ศูนย์ข่าวภูมิภาค - เจ้าหน้าที่ดูแลมรดกโลกนครวัด-นครธมมีทั้งนั่งหาว นั่งตบยุงเพราะไร้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมช่วงเทศกาลสงกรานต์ งงเต็กปรากฏการณ์ไข่แม้วสีดำทะม่อนท่อนดึงดูดได้มากกว่า ผวาปีหน้าซ้ำรอยเติมอีก เตรียมระดมสมองช่วยคิดแก้ไขแล้ว
ผู้สื่อข่าวเซาะกราวรายงานผ่านชายแดนไทย-แขมร์ว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาแทบไม่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปเที่ยวชมนครวัด-นครธมเหมือนที่เคยทำเป็นประจำสม่ำเสมอ ทั้งๆ ที่เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ไทย อีกทั้งยังเป็นวันปีใหม่เขมร ส่งผลให้เจ้าที่ผู้ดูแลนครวัด-นครธมต่างจับกลุ่มนั่งหาวหวอดๆ บางคนก็นั่งตบยุงจนมือแดงฉานเนื่องจากไม่มีงานให้ทำ แม้ก่อนหน้านี้จะมีการซ้อมรับมือบรรดานักท่องเที่ยวจากไทยซึ่งคาดว่าจะแห่กันเข้าไปเที่ยวชมมรดกโลกอย่างคับคั่งเช่นเดียวกับทุกปีที่เคยเป็นมา
“วานก่อนเจ้าหน้าที่ทุกคนเฝ้ารอต้อนรับเพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวด้วยใจจดจ่อเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้คนจะแห่แหนพากันมาอย่างเนืองแน่น โดยเฉพาะด้านชายแดนจังหวัดสุรินทร์ และบุรีรัมย์ ทว่าปีนี้กลับผิดคาด คือเรียกได้ว่าแทบร้างไร้ผู้คน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ไหนๆ ของนครวัด นครธม มีเพียงคนเขมรกันเองทั้งนั้น คนไทยหรือนักท่องเที่ยวไทยที่หวังไว้ไม่รู้หายหน้าไปไหนหมด พวกเรางงกันมาก” เจ้าหน้าที่รายหนึ่งบ่น
จากนั้นมีรายงานข่าวระบุว่า บรรดานักท่องเที่ยวที่แห่แหนกันไปยังเมืองแขมร์หลายหมื่นคนล้วนมุ่งหน้าไปกราบไหว้บูชาไข่แม้ว ไม่ยอมเดินทางไปเที่ยวชมนครวัด นครธมเหมือนที่เคยนิยมในอดีต ไม่ว่าแดดจะร้อนแรงเพียงใดแต่คนไทยฝูงดังกล่าวกลับไม่ย่นย่อ แต่แย่งชิงกันเพื่อเข้าไปใกล้ๆ กับไข่แม้วให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ บางคนขอถ่ายรูปด้วยท่าทางกิ๊บเก๋ หลายคนเข้าประชิดติดพันแล้วรีบลูบไล้ไข่แม้วราวกับเป็นไข่สวรรค์ ทั้งที่ไข่แม้วทั้งหยูด ยาน เหี่ยว ยังมีสีดำทะม่อนท่อนสุดพิลึกพิลั่นราวผ่านการใช้งานมาอย่างหน่วงหนัก เหนือยิ่งสิ่งใดมีหลายคนที่ทราบว่าเป็นนักการเมืองระดับสูงของไทยลงทุนด้วยการคุกเข่าพนมไหว้ตรงไข่แม้วปลกๆ
“ตอนนี้ทุกคนทราบกันดีถึงสาเหตุที่นักท่องเที่ยวไม่ยอมไปเยือนนครวัด-นครธมแล้ว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าไข่แม้วบูมกว่า เราจำเป็นต้องหาทางแก้ไขด้วยการขอให้คนเก่งมาร่วมคิดร่วมหารือกัน ไม่เช่นนั้นปีหน้าจะย่ำแย่กว่านี้” เจ้าหน้าที่ระดับสูงของมรดกโลกกล่าว
