ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดบทวิเคราะห์สะเทือนค่ายส้ม ชี้จุดตาย 'อ่อนชั้นเชิง' ทำเสียรูปขบวนจนส่งบอลเข้าเท้า 'พรรคน้ำเงิน' ขึ้นแท่นผู้คุมเกมเบ็ดเสร็จภายใน 2 เดือน เตือนหากยังหลงระเริงคะแนนเก่าและดื้อดึงสร้างการเมืองขั้วเดียวแบบต่างชาติ ระวังโดน 'เทกระจาด' ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เหตุประชาชนเริ่มระแวงความไร้ประสบการณ์จนไม่อยากฝากความหวัง
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ออกมาโพสต์ข้อความ วิเคราะห์การเสื่อมถอยของ "พรรคส้ม" และการผงาดของ "พรรคน้ำเงิน" ชี้ พรรคส้มกำลังตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตที่อาจถูก "เทกระจาด" ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากยังหลงตัวเองและไม่เรียนรู้ประสบการณ์ทางการเมือง ทั้งนี้ ทางเพจได้ระบุข้อความว่า
“เท “ส้ม“
.
ผลโพลล์คนยังไม่ตัดสินใจเลือกใครยังมีอีกมาก
.
ไอโอของแต่ละพรรคต้องทำงานหนักมากขึ้น
.
พรรคน้ำเงิน คือผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเลือกตั้งครั้งนี้
.
ด้วยอภินันทนาการจากพรรคส้ม ที่ “อ่อนชั้นเชิงการเมือง“ ส่งบอลเข้าเท้าพรรคน้ำเงินเต็มข้อ
.
ยิ่งมีสงคราม ไทย-กัมพูชา ยิ่งเพิ่มความร้อนแรงของพรรคน้ำเงิน
.
จากพรรคขนาดกลางทะลุกราฟเป็นพรรคใหญ่ ด้วยระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่ 2 เดือน
.
ไต่ชั้นขึ้นเป็นพรรคอันดับหนึ่ง
.
จากที่พรรคส้มคิดว่าเป็นผู้คุมเกมตอนทำ MOA กลายเป็นทำให้พรรคน้ำเงินเป็นผู้คุมเกมแทน
.
มากไปกว่านั้น เกมการเมืองที่ไม่มีการต่อเวลาให้ “คนอ่อนหัดการเมือง” อย่างพรรคส้มได้ตั้งตัว
.
พรรคน้ำเงินเปิดเกมรุกด้วยการรวม “บ้านใหญ่“ และเปิดกว้างการเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง
.
ในขณะที่พรรคส้มโดนเทให้โดดเดี่ยว
.
หลังจากช้ำใจด้วยการถูก ”หลอกลวงทางการเมืองครั้งใหญ่“ โดยพรรคน้ำเงิน
.
จึงปิดกั้นตัวเอง ประกาศขีดเส้นใต้ไว้ชัดเจนล่วงหน้าว่า “มีน้ำเงิน ไม่มีส้ม”
.
ตั้งธงว่ามีสองทางให้ประชาชนเลือกเท่านั้น คือ จะเลือกส้ม หรือเลือกน้ำเงิน?
.
ความโดดเดี่ยวทางการเมืองไม่ใช่หนทางจะทำงานให้บ้านเมืองได้
.
เพราะการเมืองคือการทำงานร่วมกันของพรรคการเมืองต่างๆ ตามสไตล์ไทย
.
มันไม่ใช่ ”การเมือง 2 ขั้ว“ อย่างประเทศอเมริกา หรืออังกฤษ
.
ตอนนี้ความโดดเดี่ยวทำให้ “พรรคส้มถูกเท” ทั้งจากพรรคการเมืองด้วยกัน และประชาชน
.
มีเหตุผลสนับสนุนด้วยผลโพลล์ทุกสำนักว่า “คนยังไม่ตัดสินใจเลือกใครมากกว่า 40%“
.
พรรคส้มยังดื้อดึง และหลงตัวเองจากคะแนนที่ล้นหลามในการเลือกตั้งที่ผ่านมา
.
ไม่มีอะไรที่จีรังยั่งยืนเสมอไปในการเมืองไทย
.
โดยเฉพาะการเมืองแบบพรรคส้มที่ถูกหลอกซ้ำซาก
.
คนไทยได้สื่อให้พรรคส้มรู้ตัวแล้วว่า
.
คนระแวงพรรคส้มที่ยังไม่ประสีประสา แต่ได้ ส.ส. จากกระแสล้วนๆ ซ้ำยังไม่รู้จักเรียนรู้ประสบการณ์ทางการเมือง
.
เลือกไปเดี๋ยวก็ถูกหลอกอีก จึงตัดสินใจไม่เลือกดีกว่า
.
คำตอบสั้นๆ แต่บาดใจ เพราะความไม่มีชั้นเชิงทางการเมืองของพรรคส้มเอง
.
ผมในฐานะ “ผู้สนับสนุนพรรคส้ม“ มาก่อนรู้สึกได้
.
และความรู้สึกนี้จะส่งผลถึงผู้สนับสนุนคนอื่นๆ ที่เคยลงคะแนนให้พรรคส้มจากครั้งที่แล้ว
.
ทำให้ไม่แปลกใจว่า คะแนนเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า
.
พรรคส้มจะถูกเทกระจาด“


