'พงศ์พรหม ยามะรัต' อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า เปิดหน้าแลก 'ช่อ พรรณิการ์' หลังถูกหอบหลักฐานแจ้งความ สน.ทองหล่อ ปมด่า 'เอาหัวไว้คั่นหู' เจ้าตัวยันหมายถึงพูดจาไม่ใช้สมองจริง ชี้เป็นการวิจารณ์ตามสิทธิรัฐธรรมนูญ พร้อมฟาดกลับพฤติกรรมฟ้องปิดปากประชาชน ย้อนแย้งอุดมการณ์กลุ่มเรียกร้องแก้ 112
วันนี้ (22 ธ.ค.) นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงกรณีที่ "คุณช่อ พรรณิการ์ วานิช" โฆษกคณะก้าวหน้า แจ้งความดำเนินคดี โดยยืนยันเจตนาว่าคำพูด "เอาหัวไว้คั่นหู" หมายถึงการวิจารณ์ว่า "พูดจาไม่ใช้สมอง" ซึ่งเป็นการใช้สิทธิวิจารณ์บุคคลสาธารณะตามรัฐธรรมนูญ โดย อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า ได้ระบุข้อความว่า
"เช้านี้คุณช่อเดินทางไป สน.ทองหล่อ เพื่อแจ้งความผมคำพูดว่า เอาหัวไว้คั่นหูในยุคสมัยผม มันหมายถึงการพูดจาไม่ใช้สมองคิดและผมเชื่อว่ายุคนี้ก็มีความหมายนี้ผมจึงจะขอย้ำเจตนาอีกครั้งว่า ผมหมายถึงอย่างนั้น ผมไม่ปฏิเสธด้วยผมทำอะไร ผมคิด ผมรับ ไม่ปลอม ไม่ชังชาติ ไม่สร้างความแตกแยกในชาติและไม่เป็นคน “มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ” ให้ทหารเขาเสียขบวน ในยามประเทศอยู่ในสภาวะหน้าสิ่วหน้าขวานหลังจากดูคลิป ความคิดผม simple มากทำไมคุณจึงพยายามพูดพูดบีบคั้นให้ทหารเขาเผยแผนการรบออกมา รวมถึงสร้าง scenario ที่เริ่มมโนไปไกลว่าจะทำอย่างโน้นอย่างนี้กับฮุนเซน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็น
ประโยคสร้างความแตกแยกที่เป็นเท็จแม้คุณพยายามทำเป็นเหมือนว่ายกตัวอย่างในตอนท้ายรายการคุณไม่ต้องไปคิดซับซ้อนว่าผมเป็น IO ทหารอะไรส้นตีนนั่นIO ทหารคนไหนในประเทศที่แชร์ และสนับสนุนคุณไอซ์ รักชนก และคุณโรม อย่างสม่ำเสมอแบบผมแชร์เป็นสิบ กดไลค์เป็นร้อยคุณ และพรรคประชาชนช่วยไปดูกันเองวันนี้ผมกลับไปดูคลิปเดิม ผมก็ยังรู้สึกแบบเดิม เหมือนคนนับล้านวิวที่เข้าไปดู แล้วด่าทอคุณช่อหนักกว่าผมมากและหลังจากดู ผมยิ่งมั่นใจว่าผมหมายถึงแบบนั้น เพราะผมมีสิทธิภายใต้รัฐธรรมนูญที่จะวิจารณ์นักการเมือง รวมถึงบุคคลสาธารณะที่ยึดโยงตัวเองกับพรรคการเมืองอยู่เสมอโดยเฉพาะพรรคประชาชน ที่ผมมักแชร์โพสต์ด้วยความชื่นชมในการต่อต้านทุนเทาแต่ผมก็มีสิทธิด่า เมื่อมีคนในเครือข่ายพรรคนี้ “พูดจาไม่คิด” “พูดจาไม่ใช้สมอง” “มีหัวไว้คั่นหู”
ใครดี ผมชม ใครห่วย ผมด่า และกับสิ่งที่ผมมักเห็นว่าพวกคุณเป็นกลุ่มคนในพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์เรียกร้องเรื่อง 112 ที่แม้ผมไม่เห็นด้วย โดยผมก็เข้าใจไปเองว่า กลุ่มคนที่เรียกร้อง 112 นั้น มักบอกว่าตนเองมีความใจกว้างต่อการวิจารณ์มากกว่าคนอื่น จึงเรียกร้องให้เกิดการวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์แต่การกระทำคุณมันไม่ใช่แค่คำว่า “พูดจาไม่ใช้สมองคิด” กลายเป็นสิ่งที่คนในกลุ่มนี้รับไม่ได้ ทั้งที่ในคลิปเดียวกันคุณก็ไปกล่าวหาคนอื่นว่า “บีบน้ำตา” ซึ่งเป็นคำกล่าวหาที่ไร้หลักฐานมากกว่ามากมายเอาเป็นว่าคนตัวเล็กแบบผม คงไม่มีอะไรไปสู้แกนนำ หรือ ผู้มีบารมีในพรรคการเมืองใหญ่โตที่มีทั้งจำนวนคน พลังกฏหมาย ความร่ำรวยที่เหนือกว่ามากหากอยากจะจับผมเข้าคุก เข้าตาราง จะทำลายชีวิตผม และครอบครัวอย่างไรก็ตามใจแต่ขอเรื่องเดียวว่า พวกคุณต้องเลิกการรณรงค์ยกเลิก 112 ได้แล้ว เพราะแค่ความหมายที่ว่า “พูดจาไม่คิด” ที่รุนแรงน้อยกว่าที่พวกคุณ และเครือข่ายคุณไปวิจารณ์สถาบันนับร้อยๆเท่า คุณยังรับไม่ได้จึงมีพฤติกรรมฟ้องปิดปากคนเห็นต่าง
ไม่ต่างจากนักการเมืองเก่าๆเลวๆ ที่คุณไปด่าเขาที่ผมก็ด่าเขาผมด่า ทั้งทหารโกง นักการเมืองเทาโกง เหมือนคุณเพียงแต่สิ่งนี้มันพิสูจน์ว่าผม Real กว่าคุณมากจากนี้ ผมก็ยังจะเป็นคนเดิม มีปรัชญาเดิมดีต่อชาติ ก็ชม แย่ก็ด่า หมายถึง จากนี้
จะคุณไอซ์ คุณโรม คุณวิโรจน์ จะคุณโอ๋ สุดซอย จะคุณภราดร จะพี่กรณ์ คุณอภิสิทธิ์ ใครทำดี ผมก็จะชม และสนับสนุนต่อไป
การกดขี่ประชาชนผู้เห็นต่างจากคุณช่อ จะไม่ทำให้ผมเปลี่ยนไป และไม่มีวันทำให้ผมหันไปหาแนวทางความนิยมการแตกแยก อย่างขวาจัด หรือ ชังชาติจัด แบบคนบางพวก บางกลุ่มได้"


