ประชุมสภาไม่แจกกล้วย ส.ส.บ่นอุบ “ปล่อยหิวโซ”

กรุงเทพฯ - ผู้ทรงเกียรติชาย-หญิง ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ประสานเสียงบ่นยิ่งกว่าหมีกินผึ้ง ประชุมสภาทั้งทีกลับไม่มีการแจกกล้วยเหมือนหนก่อนๆ ส่งผลให้ต้องแบกท้องลงไปหาอาหารรับประทานกันเอง ปล่อยให้สภาฯ เงียบวังเวงยิ่งกว่าป่าช้าวัดดอน

ยอด ยาหยี ว่าที่บรรณาธิการบริหารผู้จัดกวน รายงานด่วนจากรัฐสภา ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกู้เงินว่า สืบเนื่องจากสื่อบางค่ายนำเสนอภาพถ่ายบรรยากาศของการประชุมที่มี ส.ส.ผู้ทรงเกียรตินั่งอยู่ในห้องประชุมอย่างบางตา และเขียนข่าวระบุว่า บรรดาผู้แทนฯ หรือ ส.ส.ต่างพากันหลบลี้หนีหน้าจนสภาหวุดหวิดจะล่มมิล่มแหล่ แต่ยังดีที่ประธานสภา คือ ปู่ชัย โมเช่ ใช้ความเก๋าควบคุมบัญชาเกมได้ ส่งผลให้การประชุมดำเนินต่อไปจนเสร็จสิ้น นั้น

ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้มีอยู่ว่า บรรดา ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านคาดหวังล่วงหน้าว่าสภาฯ จะตระเตรียมข้าวปลาอาหารไว้ต้อนรับ เนื่องจากทราบกันดีว่าช่วงเวลาในการอภิปรายต้องยืดเยื้อ แม้จะเผื่อเหลือเผื่อขาด อาจมีการแจกกล้วยสำหรับรองท้องอย่างที่เคยปรากฏให้ว่อนสภาฯ มาเมื่อสักสองสามเดือนก่อน อย่างไรก็ตาม การอภิปรายซักถามและโต้ตอบชี้แจงจากฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ใช้เวลาเนิ่นนานออกไปเรื่อยๆ กระนั้นประธานสภาฯ ยังคงไม่บอกให้พักเพื่อรับประทานอาหาร จน ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล เริ่มมองหากล้วย ซึ่งคิดว่าเพื่อนสมาชิกบางคนจะนำมาแจก แต่จนแล้วจนรอดกลับไม่มี ส.ส.คนใด งัดกล้วยออกมา ส่งผลให้บรรดา ส.ส.เริ่มลุกจากที่กันทีละคนสองคน บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า “น่าจะแจกกล้วยสำหรับช่วยประทังความหิวมั่ง”

ผู้แทนราษฎรจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อแม้ว ที่เดิมทีมีอาชีพทำสวนกล้วย ก่อนจะหันเหมาเอาดีทาง ส.ส.กล่าวว่า สาเหตุที่ห้องประชุมสภาฯ โหรงเหรง หาใช่เพราะส.ส.เกเร หรือก่อหวอดประท้วง แต่เหตุที่หายตัวไปนั้น เป็นเพราะออกไปหาอาหารรองท้อง บางคนไปอยู่ที่โรงอาหารรัฐสภา บางฝ่ายออกไปหาอะไรทานง่ายๆ แถวๆ โรงแรมโอเรียนเต็ล หรือที่แชงกรี-ลา จากนั้นจึงกลับเข้ามาในห้องประชุมสภาฯ เหมือนเดิม

“ความจริงในสวนของผมยังมีกล้วยอยู่อีกเยอะ แต่วันนี้ไม่ได้ขนมาด้วย ก็คราวก่อนที่ผมแจกว่อนสภาฯ พวกนักข่าว พวกศิลปินแห่งชาติยังออกมาตำหนิว่าแจกกล้วยกันเห็นๆ แบบนี้ เป็นภาพที่ไม่สวยเอาซะเลย ผมและเพื่อน ส.ส.อีก 2-3 คน เลยไม่ได้ขนมาแจก แหม ถ้ารู้ว่าหลายคนอยากได้ ผมให้คนขับรถบึ่งไปแป๊บเดียว อยุธยาใกล้แค่นี่เอง ช่วงนี้ฝนชุก กล้วยลูกหนึ่งขนาดเท่าข้อมือแน่ะ” ส.ส.พรรคเพื่อแม้วที่เป็นคนแจกกล้วยให้แก่เพื่อนผู้ทรงเกียรติในสภา ชูท่อนแขนโชว์

