ทรท. - ทีมโฆษกไทยรักไทยแฉจะจะ! สัมพันธ์ประธานฝ่ายค้าน ชวน หลีกภัย กับประธานคณะอนุฯ กกต. นาม ยิ้มแย้ม ใกล้ชิดกันแบบสุดๆ สาวกลับไปได้หลายพันกว่าปีว่าบรรพบุรุษทั้งคู่อพยพมาจากเทือกเขาอัลไตพร้อมกัน
ทีมโฆษกพรรคไทยเลิฟไทย นำโดยนังศิิเทย ที่ทาลิปสติกที่ปากมันแผล็บออกมากรีดกรายชี้แจง พร้อมด้วยหนังสือประวัติความเป็นมาของชนชาติไทย เล่มหนาเป็นศอก ชื่อหนังสือว่า “คนไทยมาจากไหน” ทันทีที่ตบแป้งเสร็จ หล่อนก็จีบปากจีบคอตาเยิ้มอธิบายว่า “นายนาม ประธานอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อกล่าวหาเรื่องพรรคการเมืองใหญ่ของเดี๊ยนไปจ้างพรรคการเมืองเล็กๆ ลงสมัครรับเลือกตั้ง ถ้าผลการสอบสวนของนายนามออกมาชี้ว่าพรรคเดี๊ยนผิดจริง จะมีโทษร้ายแรงถึงขั้นต้องยุบพรรค เพราะเป็นการผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างร้ายแรง
ซึ่งการสืบสวนสอบสวนครั้งนี้ ชาวคณะเดี๊ยนมิอาจไว้วางใจนายนามได้ เพราะเห็นว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดอย่างลึกซึ้งตรึงใจกับ ฯพณฯ ชวน อดีตหัวหน้าพรรค หรือประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เกรงว่าการสอบสวนครั้งนี้จะไม่เป็นไปอย่างเที่ยงธรรม การออกมาแถลงครั้งนี้ไม่ได้ออกมาพูดกันแบบลอยๆ นะฮะ นี่ๆๆๆ เดี๊ยนมีหลักฐานในมือเป็นหนังสือประวัติความเป็นมาของชนชาติไทย ซึ่งจะบอกความเป็นมาของนายชวน และนายนามอย่างจั๋งหนับเชียว
เมื่อพลิกเข้าไปดูรายละเอียดในเล่ม จะเห็นว่า สองคนนี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทแนบจริงๆ ทั้งคู่ โดยแรกเริ่มเดิมทีบรรพบุรุษของทั้งสองอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน แล้วพากันอพยพดั้นด้นมาจากเทือกเขาอัลไต ลัดเลาะมาตามแม่น้ำโขง แล้วมาตั้งรกรากที่สยามประเทศ คือประเทศไทยในปัจจุบันนี่เองล่ะฮ่ะ แหม...ช่วงที่ร่อนเร่พเนจรมาตามลุ่มน้ำยังเคยพักร่วมชายคาเดียวกัน กินข้าวหม้อเดียวกัน มีความสัมพันธ์กันแบบลึกซึ้งขนาดนี้จะมาสอบสวนไต่สวนเรื่องนี้ได้ไงยะ ยังไงก็ไม่มีวันออกมาอย่างตรงไปตรงมา เกิดความลำเอียงแน่นอน
ด้วยประการฉอเลาะ เดี๊ยนและชาวคณะโฆษกพรรคไทยเลิฟไทย จึงไม่มีความไว้เนื้อเชื่อใจว่าจะมีการตัดสินที่ยุติธรรม เพราะหลักฐานที่เค้านำมาเปิดเผยครั้งนี้ นายนามและท่านชวนยังไงก็ปฏิิเสธไม่ได้ฮ้า” นังศิเทย ทำตาค้อนใส่กล้อง
ส่วนทางผู้สื่อข่าวที่มาทำข่าว เมื่อเห็นหลักฐานที่ทางทีมโฆษกพรรคไทยเลิฟไทยเอาออกมาแฉเท่านั้นแหละ ต่างพร้อมใจกันอ้าปากตาค้าง หงายท้องตึงหนังตาหย่อนไปตามๆ กัน บ้างก็บอกว่าคราวนี้นายชวนคงน้ำตาตกหาทางแก้ต่างไม่ได้แน่ โถ...นังศิเทยอำมหิต