาวุธที่คัดมาล้วนแล้วแต่เกรดเอทั้งสิ้น บัดนี้ส่งไปรอที่ผามออีแดงกับอีกหลายด่านเรียบร้อยแล้ว รอแต่คำสั่งลุยอย่างเดียวเท่านั้น”
“อืมม์… ภายใน 1 วันต้องกำราบศึกให้ประวัติศาสตร์โลกจดจารไว้ในตำนานพิชัยยุทธ์ให้จงได้ พ่อวางใจลูก เอานี่อย่าลืมสวมเวลาสู้รบ” ฮุนเซนส่งผ้าคาดปาก-จมูกให้ฮุน มาเนต ด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