ด้าน มิ่ง ของแม้ว หรือ เจ๊มิ่ง ผู้ทำหน้าที่อภิปรายเป็นคนปิดท้าย แสดงท่าทางกระวนกระวายที่หันไปทางไหนก็ไม่มีใครแจกกล้วย นานเข้าเจ๊มิ่งถึงกับเผลอเลียมุมปาก จากนั้นจ้องมองไปยังหนุ่มมาร์คที่นั่งบีบเข่าเข้าหากันด้วยความสงบอยู่บนเก้าอี้นายกฯ

“ท่านนายกฯ ฮะ เรียนด้วยความเคารพว่า ถ้าการประชุมยืดเยื้ออย่างนี้ ทางที่ดีเราควรมีกล้วยหักมุกลูกเขื่องๆ ไว้แจกสมาชิกรองท้อง อย่างมิ่งนี่ ตอนนี้อยากมีกล้วยสักลูกไว้คลำเล่น อันนี้เรื่องจริงนะฮะ กินไม่ได้ เพราะปากยังต้องทำหน้าที่อภิปราย แต่กุมไว้พอให้อุ่นๆ มือ เอ้ย! อุ่นๆ ท้องก็ยังดี ต่อไปอย่าให้อดโซแบบนี้อีกนะฮะ ท้องไส้ว่างๆ อย่างนี้ ได้กล้วยสักหวีครึ่งหวี คงบรรเทาหิวได้มั่ง นานเท่าไหร่แล้วที่กล้วยไม่ตกถึงท้องของมิ่งเลย” มิ่ง ของแม้ว กล่าวพลางทำตาเลื่อนลอยเหมือนปอย-ตรีชฎา

อย่างไรก็ตาม ได้มี ส.ส.หญิงจากเชียงราย พรรคเดียวกัน ลุกขึ้นประท้วงเจ๊มิ่งว่า ขอให้ถอนคำว่า 'กุมไว้พอให้อุ่นๆ มือ' เนื่องจากเป็นกริยาอาการที่ไม่สุภาพ

“เรียนท่านประธานที่เคารพ ดิฉัน น.ส.สาระแนสิ้นดี จังหวัดเจียงฮายเจ้า แม้จะพรรคเดียวกับสมาชิกที่กำลังอภิปราย แต่ดิฉันเห็นว่าการที่ท่านสมาชิกใช้ประโยคนี้ มันมีเจตนาส่อให้ดิฉันและผู้ฟังท่านอื่นๆ รู้สึกหวิวๆ หิวจนเก็บอาการไม่อยู่ ขอเรียนว่าให้ถอนคำพูดดังกล่าว ในเมื่อเราหิวและมีกล้วยอยู่ในมือ จะกุมไว้ทำไมมิทราบ เอามาใส่ปากซะก็สิ้นเรื่อง ดิฉันเห็นว่าสุภาพกว่าเยอะ”

มีรายงานลับเพิ่มเติมว่า แม้ที่ประชุมสภาฯ วาระนี้ไม่มีการแจกกล้วยอย่างโจ๋งครึ่ม แต่ความจริงยังมี ส.ส.ชายหลายคน แอบแจกกล้วยอยู่ในใจ โดยเฉพาะ ส.ส.เก่ง พรรคเพื่อแม้ว แจกแหลกอยู่ในใจตลอดเวลา และว่ากันว่า ส.ส.รัฐบาลจากบางจังหวัดก็แจกกล้วยในใจไปให้ฝ่ายค้านจนเหม็นเปรี้ยวเหม็นหวานตลบอบอวลไปทั้งห้องประชุม ถึงขนาดนายชัย โมเช่ ทนไม่ไหว สั่งให้เจ้าหน้าที่รีบเข้าทำความสะอาดเป็นการใหญ่ อ้างว่ากลัวไข้หวัด 2009 ระบาด ทั้งที่ความจริง นายชัยผวา “ไวรัส 010” มากกว่า

...แป้ก!

เอ๊ะ...เสียงอะไรหล่นดังแป้ก คุ้นๆ เหมือนกันนะ (ฮา)