ภายหลังการเสียชีวิตของนายชุมพล ศิลปอาชา ได้มีบรรดานักการเมืองไทยหลายคนหอบเงินจำนวนมหาศาลไปขอเข้าพบท่านยมบาลถึงหน้ากระทะทองแดง โดยในการเร่งรีบด้วยอาการตาลีตาเหลือกของทุกคนล้วนมีความประสงค์เหมือนกันเด๊ะ นั่นคือ ชักแม่น้ำทั้งห้า กราบกรานหว่านล้อมขอให้ยมบาลอย่าด่วนพรากดวงวิญญาณไปจากร่างของพวกเขา แม้จะถึงคราวตายอย่างทนทุกข์ทรมานก็ขอให้ท่านยมบาลช่วย นอกจากนี้ ยังมีหน้าเสนอเงินเป็นสินบนนับร้อยล้านพันล้านบาท แต่ถูกท่านยมบาลปฏิเสธ
เท่านั้นยังไม่พอ ท่านยมบาลยังกระซิบผ่านยมทูต ว่า นักการเมืองไทยรายใดจ่อคิวรอต่อไปแล้วบ้างในห้วงยามไม่นานจากนี้
“ข้าเองก็มีจรรยาบรรณ ไม่สามารถเปิดเผยความจริงว่านักการเมืองไทยที่ไปขอให้ท่านยมบาลช่วยโกงความตายเป็นใครคนไหนบ้าง เอาเป็นว่าจะเล่าให้ฟังเท่าที่พอบอกสู่กันได้” ยมทูตหยุดไอเล็กน้อยก่อนกล่าวต่อไปว่า “คนแรกที่รีบมาก่อนเพื่อนหน้าตาออกเหลี่ยมแบบปี๊บมาเลย มาถึงก็กราบเท้าท่านยมบาล จากนั้นก็ออกปากเกลี้ยกล่อมพร้อมเสนอเงินให้มากถึงหมื่นล้านบาท เขาบอกยอมให้เพราะไม่ใช่เงินของเขา ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแล้วมันเป็นเงินของใคร”
“รายต่อมา ท่าทางเหมือนนักเลงโบราณ แก่แล้ว ประเภทเดียวกับไดโนเสาร์ เข้ามาถึงก็สารภาพบาปเรื่องเอาที่ดินวัดไปขาย เลยรู้ดีว่าตายไปต้องลงนรกลูกเดียว แต่ยังไม่อยากตาย ท่านยมบาลอยากได้อะไรบอกเลย เขาให้ได้หมด 555” จู่ๆ ยมทูตหัวเราะร่วน และว่า “ท่านยมบาลถามกลับว่า จริงรึ ตาแก่คนนั้นตอบ จริงขอรับ ท่านขออะไรผมให้หมด ท่านยมบาลเลยพูด งั้นขอชีวิตเอ็งแล้วกัน ตาแก่คนนั้นร้องไห้โฮเลย ฮ่าฮ่าฮ่า คัมมิ่งซูน เอิ๊กเอิ๊ก”
อีกคนหนึ่ง แหม ไอ้เจ้าหมอนี่ดวดไวน์เมาแอ๋ยังไม่พอ ดันเสือกพูดภาษาอังกฤษผิดๆ ถูกๆ ซะอีก ทำตัวกร่างมาทีเดียว เอ่ยเสียงอ้อแอ้ๆ ท่านอยากได้เท่าไรบอกมา ผมเป็นนักกฎหมาย เป็นนายตำรวจ จบด็อกเตอร์ ผมรู้หมดทุกเรื่อง อย่ารีบให้ผมตายโหงตายห่าเลย เดี๋ยวแผ่นดินไทยจะสูงขึ้น กำลังพูดโอเค เยสโนอยู่ดีๆ พักเดียวสะดุ้งเหย็ง อุท่าน อ้าว นั่นดาบยิ้ม ยะ...ยะ...อย่า...ผะ...ผม ขอ...ระ...ร้อง”
“สุดท้าย พวกนี้อายุไม่มากเท่าไร คนหนึ่งตาโปน หน้าตาท่าทางคล้ายคางคก อีกคนเหมือนตลก พูดคล่อง แต่ล่อกแล่กปลิ้นปล้อน มีทั้งลูกอ้อน ลูกขู่ บอกถ้าเอาชีวิตมันเมื่อไรจะเผาให้วอด ฟังมันพูดเข้าสิ เอ้า! ลองทายสิคนเหล่านี้ใครจะตายก่อน รึว่า ต๊อกแต๊กๆ....ตายหมู่ ฮ่า”