xs
xsm
sm
md
lg

"หนูนา" ยันพรรคคนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีจริง ชี้บทเรียน "บรรหาร" ยอมกลืนเลือดเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อบ้านเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กัญจนา ศิลปอาชา ร่ายยาวฟาดการเมืองสกปรกในอดีต แฉพรรคที่ทะนงตนเป็นคนดีเคยใช้หลักฐานเท็จอภิปรายถล่ม 'บรรหาร' อย่างรุนแรง ก่อนสุดท้ายจะยอมกลืนน้ำลายยกพลมาขอร้องถึงบ้านจรัญฯ ให้ช่วยตั้งรัฐบาล ชี้โลกความจริงหาพรรคดีร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีอยู่จริง

วันนี้ (24 ธ.ค.) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หรือ หนูนา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก NuNa Silpa-archa ออกมาโพสต์ข้อความ ถ่ายทอดประสบการณ์สมัยเป็น ส.ส. ยุคที่บิดาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าพรรคฝ่ายค้านในขณะนั้นใช้วิธี "การเมืองสกปรก" อภิปรายโจมตีครอบครัวด้วยหลักฐานเท็จ ก่อนที่สุดท้าย จะฝากว่าพรคการเมื งที่ดีเต็มร้อยนั้นไม่มีหรอก มีคนดีและคนเลวปะปนกันไป พรัอมระบุถึงน้องชายของตนเองอย่าง “วราวุธ ศิลปอาชา” อยากให้เขาได้รับโอกาสใช้ความสามารถทำสิ่งที่ดีเพื่อประเทศชาติ ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าน้องชายเคยมีเหตุการณ์ที่ "พูดพลาดหรือทำพลาด" มาก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้และต้องรับไว้เป็นบทเรียน ทั้งนี้ ผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า

“โพสต์นี้จะพูดเรื่องการเมืองช่วงหนึ่งในอดีตที่เกี่ยวพันกับครอบครัวดิฉันนะคะ…

เห็นมีบางท่านเม้นท์บอกว่าไม่ชอบให้ดิฉันโพสต์การเมือง..

ถ้าท่านใดไม่ชอบก็ผ่านไปเลย เพราะดิฉันจะไม่โพสต์ถ้าไม่รู้สึกแรงจริงๆ

ช่วงที่พ่อเป็นนายกฯ

พรรคการเมืองฝ่ายค้านขณะนั้นพรรคหนึ่ง ได้อภิปรายโจมตีพ่อหนักหนามาก

หลายคนบอกว่าหนักที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย…

ทั้งการใช้ถ้อยคำและกิริยาท่าทาง…

ตอนนั้นเป็นสมัยแรกของดิฉันในการเป็นผู้แทนราษฎร..ดิฉันจึงอยู่ในเหตุการณ์ตลอด…

ถ้าพวกเขาอภิปรายในเรื่องงาน ดิฉันจะไม่ว่าอะไรเลย เพราะเป็นความชอบธรรมที่ฝ่ายค้านต้องตรวจสอบ…

แต่พรรคการเมืองพรรคนี้ใช้รูปแบบที่สกปรก กล่าวหาว่าพ่อดิฉันไม่ได้เกิดที่เมืองไทย แต่เกิดที่เมืองจีน…

มีการเอาหลักฐานเท็จมาแสดง…

จนภายหลังมีการพิสูจน์ออกมาชัดเจนว่าพวกเขาพูดเท็จ..

อีกทั้งมีการกล่าวหาดิฉันว่า ดิฉันโทรไปหาบุคคลคนหนึ่งชื่อนายราเกซ สักเสนาซึ่งดิฉันไม่เคยแม้แต่จะรู้จัก อย่าว่าถึงขั้นพูดคุยเลย

และอื่นๆอีกมาก…

หลังการอภิปรายมีการยุบสภา…

ช่วงนั้นพรรคความหวังใหม่ได้ขึ้นเป็นรัฐบาล…

แต่อยู่ได้ไม่ถึงปี ต้องลาออกเพราะวิกฤตต้มยำกุ้ง

พรรคที่เคยอภิปรายพ่ออย่างรุนแรงพรรคนั้น จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะมีเสียงมากสุด..

แต่จะจัดตั้งไม่ได้ถ้าไม่มีพรรคที่พ่อเป็นหัวหน้าขณะนั้นร่วมด้วย…

พวกเขาจึงยกพลมาที่บ้านจรัญ..

เพราะพ่อบอกไปในเบื้องต้นว่า
ภรรยาและลูกยังทำใจไม่ได้กับพฤติกรรมการอภิปรายที่หยาบคายในครั้งนั้น และไม่อยากให้เข้าร่วมรัฐบาล…

พวกที่มา ..เป็นผู้ใหญ่ของพรรคนั้นที่คิดว่าพอจะคุยกับพ่อได้…

แม้พวกเราจะยังมีความรู้สึกกระทบกระเทือนใจอยู่มากในขณะนั้น..

แต่ถ้าพรรคที่พ่อเป็นหัวหน้าไม่เข้าร่วมกับเขา เขาตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะแม้จะได้เสียงข้างมาก แต่จำนวนเสียงก็ยังไม่พอ
การเมืองก็ถึงทางตัน…

แม่และดิฉันบอกพวกเขาที่มาที่บ้านว่า …พวกคุณทำเกินไปมาก…

แต่ในที่สุดเพื่อเห็นแก่บ้านเมือง…พ่อก็ยอมเข้าร่วมรัฐบาล…

ที่เอาเรื่องเก่ามาเล่าครั้งนี้…

ก็เพราะอยากจะชี้ให้เห็นว่า…เราหาพรรคการเมืองที่ดีเต็มร้อยน่ะไม่ได้หรอก…

พรรคที่ทะนงตนว่าเป็นพรรคคนดี…

ประสบการณ์ของดิฉันบอกดิฉันว่า…ไม่เชื่อ…

และอย่างที่เล่ามาข้างต้น…พรรคอย่างพวกเขา ก็ต้องขอพรรคที่เขาตราหน้าด่าอย่างรุนแรง ให้ช่วยเข้าร่วมรัฐบาล…

ในเมื่อเราอยู่ในโลกของความเป็นจริงที่มีทั้งคนดีคนเลวปะปนกัน…
เราก็คงต้องเลือกกลุ่มที่มีคนดีเยอะกว่าคนเลว…

กลุ่มคนที่สามารถสร้างผลงานที่ดีให้กับประเทศได้จริง ทำได้จริง ไม่ใช่แค่พูดเก่ง พูดให้ตัวเองดูดี…

และก็ต้องคอยตรวจสอบคนเลว…ไม่ให้ทำอะไรได้ดั่งใจ…

ปัจจุบันนี้ของดิฉัน…แค่อยู่ขอบๆการเมือง…
ยังไม่หลุดออกมาเสียทีเดียว
เพราะน้องชายยังอยู่บนถนนเส้นนี้…

ในฐานะพี่สาว …ก็เพียงอยากให้เขาได้มีโอกาสใช้ความสามารถทำเรื่องที่ดีให้กับประเทศชาติ…

เขาอาจเคยพูดพลาด ทำพลาดบ้าง…มันกลับไปแก้ไขไม่ได้…ก็เป็นบทเรียนของเขา ที่เขาต้องใช้ปัจจุบันทำแต่สิ่งที่ดี…มีสติ คิดก่อนพูด…

คนชอบ คนชัง มีเป็นธรรมดาของโลก…
กำลังโหลดความคิดเห็น