ผู้จัดกวน - 'มือด่านพดล' เผยไม่ได้ด่าว่าท่านนพดลเป็นคนขายชาติ เพียงแค่อ่านข้อความที่ประทับบนหน้าผากเท่านั้นเอง
หลังจากที่นายนพดลเดินทางไปเป็นประธานตัดริบบิ้นปล่อยลูกโป่งในงานกิจกรรมเดิน-วิ่ง ความสัมพันธ์ไทย-อเมริกา ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ขณะที่ท่านทูตของสหรัฐอเมริกายินเคียงคู่กับท่านนายนพดล พลันนั้นก็ได้ยินเสียงแว่วดังลั่น ภายในงานว่า 'นพดลขายชาติๆๆ' เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศไม่แตกต่างจากการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวหัวมะละกอแขกดำของทีมผู้จัดกวน ได้เข้าไปสัมภาษณ์เจ้าของต้นเสียงว่าทำไมถึงได้กระทำการหาญกล้าฉีกหน้า ฯพณฯ รัฐมนตรีต่างประเทศฉาดใหญ่เยี่ยงนั้น จนอับอายขายขี้หน้าไปสามบ้านแปดบ้าน โดยมือด่าเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเราว่า
'ไม่ได้ไปด่าทอเหมือนที่เป็นข่าวเลยพี่ ผมแค่อ่านข้อความที่อยู่บนหน้าผากที่เป็นรอยแผลเป็นนูนสูง ข้อความว่าขายชาติเท่านั้นเอง ส่วนไอ้เรื่องที่ไปอุ๊บอิ๊บตกลงกันเรื่องเขาพระวิหารเพื่อแลกกับแหล่งก๊าซทางธรรมชาติ หรือไปปล่อยให้ทางเขมรส่งเรื่องยื่นต่อยูเนสโกเพื่อให้เขาพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวนั้น ผมก็ไม่ได้ไปด่าว่าให้นายนพดลจนเสียวงศ์ตระกูลแต่อย่างใด ขอยืนยันว่าไม่มีเจตนาด่าว่านายนพดลขายชาติ เพียงแต่อ่านข้อความตามตัวอักษรเท่านั้นเอง' มือด่ายืนยันตาแข็งเป๊ก
ทางด้าน นายนพดล รัฐมนตรีต่างประเทศ ทราบเรื่องที่มือด่าให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พอกลับถึงบ้านก็รีบตักนำใส่กะโหลกแล้วชะโงกดูเงาตัวเอง ถึงกับตกใจอุทานแทบตาปลิ้นตาถลนออกมา เมื่อเห็นข้อความเหมือนดั่งคำสาปตราบาปสลักเป็นตัวนูนสูงข้อความว่าขายชาติ '...มิน่าช่วงนี้เดินไปไหนมาไหนได้ยินแต่เสียงระงมว่านพดลขายชาติ นพดลขายชาติ ดังลั่นกันทั่วบาง' นายนพดลบ่นพึมพำด้วยความวิตกจริต
ไม่น่าแปลกใจที่มีเสียงอื้ออึงกันทั่วบ้านทั่วเมืองว่านายนพดลขายชาติ เหตุมีรอยประทับตราบาปประจำหน้าผากตัวเบ้อเริ่มดังกล่าว การณ์ดังว่านี้ผู้สันทัดกรณีหลายท่านได้แสดงความคิดเห็นเป็นไปในแนวเดียวกันว่า ทำไมรอยประทับวลีเด็ดดังกล่าวจึงได้ไปปรากฏโดดประทับบนหน้าผากของนายนพดล ได้พากันวิพากษ์วิจารณ์ว่า
'อาจเป็นผลกรรมที่เคยทำไว้เพราะหนี้บุญคุณแผ่นดินที่ได้ทุนไปเล่าเรียนถึงต่างประเทศ แต่พอสำเร็จได้ดิบได้ดีกลับเนรคุณเอาวิชาความรู้ความสามารถไปรับใช้ทุนสามานย์ หน้ามืดตามัวเห็นเงินเป็นพระเจ้า ยอมทำทุกอย่างเพื่อเงิน นั่นแหละรอยประทับบนหน้าผากจึงค่อยๆ เป็นผื่นแดงขึ้น แดงขึ้นจนเป็นตัวนูนข้อความว่าขายชาติเหมือนที่ใครต่อใครเค้าเห็นกัน ความจริงแล้วสังคมไม่ได้ด่าทอรัฐมนตรีติงเหล่ท่านนี้ เพียงแต่อ่านข้อความที่ประทับบนหน้าผากเท่านั้นเอง' ผู้สันทัดกรณีสุมหัวกันวิพากษ์วิจารณ์ปากมันแผล็บ